อิอิ อยู่เฉยๆก็แรง ความแรงขึ้นอยู่ที่ความพอใจครับ ถ้ารู้สึกได้ว่าแรงแล้วก็จงพอ ถ้าไม่พอใจ มันก็จะเกิดความพินาศตาม มานะครับ ผมว่าช่าวเดี่ยวก็มีความรุ้ความสามารถพอที่ตอบสนองความพอใจได้ แต่ตัวคุณเองมีความรู้ความเข้าใจตามที่ช่างจะตอบสนองมากแค่ไหน ถ้าตัวคุณกับตัวช่าง มีความคิดเห็นตรงกัน ผลที่ออกมาก็ นะจะพอใจนะครับ ปล.ทำให้แรง กับ ทำจะให้แรง มานไม่เหมือนกันนะครับ ( เหมือนคิดได้ )
ผมน้องใหม่ อยากทำตามเสตปพี่ แต่ตั้งบูส 1-1.1บาร์ ตัดรอบ8000 เครื่องพังมั้ย วิ่งได้ฟีลลิ่งต่างกันมากมั้ย แล้วเวลาควอเตอร์ไมล์จะต่างกันมากมั้ย ---------- เพิ่มกระทู้เมื่อ 21:28:20 ---------- กระทู้ก่อนหน้านี้ เมื่อ 21:27:31 ---------- ผมน้องใหม่ อยากทำตามเสตปพี่ แต่ตั้งบูส 1-1.1บาร์ ตัดรอบ8000 เครื่องพังมั้ย วิ่งได้ฟีลลิ่งต่างกันมากมั้ย แล้วเวลาควอเตอร์ไมล์จะต่างกันมากมั้ย ขอบคุณคับ
ผมเพิ่งได้มาอ่านกระทู้นี้ แล้วรถผมตอนนี้โบเป็น K26 ป้ายแดง รถผมจะกระจายบ่อย ๆ ใหมเนี๊ย สองวันก่อนมันเขกมาก เมื่อวานไปอู่พี่ญา สรุปประเก็นข้าม เลยรื้อไปแล้ว ถ้าโบใหญ่จะทำให้พังบ่อย มีวิธีที่ให้แรงพอไม่อายใครในสนาม แต่ไม่พังใหมครับ อยากค่อยเป็นค่อยไปและไม่เปลืองตังค์ครับ
แรง กับ พัง เป็นของคู่กันครับประทีป ไม่มีทางเป็นอย่างอื่น รถแรงต้องจอดอู่ครับ เอาแรงแค่พอหอมปากหอมคอดีกว่าครับ แบบที่ ฮก ว่าไว้ข้างบน นั้นถูกต้องที่สุดครับ (แต่สุดท้ายก็พังครับ แต่นานหน่อยเท่านั้นเอง ต้องยอมรับครับว่าPerformanceของเครื่องกับรถ อีโว ถูกออกแบบมาให้ใช้งานแบบนี้ ยังงัยก็ต้องสึกหร่อสูง และมีอายุการใช้งานสั้นครับ) โบใหญ่แล้ว พัง สาเหตุ จริงๆ ไม่ได้พังเพราะเทอร์โบครับประทีป แต่พังเพราะตัววัสดุในห้องเผาไหม้ของเครื่องรับกำลังอัด ตอนบูสท์สูงสุด ไม่ได้ต่างหาก เช่นกำลังอัด ในสภาวะปกติของเครื่องอยู่ที่ 8.9 ต่อ 1 เมื่อเราบูสท์สูงสุด มันมีสูตรคำนวนณหากำลังอัดตอนบูสท์สูงสุดครับ แต่ยาว (ถ้าจะทำจริงๆค่อยนั่งหยอดน้ำคำนวณ) เอาสูตรคร่าว ของผมไปใช้ก่อนครับ กำลังอัดตอนบูสท์สูงสุด อนุมาณ = กำลังอัดปกติ * 3 เท่า * อัตราบูสท์(ความจริงต้องมีขนาดเทอร์โบมาเกี่ยวข้องครับ เพราะบูสท์ 1บาร์โบเล็ก กับ โบใหญ่ การอัดอากาศแตกต่างกันมากครับ) จะเห็นคร่าวๆได้ว่า ถ้าบูสท์ซัก 1.5 บาร์ กำลังอัดสูงสุดจะไปอยู่ที่ 40 ต่อ 1 / เห็นมั้ยครับว่าโอกาสบรรลัยมีสูงซะแล้ว ยิ่งแช่นนาน บูสท์หนักยิ่งบรรลัย ถ้าK26 อาจะเลย 40ต่อ1 ไปอีกครับ ถ้าใช้เทอร์โบใหญ่ แล้วจะไม่พัง มีวิธีเดียวเลยครับ คือ ไม่บูสท์หนัก เพราะ บูสท์ 1.2 บาร์ ของเทอร์โบใหญ่ กับ โบเล็ก ความหนักหน่วงในการทำลมมันคนละเรื่องเลยครับ ที่โบ05 บูสท์ 1.2 บาร์ไม่พัง เพราะอัตราการทำลมมันไม่หนักหน่วงมาก ถ้าเทียบกับโบใหญ่บูสท์ 1.2 เท่ากัน ถ้าเปลี่ยนใส่โบใหญ่ บูสท์หนัก = แรง - พัง - จอดอู่ ครับ ต้องแลกกันครับ ยกเว้นกัดฟันใช้เทอร์โบที่พอหอมปากหอมคอ เช่น GT3037ProS เทอร์โบเทพๆ พวกนี้ไม่ใหญ่มาก แต่ดุเดือดพอตัวครับ สามารถจัดของUpgrade ตามลงไปเพื่อเพิ่มความแข็งแรงของห้องเผาไหม้ได้ครับ ปั่นม้าซัก 400ม้า บูสท์ 1.5 บาร์ แต่ ลูก+ก้าน+ข้อ+Accessorie ต้องประกอบของซิ่งไปครบๆครับ อันนี้ทำให้หล่อ และ ไม่พัง ได้ คือนานและยากหน่อยกว่าจะพังนั้นเองครับ แต่ถ้าขับไม่เป็นก็พังครับ
พังครับ เครื่องอีโวเดิม เทอร์โบTD05 ลากไป 8,000 รอบไม่มีประโยชน์ครับ เวลาช้าลงกว่าเดิมบานตะเกียงครับ เพราะเทอร์โบ TD05 มันหมดตั้งแต่ 6500 แล้วครับ จะลากไปทำไม เครื่องมีแต่รอบ ไม่มีกำลัง บูสท์ ไม่เกิน บาร์สอง เปลี่ยนเกียร์ 6500 พอครับ แล้วไปฝึกออกตัวและต่อเกียร์ให้แม่น ครับ เครื่องที่จะเปลี่ยนเกียร์ที่ 8 พันรอบ ไม่พังได้ ต้องทำ Hardware ของเครื่องตามครับ 1. ตัดบาลานชารฟ์ทิ้ง 2. ข้อเหวี่ยงซิ่ง น้ำหนักเบา และ บาลานซ์ข้อเหวี่ยงใหม่ 3. ชาร์ฟอก+ก้านซิ่ง 4. ลูก+ก้านสูบ+สลักก้านสูบ ซิ่ง น้ำหนักเบา 5. ระบบน้ำมันเครื่องต้องดี และไหลเวียนแรงดันได้ทันในรอบสูง 6. ลดน้ำหนักพูเล่ย์ สายพายข้างเครื่องทุกตัว 7. สายพานทามมิ่งรับภาระได้ 8. แรงดันน้ำมันต้องเพียงพอ 10. ถ้าจะใส่แคม ก็ต้องจัดการให้ แคมดีดคืน ให้ทัน ด้วยองค์ประกอบต่างๆด้วยครับ 11. สุดท้าย เกียร์ ต้องเรียงมาใหม่ครับ ความจริง สรุปง่ายๆ คือ ต้องลดภาระของเครื่องลงทั้งหมด รวมถึงการถอด ปั๊มเพาว์เวอร์ และคอมแอร์ทิ้งครับ
