สำหรับผู้ที่สนใจเรื่องลายไม้นะครับ ขอโทษที่ไม่ได้แวะกลับมากระทู้นี้เสียนาน มันจะเป็นฟิล์มนะครับ ผมเคยเห็นที่ร้านเค้าขาย เคยเดินไปดู ๆ จับ ๆ และไปยืนอ่านวิธีทำที่เค้า print แล้วแปะที่เสาอยู่ ส่วนวิธีทำ อุปกรณ์ ฯ ผมทราบแค่นี้ครับ เพราะไม่เคยทำ ที่พอจำได้คือไม่ยากครับ ง่ายกว่าทำพวกไฟเบอร์กลาส คาร์บอนไฟเบอร์ อีก ร้านที่ขายอุปกรณ์ก็อ่านจากความคิดเห็นก่อนหน้าในกระทู้นี้ได้ครับ ที่ร้านส่วนใหญ่ก็จะมีขายหนังสือด้วยนะครับ หรือไม่ก็หาซื้อตาม B2S ใหญ่ ๆ ได้
ขอบคุณสำหรับความรู้ดีๆที่เอาไปพัฒนาต่อได้ครับ ถ้ามีกระทู้แบบนี้เยอะๆ บ้านเมืองเจริญครับ +Reputation ให้ครับ
เป็นประโยชน์อย่างยิ่ง คุณZoomie ผมขอเบอร์โทรศัพท์ติดต่อคุณโดยตรงเลยครับ กระทู้คุณเป็นประโยชน์มากๆ น่านำไปเผยแพร่ให้คนที่สนใจ และรักการแต่งรถศึกษาครับ รายละเอียดไว้คุยกันทางโทรศัพท์ครับรบกวนส่งเบอร์มาที่ [email protected] ขอบคุณครับ
ให้สอนเลยคงไม่ไหวครับ ผมยังไม่เก่งขนาดนั้น ตอนนี้ก็แค่หุ้มผ้าคล่องขึ้น แต่ถ้าเป็นแบบยาก ๆ ก็ยากเหมือนกัน ส่วนขึ้นรูปเองเลย เช่น สปอยเลอร์ ผมลองทำดูเล่น ๆ ยังยากอยู่ครับ พอดีผมเป็นคนใจร้อน ขึ้นแบบเองทีไร เบี้ยวทุกที ตอนนี้ก็เลยกะว่าถ้าแบบใหญ่ ๆ สัดส่วนต้องเนี้ยบ ๆ ก็เอาไปให้ร้านหรืออู่ทำให้ดีกว่า โดยเราออกแบบเอง แล้วเอามาหุ้มผ้าคาร์บอนฯ แล้วพ่นเองดีกว่า ต้องลองผิดลองถูกดูครับ เดี๋ยวคล่องเอง ต้นทุนไม่แพง แต่ต้องใจเย็น ทำผิดทำเจ๊งก็ช่างมัน ก็ทำใหม่ไปเรื่อย ๆๆๆๆๆ
kavler แล้วร้าน art resin มี ผ้าตัว tomcat ป่ะ คับ แล้ว มีเบอร์โทรที่ร้านไหม ครับ จะโทรไปสอบถาม แล้ว ถ้า เราจะ ปู ผ้าเคฟล่ารื แต่ มัน โค้งเยอะ ทัวตัวเลย เนี่ย มีข้อแนะนำ ไหม ครับ กลัวออกมาแล้วเสีย ทั้ง เงิน ทั้งของจัง ขอบคุณคับ zoomie
ลาย Tomcat มีครับ รู้สึกจะเมตรละสามพันกว่าบาท เมื่อวานผมเพิ่งไปซื้อผ้าคาร์บอนไฟเบอร์มา ตอนนี้ราคาขึ้นนิดหน่อย ถ้าแบบมีส่วนโค้งเยอะ ๆ มันทำยากนะครับ เพราะต้องเรียงลายให้ดี และ ตัดแต่งขอบให้สวย เพราะถ้าปูให้เข้ารูปมันไม่เท่าไหร่ แต่ให้ลายมันเรียงสวย ๆ และ ตัดขอบผ้าให้เนียนแบบว่าสังเกตไม่ออกหรือหาขอบผ้าแทบไม่เจอนี่มันยากนะครับ ผมว่าซื้อผ้าคาร์บอนฯ มาลองฝึกก่อนดีกว่า เพราะราคาถูกกว่า เบอร์โทรฯ ที่ร้านเรซิ่นอาร์ตนะครับ 02-940-5507 อ้อ..... เรซิ่นต้องใช้ Epoxy เท่านั้นนะครับ เพราะมันเข้ากับเนื้อผ้ามากกว่า ถ้าเรซิ่นแบบโพลีเอสเตอร์เรซิ่นมันจะเหมาะกับไฟเบอร์กลาสมากกว่า ร้านส่วนมากก็ใช้โพลีเอสเตอร์เรซิ่นทำ เพราะราคาถูกกว่าประมาณ 5 เท่า และแห้งเร็วกว่า ตามร้านเลยชอบเพราะงานจะได้เสร็จเร็ว ๆ แต่ข้อเสียคือ มันแข็งไม่เท่า Epoxy Resin และสารเคมีมันทำปฏิกิริยากับผ้าคาร์บอนไฟเบอร์หรือเคฟล่าร์ไม่ดี ประมาณว่าน้ำยามันไม่ค่อยจับตัวกับผ้าฯ ทำให้ไม่ได้ Benefit ที่แท้จริงจากผ้าคาร์บอนไฟเบอร์หรือเคฟล่าร์เลย ได้แค่สวยอย่างเดียว ไหน ๆ ทำแล้วใช้ Epoxy ไปเลยดีกว่า เพราะถ้าไม่ได้ทำขาย ก็ไม่ต้องคิดถึงต้นทุน หรือ กำไร และข้อดีของการใช้หรือฝึกกับ Epoxy คือ มันแข็งตัวช้า ทำให้มีเวลาตบแต่ง หรือ ทิ้งน้ำยาสักพักให้ฟองอากาศมันลอยตัวขึ้นมาแล้วแตกฟองจนค่อย ๆ หมดไป และที่สำคัญมีเวลาเหลือให้ล้างแปรงได้ทัน โชคดีครับ......
ถามต่ออีกหน่อยครับ คุณ zoomie เรื่อง โมล ของพวก ไฟเบอร์กลาส วิธีการทำโมล 3 มิติเช่น สปอยเลอร์ และ กระจกข้างให้ด้วยครับ คือการทำไฟเบอร์แบบด้านเดียว แล้วอีกด้านหนึ่ง ปล่อยโชว์ ความชุ่ยเอาไว้ เช่นอุปกรณ์ดังนี้... บันใดข้าง, กันชน, คิ้วไฟหน้า หรือพวก ลิ้นหน้า.. อันนี้คงไม่ซับซ้อนมากเท่าไหร่.. ซึ่งต่างจาก การทำ สปอยเลอร์ กระจกข้าง ต่างๆ ฯลฯ ที่ต้องทำให้เนียนทุกด้าน คราวนี้ผมไม่เข้าใจว่า พวกที่ทำพวกนี้ เช่นสปอยเลอร์ M เค้าทำกันอย่างไร? เป็นโมล สองอันหรือ? แล้วตอนมาประกบกันทำอย่างไร?? แล้วมันจะแข็งแรงมั๊ย?? ช่วยไขความกระจ่างด้วยนะครับ... แล้วจะไม่ลืมพระคุณ..
ส่วนมากพวกร้านหรือโรงงานมักทำโมลด์เป็นแบบ 2 ชิ้น แต่ก็มีหลายแบบ หนังสือที่ผมแนะนำข้างต้น ๆ มีบอกครับ เกี่ยวกับการทำโมลด์มีแบบ ชิ้นเดียว สองชิ้น อย่างแบบสองชิ้นก็มีหลายแบบ ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับตัวชิ้นงานเองว่าเหมาะกับการทำโมลด์แบบไหน ในเว็บนี้มีลงโฆษณาร้านรับทำโมลด์อยู่นะครับ ลอง search หาดู ลิงค์ที่ผมลงไว้ข้างต้น ๆ ก็มีตัวอย่างคนที่ทำโมลด์ท่อที่เอาไปต่อทำโรลบาร์ โดยใช้คาร์บอนไฟเบอร์ทำ ลองดูครับ
แล้วอย่างกรณีถ้าจะทำ สปอยเลอร์... มันคงต้องรับแรงกดพอตัวเลย ในส่วนที่เป็นปีกแผ่นๆ.. ถ้าต้องทำแกนกลางของตัวชิ้นงาน อย่างสมมุติว่าใช้ แผ่นอลูมิเนียมขึ้นแกนกลางแล้วเอาคาร์บอนไฟเบอร์หุ้มทับ... คาร์บอนไฟเบอร์มันจะร่อนแตกออกมาภายหลังมั้ยอะครับ ?
