เข้าสู่ระบบหรือลงทะเบียน
ติดต่อลงโฆษณา
[email protected]
หรือโทร. 081-811-1138 หรืออ่านรายละเอียดเพิ่มเติม คลิกที่นี่
RacingWeb.NET | The Racing Cars Community on Web.
ฟอรั่ม
>
Community Car Clubs
>
Pickup Car Clubs
>
Sport Truck.
>
++ GRAPH HORSE POWER ++
>
ตอบกลับหัวข้อ
ชื่อ:
การตรวจสอบ:
กรุณาเปิดใช้งานจาวาสคริปต์เพื่อดำเนินการต่อ
กำลังโหลด...
ข้อความ:
<p>[QUOTE="p_sutipoj, post: 574721, member: 7614"]ทีนี้เรามาอ่านมันส์ๆ สไตร์โค้ชเจี๊ยบดีไหมครั........</p><p><br /></p><p>ที่ผมเอากราฟแรงม้ามาให้ดูนั้นผมบอกให้เพื่อนๆเข้าใจว่าเราจะทำอะไรได้บ้างเพื่อที่จะทำให้กราฟแรงม้าของเรานั้นเป็น ทำให้กราฟแรงมาของเรานั้นสวยอย่างใจ มันไม่มีเท่าที่จะเป็นไปอย่างตามมีตามเกิอหรอก แต่ใครที่ใช้ประสบการณ์จริงๆโมดิฟายแล้ว กราฟแรงม้าก็อาจจะมีหน้าตาและสูงก็เป็นได้ แต่ถ้าใครไม่รู้อย่างเราๆ ท่านๆ นานกว่ากจะแรงกว่าจะวิ่ง บางคนอาจท้อบางคนอาจเสียเครื่องไปหลายตตัวก็ได้........</p><p> เรื่องที่ผมอยากจะกล่าวในวันนี้ก็คือ อะไรคือปัจจัยที่ทำให้กราฟแรงม้าเป็นอย่างรูปข้างต้น ..........แล้วกราฟ 2 กราฟให้อะไรคุณบ้าง............... ผมเห็นแล้วก็ตกใจ แม่งทำไมไม่มีใครสนใจเลยวะ ทั้งๆที่มันมีประโยชน์มากในการแต่งเครื่อง <span style="color: Red">ถ้าเราไม่เข้าใจธรรมชาติของมัน เราก็จะเล่นกับมันได้ไม่ครบทุกเม็ด</span></p><p><br /></p><p>1) กราฟที่ 1 หมายถึงกราฟแรงม้าแรงบิดที่ผมก็อปมา</p><p>2) กราๆที่2 หมายถึงกราฟแรงม้าแรงบิดที่ผมเขียนขึ้นเอง</p><p><br /></p><p> เอาง่ายๆก่อน กราฟทั้ง 2 มีทั้งเหมือนและแตกต่างกัน ที่ผมจะชี้ให้เห็นก็คือ กราฟทั้ง 2 มีแรงบิดสูงสุดเท่ากัน แต่มาที่รอบเครื่องยนต์ต่างกัน ตรงนี้.....มันบอกเราว่าแรงบิดเท่ากันรอบเครื่องสูงกว่าแรงม้ามากกว่า....... ต่อไป กราฟแรงบิดสังเกตุดูช่วงปลายๆจะเห็นว่ามีช่วงที่แรงบิดเริ่มลดลง และตกลง ตรงนี้.....มันบอกเราว่า ถ้าแรงบิดของเราไม่เพิ่มขึ้นก็ทำให้มันอย่าลดลงอย่างรวดเร็วก็จะทำให้มีแรงม้ามีเพาเวอร์แบนด์ กว้างได้เหมือนกัน..........ทำให้ขับขี่ง่าย ใส่เกียร์อะไรก็วิ่ง</p><p><br /></p><p> แค่นี้ก็ให้อะไรกับเรามากพอแล้ว.......