Log in or Sign up
ติดต่อลงโฆษณา
[email protected]
หรือโทร. 081-811-1138 หรืออ่านรายละเอียดเพิ่มเติม คลิกที่นี่
RacingWeb.NET | The Racing Cars Community on Web.
Forums
>
RacingWeb Community
>
Motorsport Forum
>
Formula 1
>
ข้อมูลความรู้เกี่ยวกับรถ Formula 1
>
Reply to Thread
Name:
Verification:
Please enable JavaScript to continue.
Loading...
Message:
<p>[QUOTE="TUMKUNG_naraka, post: 769471, member: 31393"]<font size="4"><b>เครื่องยนต์ และ ระบบเกียร์ (Engine/ gearbox)</b></font></p><p><br /></p><p>เครื่องยนต์ และ ระบบส่งกำลังของรถเอฟวันสมัยใหม่ ถือเป็นเทคโนโลยีที่ร้อนแรง และ ได้รับความสนใจอย่างมาก ที่สำคัญการขับเคี่ยวระหว่างทีมแข่งต่างๆเกี่ยวกับจุดนี้ก็เข้มข้นเสมอมา</p><p><br /></p><p>ว่ากันว่าทุกวันนี้การพัฒนาประสิทธิภาพของเครื่องยนต์ มีแรงผลักดันสำคัญจากวลีอมตะที่อดีตตำนานวิศวกรยานยนต์ผู้ยิ่งใหญ่และล่วงลับไปแล้วก็คือ เฟอร์ดินานด์ ปอร์เช่ เคยกล่าวไว้ก็คือ รถแข่งที่ดีที่สุดคือรถที่เข้าเส้นชัยเป็นคันแรก และจากนั้นก็จะแตกพังเป็นเสี่ยงๆ </p><p><br /></p><p>การออกแบบเครื่องยนต์ในยุคนี้จึงเน้นไปที่การสร้างสมดุลย์ให้เกิดขึ้นระหว่างเครื่องยนต์ที่ให้กำลังมหาศาล แต่ก็ต้องทนทานนานพอสำหรับการวิ่งจนครบการแข่งขัน</p><p><br /></p><p>ถ้าเราได้เห็นวิวัฒนาการในเรื่องพละกำลังของเครื่องยนต์ในรถแข่งเอฟวันจากอดีตจนปัจจุบัน เราจะทึ่งไปกับมันไม่น้อย </p><p><br /></p><p>ย้อนกลับไปในทศวรรษที่ 50 รถแข่งเอฟวันในเวลานั้นสามารถจะรีดพลังออกมาที่ 100 bhp/litre ตัวเลขที่ว่านี้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆเมื่อกาลเวลาผ่านไป </p><p><br /></p><p>เมื่อถึงยุคของเครื่องยนต์เทอร์โบรุ่งเรือง กำลังที่ได้จากเครื่องเอฟวันมีขนาดที่ 750 bhp/litre และมีแนวโน้มว่าตัวเลขนี้จะเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆด้วย จนกระทั่งในปี 1989 ที่มีแนวคิดจะให้กีฬาเอฟวันกลับคืนสู่สามัญ ตัวเลขนั้นเลยลดลง ก่อนจะเพิ่มสูงกลับขึ้นมาจนถึงยุคปัจจุบันนี้ </p><p><br /></p><p>อย่างไรก็ดีความพยายามที่จะทำให้เครื่องยนต์มีกำลังที่มากเกินพอดี ก็พบได้ในทุกการแข่งขัน ที่รถแข่งของทีมแข่งบางทีมมักจะมีปัญหาต้องออกจากการแข่งขันอยู่บ่อยๆเพราะเครื่องพังนั่นเอง สำหรับตัวเลขรอบที่เครื่องยนต์ในรถแข่งเอฟวันทำได้นั้น อยู่ที่ประมาณ 18,000 รอบต่อนาที </p><p><br /></p><p>การสร้างเครื่องยนต์เอฟวันในยุคปัจจุบัน เน้นไปที่ความกระทัดรัดและน้ำหนักที่เบาขึ้น ขณะเดียวกันก็ควรจะอยู่ต่ำที่สุดที่จะเป็นได้เพื่อให้รถมีแรงดึงดูดต่อจุดศูนย์กลางมากขึ้น</p><p><br /></p><p>ระบบเกียร์ในรถแข่งเอฟวันยุคนี้ ล้วนเป็นแบบออโตเมติกทั้งสิ้น โดยนักแข่งสามารถจะเปลี่ยนเกียร์ได้บนพวงมาลัยที่ออกแบบมาอย่างไฮเทค อย่างไรก็ดีในปี 2004 FIA ได้มีมติไม่ให้บรรดาทีมแข่งติดตั้งระบบอำนวยความสะดวกบางอย่างต่อนักแข่งเช่น launch control กับตัวรถ ซึ่งนั่นก็หมายความว่าอย่างน้อยที่สุด นักแข่งก็ต้องแตะกันทุกคนอย่างน้อยหนึ่งครั้งในช่วงของการออกสตาร์ท</p><p><br /></p><p>และอย่างที่ทราบกันดีว่าในปี 2004 FIA ยังได้ออกกฏใหม่ขึ้นมาเกี่ยวกับเครื่องยนต์โดยคำนึงถึงความสิ้นเปลืองของทีมแข่งต่างๆ เมื่อมีการกำหนดว่าทีมแข่งแต่ละทีมจะสามารถใช้เครื่องยนต์ได้เพียงเครื่องเดียวเท่านั้นตลอดทั้งสัปดาห์ที่มีการแข่งขัน รวมถึงการฝึกซ้อม และ ในรอบคัดเลือก โดยมีข้อยกเว้นบางอย่างเช่น หากนักแข่งคนใดต้องการจะเปลี่ยนเครื่องยนต์ก่อนหน้าที่จะเริ่มการแข่งขัน นักแข่งรายนั้นจะต้องยอมถูกร่นอันดับในการออกสตาร์ทจริงลงไปอีก 10 อันดับจากอันดับที่ทำได้ในรอบคัดเลือก </p><p><br /></p><p>ธง (Flags)</p><p><br /></p><p>เจ้าหน้าที่ในแต่ละจุดของสนาม จะมีธงหลายๆสีอยู่กับตัว โดยธงเหล่านี้จะถูกใช้ในการสื่อสารกับนักแข่ง ซึ่งความหมายของธงแต่ละสีนี้เป็นเช่นไร มาดูกันครับ</p><p><br /></p><p>1. ธงตราหมากรุก (Chequered flag)</p><p>เมื่อมีธงนี้ขึ้นมาหมายความว่าการแข่งขันได้จบสิ้นแล้ว ในการแข่งขันจริง ธงนี้จะถูกใช้เมื่อมีนักแข่งทะยานเข้าเส้นชัยเป็นคนแรกได้สำเร็จ ขณะเดียวกันรถที่ไล่หลังมาจากนั้นทุกคันก็จะได้รับการตีธงให้เช่นกัน</p><p><br /></p><p>2. ธงเหลือง (Yellow flag)</p><p>ธงนี้ใช้สื่อถึงว่ามีอันตรายเกิดขึ้น อาทิเช่น มีรถจอดขวางทางอยู่ด้านหน้า หากเจ้าหน้าที่สนามตีธงเหลืองนี้เป็นจำนวน 1 ครั้ง นั่นหมายความว่าต้องการให้รถแข่งในสนามใช้ความเร็วลดลง แต่ถ้าหากเป็นการตีธงเหลืองพร้อมกัน 2 อัน หมายความว่านักแข่งจะต้องเตรียมพร้อมสำหรับการบังคับรถหยุดนิ่งทุกขณะถ้ามีความจำเป็น </p><p><br /></p><p>ทั้งนี้ในช่วงที่มีสัญญาณธงเหลืองขึ้นมา ห้ามไม่ให้มีการแซงกันเกิดขึ้น</p><p><br /></p><p>3.ธงเขียว (Green flag)</p><p>มีความหมายว่าการแข่งขันสามารถดำเนินต่อไปได้ตามปกติ หลังจากมีธงเหลืองแสดงขึ้นก่อนหน้านั้น</p><p><br /></p><p>4.ธงแดง (Red flag)</p><p>ธงนี้ใช้เป็นสัญญาณว่าการแข่งขันได้ยุติลงชั่วขณะ เนื่องจากมีอุบัติเหตุ หรือ สภาพสนามเกิดได้รับความเสียหาย</p><p><br /></p><p>5.