เข้าสู่ระบบหรือลงทะเบียน
ติดต่อลงโฆษณา
[email protected]
หรือโทร. 081-811-1138 หรืออ่านรายละเอียดเพิ่มเติม คลิกที่นี่
RacingWeb.NET | The Racing Cars Community on Web.
ฟอรั่ม
>
RacingWeb Community
>
Racing Forum (Cars Forum)
>
แม่ย่านางรถ มีจิงไหม๊ ใครเคยมีประสบการณ์ มั่ง
>
ตอบกลับหัวข้อ
ชื่อ:
การตรวจสอบ:
กรุณาเปิดใช้งานจาวาสคริปต์เพื่อดำเนินการต่อ
กำลังโหลด...
ข้อความ:
<p>[QUOTE="Drink, post: 486642, member: 9416"]นานๆ ไหว้ที ครับ พวงมาลัยก็คล้องเกียร์ พระมีแค่องค์เดียวตลอดแต่ไม่ลบหลู่ แต่ก็ไม่เชื่อมาก </p><p>อะไรที่ไม่ควรก็อย่าทำในรถ เรื่องต่อไปนี้เจอกับตัว ตอนออกรป้ายแดงลองอ่านๆดูนะครับ</p><p><br /></p><p>แต่เคยได้ยินเรื่องจากคนเก่าคนแกที่อาศัยอยู่กับพระที่วัดบ้านนอก ช่วยงานพระเกี่ยวกับศพ </p><p>และก็หลวงพ่อผู้ทรงศีล จากตอนนั้นที่กลับบ้าน ต่าง จว จะเอารถป้ายแดงไปเจิม </p><p>ที่วัดบ้านนอกๆหน่อย ทางไปก็รุกรัง ป่าเขาล้อมรอบ แต่ก็ต้องไปเพราะยายกับตาก็ไปแต่วัดนี้สมัยก่อน</p><p>ลุงและหลวงพ่อบอกมาแนวๆเดียวกัน ผมจะเขียนเท่าที่จำได้ให้อ่านดู</p><p><br /></p><p>ผม : ลุงๆ จะเจิมรถที่นี่หลวงพ่อที่ชื่อ...... อยู่วัดมั้ยครับ</p><p>ลุงแก่ : เจิมรถยนต์หรอ</p><p>ผม : ครับลุง ที่บ้านบอกว่าให้มาที่นี่ ครับ หลวงพ่อที่ชื่อ......ใช่วัดนี้ป่าวครับ</p><p>ลุงแก่ : ใช่ ลองไปดูที่ศาลาดู (ว่าแล้วแกก็ชี้ทางไป)</p><p>ผมเห็นว่าลุงแกเหมือนคนแก่โบราณที่มีวิชา หลังค่อมๆ กวาดลานวัดอยู่ เลยลองถามๆดู</p><p>ผม : ลุงครับ แล้วเจิมกับหลวงพ่อองค์ไหนดีเอาที่เค้ามาเจิมกันเยอะๆ อะครับ</p><p>ลุงแก่ : เจิมกันเยอะที่ไหน หลวงพ่อท่านเป็นคนเจิมหรอ</p><p>ผม : อ้าว ทำไมหลวงพ่อท่านไม่เจิมละครับ ที่บ้านผมเค้าบอกว่าท่านเจิมรถ</p><p>ลุงแก่ไม่ตอบดูเบื่อๆ แล้วก็เดินไปกินน้ำ แล้วเดินลากไม้กวาดทางมะพร้าวมา</p><p>ลุงแก่ : เอ็งลองไปถามหลวงพ่อท่านดู</p><p>ผมว่าลุงแก่แกสติไม่ดีแน่ๆ เลยขอบคุณและก็ให้เงินแกไป 20 บาท</p><p>ลุงแก่แกก็รับไว้และก็เอาใส่กระเป๋าเงิน แต่ในกระเป๋านั่นไม่มีแบ้งเลย มีแต่เหรียญ</p><p><br /></p><p>ผมก็เดินไปหาหลวงพ่อ ที่ศาลาก็ไม่เจอ ถามยายแก่ๆบนศาลา ก็ชี้โบ้ชี้เบ้ให้เดินร่อนทั่ววัด ในวัด</p><p>ก็กว้าง แต่สิ่งก่อสร้างเหมือนจะพังแหล่ไม่พังแหล่ ไม้เก่าๆแดงๆ ผุๆ บันไดศาลาก็ไม่มีราวจับ</p><p>เดินขึ้นทีจะร่วงให้ได้ เมรุเก่าๆปล่องดำปี๋ ขึ้นไปก็เจอแต่เสื่อ สังฆทานทำแบบชาวบ้าน</p><p>พระน้อยมากหาพระไม่เจอเลย มองไปมีแต่ผ้าเหลืองตากกิ่งไม้อยู่ และหมาอีกเป็นฝูง</p><p>ก็เลยเดินไปทางหมา เพราะคิดว่าหมาในวัดกลางป่า น่าจะอยู่ไกล้มนุษย์แล้วก็จริงเจอหลวงพ่อท่านอยู่</p><p>ใต้ต้นไทรกำลังทำอะไรสักอย่าง ที่ต้นไทรมีผ้าหลากสีเก่าๆพันอยู่รอบ และตุ๊กตาชุดไทยกองเต็ม</p><p>มีเทียนเล่มนึงจุดอยู่ที่ใต้ต้นไทร หลวงพ่อท่านดูแก่มากมาย ผิวคล้ำมีด่างเต็มตัว หัวหงอก </p><p>รองเท้าก็ไม่ได้ใส่ ผ้าเหลืองคลุมสวย ผมเคยบวชมาแล้ว 3 พรรษา ก็คิดว่าใช่องค์นี้แน่ </p><p><br /></p><p>ผม : หลวงพ่อครับ ท่านชื่อ .....ใช่มั้ยครับ</p><p>หลวงพ่อ : ใช่ โยมมากับใครหรอ</p><p>ผมว่ามันชักทะแม่งๆ ถามแปลกๆ ไม่เหมือนพระองค์อื่น และมาวัดก็ไม่มีอาวุธอะไร</p><p>มากับรถป้ายแดงอีก พระก็ไม่เห็น กลัวเป็นวัดเก่าแล้วพระไม่มี โจรเลยมาสวมรอย</p><p>เลยออกขั้นระแวงนิดหน่อย แต่ก็ใจชื้อมาได้บ้างเพราะท่านก็ดูเคร่งศาสนา ไม่งั้นคงใส่รองเท้าแล้วละ</p><p>ผม : มาคนเดียวครับหลวงพ่อ แต่เดี๋ยวเพื่อนตามมาอีก กำลังขับรถมาไกล้จะถึงแล้ว</p><p>หลวงพ่อ : มาทำอะไรกันที่วัดนี้ละโยม</p><p>หันหน้ามาหาผม เห็นแล้วแทบสะดุ้ง ตาท่านพร่าออกขุ่นมัว น่าสงสารมาก </p><p>ผม : ว่าจะมาให้ท่านเจิมรถให้หน่อยครับ ป้าผมแนะนำท่านมา ป้าเค้าเคยมาทำบุญนานมากแล้ว</p><p>หลวงพ่อ : อาตมาจำไม่ได้หรอก ถ้าตอนนั้นก็คงลืมหมดแล้ว</p><p>ผม : หลวงพ่อครับที่นี่มีพระกี่องค์ครับ แล้วองค์ไหนเป็นเจ้าอาวาส</p><p>หลวงพ่อ : มีอยู่แค่ 4 องค์ เป็นพระบวชใหม่องค์นึง แต่อาตมาไม่เจอมาสองวันแล้ว</p><p>ผม : อ๋อครับ หลวงพ่อทำพิธีกรรมเสร็จยังครับ หลวงพ่อไปเจิมรถให้ผมได้ตอนไหนครับ</p><p>หลวงพ่อ : ทำไมโยมถึงอยากเจิมรถนักละ โยมเจิมไปโยมจะเอารถไปทำอะไร</p><p>ผม : เจิมไว้เป็นสิริมงคลครับหลวงพ่อ ผมเองก็ไม่ได้ชอบหรือเชื่อเท่าไรครับ เพราะมันเลอะหลังคาอะครับ</p><p>หลวงพ่อ : หัวเราะเบาๆ ตามอาตมามาที่นี่ </p><p>ผมเดินตามหลวงพ่อแบบทรมาน ท่านค่อยๆเดิน ผมก็ไม่เคยดูแลคนแก่ เห็นแกใช้ไม้เท้า ก็ไม่ทันได้นึกอะไร</p><p>จนเกือบจะถึงกุฎิผมถึงนึกขึ้นมาได้ว่าต้องช่วยพยุง ก็เลยไปช่วย หลวงพ่อท่านยิ้ม แต่ผมยังยิ้มไม่ออก</p><p>ท่านมีกลิ่นประมาณกลิ่นยา กลิ่นหมาก กลิ่นสมุนไพร ที่พวกเราชาวกรุงไม่ค่อยคุ้นเท่าไร แต่ผมก็ไม่ได้รังเกียจ</p><p>พอถึงกุฎิหลวงพ่อท่านนั่งลง ทำกิจธุระของท่านเช่นบ้วนปากลงกระโถน อะไรต่ออะไร