แต่ยังไม่พอสหายสปอร์ตทรัคต้องรู้ให้มันกระจ่างกว่านี้ ให้มันถึงรูให้มันถึงขน กรั่กๆๆๆ ระดับของกราฟแรงบิด สูงสุดประมาณ 460 นิวตัน-เมตร ไม่รู้หละรถคนนี้อาจะบูสท์อยู่ 30 psi หากเราเพิ่มบูทส์ขึ้นไปอีก เป็น 40 psi สิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงก็คือ ระดับของกราฟแรงบิดจะยกตัวสูงขึ้น จากระดับเดิม แต่ช่วงต้นๆและปลายๆเท่านั้นที่เพิ่มขึ้นไม่มาก....... สิ่งที่ตามมาก็คือแรงม้าจะเพิ่มขึ้นปี๊ดกว่าเดิมแต่ว่า.......ขึ้นช่วงกลางๆ และปลายๆจะลดอย่างมากทำให้ เวลาขับจะทำให้เห็นความแตกต่างอย่างมากรุ้สึกว่ามันตื้อๆ จิงแล้วก็วิ่งพอกับตอนบูทส์ 30 แต่ว่าแรงม้ามันลดลงแรงG ก็ลดลงทำให้รู้สึกว่ามันเหี่ยวๆ นั่นเอง............</p><p> </p><p> แล้วอย่างนี้เราจะเพิ่มแรงม้าอย่างไรได้เล่า นอกจากการปรับบูทส์เพิ่มขึ้นแล้ว การเพิ่มบูทส์ขึ้นนั้นเป็นเรื่องง่ายของการเพิ่มแรงม้า การเพิ่มบูทส์ทำให้ การเผาไหม้ของน้ำมันที่เผาไม่หมด มาเป็นเผาไม่เหลือซาก และหากเพิ่มเข้าไปมากๆ.......ไม่มีน้ำมันจะเผาแรงม้าก็ไม่ได้เพิ่มขึ้นกลับกัน จะเกิดแต่แรงสูญเสียเนื่องจากการบีบอัดอากาศในปริมาณมากๆต้องใช้กำลังของลูกมากเข้าไปอีก ต้องไปใช้แรงของอีกสูบระเบิดแล้วเอามาอัดอีกสูบ......... ดังนั้นการเพิ่มบูทส์ จึงไม่เป็นทางเลือกที่ถูกต้องเสมอไป ต้องเพิ่มอากาศและเพิ่มน้ำมันตามไปด้วย.......แต่ทว่าส่วยมาก จะมีน้ำมันเป็นลิมิต........ทำปั้มให้ตายก็ได้เท่านี้ ก็เลยบูสท์ได้ไม่เกินเท่านี้ หากบูทส์เกินได้.....แต่เสี่ยงพัง ก็เท่านั้น</p><p> ต่อมาเราจะทำอะไรให้แรงบิดในรอบปลายมันดีขึ้นหรือไม่ลดลงได้บ้าง.......... ข้อนี้ต้องเข้าใจธรรมชาติของเครื่อง ถ้ามีอิมเมจมากว่า ก็จะพริวมากกว่า คิดเป็นตุเป็นตะได้แบบผมี่แหละ ลองคิดแบบผมดูไหม !!!! ผมมองอย่างอ.ศิริบูรณ์ เครืองยนต์ จะมีแรงม้ามากเท่าไหร่ ก็ต้องดูดลม เข้าเครื่องไปเผาไหม้มากเท่านั้น........คิดเล่นๆ สมมุตติ เครื่องยนต์ 1 แรงม้าต้องเผาไหม้เอาอากาศเข้าเครื่องได้ในปริมาณ 20 ลูกบาศก์ต่อนาที ถ้าเราจะทำเครื่องยนต์ ดีเซล 250 แรงม้า ต้องเอาอากาศเข้าเครื่องให้ได้ 5000 ลูกบาศก์ต่อนาที เราก็มาคิดต่อว่าเราจะเอาอากาศจำนวนนี้เข้าเครื่องได้ทันได้อย่างไร หากเราเอาเข้าไม่ทัน ก็จะทำให้แรงม้าที่เรา ตั้งไว้250 ลดลงไปเรื่อยๆ เริ่มจาก เทอร์โบเลยอัดอากาศได้ขนาดนี้หรือป่าว ท่ออินเตอร์ ให้อากาศไหลเหล่านี้ไหลผ่านได้แรงดัน2.5บาร์โดยที่ความเร็วอากาศ ไม่เกิน พันสามร้อยกว่าฟุตต่อวินาทีหรือป่าว อินเตอร์คูลเลอร์ ลดอุณภูมิก็จริง แต่ไปทำให้อัตราการไหลลดลงไม่ได้นะเดี๋ยวม้าวิ่งเข้าเครื่องไม่ทัน ท่ออินเทคจ๋าม้ากำลังจะเข้าวินอย่าเล็กมากเกินไปเดี๋ยวม้าวิ่งเร็วเกินไปเบียดกันเองร้อนอีกและจะหมดแรงเข้าห้องเผาไหม้ไม่ทันอีก.......