ธงน้ำเงิน (Blue flag)</p><p>ธงนี้ใช้สำหรับเตือนนักแข่งว่า รถของนักแข่งคนนั้นๆกำลังจะโดนน็อกรอบ และนักแข่งคนดังกล่าวจะต้องยอมให้รถที่ไล่หลังมาแซงผ่านขึ้นไป</p><p><br /></p><p>ทั้งนี้หากนักแข่งคนใดไม่ปฏิบัติตามเมื่อมีธงน้ำเงินถูกแสดงขึ้นมาให้เห็นอย่างน้อย 3 ครั้งแล้ว นักแข่งคนนั้นก็มีสิทธิ์ที่จะโดนทำโทษ</p><p><br /></p><p>6.ธงเหลืองคาดแดง (Yellow and red striped flag)</p><p><br /></p><p>เป็นการเตือนนักแข่งทุกคนว่าสภาพพื้นสนามในเวลานี้กำลังลื่น อาจจะเป็นเพราะคราบของน้ำมันเครื่อง หรือ มีแอ่งน้ำขังอยู่</p><p><br /></p><p>7.ธงดำมีวงกลมสีส้มล้อมรอบ (Black with orange circle flag)</p><p>หากธงนี้ปรากฏขึ้นเมื่อไหร่ จะมีตัวเลขขึ้นมาบนธงนั้นด้วย โดยรถคันที่มีหมายเลขตรงกับเลขบนธง ถูกเตือนให้ทราบว่ารถคันนั้นกำลังมีปัญหาเกี่ยวกับระบบต่างๆ และจำเป็นต้องกลับเข้าพิตในทันที</p><p><br /></p><p>8.ธงสีดำครึ่งหนึ่งสีขาวครึ่งหนึ่ง (Half black, half white flag)</p><p>หากธงนี้ปรากฏขึ้นเมื่อไหร่ จะมีตัวเลขขึ้นมาเช่นกัน โดยรถคันที่มีหมายเลขบนธง ถูกเตือนให้ทราบว่ารถคันนั้นได้แสดงความไม่มีน้ำใจนักกีฬาออกมา และหากยังมีการกระทำดังกล่าวเกิดซ้ำอีก เจ้าหน้าที่อาจจะโชว์ธงสีดำให้รถคันนั้นแทน</p><p><br /></p><p>9.ธงสีดำ (Black flag)</p><p>ธงนี้ จะบอกว่ารถคันไหนที่จะต้องกลับเข้าพิตในทันที และอาจหมายถึงการที่รถที่เบอร์ปรากฏอยู่บนธงถูกสั่งให้ออกจากการแข่งขันได้เช่นกัน</p><p><br /></p><p>10.ธงขาว (White flag)</p><p>ธงนี้ใช้เตือนว่ามีรถช้าอยู่ข้างหน้า[/QUOTE]</p><p><br /></p>
[QUOTE="TUMKUNG_naraka, post: 769471, member: 31393"][SIZE="4"][B]เครื่องยนต์ และ ระบบเกียร์ (Engine/ gearbox)[/B][/SIZE] เครื่องยนต์ และ ระบบส่งกำลังของรถเอฟวันสมัยใหม่ ถือเป็นเทคโนโลยีที่ร้อนแรง และ ได้รับความสนใจอย่างมาก ที่สำคัญการขับเคี่ยวระหว่างทีมแข่งต่างๆเกี่ยวกับจุดนี้ก็เข้มข้นเสมอมา ว่ากันว่าทุกวันนี้การพัฒนาประสิทธิภาพของเครื่องยนต์ มีแรงผลักดันสำคัญจากวลีอมตะที่อดีตตำนานวิศวกรยานยนต์ผู้ยิ่งใหญ่และล่วงลับไปแล้วก็คือ เฟอร์ดินานด์ ปอร์เช่ เคยกล่าวไว้ก็คือ รถแข่งที่ดีที่สุดคือรถที่เข้าเส้นชัยเป็นคันแรก และจากนั้นก็จะแตกพังเป็นเสี่ยงๆ การออกแบบเครื่องยนต์ในยุคนี้จึงเน้นไปที่การสร้างสมดุลย์ให้เกิดขึ้นระหว่างเครื่องยนต์ที่ให้กำลังมหาศาล แต่ก็ต้องทนทานนานพอสำหรับการวิ่งจนครบการแข่งขัน ถ้าเราได้เห็นวิวัฒนาการในเรื่องพละกำลังของเครื่องยนต์ในรถแข่งเอฟวันจากอดีตจนปัจจุบัน เราจะทึ่งไปกับมันไม่น้อย ย้อนกลับไปในทศวรรษที่ 50 รถแข่งเอฟวันในเวลานั้นสามารถจะรีดพลังออกมาที่ 100 bhp/litre