ซื้อมา 6,500 บาทครับ เป็นพลาสติก ABS แบบยังไม่ทำสี มีอุปกรณ์พวกขาตั้งอยู่ในกล่องครบ พร้อมคู่มือประกอบ ราคานี้ต่อเค้าอีกที ตอนแรกบอกผม 8,000 บาท เล่นเอาสะอึก จริง ๆ 6,500 ก็สะอึกเหมือนกัน เพราะถือว่าแพงเหมือนกัน แต่มันแพงตรงขาตั้งสเตนเลสน่ะครับ กลึงมาสวยมาก ถ้าเป็นแบบหุ้มผ้าคาร์บอนไฟเบอร์แล้วราคา 14,500 บาท ที่ร้าน RTN หรือ R Style (สองร้านนี้เป็นร้านเดียวกัน) อยู่ใกล้ที่จอดรถเซียงกงปทุมวัน
oOH...oOH... 8000.- แพงไปหน่อยนะครับ.....สงสัยผมคงต้องคิดนานๆหน่อยแล้ว..555 (เดี๋ยวไปลองหักคอเจ๊เจ้าของ R Style สาขา mbk ดูดีกว่า..เผื่อฟรุค) ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ
คน ค้น คน โอ้..เจอแนวร่วม(อยากจะร่วมหรือป่าวหว่า) ผมเองก็ทำไฟเบอร์เองอยู่เหมือนกานครับ แต่เลิกไปพักนึงแล้ว ตอนนี้ใกล้เรียนจบละ กะจากลับมาทำดูอีก เห็นร้านทำกันเยอะจัง สู้เค้าไม่ได้ถ้าจะทำขาย แต่ทำใช้เองแบ่งปันทำให้เพื่อนบ้างก็พอไปได้ ตอนนี้อยากทำ Wide Body จังคับ คงขายดีสู้ร้านทำไฟเบอร์ได้ เพราะเดี๋ยวนี้ Body Part เกลื่อนครับ ร้านคงเอาไปกินหมด รถที่บ้านไม่กล้าทำครับ (กลัวแม่ว่า) จะรถเพื่อน มันก็ต้องใช้ประจำ ก็คงต้องรอไปก่อน แต่ตอนนี้กำลังฝึกทำเคฟล่าครับ ได้อ่านบทความของคุณzoomie แล้วรู้สึกเสี้ยนขึ้นมาทันที ทำเองใช้เองหนุกดี....อิอิ
แวะเข้ามาพอดี กรรไกรตัดผ้าคาร์บอนไฟเบอร์และคาร์บอนเคฟล่าร์โดยเฉพาะผมก็เคยเห็น ราคาก็หลายบาทเหมือนกัน แต่จำราคาไม่ได้ ถ้าจะทำเป็นจริงเป็นจังมีไว้ก็ดีครับ เพราะเห็นที่ร้านที่ขายเค้าใช้ท่าทางคมมาก แม่ผมเมื่อก่อนเป็นช่างตัดเย็บเสื้อผ้า กรรไกรนี่ถือเป็นอาวุธสำคัญมาก ๆ และแม่ผมก็รักและหวงมาก ๆ ดังนั้นมีไว้ก็ดีครับ แต่ถ้าไม่ทำบ่อยนัก เช่นผม ผมก็ใช้กรรไกรตัดผ้าของแม่ครับ เพราะคมมาก ก็หากรรไกรที่น้ำหนักดี ๆ คม ๆ และแข็งแรงใช้ก็ได้ครับ
คุณ zoomie ครับผมมีแก๊บหลังของ 3 ดอทรงสปูนอยู่ แต่มันยังไม่เรียบ เด๋วเอาไปโป๊วเนียนๆก่อน แล้วจะให้หุ้มให้ ไม่ทราบว่ารับหรือป่าวคับ หุ้มต่อจากงานที่โป้วมาได้เลยใช่ไหมคับ คิดราคาประมานเท่าไหร่คับ เพราะดูจากต้นทุนแล้วผมคิดว่าหาคนที่ทำเป็นทำดีกว่ากลัวเสีย อิอิ
