เข้าสู่ระบบหรือลงทะเบียน
ติดต่อลงโฆษณา
[email protected]
หรือโทร. 081-811-1138 หรืออ่านรายละเอียดเพิ่มเติม คลิกที่นี่
RacingWeb.NET | The Racing Cars Community on Web.
ฟอรั่ม
>
Community Car Clubs
>
Individual Car Clubs
>
Rescue Club Thailand
>
เหตุที่น้ำมันแพง
>
ตอบกลับหัวข้อ
ชื่อ:
การตรวจสอบ:
กรุณาเปิดใช้งานจาวาสคริปต์เพื่อดำเนินการต่อ
กำลังโหลด...
ข้อความ:
<p>[QUOTE="rescue_Bangkok, post: 694812, member: 29140"]<font size="4"><span style="color: Yellow">สูตรราคาน้ำมัน (หายนะ) ณ โรงกลั่น </span></font></p><p><font size="4"><span style="color: Yellow"> โดย โสภณ สุภาพงษ์ </span></font></p><p><font size="4"><span style="color: Yellow"> 23 มิถุนายน 2551 02:45 น. </span></font></p><p><font size="4"><span style="color: Yellow"> 1. ทำไมน้ำมันในไทยจึงแพงผิดปกติ </span></font></p><p><font size="4"><span style="color: Yellow"> ตอบ : เป็นเพราะกลุ่มบริษัทโรงกลั่นน้ำมันและ ปตท.ใช้โอกาสบวกกำไรเพิ่มอีก 169,438 ล้านบาท หรือเพิ่มสูงขึ้นมากกว่าเดิม 700 % (ตาราง 1) </span></font> </p><p>[ATTACH]1018420[/ATTACH]</p><p> </p><p> <font size="4"><span style="color: Yellow">หลายปีที่ผ่านมาคนไทยใช้น้ำมันสำเร็จรูปประมาณ 700,000 บาร์เรลต่อวัน เมื่อ 5 ปีก่อนบริษัทโรงกลั่นน้ำมัน 7 แห่งและบริษัท ปตท. ( มีโรงแยกก๊าซ) ได้ซื้อน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติดิบมากลั่นโดยบวกกำไรอีก 20,330 ล้านบาท แล้วนำผลผลิตมาขายให้คนไทย ปัจจุบันกลุ่มบริษัทดังกล่าวได้ใช้โอกาสบวกกำไรเพิ่มทวีอีก 195,853 ล้านบาทถึง 169,438 ล้านบาท (ดูตาราง 1 ) แล้วนำผลผลิตมาขายให้คนไทย </span></font></p><p><font size="4"><span style="color: Yellow"> </span></font></p><p><font size="4"><span style="color: Yellow"> บริษัทโรงกลั่น 5 แห่งเป็นเครือบริษัท ปตท.ผูกขาดกำลังกลั่น 83% </span></font></p><p><font size="4"><span style="color: Yellow"> บางบริษัทกำไรเพิ่มถึง 50 เท่า ปตท. บอกว่าผลกำไร 2 ใน 3 ของบริษัท ปตท. (เกือบ 70,000 ล้านบาท) มาจากก๊าซ ,LPG , NGV ฯลฯ (กำไรก๊าซทำให้ราคาไฟฟ้าแพง) ดังนั้นกำไรมหาศาลที่เหลืออีกมากกว่า 100,000 ล้านบาทของบริษัททั้ง 8 แห่งมาจากน้ำมัน </span></font></p><p><font size="4"><span style="color: Yellow"> </span></font></p><p><font size="4"><span style="color: Yellow"> กำไรเพิ่ม 700-800 % สูงขึ้นกว่าปี 2544 - 2545 ในขณะที่เราใช้น้ำมันเพิ่มเพียงปีละ 3% </span></font></p><p><font size="4"><span style="color: Yellow"> </span></font></p><p><font size="4"><span style="color: Yellow"> ตัวเลขกำไรเป็นตัวเลขทางการที่บริษัทรายงานตามกฎหมายใช้เสียภาษี ปันผล ฯลฯ จึงไม่สามารถปฏิเสธได้ อาจมีกำไรมากกว่านี้ที่สามารถซ่อนไว้ในบัญชีสต๊อก ฯลฯ หรืออาจมีบัญชีกำไรซ้อนระหว่างกันที่คนภายนอกไม่สามารถรู้ทั้งหมดได้ </span></font></p><p><font size="4"><span style="color: Yellow"> </span></font></p><p><font size="4"><span style="color: Yellow"> 2. ทำไมบริษัทโรงกลั่นสามารถขายน้ำมันราคาแพง และเอากำไรจากคนไทยเพิ่มขึ้นผิดปกติมากกว่าปีละ100,000 ล้านบาทได้ </span></font></p><p><font size="4"><span style="color: Yellow"> ตอบ : เป็นเพราะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติได้สมมติตั้งสูตรราคาขายน้ำมัน (หายนะ) ณ โรงกลั่นให้บริษัทโรงกลั่นได้กำไรสูงกว่าต้นทุนจริงมาก (ตาราง2) </span></font></p><p>[ATTACH]1018409[/ATTACH]</p><p> </p><p> <font size="4"><span style="color: Yellow">ราคาน้ำมันที่ 1 เหรียญ ต่อ 1 บาร์เรลนั้นเท่ากับ 0.2 บาทต่อลิตร (คือ 32บาท หารด้วย 159 ลิตร ) </span></font></p><p><font size="4"><span style="color: Yellow"> </span></font></p><p><font size="4"><span style="color: Yellow"> ดังนั้นน้ำมันดิบพื้นฐานโอมานที่บริษัทโรงกลั่นนำเข้ามากลั่นส่วนใหญ่ราคา122 เหรียญต่อบาร์เรล จึงมีต้นทุนเท่ากับ 24.8 บาทต่อลิตร รวมค่าใช้จ่ายการกลั่นเฉลี่ยทั้งหมด 1.5 บาทต่อลิตร (1.3 - 1.7 บาทต่อลิตร) จึงเป็นต้นทุนน้ำมันเฉลี่ยทั้งสิ้น 26.3 บาทต่อลิตร แต่คณะกรรมการนโยบายพลังงาน ได้สมมติสูตรราคาขายดีเซล ณ โรงกลั่นให้บริษัทขึ้นให้เท่ากับราคาสิงคโปร์บวกอีก 0.8 บาทต่อลิตร หรือเท่ากับ 33.0 บาทต่อลิตร ทำให้บริษัทขายน้ำมันดีเซล ณ โรงกลั่นได้ สูงกว่าต้นทุนการกลั่นถึง 6.7 บาทต่อลิตร (ทั้งๆ ที่ราคาสิงคโปร์เป็นตลาดเก็งกำไรเหมือนเล่นหุ้น) </span></font></p><p><font size="4"><span style="color: Yellow"> </span></font></p><p><font size="4"><span style="color: Yellow"> ในการกลั่นน้ำมันดิบนั้นจะได้น้ำมันประมาณ 6 ชนิดที่ให้กำไรตามสูตรเช่นนี้สูงกว่าต้นทุน และมี 1 ชนิดที่ได้ราคาต่ำกว่า ดังนั้นการที่ตั้งสูตรสมมติราคาขาย ณ โรงกลั่นให้สูงกว่าปกติ ก็จะสร้างกำไรสูงผิดปกติให้บริษัทโรงกลั่นมหาศาล นอกเหนือจากกำไรจากสต๊อก ฯลฯ </span></font></p><p><font size="4"><span style="color: Yellow"> </span></font></p><p><font size="4"><span style="color: Yellow"> 3. ทำไมพ่อค้า ข้าราชการบางคน หรือนักวิชาการที่ถูกจ้างมาพูด มักพูดแต่เรื่องค่าการตลาด (ตาราง 3) </span></font> [ATTACH]1018410[/ATTACH]</p><p> </p><p> <font size="4"><span style="color: Yellow">ตอบ : เพราะสูตรราคาน้ำมัน (หายนะ) ณ โรงกลั่นที่ 33.0 บาทซึ่งสมมติไว้สูงๆ จะถูกใช้หลอกประชาชนว่าเป็นต้นทุน (ทั้งที่เป็นเรื่องสมมติเอาเอง) บวกภาษี 5.0 บาท บวกค่าการตลาด 1.5 บาท รวมเป็นตัวเลขขายปลีกน้ำมันดีเซลที่ 39.5 บาทต่อลิตร </span></font></p><p><font size="4"><span style="color: Yellow"> </span></font></p><p><font size="4"><span style="color: Yellow"> พ่อค้าบางคนที่ได้กำไร ข้าราชการบางคนที่ได้เงินจากบริษัท และนักวิชาการที่ถูกจ้างมาพูด จึงพูดหลอกประชาชนว่าค่าการตลาดน้อย ติดลบอยู่บ่อยๆ โดยสมมติราคา ณ โรงกลั่นของตนให้สูงขึ้นเพื่อให้ตัวเลขค่าการตลาดเป็นตัวเลขติดลบ โดยไม่พูดถึงกำไรสูง 6.7 บาท ต่อลิตรที่ถูกซ่อนไว้ที่โรงกลั่น (ตลาดปั๊มเอกชนเล็กๆ น้อยๆ จึงถูกบีบจากราคา ณ โรงกลั่น) </span></font></p><p><font size="4"><span style="color: Yellow"> </span></font></p><p><font size="4"><span style="color: Yellow"> 4. ทำไมคณะกรรมการนโยบายฯ จึงได้ตั้งสูตรราคาขายน้ำมัน (หายนะ) ณ โรงกลั่น ให้สูงมากสร้างกำไรให้บริษัท แต่สร้างหายนะให้คนไทย </span></font></p><p><font size="4"><span style="color: Yellow"> ตอบ : เพราะกรรมการบางคนมีผลประโยชน์ทับซ้อน </span></font></p><p><font size="4"><span style="color: Yellow"> </span></font></p><p><font size="4"><span style="color: Yellow"> หลังจากการแปรรูป ขาย ปตท. เข้าตลาดหุ้นปี 2545 มีข้าราชการบางคนในคณะกรรมการนโยบายพลังงาน และกระทรวงมีผลประโยชน์ทับซ้อน เอาบริษัทโรงกลั่นหลายแห่งของ ปตท. เข้าขายในตลาดหุ้น แล้วเข้าไปเป็นประธาน เป็นกรรมการบริษัทโรงกลั่นเอกชนเล่นหุ้น ได้หุ้นราคาถูกกว่า IPO ได้เบี้ยประชุม ได้โบนัส ได้กำไรหุ้น ได้เงินปันผล (บางบริษัทให้โบนัสคณะกรรมการ 50 ล้านบาทต่อปี ผู้บริหาร ข้าราชการบางคนได้ประโยชน์มากกว่า 100 ล้านบาทจากหุ้น) ได้กำหนดสูตรราคาหายนะ ณ โรงกลั่นไว้ ตั้งแต่กุมภาพันธ์ 2546 </span></font></p><p><font size="4"><span style="color: Yellow"> </span></font></p><p><font size="4"><span style="color: Yellow"> เปิดรายชื่อผู้ถือหุ้นบริษัทน้ำมันที่กระทรวงพาณิชย์และตลาดหลักทรัพย์จะพบภรรยา กรรมการนโยบายพลังงานบางคนถือหุ้นบริษัทน้ำมันด้วย </span></font></p><p><font size="4"><span style="color: Yellow"> </span></font></p><p><font size="4"><span style="color: Yellow"> 5. ควรเปลี่ยนสูตรราคาขาย ณ โรงกลั่นเป็นอย่างไร </span></font></p><p><font size="4"><span style="color: Yellow"> ตอบ : ควรกำหนดสูตรราคาขายน้ำมันดีเซล ณ โรงกลั่น เท่ากับราคาที่สิงคโปร์ลบ (-) 2 บาทต่อลิตร </span></font></p><p><font size="4"><span style="color: Yellow"> </span></font></p><p><font size="4"><span style="color: Yellow"> บริษัทโรงกลั่นทั้งหมดกลั่นน้ำมันประมาณ 900,000 บาร์เรลต่อวัน ขายในประเทศวันละมากกว่า 700,000 บาร์เรล อีกเกือบ 200,000 บาร์เรล ใช้ส่งออกไปขายต่างประเทศ สิงคโปร์ฯลฯ </span></font></p><p><font size="4"><span style="color: Yellow"> </span></font></p><p><font size="4"><span style="color: Yellow"> ดังนั้นการตั้งราคาในประเทศต้องตั้งให้ต่ำกว่าราคาที่สิงคโปร์ 1 - 2 บาทต่อลิตร เพราะเมื่อบวกกำไร ค่าใช้จ่าย ค่าขนส่ง ไปสิงคโปร์อีก 1 - 2 บาทต่อลิตร ก็ต้องไม่สูงกว่าราคาตลาดสิงคโปร์ (ที่ผ่านมาน้ำมันส่วนที่ได้ส่งออกไปขายต่างประเทศราคาถูกกว่าขายในประเทศ) </span></font></p><p><font size="4"><span style="color: Yellow"> </span></font></p><p><font size="4"><span style="color: Yellow"> ถ้าทำให้สูตรราคาดีเซลลดลง 3 บาทต่อลิตร คูณด้วยการใช้ทั้งประเทศ 19,000 ล้านลิตรต่อปี กำไรของกลุ่มบริษัทจะลดลงเพียง 57,000 ล้านบาท บริษัทก็ยังคงเหลือกำไรอีกมากกว่า 110,000 ล้านบาทต่อปีอยู่ดี </span></font></p><p><font size="4"><span style="color: Yellow"> </span></font></p><p><font size="4"><span style="color: Yellow"> 6. ใครมีอำนาจเปลี่ยนสูตรราคาให้คนไทยพ้นหายนะ </span></font></p><p><font size="4"><span style="color: Yellow"> ตอบ : นายกรัฐมนตรี เพราะเป็นประธานคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติตามกฎหมาย </span></font></p><p><font size="4"><span style="color: Yellow"> </span></font></p><p><font size="4"><span style="color: Yellow"> 7. ข้อมูลที่ควรทราบเพื่อไม่ให้ถูกหลอก </span></font></p><p><font size="4"><span style="color: Yellow"> </span></font></p><p><font size="4"><span style="color: Yellow"> 1. อย่าเพิ่งเชื่อพ่อค้าที่ได้กำไร ข้าราชการบางคนที่ได้เงินบริษัท นักวิชาการที่ถูกจ้างมาพูดเท็จ </span></font></p><p><font size="4"><span style="color: Yellow"> </span></font></p><p><font size="4"><span style="color: Yellow"> 2.1 เหรียญต่อบาร์เรล เมื่อคูณ 0.2 จะเป็นราคาบาทต่อลิตร </span></font></p><p><font size="4"><span style="color: Yellow"> </span></font></p><p><font size="4"><span style="color: Yellow"> 3. ราคาน้ำมันดิบในต่างประเทศ 120 -130 เหรียญต่อบาร์เรล ที่พ่อค้าพูด เป็นราคาอีก 1-2 เดือนข้างหน้า ไม่เป็นเหตุผลให้ขึ้นราคาพรุ่งนี้ บางบริษัทได้กำไรเฉพาะจากเอาสต๊อกถูกมาขายแพงมากกว่า 6,000 ล้านบาทต่อปี </span></font></p><p><font size="4"><span style="color: Yellow"> </span></font></p><p><font size="4"><span style="color: Yellow"> 