และประตูดเปิดปิดวาล์ใหญ่พอที่จะให้อากาศเหล่านี้ไหลผ่านหรือป่าว........... ยังไม่หมด ต่อด้วยเมื่อถูกสันดาบไปแล้วแก๊สไอเสียดื้อด้านมากไหมลูกสูบอัดออกไปแล้วไม่ยอมออกไหลย้อนกลับมาเพราะว่าโข่งเล็กเกินไปหรือป่าวหรือว่าบูสท์ซะ........และสุดท้าย ท่อไปเสียที่จะส่งม้าไปสู่สวรรค์ หากท่อสันเกินไปก็จะทำให้ใบพัดไอเสียมีการเปลี่ยนแปลงความเร็วได้มาก ทำให้บูสท์ตกเยอะแต่ก็มาไว........อะไรประมาณเนี่ยแหละ.....</p><p>ถ้าผมพูดมาถึงขนาดนี่แล้วยัง ย้อนมาถามผมว่า แล้วแรงม้ารอบปลายมันจะเพิ่มได้ยังไง...................ให้กลับไปนั่งอ่านกระทู้ที่เก่าที่สุดจนกระทู้ที่ใหม่ที่สุดอีกรอบ.........อาจจะมีคุณสมบัติพอที่คุยกันรู้เรื่องหน่อย.....</p><p><br /></p><p>ขอบคุณที่นั่งถ่างตาอ่าน </p><p><br /></p><p>โค้ช เจี๊ยบ-sporttruck[/QUOTE]</p><p><br /></p>
[QUOTE="p_sutipoj, post: 574721, member: 7614"]ทีนี้เรามาอ่านมันส์ๆ สไตร์โค้ชเจี๊ยบดีไหมครั........ ที่ผมเอากราฟแรงม้ามาให้ดูนั้นผมบอกให้เพื่อนๆเข้าใจว่าเราจะทำอะไรได้บ้างเพื่อที่จะทำให้กราฟแรงม้าของเรานั้นเป็น ทำให้กราฟแรงมาของเรานั้นสวยอย่างใจ มันไม่มีเท่าที่จะเป็นไปอย่างตามมีตามเกิอหรอก แต่ใครที่ใช้ประสบการณ์จริงๆโมดิฟายแล้ว กราฟแรงม้าก็อาจจะมีหน้าตาและสูงก็เป็นได้ แต่ถ้าใครไม่รู้อย่างเราๆ ท่านๆ นานกว่ากจะแรงกว่าจะวิ่ง บางคนอาจท้อบางคนอาจเสียเครื่องไปหลายตตัวก็ได้........ เรื่องที่ผมอยากจะกล่าวในวันนี้ก็คือ อะไรคือปัจจัยที่ทำให้กราฟแรงม้าเป็นอย่างรูปข้างต้น ..........แล้วกราฟ 2 กราฟให้อะไรคุณบ้าง............... ผมเห็นแล้วก็ตกใจ แม่งทำไมไม่มีใครสนใจเลยวะ ทั้งๆที่มันมีประโยชน์มากในการแต่งเครื่อง [COLOR="Red"]ถ้าเราไม่เข้าใจธรรมชาติของมัน เราก็จะเล่นกับมันได้ไม่ครบทุกเม็ด[/COLOR] 1) กราฟที่ 1 หมายถึงกราฟแรงม้าแรงบิดที่ผมก็อปมา 2) กราๆที่2 หมายถึงกราฟแรงม้าแรงบิดที่ผมเขียนขึ้นเอง เอาง่ายๆก่อน กราฟทั้ง 2 มีทั้งเหมือนและแตกต่างกัน ที่ผมจะชี้ให้เห็นก็คือ กราฟทั้ง 2 มีแรงบิดสูงสุดเท่ากัน แต่มาที่รอบเครื่องยนต์ต่างกัน ตรงนี้.....มันบอกเราว่าแรงบิดเท่ากันรอบเครื่องสูงกว่าแรงม้ามากกว่า....... ต่อไป กราฟแรงบิดสังเกตุดูช่วงปลายๆจะเห็นว่ามีช่วงที่แรงบิดเริ่มลดลง และตกลง ตรงนี้.....