เข้าสู่ระบบหรือลงทะเบียน
ติดต่อลงโฆษณา
[email protected]
หรือโทร. 081-811-1138 หรืออ่านรายละเอียดเพิ่มเติม คลิกที่นี่
RacingWeb.NET | The Racing Cars Community on Web.
ฟอรั่ม
>
Community Car Clubs
>
Toyota Car Clubs
>
AE86ers
>
ใครสนใจเอา86เข้ามาบ้างครับ
>
ตอบกลับหัวข้อ
ชื่อ:
การตรวจสอบ:
กรุณาเปิดใช้งานจาวาสคริปต์เพื่อดำเนินการต่อ
กำลังโหลด...
ข้อความ:
<p>[QUOTE="porpun86, post: 549542, member: 41406"]ขออภัยล่วงหน้าคับ ผมพิมไทยไม่ค่อยได้คับ + ภาษาไทยไม่แข็งแรงคับ</p><p><br /></p><p>ผมขออนุญาตอธิบาย ขั้นตอนที่ผมเพิ่งนำรถเข้ามาเลยนะคับ</p><p><br /></p><p>ผมนำเข้าแบบถาวรจาก Melbourne, Australia </p><p>ใช้สิทธ์ เป็นนักเรียน และ เป็นเจ้าของรถเป็นเวลา1ปี6เดือนก่อนแล้วจึงนำกลับมาคับ </p><p><br /></p><p>การนำเข้าควรจะทำให้ถูกต้องคับ อย่าเลี่ยงภาษีหรือแอบคับ เพราะอาจจะไม่ได้ขับรถคันนั้นอีกเลย โดนยึดแล้วทุบคับ จากเรื่องนำเข้า Ferrari ทำให้คนนำรถเข้าเดือดร้อนคับ</p><p><br /></p><p><br /></p><p>ขั้นตอนที่ลำบากที่สุดคงจะเป็นการขอใบอนุญาตการนำเข้าจากกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ </p><p>เพราะว่าหลักฐานและเอกสารต้องแน่นพร้อมแบบว่าเราเป็นเจ้าของรถเป็นเวลา1ปี6เดือนจริง รถต้องมีหลักฐานว่าจดทะเบียนช่วงการครอบครอง </p><p><br /></p><p>เอกสารที่ใช้ในการขอแค่กระดาษใบนี้</p><p> Passport + Student Visa</p><p> ทะเบียนบ้าน</p><p> บัตรประจำตัวประชาชน</p><p> Driving License (Thai & Australian)</p><p> เล่มทะเบียน (ของAE86 ใน Australia ถ้ายังมีอยู่ก็ดีไปคับ แต่ละStateจะไม่เหมือนกัน ที่Melbourne & Perth จะใช้กระดาษแจ้งค่าภาษีทะเบียนเป็น หลักฐาน)</p><p> ใบซื้อ+โอนเจ้าของ (ที่สำคัญคือวันที่เราได้เป็นเจ้าของ)</p><p> Academic Transcripts ผมยื่นตั้งแต่ของปี97 เขาถึงเชื่อว่าเป็นนักเรียนอยู่ที่ Australia </p><p> Other ID prove Student card</p><p><br /></p><p> ใบยื่นคำร้องขออนุญาตนำเข้า -----!!!!!ใบนี้ห้ามมีอะไรผิดเด็ดขาด ข้อมูลต้องอยู่ในกรอบ </p><p>ใบยื่นคำร้องขออนุญาตนำเข้า นี้จะขอได้ที่กรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ แล้วต้องพิมข้อมูลลงไป จะเป็นพวกVehicle Detail(Vin No., Engine No. & Size, Registration), Date + Port of departure & Landing, Market value (USD), Current Exchange Rate นี้ถามจากตรงนั้นเลยเพราะเศษห้ามปัด</p><p> เตรียมคำพูดดีๆ ว่ารักรถมากเลยเอากลับมาใช้ด้วย เมืองไทยหายากคับ โดนถามแน่นคับ ห้ามพูดถึงราคากลางในไทยหรือญี่ปุ่นเด็ดขาดเพราะจะเดือดร้อนได้ ราคากลางจะเป็นตัวกำหนดค่าCIF ภาษี</p><p><br /></p><p><br /></p><p><br /></p><p>ขอย้ำว่าตรงนี้ห้ามพลาดคับ กระทรวงพาณิชย์จะเข้มงวดมากกับการนำเข้ารถคับ เขาจะกันเราทุกทางที่เราเปิดช่อง </p><p> นับจากวันซื้อจนถึงวันที่เราและรถออกนอกประเทศต้อง1ปี6เดือน แล้วเผื่อสัก2อาทิตย์ ก่อนเราและรถออกนอกประเทศ </p><p> แสดงเจตนาว่าเราไม่นำเข้าเพื่อการค้า แต่เพื่อตัวเราเอง </p><p> ใบอนุญาตการนำเข้า กระดาษใบนี้จะต้องได้ก่อนรถจะถึงPort ถ้ารถถึงPortก่อนจะต้องทมด แล้วเรื่องจะไปถึงรัฐมนตรีคับ แล้วโดนปรับอีก20000บาท</p><p> ใบยื่นคำร้องขออนุญาตนำเข้า ผมทำแล้วยื่น3ครั้งเพราะPrint คลาดไปนอกกรอบประมาณ5mm, MS EXCEL มันปัดจุดทศนิยมของ Exchange Rate ยังไม่รวมที่พิมผิดจาก Type writer และ เซ็นผิดที่ อีก5-6ฉบับ</p><p><br /></p><p>ที่จริงควรจะได้ใบอนุญาตการนำเข้าก่อนแล้วจึงส่งรถขึ้นเรือเพื่อความปลอดภัย ของผมส่งก่อนแล้วค่อยขอโชคดีคับทันพอดี ใช้เวลา1เดือนเป๊ะ โชคดีมากๆ</p><p><br /></p><p>ถ้ามีเส้นจะง่ายคับ ผมไม่มีคับ เหนื่อย วิ่งหลายรอบมาก เพื่อยืนยันหลักฐาน</p><p><br /></p><p><br /></p><p><br /></p><p>ขั้นตอนปฏิบัติพิธีการ ตรงนี้copy มา</p><p>2.2 เอกสารที่ควรจัดเตรียมการนำเข้ารถยนต์แบบถาวร</p><p><br /></p><p>เอกสารทั่วไป </p><p> ใบขนสินค้าขาเข้า ประกอบด้วยต้นฉบับและสำเนา 1 ฉบับ</p><p> ใบตราส่งสินค้า (Bill of Lading or Air Waybill)</p><p> เอกสารการซื้อขายรถยนต์ (ถ้ามี)</p><p> ใบสั่งปล่อยสินค้า (กศก.100/1) </p><p> แบบธุรกิจต่างประเทศ (Foreign Transaction Form) กรณีสินค้านำเข้ามีราคา CIFเกิน 500,000 บาท</p><p> ใบแจ้งยอดเบี้ยประกัน (Insurance Premium Invoice)</p><p> เ อกสารอื่น ๆ เช่น หนังสือมอบอำนาจ </p><p><br /></p><p>(2) เอกสารเพิ่มเติมกรณีเป็นรถยนต์เก่าใช้แล้ว</p><p> ทะเบียนบ้านและบัตรประจำตัวประชาชน</p><p> หนังสือเดินทาง กรณีย้ายภูมิลำเนา </p><p> ทะเบียนรถยนต์ที่จดทะเบียนการใช้งานที่ต่างประเทศมาแล้ว </p><p> ใบอนุญาตการนำเข้าจากกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวง</p><p><br /></p><p>2.3 ขั้นตอนปฏิบัติพิธีการ</p><p><br /></p><p>(1) ผู้นำเข้าหรือตัวแทนยื่นใบขนสินค้าพร้อมเอกสารประกอบต่อฝ่ายการนำเข้าที่ 