4. สูตรราคาน้ำมัน ไม่จำเป็นต้องอิงราคาแพงในสิงคโปร์ ตัวอย่างเช่น LPG เราใช้อิงราคาต่ำกว่าราคา LPG ที่ตะวันออกกลางมานานแล้ว </span></font></p><p><font size="4"><span style="color: Yellow"> </span></font></p><p><font size="4"><span style="color: Yellow"> เรื่องนี้เป็นหน้าที่รัฐบาล(มานานแล้ว) ครับ... </span></font></p><p><font size="4"><span style="color: Yellow"> </span></font>[/QUOTE]</p><p><br /></p>
[QUOTE="rescue_Bangkok, post: 694812, member: 29140"][SIZE="4"][COLOR="Yellow"]สูตรราคาน้ำมัน (หายนะ) ณ โรงกลั่น โดย โสภณ สุภาพงษ์ 23 มิถุนายน 2551 02:45 น. 1. ทำไมน้ำมันในไทยจึงแพงผิดปกติ ตอบ : เป็นเพราะกลุ่มบริษัทโรงกลั่นน้ำมันและ ปตท.ใช้โอกาสบวกกำไรเพิ่มอีก 169,438 ล้านบาท หรือเพิ่มสูงขึ้นมากกว่าเดิม 700 % (ตาราง 1) [/COLOR][/SIZE] [ATTACH]1018420[/ATTACH] [SIZE="4"][COLOR="Yellow"]หลายปีที่ผ่านมาคนไทยใช้น้ำมันสำเร็จรูปประมาณ 700,000 บาร์เรลต่อวัน เมื่อ 5 ปีก่อนบริษัทโรงกลั่นน้ำมัน 7 แห่งและบริษัท ปตท. ( มีโรงแยกก๊าซ) ได้ซื้อน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติดิบมากลั่นโดยบวกกำไรอีก 20,330 ล้านบาท แล้วนำผลผลิตมาขายให้คนไทย ปัจจุบันกลุ่มบริษัทดังกล่าวได้ใช้โอกาสบวกกำไรเพิ่มทวีอีก 195,853 ล้านบาทถึง 169,438 ล้านบาท (ดูตาราง 1 ) แล้วนำผลผลิตมาขายให้คนไทย บริษัทโรงกลั่น 5 แห่งเป็นเครือบริษัท ปตท.ผูกขาดกำลังกลั่น 83% บางบริษัทกำไรเพิ่มถึง 50 เท่า ปตท. บอกว่าผลกำไร 2 ใน 3 ของบริษัท ปตท. (เกือบ 70,000 ล้านบาท) มาจากก๊าซ ,LPG , NGV ฯลฯ (กำไรก๊าซทำให้ราคาไฟฟ้าแพง) ดังนั้นกำไรมหาศาลที่เหลืออีกมากกว่า 100,000 ล้านบาทของบริษัททั้ง 8 แห่งมาจากน้ำมัน กำไรเพิ่ม 700-800 % สูงขึ้นกว่าปี 2544 - 2545 ในขณะที่เราใช้น้ำมันเพิ่มเพียงปีละ 3% ตัวเลขกำไรเป็นตัวเลขทางการที่บริษัทรายงานตามกฎหมายใช้เสียภาษี ปันผล ฯลฯ จึงไม่สามารถปฏิเสธได้ อาจมีกำไรมากกว่านี้ที่สามารถซ่อนไว้ในบัญชีสต๊อก ฯลฯ หรืออาจมีบัญชีกำไรซ้อนระหว่างกันที่คนภายนอกไม่สามารถรู้ทั้งหมดได้ 2. ทำไมบริษัทโรงกลั่นสามารถขายน้ำมันราคาแพง และเอากำไรจากคนไทยเพิ่มขึ้นผิดปกติมากกว่าปีละ100,000 ล้านบาทได้ ตอบ : เป็นเพราะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติได้สมมติตั้งสูตรราคาขายน้ำมัน (หายนะ) ณ โรงกลั่นให้บริษัทโรงกลั่นได้กำไรสูงกว่าต้นทุนจริงมาก (ตาราง2) [/COLOR][/SIZE] [ATTACH]1018409[/ATTACH] [SIZE="4"][COLOR="Yellow"]ราคาน้ำมันที่ 1 เหรียญ ต่อ 1 บาร์เรลนั้นเท่ากับ 0.2 บาทต่อลิตร (คือ 32บาท หารด้วย 159 ลิตร ) ดังนั้นน้ำมันดิบพื้นฐานโอมานที่บริษัทโรงกลั่นนำเข้ามากลั่นส่วนใหญ่ราคา122 