ตัวเลขที่ว่านี้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆเมื่อกาลเวลาผ่านไป เมื่อถึงยุคของเครื่องยนต์เทอร์โบรุ่งเรือง กำลังที่ได้จากเครื่องเอฟวันมีขนาดที่ 750 bhp/litre และมีแนวโน้มว่าตัวเลขนี้จะเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆด้วย จนกระทั่งในปี 1989 ที่มีแนวคิดจะให้กีฬาเอฟวันกลับคืนสู่สามัญ ตัวเลขนั้นเลยลดลง ก่อนจะเพิ่มสูงกลับขึ้นมาจนถึงยุคปัจจุบันนี้ อย่างไรก็ดีความพยายามที่จะทำให้เครื่องยนต์มีกำลังที่มากเกินพอดี ก็พบได้ในทุกการแข่งขัน ที่รถแข่งของทีมแข่งบางทีมมักจะมีปัญหาต้องออกจากการแข่งขันอยู่บ่อยๆเพราะเครื่องพังนั่นเอง สำหรับตัวเลขรอบที่เครื่องยนต์ในรถแข่งเอฟวันทำได้นั้น อยู่ที่ประมาณ 18,000 รอบต่อนาที การสร้างเครื่องยนต์เอฟวันในยุคปัจจุบัน เน้นไปที่ความกระทัดรัดและน้ำหนักที่เบาขึ้น ขณะเดียวกันก็ควรจะอยู่ต่ำที่สุดที่จะเป็นได้เพื่อให้รถมีแรงดึงดูดต่อจุดศูนย์กลางมากขึ้น ระบบเกียร์ในรถแข่งเอฟวันยุคนี้ ล้วนเป็นแบบออโตเมติกทั้งสิ้น โดยนักแข่งสามารถจะเปลี่ยนเกียร์ได้บนพวงมาลัยที่ออกแบบมาอย่างไฮเทค อย่างไรก็ดีในปี 2004 FIA ได้มีมติไม่ให้บรรดาทีมแข่งติดตั้งระบบอำนวยความสะดวกบางอย่างต่อนักแข่งเช่น launch control กับตัวรถ ซึ่งนั่นก็หมายความว่าอย่างน้อยที่สุด นักแข่งก็ต้องแตะกันทุกคนอย่างน้อยหนึ่งครั้งในช่วงของการออกสตาร์ท และอย่างที่ทราบกันดีว่าในปี 2004 FIA ยังได้ออกกฏใหม่ขึ้นมาเกี่ยวกับเครื่องยนต์โดยคำนึงถึงความสิ้นเปลืองของทีมแข่งต่างๆ เมื่อมีการกำหนดว่าทีมแข่งแต่ละทีมจะสามารถใช้เครื่องยนต์ได้เพียงเครื่องเดียวเท่านั้นตลอดทั้งสัปดาห์ที่มีการแข่งขัน รวมถึงการฝึกซ้อม และ ในรอบคัดเลือก โดยมีข้อยกเว้นบางอย่างเช่น หากนักแข่งคนใดต้องการจะเปลี่ยนเครื่องยนต์ก่อนหน้าที่จะเริ่มการแข่งขัน นักแข่งรายนั้นจะต้องยอมถูกร่นอันดับในการออกสตาร์ทจริงลงไปอีก 10 อันดับจากอันดับที่ทำได้ในรอบคัดเลือก ธง (Flags) เจ้าหน้าที่ในแต่ละจุดของสนาม จะมีธงหลายๆสีอยู่กับตัว โดยธงเหล่านี้จะถูกใช้ในการสื่อสารกับนักแข่ง ซึ่งความหมายของธงแต่ละสีนี้เป็นเช่นไร มาดูกันครับ 1. ธงตราหมากรุก (Chequered flag) เมื่อมีธงนี้ขึ้นมาหมายความว่าการแข่งขันได้จบสิ้นแล้ว ในการแข่งขันจริง ธงนี้จะถูกใช้เมื่อมีนักแข่งทะยานเข้าเส้นชัยเป็นคนแรกได้สำเร็จ ขณะเดียวกันรถที่ไล่หลังมาจากนั้นทุกคันก็จะได้รับการตีธงให้เช่นกัน 2. ธงเหลือง (Yellow flag) ธงนี้ใช้สื่อถึงว่ามีอันตรายเกิดขึ้น อาทิเช่น มีรถจอดขวางทางอยู่ด้านหน้า หากเจ้าหน้าที่สนามตีธงเหลืองนี้เป็นจำนวน 1 ครั้ง นั่นหมายความว่าต้องการให้รถแข่งในสนามใช้ความเร็วลดลง แต่ถ้าหากเป็นการตีธงเหลืองพร้อมกัน 2 อัน หมายความว่านักแข่งจะต้องเตรียมพร้อมสำหรับการบังคับรถหยุดนิ่งทุกขณะถ้ามีความจำเป็น ทั้งนี้ในช่วงที่มีสัญญาณธงเหลืองขึ้นมา ห้ามไม่ให้มีการแซงกันเกิดขึ้น 3.