สปอยเลอร์.... ผมก็กำลังทำอยู่ครับใกล้เสร็จแล้ว ผมไปซื้อสปอยเลอ์ทรง AC Schnitzer แบบที่ใช้ในบีเอ็มซี่รี่ส์สาม แต่เป็นแบบที่ยังไม่ได้ทำสี มันทำด้วยวัสดุพลาสติก ABS แล้วผมก็มาหุ้มผ้าฯ เอง ตอนแรกผมก็ลองขึ้นรูปเอง โดยใช้ไม้บันซ่าเพราะดัดโค้งง่าย แต่แพงไปนิด ทำไปทำมามันเบี้ยวต้องขัดและโป๊วแต่งมาก ทนไม่ไหวเลยไม่ทำดีกว่า เพราะสปอยเลอร์มันต้องได้สัดส่วน ไม่งั้นไม่ดีและไม่สวย ผมว่าลงทุนไปซื้อแบบที่เค้ายังไม่ได้ทำสี แล้วเอามาหุ้มเองดีกว่าง่ายกว่า แถมถูกมากด้วย แต่ของผมไม่ถูก เพราะมันแพงตรงขาที่เป็นสเตนเลสแท้ แต่ก็ถูกกว่าแบบที่หุ้มแล้วที่ขายกันอยู่กว่าครึ่ง ส่วนงานที่ซื้อมาจะเป็นวัสดุไฟเบอร์กลาส พลาสติก ABS หรืออลูมิเนียม ก็ได้ครับ ขอให้มันแข็ง ๆ เรียบ ๆ เป็นพอ ก่อนหุ้มก็เอากระดาษทรายเบอร์สัก 360 ขัดให้ทั่ว ๆ ให้ผิวมันหยาบนิดนึง เวลาลงเรซิ่นจะได้เกาะแน่น ๆ ผมว่าถ้าทำเล่น ๆ เองก็ซื้อแบบสำเร็จที่ยังไม่ทำสี แล้วมาหุ้มเองดีกว่า เพราะไม่ต้องเสียเวลาทำแบบเอง ตอนหุ้มก็หุ้มมัน 2 ชั้นไปเลย เพื่อความแข็ง ชั้นแรกก็ไม่ต้องลงเรซิ่นหนามาก ไม่งั้นจะทำให้หนักขึ้น (นิดนึง) โชคดีครบั
ขอถามเรื่อง การพ่นเงาขั้นตอนสุดท้ายนึดหนึ่งนะคับผม 1.เวลาทำการขัดกระดาษทราบเสร็จแล้วเนี้ย เนื้อ rasin มันจะเป็นรอยกระดาษทรายเล็กๆ มันจะหายไปหลังจากเราพ่น laccor ขั้นตอนสุดท้ายใช่ไหมคับ? 2. การที่จะให้ชิ้นงานออกมาแบบดำเงา หรือดำด้าน อยู่ที่ laccor ใช่ไหมคับ? หรือว่าผมเข้าใจผิด? 3. การพ่น laccor เคลือบ กับใช้ขี้ผิ้งขัดเคลือบ เหมือนกันรึเปล่าคับ? อย่างไรดีกว่า รบกวนด้วยนะคับ~~ ขอบคุณมากๆคับ เสร็จแล้วเนี้ย
ขอบคุณมาก ๆ ครับสำหรับคำชม ลองฝึกดูแล้วก็เอามาเล่าสู่กันฟัง คุณ Blackcoupe ครับ: 1. ขัดโดยใช้กระดาษทรายน้ำไล่เบอร์ตั้งแต่ 100, 120, 240, 360, 600, 1000 (เบอร์หยาบหยาบไปละเอียด) อาจไม่ตรงนี้เป๊ะ ๆ ขึ้นกับชิ้นงาน แต่ควรจบด้วเบอร์ 800 หรือ 1000 ถ้าขัดด้วยเบอร์ 360, 600, 1000 นาน ๆ แล้วเช็ดชิ้นงานให้แห้งจะเห็นว่าผิวมันและเรียบรอยแทบไม่มีให้เห็นเลย 