เหอ ๆ ๆ ผมไม่ใช่มืออาชีพครับ ทำชิ้นนึงเป็นอาทิตย์ ๆ กว่าจะเสร็จ เพราะผมเองก็ทำงานเหมือนกัน ที่ทำก็เอาเวลาว่าง ๆ มาทำ เวลาผมทำใช้เวลาเยอะตอนขัดแต่งให้เรียบและลบรอยฟองอากาศเล็ก ๆ งานไม่สวยเนียนเป๊ะ ๆ เหมือนมืออาชีพหรอกครับ ให้ใครที่ดูเป็นดูใกล้ ๆ เค้าก็ดูออก แนะนำ create fiber ครับ คุยกับพี่เค้าหลายครั้ง เอารถไปทำก็หลายหน ได้วิชาจากพี่เค้ามาก็เยอะ
แว๊บเข้ามาเห็นพอดีอีกละ ผมเพิ่งซื้อผ้าคาร์บอนฯ ลาย 3-1 มาเมื่อ 2-3 อาทิตย์ก่อน หน้ากว้าง 1.35 ม. ยาว 1 ม. ราคาประมาณ 2,800 ครับ ราคาขึ้นมามาก ๆ ๆ ทีเดียว เห็นว่าช่วงนี้ผ้าขาดตลาดมาก อเมริกากว้านซื้อไปทำอาวุธเกลี้ยง ในโลกนี้ประเทศที่ผลิตคาร์บอนไฟเบอร์ได้มีอเมริกากับฝรั่งเศาเท่านั้น ส่วนพวกจีน ฯ เค้าเอาสารฯ มาทอเป็นผ้าอีกที ........รบกันเข้าปาย........
แล้วฝากะโปงนี่ใช้อะไรทำแบบเหรอคับ แล้วใช้ผ้าปะมานกี่เมตร พี่เก่งจิงๆๆๆๆเลยคับ ผมว่าจะลองทำกับพี่ชายดู อยากได้มานานแล้วไอ้กะโปรงเคบล่าเนี่ย ขอบคุณคับ
ลองหา ๆ ดูลิงค์บน ๆ ของกระทู้นี้นะครับ ผมมีลงไว้ ใช้ผ้าน่าจะประมาณเมตรครึ่งครับ แต่ขึ้นกับว่าคุณจะหุ้มทับกระโปรงเดิมหรือเปล่า ถ้าใช่ก็ไม่แนะนำ เพราะมันจะไม่ติดกันนัก นาน ๆ ไปจะร่อนทีละนิด ๆ เพราะฝากระโปรงเดิมมันเป็นโลหะ แต่ถ้าไม่ใช่คือทำฝากระโปรงใหม่เลยอันนี้ส่วนใหญ่ร้านเค้าจะใช้ไฟเบอร์กลาสทำแล้วหุ้มผ้าฯ แต่การทำจะมีการทำโมลด์ ซึ่งมันมีหลายแบบ เช่น แบบตัวผู้ ตัวเมีย ฯ ผมจำหน้าตาและวิธีได้ แต่บอกไม่ถูกอะ ทำฝาไม่ค่อยยาก แต่ไอ้ที่ยากคือกระดูกงูหรือโครงใต้ฝากระโปรงที่ดามกันบิดตัว คุณอาจเคยเห็นบางยี่ห้อที่แพง ๆ อันละเกือบแสนหรือแสนกว่าบาท อันนั้นเค้าใช้ผ้าคาร์บอนฯ ทำทั้งชิ้นเลย ไม่ใช้ไฟเบอร์กลาสเลย แข็งกว่า โปร่งกว่า แพงกว่า โดนชนทีก็น้ำตาไหลมากกว่า
ขัดครับ ต้องขัดลูกเดียว โดยหาแท่งไม้หนาสักครึ่งนิ้ว กว้างสักสามนิ้ว ความยาวเอาแบบพอจับถนัดมือ แล้วเอากระดาษทราบห่อแล้วก็ขัดครับจะได้เรียบ ๆ โดยใช้กระดาษทราบหยาบไล่ไปจนเบอร์ละเอียดขึ้น ๆ แต่ผมชอบใช้กล่องสบู่ที่บ้านครับ เพราะมันเรียบ ๆ และจับถนัดมือดี หรือจะใช้เครื่องขัดก็ได้ แต่ถ้าไม่มีก็ใช้มือขัดครับ เหนื่อยหน่อย สาเหตุที่มันไม่เรียบ เพราะใช้เทหรือใช้แปรงทาครับ ควรใช้แปรงทานะครับ หรือตอนผสมน้ำยามันข้นไปรึเปล่าครับ เลยจับตัวเร็ว ลองผสมน้ำยาชื่อ โมโนสไตรีน ดูนะครับ โดยผสมกับเรซิ่นเข้าไป ซึ่งโมโนฯ จะช่วยให้มันไม่ข้นมากและช่วยให้ฟองอากาศลอยขึ้นมาและแตกเร็ว ทำให้ฟองอากาศน้อยจนถึงไม่มี แปรงที่ใช้ก็ควรนิ่ม ๆ สะอาด ไม่มีฝุ่นเกาะ เวลาก็ค่อย ๆ ปาดไปทีเดียว อย่าทากลับไปกลับมา มันอาจทำให้เกิดฟองอากาศได้ และถ้าผสมน้ำยาข้นไป มันก็อาจจับตัวเร็ว โชคดีครับ ขอให้สนุก ๆ ช่วงนี้ผมเองงานยุ่ง ๆ ไม่มีเวลาทำเล่นมั่งเลย
อืมมม จะเอาเข้ามุมนี่ทำหยั่งงี้นะครับ 1. ทาเรซิ่นที่ชิ้นงานก่อนบาง ๆ ทาให้ทั่ว ๆ อย่าให้เยิ้ม 2. รอสักพักหมั่นเอานิ้วแตะ ๆ เบา ๆ ดู ถ้ามันลื่น ๆ เยิ้ม ๆ ติดนิ้วอยู่ก็รอต่อไป แต่ถ้ามันเริ่มเหนียว ๆ คล้ายกาวยางที่เพิ่งทาแต่ยังไม่แห้ง และไม่ถึงขั้น finger print มากนักเพราะอาจแห้งไป 3. จากนั้นก็ให้ค่อย ๆ เอาผ้าปูครับ ค่อย ๆ แปะ เอาไม้หรืออะไรก็ได้ยาว ๆ แบน ๆ เขี่ย ๆ กด ๆ ให้เข้ามุม 4. รอสักพักใหญ่ ๆ จนมันแห้งและเกาะติดดี แล้วค่อยทาเรซิ่นทับผ้าไปเรื่อย ๆ จนถูกใจ จริง ๆ มันเหมือนกับเราทากาวที่ผิวงาน แล้วรอให้มันทำปฏิกิริยากับอากาศสักแป๊บ แล้วก็เอากระดาษมาแปะ ๆ อะครับ เหมือนกันเลย เพียงแต่ระยะเวลาต้องรอเท่าไหร่นี่ก็ต้องทำบ่อย ๆ หรือใช้นิ้วแตะ ๆ ทดสอบดู ส่วนแปรงที่ล้างไม่ออกจนมันแข็งนี่โยนทิ้งดีกว่าครับ ได้ไม่คุ้มเสีย เวลาซื้อแปรงก็ไม่ต้องซื้อแพงมาก เผื่อพัง ถ้ากลัวแปรงเสียก็เตรียมอะซิโทนให้พอ เทใส่ขันไว้ 2 ขัน ใช้แปรงเสร็จก็ล้างและแช่ในขันแรกสักแป๊บ แล้วเอามาแช่ในขันที่สองต่อแล้วล้างให้สะอาดหมดจรด อาจใช้วิธีเอาแปรงมาสะบัด ๆ (อย่าให้ไปโดนอะไรเข้า) หรือเอามากด ๆ กับกระดาษหนังสือพิมพ์เพื่อรีดน้ำให้สะอาดแล้วเอาลงแช่ใหม่จนสะอาด คราบบาง ๆ อาจเป็นเหงื่อได้ครับ ผมก็เคยเจอ หรือน้ำมัน เช่น บางครั้งผมก็นั่งทำให้ห้องครัว พอทำเสร็จวางทิ้งไว้รอให้แห้ง แม่ผมก็เข้าครัวทำกับข้าว อาจมีสะเก็ดน้ำมันกระเด็นไปโดนบ้างก็ได้ หรืออาจผสมเรซิ่นยังไม่ผสมเข้ากันดีก็ได้