แล้วก็หันมาถาม</p><p>หลวงพ่อ : รถคันไหนที่จะเจิม ใช่คันนั้นใช่มั้ย</p><p>ผม : ครับท่าน เจิมแบบที่ท่านเคยเจิมน่ะครับ</p><p>หลวงพ่อ : โยมเอารถคันนี้ไปทำอะไร ใช้อะไรหรอโยม ทำไมคันมันใหญ่จังล่ะ</p><p>ผม : ใช้เดินทางไกลครับ กลับบ้าน ไปเรียนหนังสือบ้าง ดูแลพ่อแม่ ทำธุระแทนท่านน่ะครับ</p><p>หลวงพ่อ : บ้านโยมอยู่ไหนหรอ โยมมาจากไหน</p><p>ผม : อยู่ในเมืองครับหลวงพ่อ (จ เดียวกัน) แต่มาที่นี่มาหาท่านครับ พรุ่งนี้ผมก็กลับ กทม แล้ว</p><p>หลวงพ่อ : โยมจะให้อาตมาเจิมอย่างไร</p><p>ผม : ก็เจิมให้ปลอดภัย เดินทางดี ทำมาค้าขึ้น อะไรแนวเนี้ยครับ รถมีแม่ย่านางจริงมั้ยครับหลวงพ่อ</p><p>หลวงพ่อ : อาตมาจะเจิมให้นะ รถคันที่โยมนำมา มันไม่มีอะไรหรอก เป็นวัตถุนอกกาย </p><p>ผม : แล้วเรื่องแม่ย่านางละครับหลวงพ่อ รถยนต์ทุกคันมีจริงรึป่าวครับ</p><p>หลวงพ่อ : สมัยก่อนมีมาแต่เรือ โบร่ำโบราณ ก่อนออกไปค้าขาย มีแต่ช้างม้าวัวควาย ก่อนออกไปรบ ทำการประยุทธ์</p><p>จะต้องมีการอันเชิญเหล่าเทวดา เจ้าที่ วิญญาณที่เคารพ เพื่อยึดเหนี่ยวจิตใจ ก่อนออกทำการ มีมาแต่สมัยโบราณ รถที่โยม</p><p>นำมาก็เหมือนกัน ถ้าสมัยก่อน ก่อนออกรบ ถ้าช้างตื่นกลัวเสียงโห่ร้อง กลองชัย ก็หมายว่าถ้าออกรบไปจะพ่ายกลับมา </p><p>ผม : แปลว่ารถไม่มีแม่ย่านางใช่มั้ยครับ</p><p>หลวงพ่อ : ไม่มีหรอก เรือก็ไม่มี ช้างก็ไม่มี ดาบที่สมัยก่อนใช้เป็นอาวุธก็ไม่มี รถที่โยมจะเจิมไปเนี่ยนะ</p><p>อาตมาจะเจิมให้แค่นำโชคลาภมาให้เท่านั้น </p><p>ผม : เอาที่เดินทางปลอดภัยด้วยครับหลวงพ่อ ไม่มีอุบัติเหตุ</p><p>หลวงพ่อ : อาตมาเคยเจิมให้คนนึง เค้ามาขอแบบโยมแต่นานมากแล้ว อาตมาเจิมให้เดินทางปลอดภัย ใช้วิชาลงให้</p><p>แต่หลังจากเจิมไป ลูกสาวโยมเค้าก็มาหาอาตมา มาถามอาตมาว่าทำไมที่อาตมาเจิมให้ไปถึงเป็นเช่นนี้ รถของ</p><p>โยมแม่เค้าเกินอุบัติเหตุตลอด และก็พึ่งเสียชีวิตไปด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ปีที่ผ่านมา อาตมาบอกไปว่า โยมแม่ได้ระมัดระวังมั้ย</p><p>อาตมาเองก็ช่วยอะไรไม่ได้ ที่อาตมาเจิมไปมันช่วยอะไรไม่ได้มากหรอก ตัวเราเองที่เป็นที่พึ่งของตนเอง</p><p>ผม : แล้วหลวงพ่อทำไงต่อครับ</p><p>หลวงพ่อ : โยมรู้มั้ย ที่อาตมาเจิมไปนั้น ถูกวิญญาณเร่ร่อน ผีสางนางไม้ ที่เฮี้ยน และไม่มีที่ไป ยังไม่ไปผุดไปเกิด นั้น</p><p>มาลองวิชา พวกวิญญาณเหล่านี้ ชอบลองวิชาทางธรรม หาที่ผุดที่เกิด และหาคนไปแทนที่ตนอาตมาเองก็พึ่งรู้ </p><p>ไอ้ที่โยมอยากจะให้อาตมาเจิมมีทั้งผลดีผลเสียโยมย่อมอยากจะเดินทางคนเดียว โยมคงไม่อยากมีวิญญาณพวกนี้ติดตามโยมไป </p><p>อาตมาเจอบ่อยทั้งมาขอส่วนบุญส่วนกุศล และมาลองวิชา อาตมารู้ว่าสิ่งที่อาตมาเจิมให้โยมแม่ของสีกานั้น ทำให้พวกวิญญาณ</p><p>ผีสางเหล่านั้นติดตามไปได้ ถ้าดีแล้วก็ดีไปด้วยผลบุญกุศลที่ติดตัวเรามา คนถึงที่ตายต่อให้มีวิชาสักแค่ไหนก็หนีมันไม่พ้น</p><p>อาตมาเองก็เช่นกันอาตมาก็ต้องสายในสักวัน แต่บุญกุศลไม่ได้ช่วยให้เราพ้นจากความตาย เพียงแต่จะช่วยให้เราไปอยู่ที่ใดในอีกภพ </p><p>ไปผุดไปเกิดเป็นอะไร อาตมาเองไม่อยากเจิมให้โยมหรอกนะ</p><p>ผม : อึ้งจนพูดอะไรไม่ออก เลยถามอกไปว่า แล้วผมต้องทำอย่างไรครับ หลวงพ่อ</p><p>หลวงพ่อ : อาตมาจะพรมน้ำมนต์ให้ และก็ให้พระไว้องค์นึง ติดรถไว้ โยมต้องระลึกไว้เสมอว่าโยมเองที่จะดูแลตัวเองได้</p><p><br /></p><p>แล้วผมกับหลวงพ่อก็คุยกันเรื่องแนวๆนี้ ต่อ แต่ก็ไม่นานมาก หลวงพ่อก็มาพรมน้ำมันให้ รอบรถ และ สวดคาถาอะไรไม่รู้ </p><p>ไม่ได้สต๊าทเครื่อง ไม่ได้เปิดฝากระโปรง ไม่ได้ทำอะไรเกี่ยวกับรถเลย แล้วให้พระไว้องค์นึง ผมจึงเก็บไว้ที่ลิ้นชักใหญ่ของรถ </p><p>และวันนั้นผมก็ไม่ได้เจิม และผมก็ขอบูชาเหล็กน้ำพี้ที่วัดนั้นที่หลวงพ่อท่านเก็บไว้ ไม่ได้ขาย </p><p>เพราะในวัดนั้นไม่มีอะไรมาวางไว้ให้บูชาเลย ผมก็ใส่ซองเงินให้หลวงพ่อ จำนวนสองพันเพราะสงสารท่าน</p><p>เทหมดเท่าที่มีวันนั้นถือว่าได้ทำบุญด้วย เหลือติดตัวกลับบ้านสองร้อยพอเป็นค่าขนมระหว่างทาง</p><p>หลวงพ่อท่านรับไว้ปรกติโยมบริจาคทานอะไรก็ช่างสงฆ์ต้องรับไว้โดยไม่เลือก แล้วคิดว่าสงกรานต์จะกลับมาหาท่านอีกที</p><p>ปีแรกก็ธุระเยอะเลยไม่ได้แวะไป ปีที่แล้วเลยแวะไปแต่ก็ปรากฎว่าท่านมรณะภาพแล้ว ก่อนผมจะมาเพียงไม่กี่เดือน</p><p><br /></p><p>หลังจากนั้นผมก็ใช้รถปรกติ ขับกลางคืนต่าง จว บ่อย ขับไม่ระวังบ้าง เมาบ้าง แข่งกันบ้าง ก็ไม่เคยเจิมก็ไม่เคยชนเลย </p><p>จากนั้นมาตอนนี้ ก็ซื้อรถมาสี่คันแล้ว เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาก็ไม่เคยเจิม ทั้งซื้อเพิ่ม ทั้งขายไป ทั้งรถมือสอง</p><p>ผมก็เชื่อตามที่ท่านบอก แต่ก็ไม่ลบหลู่รถ เพราะยังไง นั่นคือรถของเราเอง แต่ทุกอย่างมันอยู่ที่เราครับ</p><p>เราเป็นคนควบคุมพวงมาลัย และเมื่อถึงที่ตายยังไงก็ต้องตาย แต่อย่าประมาทไว้เป็นดีครับ ทนอ่านหน่อยครับเรื่องดีๆนานๆจะพิมสักที มันเมื่อย[/QUOTE]</p><p><br /></p>