2. ใช่ครับขึ้นกับแล็คเกอร์ เพราะมันขายทั้งแบบเงาด้าน และ เงาใส ถ้าชิ้นงานใหญ่ และ/หรือต้องตากแดดตากฝนมาก เช่น ชิ้นส่วนติดรถ เอางานไปจ้างอู่สีพ่นดีกว่าครับ อย่างสปอยเลอร์ที่กำลังทำอยู่ ผมหมดสเปรย์แล็คเกอร์ไปประมาณ 15 กระป๋อง กระป๋องละประมาณ 45 - 49 บาท ก็คำนวณดูครับ พอพ่นใกล้เสร็จจนกระป๋องท้าย ๆ แล้ว ดันใจร้อนพ่นจนเยิ้ม ผมก็ Panic สติแตกไปเลย เผลอเอากระดาษหนังสือพิมพ์เช็ด เอาผ้าเช็ด เผลอเอามือจับ แ_ม่_ง...เละเทะเลยครับ ผมเลยเอาไปให้อู่สีแก้ให้ พี่เค้าบอกว่าแล็คเกอร์มันไม่เหมือนกัน เขาไม่กล้าให้ลูกน้องขัดงานแก้ให้เพราะไม่คุ้ม กลัวขัดเข้าเนื้อคาร์บอนฯ พี่เขาบอกว่าทำไมไม่เอามาให้พ่นตั้งแต่แรก เพราะค่าพ่นแล็คเกอร์กับงานสปอยเลอร์แค่ 500 บาทเอง พ่น 3 ชั้น เข้าห้องอบสีให้ด้วย และแล็คเกอร์ที่อู่ใช้ก็แข็งกว่าด้วย ผมงี้เซ็งปนอึ้งเลย ก็เลยเอางานกลับมาขัดใหม่ นี่ก็ใกล้เสร็จแล้ว พรุ่งนี้ก็จะเอาไปให้อู่พ่นแล็คเกอร์ให้แล้ว ไว้จะเอารูปมาให้ดูครับ 3. ใช้แล็คเกอร์เคลือบมันจะให้ความเงากว่า ดูมีมิติความลึก และสวยกว่า และ เหมือนมีฟิล์มหุ้มชิ้นงานเราอีกชั้น แต่ไม่ควรพ่นแล็คเกอร์จนหนามาก หลายอู่หรือร้านที่รับทำงานคาร์บอนฯ หรือ เคฟล่าร์ชอบพ่นแล็คเกอร์จนหนาเกินเลยไม่สมจริง คำว่าสมจริงนี่หมายถึงงานคาร์บอน์หรือเคฟล่าร์จริง ๆ เค้าใช้การอัดและอบ หรือ เรียกว่า Dry Carbon เค้าจะไม่พ่นแล็กเกอร์ทับเลยครับ เพราะออกมาจาก Mold ก็เงาวับและเรียบมัน ลองเข้าเว็บพวกรถ F1 หากรูปรถของทีม BAR, Mc Laren แล้วดูชิ้นส่วนที่สีดำ ๆ นะครับจะเห็นชัดว่าผิวอีพ็อกซี่เรซิ่นใส ๆ มันบางมาก เพราะเรซิ่นยิ่งหนาและแล็คเกอร์ยิ่งหนาก็ยิ่งหนักและต้านอากาศ ส่วนใช้ขี้ผึ้งนี่เค้าเอาไว้ใช้ขัดผิวมัน + เงา แต่ต้องใช้เครื่องขัด ขัดด้วยมือเงายากต้องออกแรงเยอะ และไม่เงามากเท่าพ่นแล็คเกอร์ครับ นอกจากต้องใช้น้ำยาดี ๆ หลาย ๆ ตัว ขัดหลาย ๆ ชั้น อย่างศูนย์เม็กไกวส์เค้ารับขัดนะครับ หากมองการเคลือบ ควรพ่นแล็คเกอร์ทับก่อนเพื่อความเงางาม แล้วเคลือบด้วยน้ำยาเคลือบสีรถ (อ้ายที่เรียกว่าคานูร์บานี่ก็ขี้ผึ้งดี ๆ นี่ล่ะครับ) น้ำยาเคลือบสีชอบแบบไหนก็เอาแบบนั้นครับ แต่ไม่แนะนำให้ใช้แบบขี้ผึ้งเพราะอยู่ไม่ทน ไม่กี่วันก็จางต้องเคลือบใหม่ ลองใช้เม็กไกวส์ Nxt Tech Wax ดูครับ