ถามหน่อยคับ... ขอถามคุณโอ๋หน่อยคับ...ถ้าเป็น 4g93โบหล่ะคับ(e-car)...จะเปลี่ยนโบเป็น05อีโว1-3อ่ะครับ(แล้วกำลังเครื่องจะหมดที่รอบประมาณเท่าไหร่คับ) บูสก์ไม่เกิน1บาร์กับเครื่องเดิมๆต้องทำไรเพิ่มรึเปล่าคับแบบไม่พัง ผมใช้งานความเร็วสูงๆบ่อยอ่ะครับแถว180 อ่ะคับช่วยแนะนำด้วยครับ ขอบคุณครับ(แล้วถ้าจะใช้อินเตอร์เดิมอันเล็กๆที่อยู่มุมกันชน พอไหวไหมครับ)
93T + TD05 ให้เปลี่ยนเกียร์ 6500 ครับ ต้องเปลี่ยนอินเตอร์ใหญ่ซักขนาดของอีโว3ครับ ไม่งั้นรอรอบมากครับ และระบายลมร้อนไม่ทันอีก ที่แน่นอนเลย คือ ต้องเปลี่ยนกล่องกับปั๊มติ๊ก ตามกันไป ครับ ไม่งั้นก็พัง ถ้าจะวิ่งความเร็วสูงแช่ยาวๆ แนะนำว่าใช้ TD04 ลูกเล็กเหมือนเดิมดีกว่าครับ ไม่พังครับ จุดอ่อนของ 93T คือลูกสูบ และ ก้านสูบที่เล็กมาก ไม่สามารถรับความร้อนสูงได้เลย ถ้าจะแช่ยาวใช้ TD04 คงจะทนกว่าครับ แล้วเอาเงินไปทำ ช่วงล่าง+ยาง+เบรค มารับความเร็วสูงครับ ปลอดภัยกว่าครับ
งั้นตาผมถามบ้างครับ ถ้าใส้ใน ของเครื่องอีโว 3 เป็น อีโว7 พวกลูก ก้าน ข้อ ชาฟ ปะเก็นเหล็ก ท่ออินเตอร์cusco จะบูตซัก 1.2 -1.4 และมีโครงการจะใส่โบ TD05HRA-16G6-10.5T จะต้องทำอะไรเพิ่มเติมบ้างครับ เพื่อเป็นแนวทางในการทำรถต่อไป ขอบคุณล่วงหน้าครับ ช่วงนี้อยู่ ตจว. ครับ ---------- เพิ่มกระทู้เมื่อ 21:46:00 ---------- กระทู้ก่อนหน้านี้ เมื่อ 21:45:41 ---------- งั้นตาผมถามบ้างครับ ถ้าใส้ใน ของเครื่องอีโว 3 เป็น อีโว7 พวกลูก ก้าน ข้อ ชาฟ ปะเก็นเหล็ก ท่ออินเตอร์cusco จะบูตซัก 1.2 -1.4 และมีโครงการจะใส่โบ TD05HRA-16G6-10.5T จะต้องทำอะไรเพิ่มเติมบ้างครับ เพื่อเป็นแนวทางในการทำรถต่อไป ขอบคุณล่วงหน้าครับ ช่วงนี้อยู่ ตจว. ครับ
สมันก่อนใช้ 93T โบ 05H กับ inter EVO IX มันมาก ไม่เปลื้องเงินเลย step สุดท้าย 2 ปีไม่เคยพัง ใช้จูน emanage เอา เรื่องเอาเงินมาทำช่วงล่างกับยาง ถูกต้องมาก ๆ เลยครับ
step ผมเรยยยยยย อิอิ คงไม่ต้องบอกว่า ต้องมีเฮดเดอร์ น่ะครับ หะหะ อ่า ของผมที่ทำเพิ่มอีก ตาม stp นี้ก็.... กล่องอีแมเนจ +หัวฉีดโว 7 + regulate + pump walbro + ทำฝาขัดลื่นนิดหน่อย ครับ นอกนั้นก็ของเล่นแล้วละ
เรื่อง 93T ผมต้องยกให้คนนี้เลยครับ จัดเป็น1800 ที่เร็วมากสมัยนั้น 13.0 ได้แล้วใช่มั้ยประทีป ขนาดแค่ขับสองเองครับ ผมดีสุดแค่ 13.7 เอง สู้ไม่ได้เลย