เหรียญต่อบาร์เรล จึงมีต้นทุนเท่ากับ 24.8 บาทต่อลิตร รวมค่าใช้จ่ายการกลั่นเฉลี่ยทั้งหมด 1.5 บาทต่อลิตร (1.3 - 1.7 บาทต่อลิตร) จึงเป็นต้นทุนน้ำมันเฉลี่ยทั้งสิ้น 26.3 บาทต่อลิตร แต่คณะกรรมการนโยบายพลังงาน ได้สมมติสูตรราคาขายดีเซล ณ โรงกลั่นให้บริษัทขึ้นให้เท่ากับราคาสิงคโปร์บวกอีก 0.8 บาทต่อลิตร หรือเท่ากับ 33.0 บาทต่อลิตร ทำให้บริษัทขายน้ำมันดีเซล ณ โรงกลั่นได้ สูงกว่าต้นทุนการกลั่นถึง 6.7 บาทต่อลิตร (ทั้งๆ ที่ราคาสิงคโปร์เป็นตลาดเก็งกำไรเหมือนเล่นหุ้น) ในการกลั่นน้ำมันดิบนั้นจะได้น้ำมันประมาณ 6 ชนิดที่ให้กำไรตามสูตรเช่นนี้สูงกว่าต้นทุน และมี 1 ชนิดที่ได้ราคาต่ำกว่า ดังนั้นการที่ตั้งสูตรสมมติราคาขาย ณ โรงกลั่นให้สูงกว่าปกติ ก็จะสร้างกำไรสูงผิดปกติให้บริษัทโรงกลั่นมหาศาล นอกเหนือจากกำไรจากสต๊อก ฯลฯ 3. ทำไมพ่อค้า ข้าราชการบางคน หรือนักวิชาการที่ถูกจ้างมาพูด มักพูดแต่เรื่องค่าการตลาด (ตาราง 3) [/COLOR][/SIZE] [ATTACH]1018410[/ATTACH] [SIZE="4"][COLOR="Yellow"]ตอบ : เพราะสูตรราคาน้ำมัน (หายนะ) ณ โรงกลั่นที่ 33.0 บาทซึ่งสมมติไว้สูงๆ จะถูกใช้หลอกประชาชนว่าเป็นต้นทุน (ทั้งที่เป็นเรื่องสมมติเอาเอง) บวกภาษี 5.0 บาท บวกค่าการตลาด 1.5 บาท รวมเป็นตัวเลขขายปลีกน้ำมันดีเซลที่ 39.5 บาทต่อลิตร พ่อค้าบางคนที่ได้กำไร ข้าราชการบางคนที่ได้เงินจากบริษัท และนักวิชาการที่ถูกจ้างมาพูด จึงพูดหลอกประชาชนว่าค่าการตลาดน้อย ติดลบอยู่บ่อยๆ โดยสมมติราคา ณ โรงกลั่นของตนให้สูงขึ้นเพื่อให้ตัวเลขค่าการตลาดเป็นตัวเลขติดลบ โดยไม่พูดถึงกำไรสูง 6.7 บาท ต่อลิตรที่ถูกซ่อนไว้ที่โรงกลั่น (ตลาดปั๊มเอกชนเล็กๆ น้อยๆ จึงถูกบีบจากราคา ณ โรงกลั่น) 4. ทำไมคณะกรรมการนโยบายฯ จึงได้ตั้งสูตรราคาขายน้ำมัน (หายนะ) ณ โรงกลั่น ให้สูงมากสร้างกำไรให้บริษัท แต่สร้างหายนะให้คนไทย ตอบ : เพราะกรรมการบางคนมีผลประโยชน์ทับซ้อน หลังจากการแปรรูป ขาย ปตท. เข้าตลาดหุ้นปี 2545 มีข้าราชการบางคนในคณะกรรมการนโยบายพลังงาน และกระทรวงมีผลประโยชน์ทับซ้อน เอาบริษัทโรงกลั่นหลายแห่งของ ปตท. เข้าขายในตลาดหุ้น แล้วเข้าไปเป็นประธาน เป็นกรรมการบริษัทโรงกลั่นเอกชนเล่นหุ้น ได้หุ้นราคาถูกกว่า IPO ได้เบี้ยประชุม ได้โบนัส ได้กำไรหุ้น ได้เงินปันผล (บางบริษัทให้โบนัสคณะกรรมการ 50 ล้านบาทต่อปี ผู้บริหาร ข้าราชการบางคนได้ประโยชน์มากกว่า 100 ล้านบาทจากหุ้น) ได้กำหนดสูตรราคาหายนะ ณ โรงกลั่นไว้ ตั้งแต่กุมภาพันธ์ 2546 เปิดรายชื่อผู้ถือหุ้นบริษัทน้ำมันที่กระทรวงพาณิชย์และตลาดหลักทรัพย์จะพบภรรยา กรรมการนโยบายพลังงานบางคนถือหุ้นบริษัทน้ำมันด้วย 5. ควรเปลี่ยนสูตรราคาขาย ณ โรงกลั่นเป็นอย่างไร ตอบ : ควรกำหนดสูตรราคาขายน้ำมันดีเซล ณ โรงกลั่น เท่ากับราคาที่สิงคโปร์ลบ (-) 2 บาทต่อลิตร บริษัทโรงกลั่นทั้งหมดกลั่นน้ำมันประมาณ 900,000 บาร์เรลต่อวัน ขายในประเทศวันละมากกว่า 700,000 บาร์เรล อีกเกือบ 200,000 บาร์เรล ใช้ส่งออกไปขายต่างประเทศ สิงคโปร์ฯลฯ ดังนั้นการตั้งราคาในประเทศต้องตั้งให้ต่ำกว่าราคาที่สิงคโปร์ 1 - 2 บาทต่อลิตร เพราะเมื่อบวกกำไร ค่าใช้จ่าย ค่าขนส่ง ไปสิงคโปร์อีก 1 - 2 บาทต่อลิตร ก็ต้องไม่สูงกว่าราคาตลาดสิงคโปร์ (ที่ผ่านมาน้ำมันส่วนที่ได้ส่งออกไปขายต่างประเทศราคาถูกกว่าขายในประเทศ) ถ้าทำให้สูตรราคาดีเซลลดลง 3 บาทต่อลิตร คูณด้วยการใช้ทั้งประเทศ 19,000 ล้านลิตรต่อปี กำไรของกลุ่มบริษัทจะลดลงเพียง 57,000 ล้านบาท บริษัทก็ยังคงเหลือกำไรอีกมากกว่า 110,000 ล้านบาทต่อปีอยู่ดี 6. ใครมีอำนาจเปลี่ยนสูตรราคาให้คนไทยพ้นหายนะ ตอบ : นายกรัฐมนตรี เพราะเป็นประธานคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติตามกฎหมาย 7. ข้อมูลที่ควรทราบเพื่อไม่ให้ถูกหลอก 1. อย่าเพิ่งเชื่อพ่อค้าที่ได้กำไร ข้าราชการบางคนที่ได้เงินบริษัท นักวิชาการที่ถูกจ้างมาพูดเท็จ 2.1 เหรียญต่อบาร์เรล เมื่อคูณ 0.2 จะเป็นราคาบาทต่อลิตร 3. ราคาน้ำมันดิบในต่างประเทศ 120 -130 เหรียญต่อบาร์เรล ที่พ่อค้าพูด เป็นราคาอีก 1-2 เดือนข้างหน้า ไม่เป็นเหตุผลให้ขึ้นราคาพรุ่งนี้ บางบริษัทได้กำไรเฉพาะจากเอาสต๊อกถูกมาขายแพงมากกว่า 6,000 ล้านบาทต่อปี 4. สูตรราคาน้ำมัน ไม่จำเป็นต้องอิงราคาแพงในสิงคโปร์ ตัวอย่างเช่น LPG เราใช้อิงราคาต่ำกว่าราคา LPG ที่ตะวันออกกลางมานานแล้ว เรื่องนี้เป็นหน้าที่รัฐบาล(มานานแล้ว) ครับ... [/COLOR][/SIZE][/QUOTE]
เข้าสู่ระบบด้วย Facebook
เข้าสู่ระบบด้วย Twitter
เข้าสู่ระบบด้วย Google
ชื่อผู้ใช้งานหรือที่อยู่อีเมล์ของคุณ:
คุณมีบัญชีผู้ใช้หรือไม่?
ไม่มี, สร้างบัญชีผู้ใช้ตอนนี้
มี, รหัสผ่านของฉันคือ:
ลืมรหัสผ่านของคุณ?
อยู่ในระบบตลอดเวลา
RacingWeb.NET | The Racing Cars Community on Web.
ฟอรั่ม
>
Community Car Clubs
>
Individual Car Clubs
>
Rescue Club Thailand
>
เหตุที่น้ำมันแพง
>
X
หน้าแรก
หน้าแรก
Quick Links
โพสต์ล่าสุด
กิจกรรมล่าสุด
ผู้เขียน
ฟอรั่ม
ฟอรั่ม
Quick Links
ค้นหาฟอรั่ม
โพสต์ล่าสุด
ประกาศซื้อขาย
ประกาศซื้อขาย
Quick Links
ค้นหาประกาศซื้อขาย
กิจกรรมล่าสุด
ผู้ค้าขายคะแนนสูงสุด
สื่อ/วิดีโอ
สื่อ/วิดีโอ
Quick Links
Search Media
New Media
สมาชิก
สมาชิก
Quick Links
สมาชิกที่โดดเด่น
สมาชิกที่ลงทะเบียน
ผู้ใช้งานในขณะนี้
กิจกรรมล่าสุด
โพสต์ข้อมูลส่วนตัวใหม่
เมนู
ค้นหาเฉพาะชื่อ
โพสต์โดยสมาชิก:
แยกชื่อด้วยเครื่องหมายจุลภาค
ใหม่กว่า:
ค้นหาเฉพาะหัวข้อนี้
ค้นหาเฉพาะฟอรั่มนี้
แสดงผลเป็นหัวข้อ
การค้นหาที่มีประโยชน์
โพสต์ล่าสุด
เพิ่มเติม...