[QUOTE="Drink, post: 486642, member: 9416"]นานๆ ไหว้ที ครับ พวงมาลัยก็คล้องเกียร์ พระมีแค่องค์เดียวตลอดแต่ไม่ลบหลู่ แต่ก็ไม่เชื่อมาก อะไรที่ไม่ควรก็อย่าทำในรถ เรื่องต่อไปนี้เจอกับตัว ตอนออกรป้ายแดงลองอ่านๆดูนะครับ แต่เคยได้ยินเรื่องจากคนเก่าคนแกที่อาศัยอยู่กับพระที่วัดบ้านนอก ช่วยงานพระเกี่ยวกับศพ และก็หลวงพ่อผู้ทรงศีล จากตอนนั้นที่กลับบ้าน ต่าง จว จะเอารถป้ายแดงไปเจิม ที่วัดบ้านนอกๆหน่อย ทางไปก็รุกรัง ป่าเขาล้อมรอบ แต่ก็ต้องไปเพราะยายกับตาก็ไปแต่วัดนี้สมัยก่อน ลุงและหลวงพ่อบอกมาแนวๆเดียวกัน ผมจะเขียนเท่าที่จำได้ให้อ่านดู ผม : ลุงๆ จะเจิมรถที่นี่หลวงพ่อที่ชื่อ...... อยู่วัดมั้ยครับ ลุงแก่ : เจิมรถยนต์หรอ ผม : ครับลุง ที่บ้านบอกว่าให้มาที่นี่ ครับ หลวงพ่อที่ชื่อ......ใช่วัดนี้ป่าวครับ ลุงแก่ : ใช่ ลองไปดูที่ศาลาดู (ว่าแล้วแกก็ชี้ทางไป) ผมเห็นว่าลุงแกเหมือนคนแก่โบราณที่มีวิชา หลังค่อมๆ กวาดลานวัดอยู่ เลยลองถามๆดู ผม : ลุงครับ แล้วเจิมกับหลวงพ่อองค์ไหนดีเอาที่เค้ามาเจิมกันเยอะๆ อะครับ ลุงแก่ : เจิมกันเยอะที่ไหน หลวงพ่อท่านเป็นคนเจิมหรอ ผม : อ้าว ทำไมหลวงพ่อท่านไม่เจิมละครับ ที่บ้านผมเค้าบอกว่าท่านเจิมรถ ลุงแก่ไม่ตอบดูเบื่อๆ แล้วก็เดินไปกินน้ำ แล้วเดินลากไม้กวาดทางมะพร้าวมา ลุงแก่ : เอ็งลองไปถามหลวงพ่อท่านดู ผมว่าลุงแก่แกสติไม่ดีแน่ๆ เลยขอบคุณและก็ให้เงินแกไป 20 บาท ลุงแก่แกก็รับไว้และก็เอาใส่กระเป๋าเงิน แต่ในกระเป๋านั่นไม่มีแบ้งเลย มีแต่เหรียญ ผมก็เดินไปหาหลวงพ่อ ที่ศาลาก็ไม่เจอ ถามยายแก่ๆบนศาลา ก็ชี้โบ้ชี้เบ้ให้เดินร่อนทั่ววัด ในวัด ก็กว้าง แต่สิ่งก่อสร้างเหมือนจะพังแหล่ไม่พังแหล่ ไม้เก่าๆแดงๆ ผุๆ บันไดศาลาก็ไม่มีราวจับ เดินขึ้นทีจะร่วงให้ได้ เมรุเก่าๆปล่องดำปี๋ ขึ้นไปก็เจอแต่เสื่อ สังฆทานทำแบบชาวบ้าน พระน้อยมากหาพระไม่เจอเลย มองไปมีแต่ผ้าเหลืองตากกิ่งไม้อยู่ และหมาอีกเป็นฝูง ก็เลยเดินไปทางหมา เพราะคิดว่าหมาในวัดกลางป่า น่าจะอยู่ไกล้มนุษย์แล้วก็จริงเจอหลวงพ่อท่านอยู่ ใต้ต้นไทรกำลังทำอะไรสักอย่าง ที่ต้นไทรมีผ้าหลากสีเก่าๆพันอยู่รอบ และตุ๊กตาชุดไทยกองเต็ม มีเทียนเล่มนึงจุดอยู่ที่ใต้ต้นไทร หลวงพ่อท่านดูแก่มากมาย ผิวคล้ำมีด่างเต็มตัว หัวหงอก รองเท้าก็ไม่ได้ใส่ ผ้าเหลืองคลุมสวย ผมเคยบวชมาแล้ว 3 พรรษา ก็คิดว่าใช่องค์นี้แน่ ผม : หลวงพ่อครับ ท่านชื่อ .....