อย่างที่พี่กานตอบมาถูกต้องเลยครับพี่ในกรณีของรถ Drag แต่กลับกันในรถ Gymkhana หรือรถ Circuit และรถบ้านๆ ที่เราใช้งานทุกๆ วัน แตกต่างออกไปครับ คำว่า waight tranfer ถ้าเป็นคนที่ไม่รู้ได้เรียนรู้เรื่องวิศวะกรรมหรือคนที่เล่นรถในหลากหลายรูปแบบ มันจะเป็นเพียงคำพูดของคนอวดรู้ว่ามันคืออะไร(ไม่ได้ว่าใครน่ะครับ) คำๆ นี้มันนิยามได้หลากหลาย(กรณีที่คนไม่เข้าใจอย่าถ่องแท้) สรุปง่ายๆ ก็แล้วกัน ถ้าเป็นรถใช้งานทุกวันหรือรถแข่ง Circuti รถตูดโด่งไม่มีผลเรื่องการจัดเรียงกระแสทิศทางลมด้านใต้ท้องรถให้เป็นระเบียบและช่วยป้องกันการที่ลมจะม้วนแล้วดึงท้ายรถให้ลอยขึ้นในขณะที่การขัขี่ด้วยความเร็วสูงอย่างแน่นอน เพราะการยกท้ายรถขึ้นก็เปรียบเสมือนทำให้ทิศทางของลมและแรงลมมีปริมาณที่มากขึ้นยิ่งส่งผลให้ท่ายรถมีกระแสลมที่สามารถยกท้ายรถให้สูงมากขึ้นยามวิ่งด้วยความเร็วสูงการเกาะถนนของล้อคู่หลังก็ยิ่งน้อยลง เวลาที่เบรคก็จะมีแรงเสียดทานกระทำที่ล้อคู่หลังลดน้องลง ล้อหลังจะเกิดอาการล้อคได้รวดเร็วยิ่งขึ้น เพราะน้ำหนักของรถจะถูกถ่ายเทไปที่ด้าหน้าเยอะมากขึ้นเป็นเท่าตัว รถ Circuit หรือรถ Gymkhana ทำไมเขาถึงโหลดตัวรถให้เตี้ยเท่ากันทั้งหน้า-หลังก็เพื่อนเรื่องของการกระจายน้ำหนัก ที่เน้นโดยเฉพาะกรณีที่เข้าโค้ง เพราะตัวรถวิ่งมาทางตรงด้วยความเร็วสูง สมมุติว่าน้ำหนักของรถคันนั้มีอยู่ที่ 1,500 กิโลกรัม แบ่งเป็นด้านหน้า 800 กิโลกรัม ด้านหลัง 700 กิโลกรัม นำหนักเฉลี่ยต่างกันแค่ 100 กิโลกรัม นั้นน้ำหนักต่างกันแค่ 100 กิโลกรัม เมื่อตัวรถมีการเบรคเพื่อชะลอความเร็วน้ำหนักของตัวรถจากด้านหลังเฉลี่ย 500 กิโลกรัมจะถูกถ่ายเทมายังด้านหน้าของตัวรถ ยิ่งถ้าเป็นรถที่ใช้ระบบขับเคลื่อนล้อหน้า รถจะเกิดอาการที่เขาเรียกว่า Understreer อันเดอร์สเตียร์หรือทักษะง่ายๆ คือ หน้ารถจะแหกออกจากโค้ง ทำให้การควบคุมรถเป็นไปได้ยาก ถ้าหากเป็นรถขับเคลื่อนล้อหลัง น้ำหนักที่ถ่ายเทออกมาจะส่งผลให้รถมีอาการ Oversteer โอเวอร์สเตียร์ หรือ ท้ายบาน(เหมือนรถ Drift) เพราะน้ำหนักที่ถ่ายเทมาด้านหน้าเยอะๆ พอเรากดคันเร่งส่งน้ำหนักและแรงเหวี่ยงของตัวเครื่องจะถูกถ่ายแทมายังล้อคู่หลังโดยฉับพลัน ส่งผลให้รถเกิดอาการที่ว่านี้ และไม่ว่าจะเป็นรถขับเคลื่อนล้อหน้า ล้อหลัง หรือขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบ Pulsar, Evo และ Impreza เวลาที่รถเบรคหรือถ่ายเทน้ำหนักเพื่อการเลี้ยว ระยะทางและความรู้สึกจะเพิ่มจกาเดิมอีก 1-2 เท่าตัว โดยที่เราไม่คาดคิด หากทำให้ทรงรถหน้าเชิดกว่าท้ายรถ หรือ ทำทรงรถให้ด้านหน้าเสมอกับท้ายรถ เชื่อได้เลยว่ารถวิ่งดีทั้งทางตรงและทางโค้ง ดีกว่ารถหน้าทิ่ม-ตรูดโด่งหรือรถที่หน้าเชิด-ตรูดห้อย
เสริมนิดนึง การโหลดรถให้เตี้ยมาก ๆ จุดประสงหลักก็คือ ลดจุดCG (CENTER GAVITY) ให้ต่ำลง แต่นั้นยังไม่พออุปกรณ์ เครื่องยนต์ เบาะ ต่าง ๆ ก็ต้องลดต่ำลงด้วย ซึ่งจะทำให้ CG ของรถต่ำลง มีผลให้แรงกระทำในการเข้าโค้งลดต่ำลง ทำให้เข้าโค้งได้ง่ายขึ้น
ถามต่อครับ อย่างพี่เบิ้มนี่ ใช่ waight tranfer ป่าวครับ ตอนหนุ่มๆ หุ่นยังกะ สมบัติ เมทะนี พอมาแต่งรถ เล่นรถ กลัวไม่แรง แกเลย ลดน้ำหนัก