หลุมลึก 1 ซ.ม. แนะนำให้ทาเรซิ่นในหลุมบาง ๆ แล้วปล่อยให้เหนียว ๆ เหมือนความคิดเห็นก่อนหน้าน่ะครับ อย่าเพิ่งทาส่วนอื่นที่ไม่ใช่หลุม พอมันเหนียว ๆ ถึงขั้น finger print แล้วก็เอาผ้ามาค่อย ๆ ปู โดยจัดผ้าลงหลุม และจัดลายในหลุมให้สวยงาม ต้องระวังเดี๋ยวเบี้ยวเพราะถ้าเบี้ยวเวลาดึงผ้าออกมาแล้วจัดวางแล้วปูใหม่ใยผ้าจะเริ่มจับตัวและอาจไม่สวยได้ ก่อนปูลงหลุมให้ใช้สมาธิดี ๆ เล็ง ๆ ดี คิดประมาณว่าเรซิ่นที่ทาไปคือกาวตราช้างแปะแล้วดึงไม่ได้ หรือถ้าปูพลาดจริง ๆ ก็ ตอนปูให้ปูเบา ๆ จัดลายผ้าให้เข้าที่ก่อน อย่าเพิ่งกดผ้า เพราะเดี๋ยวเบี้ยวแล้วดึงยาก ลายผ้าจะเสีย พอปูผ้าและจัดลงหลุมสวยงามแล้วก็ค่อย ๆ จัดผ้าปูในส่วนอื่น ๆ แล้วค่อยทาเรซิ่นบาง ๆ แต่ถ้าผ้ามันเบี้ยว ๆ คด ๆ งอ ๆ พยายามให้มีขอบผ้าเลยชิ้นงานมาเยอะ ๆ หน่อย สัก 2 นิ้ว แล้วพยายามจัดลายให้ได้ แล้วเอาเทปกาวแปะขอบผ้าแล้วดึงผ้าไปแปะหลังชิ้นงานยึดให้แน่น เวลาทาเรซิ่นก็อย่าให้มาไหลไปโดนด้านหลังชิ้นงาน พอชิ้นงานใกล้แห้งสนิทแล้วค่อยเอามีดคัดเตอร์มาตัดแซะ ๆ พอชิ้นงานแห้งแล้วค่อยขัดแต่งครับ โชคดีครับ
ลืม เรื่องเครื่องขัด เครื่องขัดที่ผมว่าหลายถึงเครื่องขัดกระดาษทรายครับ ช่วยผ่อนแรงได้เยอะ ซึ่งไม่เหมือนเครื่องขัดสีรถครับ ควรขัดเองให้เรียบสวยงามก่อน พอจะพ่นแล็กเกอร์ก็เอาไปให้อู่สีพ่นก็ได้ครับ จะเนียนกว่าและแข็งกว่า และทนความร้อนกว่าแยะเลยครับ
เครื่องขัดดูที่โฮมโปรสิครับ ไม่ถึงสี่พันนะครับ สองพันกว่า ๆ ก็ได้แล้ว เพราะขัดเรซิ่นไม่ต้องใช้เครื่องขัดแบบที่มีรอบสูงมาก เครื่องขัดแบบที่ร้านแนะนำ หมายถึงถ้าผิวชิ้นงานไม่เรียบ เป็นคลื่นเล็กน้อย ไขปลาวาฬก็เหมือนกับ Wax น่ะครับ เคยเห็นอู่สีเค้าใช้เหมือนกัน แต่เห็นไม่ชัด ไว้กะรอจังหวะจะแอบถามเด็กที่อู่นั้นดู กระดาษทรายต้องใช้กระดาษทรายน้ำนะครับ เวลาขัดต้องค่อย ๆ ขัด (พี่ผมสอนมา เขาเก่งเรื่องงานช่าง) แต่ผมก็เป็นแบบคุณล่ะครับ ผมตะบี้ตะบันขัดจนมือพอง มือเปื่อย
จุดเล็ก ๆ สีขาว คือฟองอากาศที่มีเศษฝุ่นจากที่ขัดเข้าไปเกาะ ให้นึกถึงโพรงเล็ก ๆ อะครับ พอมันเป็นโพรงเล็ก ๆ มันก็อาจมีเศษฝุ่นเข้าไปฝังตัวได้ แล้วพอขัดมันก็จะมีเศษฝุ่นขาว ๆ ทำให้มันเข้าไปฝังข้างในโพรงอากาศเล็ก ๆ ได้ ผมมักใช้เข็มเล็ก ๆ จิ้ม ๆ ๆ ๆ ๆ ให้โพรงแตก แล้วเอาน้ำฉีดแรง ๆ ให้มันหลุด หรือไม่ก็เอาเข็มแซะ ๆ ออก