ใช่มั้ยครับ หลวงพ่อ : ใช่ โยมมากับใครหรอ ผมว่ามันชักทะแม่งๆ ถามแปลกๆ ไม่เหมือนพระองค์อื่น และมาวัดก็ไม่มีอาวุธอะไร มากับรถป้ายแดงอีก พระก็ไม่เห็น กลัวเป็นวัดเก่าแล้วพระไม่มี โจรเลยมาสวมรอย เลยออกขั้นระแวงนิดหน่อย แต่ก็ใจชื้อมาได้บ้างเพราะท่านก็ดูเคร่งศาสนา ไม่งั้นคงใส่รองเท้าแล้วละ ผม : มาคนเดียวครับหลวงพ่อ แต่เดี๋ยวเพื่อนตามมาอีก กำลังขับรถมาไกล้จะถึงแล้ว หลวงพ่อ : มาทำอะไรกันที่วัดนี้ละโยม หันหน้ามาหาผม เห็นแล้วแทบสะดุ้ง ตาท่านพร่าออกขุ่นมัว น่าสงสารมาก ผม : ว่าจะมาให้ท่านเจิมรถให้หน่อยครับ ป้าผมแนะนำท่านมา ป้าเค้าเคยมาทำบุญนานมากแล้ว หลวงพ่อ : อาตมาจำไม่ได้หรอก ถ้าตอนนั้นก็คงลืมหมดแล้ว ผม : หลวงพ่อครับที่นี่มีพระกี่องค์ครับ แล้วองค์ไหนเป็นเจ้าอาวาส หลวงพ่อ : มีอยู่แค่ 4 องค์ เป็นพระบวชใหม่องค์นึง แต่อาตมาไม่เจอมาสองวันแล้ว ผม : อ๋อครับ หลวงพ่อทำพิธีกรรมเสร็จยังครับ หลวงพ่อไปเจิมรถให้ผมได้ตอนไหนครับ หลวงพ่อ : ทำไมโยมถึงอยากเจิมรถนักละ โยมเจิมไปโยมจะเอารถไปทำอะไร ผม : เจิมไว้เป็นสิริมงคลครับหลวงพ่อ ผมเองก็ไม่ได้ชอบหรือเชื่อเท่าไรครับ เพราะมันเลอะหลังคาอะครับ หลวงพ่อ : หัวเราะเบาๆ ตามอาตมามาที่นี่ ผมเดินตามหลวงพ่อแบบทรมาน ท่านค่อยๆเดิน ผมก็ไม่เคยดูแลคนแก่ เห็นแกใช้ไม้เท้า ก็ไม่ทันได้นึกอะไร จนเกือบจะถึงกุฎิผมถึงนึกขึ้นมาได้ว่าต้องช่วยพยุง ก็เลยไปช่วย หลวงพ่อท่านยิ้ม แต่ผมยังยิ้มไม่ออก ท่านมีกลิ่นประมาณกลิ่นยา กลิ่นหมาก กลิ่นสมุนไพร ที่พวกเราชาวกรุงไม่ค่อยคุ้นเท่าไร แต่ผมก็ไม่ได้รังเกียจ พอถึงกุฎิหลวงพ่อท่านนั่งลง ทำกิจธุระของท่านเช่นบ้วนปากลงกระโถน อะไรต่ออะไร แล้วก็หันมาถาม หลวงพ่อ : รถคันไหนที่จะเจิม ใช่คันนั้นใช่มั้ย ผม : ครับท่าน เจิมแบบที่ท่านเคยเจิมน่ะครับ หลวงพ่อ : โยมเอารถคันนี้ไปทำอะไร ใช้อะไรหรอโยม ทำไมคันมันใหญ่จังล่ะ ผม : ใช้เดินทางไกลครับ กลับบ้าน ไปเรียนหนังสือบ้าง ดูแลพ่อแม่ ทำธุระแทนท่านน่ะครับ หลวงพ่อ : บ้านโยมอยู่ไหนหรอ โยมมาจากไหน ผม : อยู่ในเมืองครับหลวงพ่อ (จ เดียวกัน) แต่มาที่นี่มาหาท่านครับ พรุ่งนี้ผมก็กลับ กทม แล้ว หลวงพ่อ : โยมจะให้อาตมาเจิมอย่างไร ผม : ก็เจิมให้ปลอดภัย เดินทางดี ทำมาค้าขึ้น อะไรแนวเนี้ยครับ รถมีแม่ย่านางจริงมั้ยครับหลวงพ่อ หลวงพ่อ : อาตมาจะเจิมให้นะ รถคันที่โยมนำมา มันไม่มีอะไรหรอก เป็นวัตถุนอกกาย ผม : แล้วเรื่องแม่ย่านางละครับหลวงพ่อ รถยนต์ทุกคันมีจริงรึป่าวครับ หลวงพ่อ : สมัยก่อนมีมาแต่เรือ โบร่ำโบราณ ก่อนออกไปค้าขาย มีแต่ช้างม้าวัวควาย ก่อนออกไปรบ ทำการประยุทธ์ จะต้องมีการอันเชิญเหล่าเทวดา เจ้าที่ วิญญาณที่เคารพ เพื่อยึดเหนี่ยวจิตใจ ก่อนออกทำการ มีมาแต่สมัยโบราณ รถที่โยม นำมาก็เหมือนกัน ถ้าสมัยก่อน ก่อนออกรบ ถ้าช้างตื่นกลัวเสียงโห่ร้อง กลองชัย ก็หมายว่าถ้าออกรบไปจะพ่ายกลับมา ผม : แปลว่ารถไม่มีแม่ย่านางใช่มั้ยครับ หลวงพ่อ : ไม่มีหรอก เรือก็ไม่มี ช้างก็ไม่มี ดาบที่สมัยก่อนใช้เป็นอาวุธก็ไม่มี รถที่โยมจะเจิมไปเนี่ยนะ อาตมาจะเจิมให้แค่นำโชคลาภมาให้เท่านั้น ผม : เอาที่เดินทางปลอดภัยด้วยครับหลวงพ่อ ไม่มีอุบัติเหตุ หลวงพ่อ : อาตมาเคยเจิมให้คนนึง เค้ามาขอแบบโยมแต่นานมากแล้ว อาตมาเจิมให้เดินทางปลอดภัย ใช้วิชาลงให้ แต่หลังจากเจิมไป ลูกสาวโยมเค้าก็มาหาอาตมา มาถามอาตมาว่าทำไมที่อาตมาเจิมให้ไปถึงเป็นเช่นนี้ รถของ โยมแม่เค้าเกินอุบัติเหตุตลอด และก็พึ่งเสียชีวิตไปด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ปีที่ผ่านมา อาตมาบอกไปว่า โยมแม่ได้ระมัดระวังมั้ย อาตมาเองก็ช่วยอะไรไม่ได้ ที่อาตมาเจิมไปมันช่วยอะไรไม่ได้มากหรอก ตัวเราเองที่เป็นที่พึ่งของตนเอง ผม : แล้วหลวงพ่อทำไงต่อครับ หลวงพ่อ : โยมรู้มั้ย ที่อาตมาเจิมไปนั้น ถูกวิญญาณเร่ร่อน ผีสางนางไม้ ที่เฮี้ยน และไม่มีที่ไป ยังไม่ไปผุดไปเกิด นั้น มาลองวิชา พวกวิญญาณเหล่านี้ ชอบลองวิชาทางธรรม หาที่ผุดที่เกิด และหาคนไปแทนที่ตนอาตมาเองก็พึ่งรู้ ไอ้ที่โยมอยากจะให้อาตมาเจิมมีทั้งผลดีผลเสียโยมย่อมอยากจะเดินทางคนเดียว โยมคงไม่อยากมีวิญญาณพวกนี้ติดตามโยมไป อาตมาเจอบ่อยทั้งมาขอส่วนบุญส่วนกุศล และมาลองวิชา อาตมารู้ว่าสิ่งที่อาตมาเจิมให้โยมแม่ของสีกานั้น ทำให้พวกวิญญาณ ผีสางเหล่านั้นติดตามไปได้ ถ้าดีแล้วก็ดีไปด้วยผลบุญกุศลที่ติดตัวเรามา คนถึงที่ตายต่อให้มีวิชาสักแค่ไหนก็หนีมันไม่พ้น อาตมาเองก็เช่นกันอาตมาก็ต้องสายในสักวัน แต่บุญกุศลไม่ได้ช่วยให้เราพ้นจากความตาย เพียงแต่จะช่วยให้เราไปอยู่ที่ใดในอีกภพ ไปผุดไปเกิดเป็นอะไร อาตมาเองไม่อยากเจิมให้โยมหรอกนะ ผม : อึ้งจนพูดอะไรไม่ออก เลยถามอกไปว่า แล้วผมต้องทำอย่างไรครับ หลวงพ่อ หลวงพ่อ : อาตมาจะพรมน้ำมนต์ให้ และก็ให้พระไว้องค์นึง ติดรถไว้ โยมต้องระลึกไว้เสมอว่าโยมเองที่จะดูแลตัวเองได้ แล้วผมกับหลวงพ่อก็คุยกันเรื่องแนวๆนี้ ต่อ แต่ก็ไม่นานมาก หลวงพ่อก็มาพรมน้ำมันให้ รอบรถ และ สวดคาถาอะไรไม่รู้ ไม่ได้สต๊าทเครื่อง ไม่ได้เปิดฝากระโปรง ไม่ได้ทำอะไรเกี่ยวกับรถเลย แล้วให้พระไว้องค์นึง ผมจึงเก็บไว้ที่ลิ้นชักใหญ่ของรถ และวันนั้นผมก็ไม่ได้เจิม และผมก็ขอบูชาเหล็กน้ำพี้ที่วัดนั้นที่หลวงพ่อท่านเก็บไว้ ไม่ได้ขาย เพราะในวัดนั้นไม่มีอะไรมาวางไว้ให้บูชาเลย ผมก็ใส่ซองเงินให้หลวงพ่อ จำนวนสองพันเพราะสงสารท่าน เทหมดเท่าที่มีวันนั้นถือว่าได้ทำบุญด้วย เหลือติดตัวกลับบ้านสองร้อยพอเป็นค่าขนมระหว่างทาง หลวงพ่อท่านรับไว้ปรกติโยมบริจาคทานอะไรก็ช่างสงฆ์ต้องรับไว้โดยไม่เลือก แล้วคิดว่าสงกรานต์จะกลับมาหาท่านอีกที ปีแรกก็ธุระเยอะเลยไม่ได้แวะไป ปีที่แล้วเลยแวะไปแต่ก็ปรากฎว่าท่านมรณะภาพแล้ว ก่อนผมจะมาเพียงไม่กี่เดือน หลังจากนั้นผมก็ใช้รถปรกติ ขับกลางคืนต่าง จว บ่อย ขับไม่ระวังบ้าง เมาบ้าง แข่งกันบ้าง ก็ไม่เคยเจิมก็ไม่เคยชนเลย จากนั้นมาตอนนี้ ก็ซื้อรถมาสี่คันแล้ว เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาก็ไม่เคยเจิม ทั้งซื้อเพิ่ม ทั้งขายไป ทั้งรถมือสอง ผมก็เชื่อตามที่ท่านบอก แต่ก็ไม่ลบหลู่รถ เพราะยังไง นั่นคือรถของเราเอง แต่ทุกอย่างมันอยู่ที่เราครับ เราเป็นคนควบคุมพวงมาลัย และเมื่อถึงที่ตายยังไงก็ต้องตาย แต่อย่าประมาทไว้เป็นดีครับ ทนอ่านหน่อยครับเรื่องดีๆนานๆจะพิมสักที มันเมื่อย[/QUOTE]
เข้าสู่ระบบด้วย Facebook
เข้าสู่ระบบด้วย Twitter
เข้าสู่ระบบด้วย Google
ชื่อผู้ใช้งานหรือที่อยู่อีเมล์ของคุณ:
คุณมีบัญชีผู้ใช้หรือไม่?
ไม่มี, สร้างบัญชีผู้ใช้ตอนนี้
มี, รหัสผ่านของฉันคือ:
ลืมรหัสผ่านของคุณ?
อยู่ในระบบตลอดเวลา
RacingWeb.NET | The Racing Cars Community on Web.
ฟอรั่ม
>
RacingWeb Community
>
Racing Forum (Cars Forum)
>
แม่ย่านางรถ มีจิงไหม๊ ใครเคยมีประสบการณ์ มั่ง
>
X
หน้าแรก
หน้าแรก
Quick Links
โพสต์ล่าสุด
กิจกรรมล่าสุด
ผู้เขียน
ฟอรั่ม
ฟอรั่ม
Quick Links
ค้นหาฟอรั่ม
โพสต์ล่าสุด
ประกาศซื้อขาย
ประกาศซื้อขาย
Quick Links
ค้นหาประกาศซื้อขาย
กิจกรรมล่าสุด
ผู้ค้าขายคะแนนสูงสุด
สื่อ/วิดีโอ
สื่อ/วิดีโอ
Quick Links
Search Media
New Media
สมาชิก
สมาชิก
Quick Links
สมาชิกที่โดดเด่น
สมาชิกที่ลงทะเบียน
ผู้ใช้งานในขณะนี้
กิจกรรมล่าสุด
โพสต์ข้อมูลส่วนตัวใหม่
เมนู
ค้นหาเฉพาะชื่อ
โพสต์โดยสมาชิก:
แยกชื่อด้วยเครื่องหมายจุลภาค
ใหม่กว่า:
ค้นหาเฉพาะหัวข้อนี้
ค้นหาเฉพาะฟอรั่มนี้
แสดงผลเป็นหัวข้อ
การค้นหาที่มีประโยชน์
โพสต์ล่าสุด
เพิ่มเติม...