ขอบคุณ คุณ zoomieมากๆนะคับสำหรับคำตอบ!! ผมก็ได้แรงบัลดาลใจมาจากคุณนี้หละคับ ถึงได้สร้างงานนี้ขึ้นมา ยังไม่ค่อยเนียนเลย อิอิ ส่งสัยต้องขอไปเป็นศิทย์คุณ zoomie ซะแล้ว คราวนี้ผมมีปัญหามาปรึกษาอีก เรื่องนะคับ 1. ปัญหาที่ผมเจอก็คือฟองอากาศเล็กๆอ่ะคับ ผมควรจะทำอย่างไรเพื่อที่จะกำจัดปัญหานี้คับ? มันอยู่ที่การผสม Rasin ของผมรึเปล่า? หรือว่าการไล่อากาศไม่ดี และมีวิธีแก้ไขอย่างไรคับ คือตอนนี้ที่ผมทำก็คือต้องขัดๆๆๆ ไปให้มันถึงฟองแล้วค่อยเคลือบทับใหม่อ่ะคับ มันเหนื่อยและเสียเวลานิดหนึ่ง ซึ่งผมคิดว่าผมต้องทำอ่ะไรผิดแน่ๆเลย ขอคำแนะนำด้วยคับ ขอบคุณ คุณ zoomie อีกครั้งคับผม
มันต้องมีฟองอากาศบ้างนะครับ ให้ไม่มีเลยไม่ได้ ถ้าใช้แปรง คงต้องใช้แปรงดี ๆ นะครับ ไม่ต้องแพง แต่ขนต้องนิ่ม ๆ ถ้าผ่านการใช้มาแล้วต้องล้างให้ขนนิ่ม ๆ เวลาทาก็ทาไปเที่ยวเดียวอย่าไป ๆ กลับ ๆ ค่อย ๆ ทา อย่าทากวาด ๆ เร็ว ๆ แต่ถ้ายังมีฟองอากาศก็พอทาเสร็จแล้วให้รีบเอาเข็มจิ้มฟองอากาศให้แตก ต้องรีบทำนะครับ เดี๋ยวเรซิ่นมันเริ่มเหนียวซะก่อน การผสมเรซิ่นก็ต้องค่อย ๆ คน ช้า ๆๆๆ ยิ่งเร็วยิ่งมีฟอง แต่ถ้าแข็งแล้ว ให้รอจนแห้งแล้วค่อย ๆ ขัดออกครับ หรือถ้าฟองเยอะก็ลองเอาผสมเรซิ่นนิดหน่อยแล้วเอาเข็มจิ้มเรซิ่นแล้วหยดลงตามจุดฟองอากาศต่าง ๆ แล้วรอจนแข็ง แล้วก็ค่อย ๆ ขัดออกเบา ๆ งานเรซิ่น หรือ epoxy โดยทาด้วยแปรงยังไงก็ต้องมีฟองอากาศครับ จะมากจะน้อยขึ้นกับการลงมือ (ในเว็บต่างประเทศเค้าว่างั้น) เลี่ยงไม่ได้ หรือไม่งั้นต้องใช้ถุงสุญญากาศ (Vacuum Bag) ซึ่งราคาค่อนข้างแพง ต้องสั่งซื้อจากเมืองนอก งานผมก็ฟองเพียบครับ เพราะผมใจร้อน พิมพ์ยาวอีกละ ช่วงนี้เข้าเว็บบ่อย โชคดีครับ