แต่จะทำให้ชิ้นงานมีจุดฟองอากาศที่แตกแล้วทำให้ผิวไม่เรียบ ผมก็จะเอาเข็มจุ่มเรซิ่นแล้วหยด ๆ ปิดตามรูต่าง ๆ พอแห้งแล้วก็ค่อย ๆ ไล่ขัดเบา ๆ สำหรับเรซิ่นจริง ๆ ก็ต้องดูว่าคุณใช้เรซิ่นแบบ โพลีเอสเตอร์เรซิ่น หรือ อีพ็อกซี่เรซิ่น ถ้าแบบแรกก็ต้องรอให้งานแห้งก่อนแล้วค่อยขัดแล้วค่อยทาเรซิ่นทับ ถ้าแบบที่สองต้องทำรวดเดียวจบคือ พอทาอีพ็อกซี่เรซิ่นชั้นแรกแล้วทิ้งไว้จน finger print แล้วทาชั้นที่สองเลย ไม่ต้องรอให้มันแห้ง เพราะต้องให้มันจับตัวกันในแต่ละชั้น พอชั้นที่สองใกล้แห้งก็ทาชั้นที่สาม ทำอย่างนี้ไปจนพอใจ แล้วขัดตอนจบทีเดียว ดังนั้นใตแต่ละชั้นต้องทาอย่างระวัง แต่ข้อดีของอีพ็อกซี่เรซิ่นคือมันแข็งตัวช้า ทำให้ปรับแก้หลังทาไปแล้วได้บ้าง ซื้อเครื่องขัดแล้วรู้สึกดีขึ้นเยอะเลยใช่มั้ยครับ ตอนนั้นพอพี่ชายผมให้มาปุ๊บมันเหมือนขึ้นสวรรค์เลย คิดไปว่าเราบ้านั่งขัดด้วยมือมาได้ไงวะตั้งนาน ใช้เครื่องขัดขัดแป๊บเดียวเรียบร้อย สะใจจริง ๆ
ช่วงนี้มีคนสนใจ เลยเข้ามาดูบ่อยหน่อย สำหรับคุณ Badtzila นะครับ ในความเป็นจริงจะใช้เรซิ่นทาทับฟิล์มก็ได้อะครับ แต่ต้องผสมให้มันแข็งช้า ๆ เพราะเวลาเรซิ่นมันกำลังแข็ง มันจะคายความร้อนออกมา ดังนั้นอาจทำให้ฟิล์มละลายหรือหดก็ได้ แต่คุณสมบัติของฟิล์มอย่างละเอียดนี่ผมก็ไม่รู้มากนักนะครับ แต่ถ้าอยากให้มันเงา ๆ ใส ๆ หนา ๆ ผมว่าเอาชิ้นงานไปให้อู่สีพ่นแล็กเกอร์ให้ดีกว่าครับ ถ้าคุณทำไม่บ่อย ค่าพ่นแล็กเกอร์ไม่กี่ร้อยบาทเอง ราคาก็ขึ้นกับชิ้นงานว่าเล็กใหญ่แค่ไหน เพราะแล็กเกอร์ตามอู่สีมันแข็งและทนความร้อนกว่าแล็กเกอร์กระป๋องเยอะ ส่วนถ้าใช้เรซิ่นผมว่ามันยุ่งยากไป คุณ 171 กล้วยๆ มาแล้วครับ ครับที่ว่าจุดขาว ๆ เกิดขึ้นก็เพราะเวลาขัดมันมีการสั่นสะเทือน และ เกิดฝุ่นหรือผงเรซิ่นที่ขัดออก มันเล็กมากทำให้ไปอุดในรูอากาศเล็ก ๆ ได้ และบางทีอาจเห็นว่ามันจมอยู่ในเนื้องาน ก็เพราะมันมีการสั่นสะเทือน และมีรอยเล็ก ๆ มาก ๆ เกิดขึ้น มองอาจไม่เห็น เวลาคนเรซิ่นให้ผสมกัน ใช้พวกไม้ไอติม หรือตะเกียบดีกว่าครับ ถ้าเอาแปรงคนนี่จะยิ่งเกิดฟองง่ายเพราะแปรงมันเป็นขน ๆ ถ้าคนไม่ดีมันจะเอาอากาศลงไปด้วย เวลาคนต้องใช้เวลาคนประมาณ 1 นาที หรือผสมโมโนสไตรีนช่วยก็ได้ครับ พี่ที่อู่ที่ผมเคยเอารถไปทำมาเค้าก็แนะนำ