4 ส่วนการนำเข้า สำนักงานศุลกากรนำเข้าท่าเรือกรุงเทพ หรือสำนักงาน/ด่านศุลกากรที่นำเข้า </p><p><br /></p><p>(2) กรมศุลกากรตรวจสอบข้อมูลในใบขนสินค้าและเอกสารประกอบ หากเอกสารถูกต้องครบถ้วนแล้ว จะออกเลขที่ใบขนสินค้า และประเมินค่าภาษีอากรที่ผู้นำเข้าจะต้องชำระ </p><p><br /></p><p>(3) ผู้นำเข้าหรือตัวแทนไปชำระเงินค่าภาษีอากรที่ฝ่ายบัญชีและอากร</p><p><br /></p><p>(4) ผู้นำเข้าหรือตัวแทนนำหลักฐานการชำระเงินมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ส่วนตรวจสินค้าเพื่อรับของออกจากอารักขาศุลกากร</p><p><br /></p><p><br /></p><p><br /></p><p><br /></p><p>พอเสร็จแล้วจะได้ใบเอารถไปจดทะเบียนคับ เอารถลากไปด้วยนะ AE86ใส่ป้ายแดงไม่รอดแน่น</p><p><br /></p><p><br /></p><p>ภาษีจะคิดจาก CIF X 188% (for engine less than 2000cc)</p><p>CIF คือ ราคารถ + shipping costs+ insurance</p><p><br /></p><p>ราคารถเขาอาจจะตีราคาจากราคาซื้อจิง หรือ ราคากลาง เขาจะเลือกอันที่สูงกว่า AE86 ส่วนมากจดทะเบียนใช้แล้วเกิน10 ปี ไม่มีส่วนลดแล้วคับ ราคาจะตามสภาพคับ ราคาซื้อจิง หรือ ราคากลาง</p><p><br /></p><p>รูปสภาพรถควรจะเหมือนตัวที่มาถึงจิง ไม่ควรแต่งสวยมากเกินคับ เพราะจะโดนบวกได้คับ</p><p><br /></p><p>Engine NO กับ engine ควรจะเหมือนกัน เพราะเวลาจดเล่มต้องขูดเลขคับ รถที่เปลี่ยนเครื่องแล้วจะต้องแจ้งเปลี่ยนก่อนนะ</p><p><br /></p><p>ต้องจ่ายค่าภาษีภายใน3เดือน ก่อนจะหมดสิทจดเล่ม </p><p><br /></p><p><br /></p><p><br /></p><p><br /></p><p>ขอย้ำถ้ามีเส้นจะง่ายคับ </p><p><br /></p><p><br /></p><p><br /></p><p><br /></p><p>เกิดมาPostยาวสุดก็คราวนี้แหละ</p><p>ถามหรือติได้คับ ถ้านึกอะไรออกจะมาเพิ่มให้คับ</p><p><br /></p><p><br /></p><p><br /></p><p><br /></p><p><br /></p><p><br /></p><p><span style="color: Black">TIPS</span></p><p><span style="color: Black"><br /></span></p><p><span style="color: Black">AE86 ของที่ Australia ใช้ชื่อว่า Toyota Coupe or Toyota Sprinter ราคากลางเลยหลุดจาก AE86 ที่มีภาษีของInitial D คับ เพราะเขาเช๊กจากราคากลางที่ญี่ปุ่น แล้วราคาจะถูกกว่า Trueno Levin เพราะเข้าใจผิด</span></p><p><span style="color: Black"><br /></span></p><p><span style="color: Black">เวลายื่นค่า CIF ให้รวมตัวเลขไปจะมั่วได้ราคาถูกกว่า</span></p><p><span style="color: Black"><br /></span></p><p><span style="color: Black">นายตรวจจะเรียกเงินใต้โต้ะแน่นอนคับ เตรียมไว้คับ เรียกเยอะคับแพงกว่าราคารถที่ผมเขียนไว้ในใบโอนรถอีก แต่ต้องต่อรองนะ แล้วดูว่าเขาเซ็นครบ</span></p><p><span style="color: Black"><br /></span></p><p><span style="color: Black">Landing Port ที่แหลมฉบังจะทำเรื่องขอรถออกง่ายกว่าที่คลองเตยคับ ถ้าไม่มีเส้นจะเอาออกยากมาก</span>[/QUOTE]</p><p><br /></p>
[QUOTE="porpun86, post: 549542, member: 41406"]ขออภัยล่วงหน้าคับ ผมพิมไทยไม่ค่อยได้คับ + ภาษาไทยไม่แข็งแรงคับ ผมขออนุญาตอธิบาย ขั้นตอนที่ผมเพิ่งนำรถเข้ามาเลยนะคับ ผมนำเข้าแบบถาวรจาก Melbourne, Australia ใช้สิทธ์ เป็นนักเรียน และ เป็นเจ้าของรถเป็นเวลา1ปี6เดือนก่อนแล้วจึงนำกลับมาคับ การนำเข้าควรจะทำให้ถูกต้องคับ อย่าเลี่ยงภาษีหรือแอบคับ เพราะอาจจะไม่ได้ขับรถคันนั้นอีกเลย โดนยึดแล้วทุบคับ จากเรื่องนำเข้า Ferrari ทำให้คนนำรถเข้าเดือดร้อนคับ ขั้นตอนที่ลำบากที่สุดคงจะเป็นการขอใบอนุญาตการนำเข้าจากกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เพราะว่าหลักฐานและเอกสารต้องแน่นพร้อมแบบว่าเราเป็นเจ้าของรถเป็นเวลา1ปี6เดือนจริง รถต้องมีหลักฐานว่าจดทะเบียนช่วงการครอบครอง เอกสารที่ใช้ในการขอแค่กระดาษใบนี้ Passport + Student Visa ทะเบียนบ้าน บัตรประจำตัวประชาชน Driving License (Thai & Australian) เล่มทะเบียน (ของAE86 ใน Australia ถ้ายังมีอยู่ก็ดีไปคับ แต่ละStateจะไม่เหมือนกัน ที่Melbourne & Perth จะใช้กระดาษแจ้งค่าภาษีทะเบียนเป็น หลักฐาน) ใบซื้อ+โอนเจ้าของ (ที่สำคัญคือวันที่เราได้เป็นเจ้าของ) Academic Transcripts ผมยื่นตั้งแต่ของปี97 เขาถึงเชื่อว่าเป็นนักเรียนอยู่ที่ Australia Other ID prove Student card ใบยื่นคำร้องขออนุญาตนำเข้า -----!!!!!ใบนี้ห้ามมีอะไรผิดเด็ดขาด ข้อมูลต้องอยู่ในกรอบ ใบยื่นคำร้องขออนุญาตนำเข้า นี้จะขอได้ที่กรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ แล้วต้องพิมข้อมูลลงไป จะเป็นพวกVehicle Detail(Vin No., Engine No. & Size, Registration), Date + Port of departure & Landing, Market value (USD), Current Exchange Rate นี้ถามจากตรงนั้นเลยเพราะเศษห้ามปัด เตรียมคำพูดดีๆ ว่ารักรถมากเลยเอากลับมาใช้ด้วย เมืองไทยหายากคับ โดนถามแน่นคับ ห้ามพูดถึงราคากลางในไทยหรือญี่ปุ่นเด็ดขาดเพราะจะเดือดร้อนได้ ราคากลางจะเป็นตัวกำหนดค่าCIF ภาษี