มันบอกเราว่า ถ้าแรงบิดของเราไม่เพิ่มขึ้นก็ทำให้มันอย่าลดลงอย่างรวดเร็วก็จะทำให้มีแรงม้ามีเพาเวอร์แบนด์ กว้างได้เหมือนกัน..........ทำให้ขับขี่ง่าย ใส่เกียร์อะไรก็วิ่ง แค่นี้ก็ให้อะไรกับเรามากพอแล้ว.......แต่ยังไม่พอสหายสปอร์ตทรัคต้องรู้ให้มันกระจ่างกว่านี้ ให้มันถึงรูให้มันถึงขน กรั่กๆๆๆ ระดับของกราฟแรงบิด สูงสุดประมาณ 460 นิวตัน-เมตร ไม่รู้หละรถคนนี้อาจะบูสท์อยู่ 30 psi หากเราเพิ่มบูทส์ขึ้นไปอีก เป็น 40 psi สิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงก็คือ ระดับของกราฟแรงบิดจะยกตัวสูงขึ้น จากระดับเดิม แต่ช่วงต้นๆและปลายๆเท่านั้นที่เพิ่มขึ้นไม่มาก....... สิ่งที่ตามมาก็คือแรงม้าจะเพิ่มขึ้นปี๊ดกว่าเดิมแต่ว่า.......ขึ้นช่วงกลางๆ และปลายๆจะลดอย่างมากทำให้ เวลาขับจะทำให้เห็นความแตกต่างอย่างมากรุ้สึกว่ามันตื้อๆ จิงแล้วก็วิ่งพอกับตอนบูทส์ 30 แต่ว่าแรงม้ามันลดลงแรงG ก็ลดลงทำให้รู้สึกว่ามันเหี่ยวๆ นั่นเอง............ แล้วอย่างนี้เราจะเพิ่มแรงม้าอย่างไรได้เล่า นอกจากการปรับบูทส์เพิ่มขึ้นแล้ว การเพิ่มบูทส์ขึ้นนั้นเป็นเรื่องง่ายของการเพิ่มแรงม้า การเพิ่มบูทส์ทำให้ การเผาไหม้ของน้ำมันที่เผาไม่หมด มาเป็นเผาไม่เหลือซาก และหากเพิ่มเข้าไปมากๆ.......ไม่มีน้ำมันจะเผาแรงม้าก็ไม่ได้เพิ่มขึ้นกลับกัน จะเกิดแต่แรงสูญเสียเนื่องจากการบีบอัดอากาศในปริมาณมากๆต้องใช้กำลังของลูกมากเข้าไปอีก ต้องไปใช้แรงของอีกสูบระเบิดแล้วเอามาอัดอีกสูบ......... ดังนั้นการเพิ่มบูทส์ จึงไม่เป็นทางเลือกที่ถูกต้องเสมอไป ต้องเพิ่มอากาศและเพิ่มน้ำมันตามไปด้วย.......แต่ทว่าส่วยมาก จะมีน้ำมันเป็นลิมิต........ทำปั้มให้ตายก็ได้เท่านี้ ก็เลยบูสท์ได้ไม่เกินเท่านี้ หากบูทส์เกินได้.....แต่เสี่ยงพัง ก็เท่านั้น ต่อมาเราจะทำอะไรให้แรงบิดในรอบปลายมันดีขึ้นหรือไม่ลดลงได้บ้าง.......... ข้อนี้ต้องเข้าใจธรรมชาติของเครื่อง ถ้ามีอิมเมจมากว่า ก็จะพริวมากกว่า คิดเป็นตุเป็นตะได้แบบผมี่แหละ ลองคิดแบบผมดูไหม !!!! ผมมองอย่างอ.ศิริบูรณ์ เครืองยนต์ จะมีแรงม้ามากเท่าไหร่ ก็ต้องดูดลม เข้าเครื่องไปเผาไหม้มากเท่านั้น........