555... ก่อนอื่น อั๋น เตรียมเอาของมีค่าออกจากรถไว้ที่บ้านก่อนครับ เพราะกำลังจะเริ่มเป็นรถแรงจอดอู่แล้ว 555... ตามที่ต๊อกว่าครับ 1. ลูก 7 ใส่ฝาเดิม3 กำลังอัดอยู่ราวๆ 9.3 ต่อ 1 อั๋น ต้องเพิ่มความหนาและวัสดุปะเก็นฝาก่อน ถ้า จะบูสท์น้อย ไม่เกิน 1.2 เลือกปะเก็นเหล็กดีๆ หนา 1.2 ครับ กำลังอยู่ราวๆ 8.9-9 ต่อ 1 ต้นแรงดีครับ ส่วนถ้าจะบูสท์เกิน 1.2 ให้เลือกปะเก็นเหล็กดีๆ หนา 1.3-1.4 ครับ กำลังอัดอยู่ราวๆ 8.7-8.8 ต่อ 1 2. จัดการเพิ่ม น้ำมันให้เพียงพอ โดยเปลี่ยนหัวฉีด อีโว 7 560ซีซี และปั๊มติ๊กมากกว่า 250ลิตร/ชม. และ เรคกูเลเตอร์ดีๆซักตัวครับ(ยิ่งตัวใหญ่ยิ่งดีครับ) ตรวจสอบกรองเบนซินครับ / ถ้าจะให้ดีซื้อหัวฉีดมือสองมาใหม่ ควรจะต้องส่งไปทดสอบ-ล้าง-เปลี่ยนกรอง-ปรับสภาพหัวเข็ม ของหัวฉีด ที่ไทยนิยมดีเซล หลักสี่ครับก่อนครับ ระวังตกม้าตายครับ ดูผลทดสอบด้วยว่าละอองน้ำมันแต่ละจังหวะและรูปแบบการฉีด ดีและสม่ำเสมอหรือไม่ รวมถึงปริมาตรที่หัวฉีดที่ซื้อมาทำได้ว่าอยู่ในเกณฑ์ปกติด้วยหรือไม่ครับ ทำรถแล้วชอบขี้เหนียวมาตกม้าตาย ลูกแตกกันเพราะเรื่องจุกจิกพวกนี้ครับ 3. จัดการเดินรีเล่ย์ และ สายไฟปั๊มติ๊กใหม่ ทดสอบติดเกจ์วัดแรงดันเบนซินต้องได้มากกว่า 4.5บาร์ที่ 5พันรอบขึ้นไป ถ้าถอยต้อง เดินท่อไหลกลับใหม่ ถ้ายังถอดอีกต้องเปลี่ยนรางหัวฉีดโตขึ้นครับ 4. จัดการเรื่องน้ำมัน แล้วอย่าลืมเรื่องไฟครับ ตรวจสอบสภาพสายหัวเทียน และ หัวเทียน รถใช้งานทุกวันแนะนำ หัวเทียน NGK IRIDIUM BPR8 ครับ 5.ตรวจสอบสภาพปั๊มน้ำมันเครื่อง และ แรงดันน้ำมันครับ 6. จากนั้น จัดการหาวิธี ปรับแต่งโปรแกรมของกล่องใหม่ เพื่อปรับน้ำมัน กับ องศาไฟจุดระเบิดให้เหมาะสมครับ ควรจับ A/F วัด ควบคู่กับ แรงดันน้ำมันเบนซิน ครับ 7. ที่เหลือคือ เวสเกต และ ปรับบูสท์ ดีๆ คุมบูสให้อยู่ กับ โบออฟ ดีๆให้คายไอเสียทิ้งให้ทันครับ เพราะบูสท์เยอะขึ้นต้องระวังเรื่องย้อนหน้าใบครับ ความจริง หาแคมซักคู่ใส่ ก้จะเริ่มเป็นรถแรงจอดอู่แล้วครับ อิอิ
เหอะๆๆ งานนี้ต้องชั่งน้ำหนักซะหน่อยแล้ว ว่าพอไปไหวไหม.... ขอบคุณพี่โอ๋มากครับ...และก้อคุณต๊อกที่เคยปรึกษาไปก่อนหน้านี้ ได้ความรู้ในการวางแผนการซื้อของอีกบานตะไทเลย.....