ขอบคุณสำหรับคำตอบมากๆเลยนะคับผม ตอนนี้ผมอยากจะทำ DIY Vaccum Bag มากเลย ผมว่าตัว pump อ่ะทำไม่อยาก แต่ว่าถุงนี้ซิ ฮืมมมม
ผมยังอยากลองทำ Vacuum bag ดูเลย ว่าจะลองศึกษาดูเหมือนกัน ถ้าลงทุนไม่มากเกินไปก็จะลองทำชิ้นงานเล็ก ๆ ดู เอ้อ ผมได้เทคนิคใหม่ อ่านจากเว็บเมืองนอกมา ที่นี่ http://www.westsystem.com มีเทคนิค ฯลฯ อธิบายเยอะเหมือนกัน แต่หนักไปทางเรซิ่นกับ epoxy แล้วก็เทคนิคแก้ฟองอากาศครับ คือ ทา epoxy ทับผ้าฯ ชั้นแรกไปก่อนบาง ๆ เอากระดาษแข็ง ๆ หนา ๆ หน่อย กดรีด epoxy กับผ้าให้เรียบ หาดูในเว็บข้างบนได้ มีรูปและคำอธิบายสอน พอใกล้แข็งก็ลง epoxy อีก เมื่อถึงชั้นจะสุดท้ายแล้วให้ผสม epoxy แล้วทิ้งสักพัก (ขึ้นอยู่กับภาชนะที่ใส่ และ ปริมาณที่ผสม) อย่างของผมปริมาณ 120 กรัม ทิ้งไว้ 20 นาที หรือ ถ้าอยากให้เร็วขึ้นก็เอาไดร์เป่าผมเป่า epoxy ที่อยู่ในภาชนะ สัก 5 นาที เอาไม้คนเบา ๆ ดูว่าเริ่มข้นบ้างหรือยัง ถ้าเริ่มข้นแล้ว (ข้นแค่ไหน แค่ไหนเรียกว่าข้น อันนี้ต้องสังเกตเองนะครับ บอกไม่ถูก แต่มันจะข้นเหนียวกว่าตอนผสมกันตอนแรก) พอข้นแล้วก็เทลงบนชิ้นงานเลยครับ แล้วใช้ลูกกลิ้งยางเกลี่ยเบา ๆ หรือใช้กระดาษม้วนกลม ๆ เกลี่ย หรือ ใช้ไม้ไอติม หรือ ตะเกียบ เกลี่ย ให้ทั่วชิ้นงาน ไม่ต้องใช้แปรง เพราะถ้าใช้แปรงอาจเกิดฟองอากาศเล็ก ๆ ได้ ข้อสังเกต - ผสมเรซิ่นแล้วจะมีฟองอากาศเต็มไปหมด ก็เอาไดร์เป่าผมเป่าใกล้ ๆ ฟองอากาศจะค่อย ๆ ลอยขึ้นมาแล้วแตกจนหมดไป - ทาเรซิ่นบนชิ้นงานแล้วเห็นฟองอากาศก็ให้เอาเข็มจิ้ม ๆ แล้วเอาไดร์เป่าผมรีบเป่าให้ทั่วชิ้นงาน ฟองอากาศจะลอยขึ้นมาบนผิวเรซิ่นเพิ่มขึ้น แล้วค่อย ๆ แตก - ถ้าแห้งแล้ว ขัดด้วยกระดาษทรายแล้ว ก็มีรอยฟองอากาศเป็นหลุม ๆ ก็ให้ผสมเรซิ่นเล็กน้อย แล้วทาบาง ๆ บริเวณหลุมอากาศเล็ก ๆ แล้วใช้กระดาษแข็ง ๆ เกลี่ย ๆ คล้ายกับการโป๊วสี จะใช้เกรียงโป๊วผิวเรซิ่นก็ได้ แล้วค่อยขัดด้วยกระดาษทรายต่ออีกอีก
ซื้อ สปอยเลอ์ทรง AC Schnitzer มาเท่าไหร่ครับ ผมหาอยู่เหมือนกัน (ชอบ มันไม่สูงแต่ไม่เรียบเกิน สวยดี) + อ้างถึง ตอบกลับ