อีพ็อกซี่มันต้องผสมกันคล้ายผสมเรซิ่น แต่น้ำยาไม่เหมือนกัน แต่พอผสมกันแล้วก็เหลว ๆ คล้ายเรซิ่น ไม่ข้นนัก เวลาทาก็ทาปกติอะครับ ค่อย ๆ ทาไปบนผิวชิ้นงาน แล้วก็รอเลยครับ อย่าไปป้าย ๆ ๆ ๆ ซ้ำ อย่างแบบผม ประมาณว่าน้ำยาเหลือ ผสมเผื่อเยอะไปหน่อย ก็ค่อย ๆ ป้ายซ้ำมันอยู่นั่น เสียดายของ ปกติเวลาทาต้องทาบาง ๆ เหมือนทาสีครับ อย่าทาให้มันหนามาก ทาบาง ๆ แล้วรอให้ใกล้แห้งแล้วค่อยทาซ้ำ ถ้าเป็นรอยแปรงเลย อืมมม... ขอเดาว่าผสมหนาหรือข้นไปรึเปล่าครับ ตรงรูสวิตช์ หรือบริเวณที่ไม่อยากให้ติดเรซิ่น บางทีผมก็ทาน้ำยา PVA กันเอาไว้ พอชิ้นงานแห้งก็เอาคัตเตอร์แซะแล้วลอกออก หรือไม่ก็เอาดินน้ำมันอุด ๆ ให้แน่น พอชิ้นงานแห้งก็แคะ ๆ ออกมา บางทีก็ใช้สก็อตช์เทปแปะบริเวณที่ไม่ต้องการให้ติดเรซิ่น พอใกล้ ๆ แห้งก็รีบแกะเทปออกก่อน (ถ้าแห้งแล้วแกะยาก หรืออาจแกะไม่ได้) แล้วปรับแต่งผิวขอบ ๆ ให้เรียบ ๆ แล้วรอให้แห้ง เอารูปมาให้ดูบ้างนะครับ
อะ เพิ่งดูหนังจบ เข้ามาเห็นพอดี ไม่ได้รับทำครับ ปกติผมมีงานอย่างอื่นทำอยู่แล้วครับ ทำพวกนี้เป็นงานอดิเรกครับ ผมทำชิ้นนึงกว่าจะเสร็จเป็นชาติเลยครับ อาศัยว่าง ๆ ค่อยทำทีละนิด ๆ ลองดูครับ ทำบ่อย ๆ เดี๋ยวก็คล่อง เริ่มจากแบบง่าย ๆ ก่อน
เข้าไปดูมาแล้วครับคุณ "171 กล้วยๆ มาแล้วครับ" สวยเชียวครับ ทำครั้งแรกได้ขนาดนี้แจ๋วจริง ๆ ผมยังไม่กล้าทำชิ้นเล็ก ๆ โค้ง ๆ มีช่อง ๆ แบบนั้นเลยครับ และฝีมือผมการใช้คัตเตอร์และกรรไกรไม่ได้เรื่องเลย ชวนเพื่อน ๆ ทำกันหลาย ๆ คนไปเลยครับ ซื้อผ้ามาแพง ๆ จะได้ใช้ให้คุ้ม พวกเศษที่เหลือนิดเหลือหน่อยแต่สภาพยังดี ๆ อยู่ก็เก็บ ๆ ไว้ทำพวงกุญแจกก็ได้นะครับ หรือพวกที่รองแก้ว นาฬิกา ฯลฯ "ความรู้ส่วนหนึ่งก็หาได้จากประสบการณ์" - พบเจออะไรแปลก ๆ ใหม่ ๆ ก็มาเล่าสู่กันฟังมั่งนะครับ
กว่าจะได้เล่นเอาเหนื่อยครับ คาดว่าทั้งหมดน่าจะเสร็จในเสาร์อาทิตย์นี้ เหลือแต่พ่นแลกเกอร์ วันก่อนลองพ่นดู 1 เงา อีกอันดันด้านไม่รู้ทำไม มีเทคนิคการพ่นให้เงาๆ สวยๆ หรือเปล่าครับ ใช้ของอะไรดี นี่มีหนูจะมาให้ลองฝีมือแล้ว แต่เป็นเคฟล่าร์แดง ไม่รู้เป็นไง เด๊ยวเสร็จแล้วถ่ายรูปมาให้ดูอีก