ถ้าต้องใช้อีโว ทุกวัน STD ดีที่สุด ปรับบูสต์เป็น 1 บาร์+จูนน้ำมันหน่อย ก็ขับสนุกแล้ว ไม่ต้องจอดอู่บ่อยๆ.......ไม่ได้เจอนานแล้ว......อั๋น ตอนนี้อยู่ที่ไหน เมื่อไหร่กลับ กทม.ครับ
ทำตามเสต็ปนี้แล้วเปลี่ยนลูกเป็นของ อีโว7 จะบูสต์เพิ่มขึ้นอีกได้แค่ไหนคับ แล้วถ้าปรับบูสต์เพิ่มขึ้นไปอีก ต้องขยับส่วนไหนตามไปอีก
ถ้าทำตามด้านบน เทอร์โบTD05 เครื่องอีโว 3 ท่อนล่างเดิมทั้งหมด ผมแนะนำไม่เกิน 1.5 บาร์ครับ เพิ่มเติม คือดูแรงดันน้ำมันเครื่องและน้ำมันเบนซินให้พอครับ และเช็คสภาพบาลานซ์ ชาฟท์ และชาฟท์อก-ก้าน ให้อยู่ในสภาพรับภาระหนักได้ ก็น่าจะผ่านครับ แต่จาก ปสก. ผม เทอร์โบ TD05 อีโว1-3 เดิมๆ บูสท์1.5 ไม่มีประโยชน์ครับเวลาไม่ลงเพราะเทอร์โบมันหมดแล้ว ผมว่าบูสท์แค่ 1.3บาร์ สับเกียร์6500 จะได้ความต่อเนื่องและเวลาลงดีกว่ามากครับ แต่ถ้าเทอร์โบอีโว 6-9 ควรบูสท์ที่ 1.5 ครับ ตอนนี้ ผมใส่ลูก+แหวน 7 เทอร์โบT04 Lo-Boots 1.5 บาร์ Hi-Boots 1.8 บาร์ครับ เปลี่ยนเกียร์ที่ 8,000 รอบ แต่ท่อนล่าง ตั้งแต่ ก้าน+ชาร์ฟอก-ก้าน+ข้อเหวี่ยง+ปั๊มนมค. ของซิ่งชุดใหญ่ครับ ตัดบาลานซ์ซาฟท์ทิ้งและบาลานซ์ข้อเหวี่ยงใหม่ ประกอบมาตั้งแต่เดือน ก.พ. ยังไม่พังครับ ปกติเครื่องที่ประกอบก่อนหน้านั้นแล้วบูสท์1.8 ไม่ตัดบาลานซ์ชาฟท์ทิ้งและบาลานซ์ข้อเหวี่ยงดีๆ จะอยู่ได้แค่ราวๆ 2 เดือน ครับ ถ้าไม่อยากจอดอู่บ่อยๆ ลดบูสท์+ลดรอบเปลี่ยนเกียร์ ลงครับ
ถามหน่อยครับ EVO 6 ใส่โบ 8mr หรือ 9ใบทอง จะรับบูสได้เท่าไหร่ครับ เดิมๆ มีติ๊ก evo9 แล้วจะพังไวมั้ยครับ ตอนนี้เลือก แคม กับ โบ อยู่ กล่องf-con ได้มาแล้ว เลือกไม่ถูก
บาร์ 8 ไม่น่าเกินนั้น มั้งคับ รถพี่ก่อนหน้านี้ ใส่แคม 280 โบเดิม บูสไป บาร์ 8 วิ่งได้ หลายเดือนอยู่ แล้วก็พังอ่ะคับ555 ตอนนี้บูส hi อยู่ที่บาร์5 พอคับ ขี้เกียจเจอหน้าพี่เล็กบ่อย 55
ตัวเทอร์โบ9 บูสท์1.8 สบายมากครับ แต่องค์ประกอบของเครื่องอาจจะรับภาระค่อนข้างหนักมาก บูสท์1.8 เครื่อง6 ควรทำองค์ประกอบเครื่องให้แข็งแรงกว่าStandardด้วยครับ ถ้า ลูก+ก้าน+ข้อ+ชารฟ์ ยังไม่Upgrade ผมแนะนำที่ บูสท์1.5 ครับ