คิดเล่นๆ สมมุตติ เครื่องยนต์ 1 แรงม้าต้องเผาไหม้เอาอากาศเข้าเครื่องได้ในปริมาณ 20 ลูกบาศก์ต่อนาที ถ้าเราจะทำเครื่องยนต์ ดีเซล 250 แรงม้า ต้องเอาอากาศเข้าเครื่องให้ได้ 5000 ลูกบาศก์ต่อนาที เราก็มาคิดต่อว่าเราจะเอาอากาศจำนวนนี้เข้าเครื่องได้ทันได้อย่างไร หากเราเอาเข้าไม่ทัน ก็จะทำให้แรงม้าที่เรา ตั้งไว้250 ลดลงไปเรื่อยๆ เริ่มจาก เทอร์โบเลยอัดอากาศได้ขนาดนี้หรือป่าว ท่ออินเตอร์ ให้อากาศไหลเหล่านี้ไหลผ่านได้แรงดัน2.5บาร์โดยที่ความเร็วอากาศ ไม่เกิน พันสามร้อยกว่าฟุตต่อวินาทีหรือป่าว อินเตอร์คูลเลอร์ ลดอุณภูมิก็จริง แต่ไปทำให้อัตราการไหลลดลงไม่ได้นะเดี๋ยวม้าวิ่งเข้าเครื่องไม่ทัน ท่ออินเทคจ๋าม้ากำลังจะเข้าวินอย่าเล็กมากเกินไปเดี๋ยวม้าวิ่งเร็วเกินไปเบียดกันเองร้อนอีกและจะหมดแรงเข้าห้องเผาไหม้ไม่ทันอีก.......และประตูดเปิดปิดวาล์ใหญ่พอที่จะให้อากาศเหล่านี้ไหลผ่านหรือป่าว........... ยังไม่หมด ต่อด้วยเมื่อถูกสันดาบไปแล้วแก๊สไอเสียดื้อด้านมากไหมลูกสูบอัดออกไปแล้วไม่ยอมออกไหลย้อนกลับมาเพราะว่าโข่งเล็กเกินไปหรือป่าวหรือว่าบูสท์ซะ........และสุดท้าย ท่อไปเสียที่จะส่งม้าไปสู่สวรรค์ หากท่อสันเกินไปก็จะทำให้ใบพัดไอเสียมีการเปลี่ยนแปลงความเร็วได้มาก ทำให้บูสท์ตกเยอะแต่ก็มาไว........อะไรประมาณเนี่ยแหละ..... ถ้าผมพูดมาถึงขนาดนี่แล้วยัง ย้อนมาถามผมว่า แล้วแรงม้ารอบปลายมันจะเพิ่มได้ยังไง...................ให้กลับไปนั่งอ่านกระทู้ที่เก่าที่สุดจนกระทู้ที่ใหม่ที่สุดอีกรอบ.........อาจจะมีคุณสมบัติพอที่คุยกันรู้เรื่องหน่อย..... ขอบคุณที่นั่งถ่างตาอ่าน โค้ช เจี๊ยบ-sporttruck[/QUOTE]
เข้าสู่ระบบด้วย Facebook
เข้าสู่ระบบด้วย Twitter
เข้าสู่ระบบด้วย Google
ชื่อผู้ใช้งานหรือที่อยู่อีเมล์ของคุณ:
คุณมีบัญชีผู้ใช้หรือไม่?
ไม่มี, สร้างบัญชีผู้ใช้ตอนนี้
มี, รหัสผ่านของฉันคือ:
ลืมรหัสผ่านของคุณ?
อยู่ในระบบตลอดเวลา
RacingWeb.NET | The Racing Cars Community on Web.
ฟอรั่ม
>
Community Car Clubs
>
Pickup Car Clubs
>
Sport Truck.
>
++ GRAPH HORSE POWER ++
>
X
หน้าแรก
หน้าแรก
Quick Links
โพสต์ล่าสุด
กิจกรรมล่าสุด
ผู้เขียน
ฟอรั่ม
ฟอรั่ม
Quick Links
ค้นหาฟอรั่ม
โพสต์ล่าสุด
ประกาศซื้อขาย
ประกาศซื้อขาย
Quick Links
ค้นหาประกาศซื้อขาย
กิจกรรมล่าสุด
ผู้ค้าขายคะแนนสูงสุด
สื่อ/วิดีโอ
สื่อ/วิดีโอ
Quick Links
Search Media
New Media
สมาชิก
สมาชิก
Quick Links
สมาชิกที่โดดเด่น
สมาชิกที่ลงทะเบียน
ผู้ใช้งานในขณะนี้
กิจกรรมล่าสุด
โพสต์ข้อมูลส่วนตัวใหม่
เมนู
ค้นหาเฉพาะชื่อ
โพสต์โดยสมาชิก:
แยกชื่อด้วยเครื่องหมายจุลภาค
ใหม่กว่า:
ค้นหาเฉพาะหัวข้อนี้
ค้นหาเฉพาะฟอรั่มนี้
แสดงผลเป็นหัวข้อ
การค้นหาที่มีประโยชน์
โพสต์ล่าสุด
เพิ่มเติม...