ขอย้ำว่าตรงนี้ห้ามพลาดคับ กระทรวงพาณิชย์จะเข้มงวดมากกับการนำเข้ารถคับ เขาจะกันเราทุกทางที่เราเปิดช่อง นับจากวันซื้อจนถึงวันที่เราและรถออกนอกประเทศต้อง1ปี6เดือน แล้วเผื่อสัก2อาทิตย์ ก่อนเราและรถออกนอกประเทศ แสดงเจตนาว่าเราไม่นำเข้าเพื่อการค้า แต่เพื่อตัวเราเอง ใบอนุญาตการนำเข้า กระดาษใบนี้จะต้องได้ก่อนรถจะถึงPort ถ้ารถถึงPortก่อนจะต้องทมด แล้วเรื่องจะไปถึงรัฐมนตรีคับ แล้วโดนปรับอีก20000บาท ใบยื่นคำร้องขออนุญาตนำเข้า ผมทำแล้วยื่น3ครั้งเพราะPrint คลาดไปนอกกรอบประมาณ5mm, MS EXCEL มันปัดจุดทศนิยมของ Exchange Rate ยังไม่รวมที่พิมผิดจาก Type writer และ เซ็นผิดที่ อีก5-6ฉบับ ที่จริงควรจะได้ใบอนุญาตการนำเข้าก่อนแล้วจึงส่งรถขึ้นเรือเพื่อความปลอดภัย ของผมส่งก่อนแล้วค่อยขอโชคดีคับทันพอดี ใช้เวลา1เดือนเป๊ะ โชคดีมากๆ ถ้ามีเส้นจะง่ายคับ ผมไม่มีคับ เหนื่อย วิ่งหลายรอบมาก เพื่อยืนยันหลักฐาน ขั้นตอนปฏิบัติพิธีการ ตรงนี้copy มา 2.2 เอกสารที่ควรจัดเตรียมการนำเข้ารถยนต์แบบถาวร เอกสารทั่วไป ใบขนสินค้าขาเข้า ประกอบด้วยต้นฉบับและสำเนา 1 ฉบับ ใบตราส่งสินค้า (Bill of Lading or Air Waybill) เอกสารการซื้อขายรถยนต์ (ถ้ามี) ใบสั่งปล่อยสินค้า (กศก.100/1) แบบธุรกิจต่างประเทศ (Foreign Transaction Form) กรณีสินค้านำเข้ามีราคา CIFเกิน 500,000 บาท ใบแจ้งยอดเบี้ยประกัน (Insurance Premium Invoice) เ อกสารอื่น ๆ เช่น หนังสือมอบอำนาจ (2) เอกสารเพิ่มเติมกรณีเป็นรถยนต์เก่าใช้แล้ว ทะเบียนบ้านและบัตรประจำตัวประชาชน หนังสือเดินทาง กรณีย้ายภูมิลำเนา ทะเบียนรถยนต์ที่จดทะเบียนการใช้งานที่ต่างประเทศมาแล้ว ใบอนุญาตการนำเข้าจากกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวง 2.3 ขั้นตอนปฏิบัติพิธีการ (1) ผู้นำเข้าหรือตัวแทนยื่นใบขนสินค้าพร้อมเอกสารประกอบต่อฝ่ายการนำเข้าที่ 4 ส่วนการนำเข้า สำนักงานศุลกากรนำเข้าท่าเรือกรุงเทพ หรือสำนักงาน/ด่านศุลกากรที่นำเข้า (2) กรมศุลกากรตรวจสอบข้อมูลในใบขนสินค้าและเอกสารประกอบ หากเอกสารถูกต้องครบถ้วนแล้ว จะออกเลขที่ใบขนสินค้า และประเมินค่าภาษีอากรที่ผู้นำเข้าจะต้องชำระ (3) ผู้นำเข้าหรือตัวแทนไปชำระเงินค่าภาษีอากรที่ฝ่ายบัญชีและอากร (4) ผู้นำเข้าหรือตัวแทนนำหลักฐานการชำระเงินมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ส่วนตรวจสินค้าเพื่อรับของออกจากอารักขาศุลกากร พอเสร็จแล้วจะได้ใบเอารถไปจดทะเบียนคับ เอารถลากไปด้วยนะ AE86ใส่ป้ายแดงไม่รอดแน่น ภาษีจะคิดจาก CIF X 188% (for engine less than 2000cc) CIF คือ ราคารถ + shipping costs+ insurance ราคารถเขาอาจจะตีราคาจากราคาซื้อจิง หรือ ราคากลาง เขาจะเลือกอันที่สูงกว่า AE86 ส่วนมากจดทะเบียนใช้แล้วเกิน10 ปี ไม่มีส่วนลดแล้วคับ ราคาจะตามสภาพคับ ราคาซื้อจิง หรือ ราคากลาง รูปสภาพรถควรจะเหมือนตัวที่มาถึงจิง ไม่ควรแต่งสวยมากเกินคับ เพราะจะโดนบวกได้คับ Engine NO กับ engine ควรจะเหมือนกัน เพราะเวลาจดเล่มต้องขูดเลขคับ รถที่เปลี่ยนเครื่องแล้วจะต้องแจ้งเปลี่ยนก่อนนะ ต้องจ่ายค่าภาษีภายใน3เดือน ก่อนจะหมดสิทจดเล่ม ขอย้ำถ้ามีเส้นจะง่ายคับ เกิดมาPostยาวสุดก็คราวนี้แหละ ถามหรือติได้คับ ถ้านึกอะไรออกจะมาเพิ่มให้คับ [COLOR="Black"]TIPS AE86 ของที่ Australia ใช้ชื่อว่า Toyota Coupe or Toyota Sprinter ราคากลางเลยหลุดจาก AE86 ที่มีภาษีของInitial D คับ เพราะเขาเช๊กจากราคากลางที่ญี่ปุ่น แล้วราคาจะถูกกว่า Trueno Levin เพราะเข้าใจผิด เวลายื่นค่า CIF ให้รวมตัวเลขไปจะมั่วได้ราคาถูกกว่า นายตรวจจะเรียกเงินใต้โต้ะแน่นอนคับ เตรียมไว้คับ เรียกเยอะคับแพงกว่าราคารถที่ผมเขียนไว้ในใบโอนรถอีก แต่ต้องต่อรองนะ แล้วดูว่าเขาเซ็นครบ Landing Port ที่แหลมฉบังจะทำเรื่องขอรถออกง่ายกว่าที่คลองเตยคับ ถ้าไม่มีเส้นจะเอาออกยากมาก[/COLOR][/QUOTE]
เข้าสู่ระบบด้วย Facebook
เข้าสู่ระบบด้วย Twitter
เข้าสู่ระบบด้วย Google
ชื่อผู้ใช้งานหรือที่อยู่อีเมล์ของคุณ:
คุณมีบัญชีผู้ใช้หรือไม่?
ไม่มี, สร้างบัญชีผู้ใช้ตอนนี้
มี, รหัสผ่านของฉันคือ:
ลืมรหัสผ่านของคุณ?
อยู่ในระบบตลอดเวลา
RacingWeb.NET | The Racing Cars Community on Web.
ฟอรั่ม
>
Community Car Clubs
>
Toyota Car Clubs
>
AE86ers
>
ใครสนใจเอา86เข้ามาบ้างครับ
>
X
หน้าแรก
หน้าแรก
Quick Links
โพสต์ล่าสุด
กิจกรรมล่าสุด
ผู้เขียน
ฟอรั่ม
ฟอรั่ม
Quick Links
ค้นหาฟอรั่ม
โพสต์ล่าสุด
ประกาศซื้อขาย
ประกาศซื้อขาย
Quick Links
ค้นหาประกาศซื้อขาย
กิจกรรมล่าสุด
ผู้ค้าขายคะแนนสูงสุด
สื่อ/วิดีโอ
สื่อ/วิดีโอ
Quick Links
Search Media
New Media
สมาชิก
สมาชิก
Quick Links
สมาชิกที่โดดเด่น
สมาชิกที่ลงทะเบียน
ผู้ใช้งานในขณะนี้
กิจกรรมล่าสุด
โพสต์ข้อมูลส่วนตัวใหม่
เมนู
ค้นหาเฉพาะชื่อ
โพสต์โดยสมาชิก:
แยกชื่อด้วยเครื่องหมายจุลภาค
ใหม่กว่า:
ค้นหาเฉพาะหัวข้อนี้
ค้นหาเฉพาะฟอรั่มนี้
แสดงผลเป็นหัวข้อ
การค้นหาที่มีประโยชน์
โพสต์ล่าสุด
เพิ่มเติม...