ธงเขียว (Green flag) มีความหมายว่าการแข่งขันสามารถดำเนินต่อไปได้ตามปกติ หลังจากมีธงเหลืองแสดงขึ้นก่อนหน้านั้น 4.ธงแดง (Red flag) ธงนี้ใช้เป็นสัญญาณว่าการแข่งขันได้ยุติลงชั่วขณะ เนื่องจากมีอุบัติเหตุ หรือ สภาพสนามเกิดได้รับความเสียหาย 5.ธงน้ำเงิน (Blue flag) ธงนี้ใช้สำหรับเตือนนักแข่งว่า รถของนักแข่งคนนั้นๆกำลังจะโดนน็อกรอบ และนักแข่งคนดังกล่าวจะต้องยอมให้รถที่ไล่หลังมาแซงผ่านขึ้นไป ทั้งนี้หากนักแข่งคนใดไม่ปฏิบัติตามเมื่อมีธงน้ำเงินถูกแสดงขึ้นมาให้เห็นอย่างน้อย 3 ครั้งแล้ว นักแข่งคนนั้นก็มีสิทธิ์ที่จะโดนทำโทษ 6.ธงเหลืองคาดแดง (Yellow and red striped flag) เป็นการเตือนนักแข่งทุกคนว่าสภาพพื้นสนามในเวลานี้กำลังลื่น อาจจะเป็นเพราะคราบของน้ำมันเครื่อง หรือ มีแอ่งน้ำขังอยู่ 7.ธงดำมีวงกลมสีส้มล้อมรอบ (Black with orange circle flag) หากธงนี้ปรากฏขึ้นเมื่อไหร่ จะมีตัวเลขขึ้นมาบนธงนั้นด้วย โดยรถคันที่มีหมายเลขตรงกับเลขบนธง ถูกเตือนให้ทราบว่ารถคันนั้นกำลังมีปัญหาเกี่ยวกับระบบต่างๆ และจำเป็นต้องกลับเข้าพิตในทันที 8.ธงสีดำครึ่งหนึ่งสีขาวครึ่งหนึ่ง (Half black, half white flag) หากธงนี้ปรากฏขึ้นเมื่อไหร่ จะมีตัวเลขขึ้นมาเช่นกัน โดยรถคันที่มีหมายเลขบนธง ถูกเตือนให้ทราบว่ารถคันนั้นได้แสดงความไม่มีน้ำใจนักกีฬาออกมา และหากยังมีการกระทำดังกล่าวเกิดซ้ำอีก เจ้าหน้าที่อาจจะโชว์ธงสีดำให้รถคันนั้นแทน 9.ธงสีดำ (Black flag) ธงนี้ จะบอกว่ารถคันไหนที่จะต้องกลับเข้าพิตในทันที และอาจหมายถึงการที่รถที่เบอร์ปรากฏอยู่บนธงถูกสั่งให้ออกจากการแข่งขันได้เช่นกัน 10.ธงขาว (White flag) ธงนี้ใช้เตือนว่ามีรถช้าอยู่ข้างหน้า[/QUOTE]
Log in with Facebook
Log in with Twitter
Log in with Google
Your name or email address:
Do you already have an account?
No, create an account now.
Yes, my password is:
Forgot your password?
Stay logged in
RacingWeb.NET | The Racing Cars Community on Web.
Forums
>
RacingWeb Community
>
Motorsport Forum
>
Formula 1
>
ข้อมูลความรู้เกี่ยวกับรถ Formula 1
>
X
Home
Home
Quick Links
Recent Posts
Recent Activity
Authors
Forums
Forums
Quick Links
Search Forums
Recent Posts
Classifieds
Classifieds
Quick Links
Search Classifieds
Recent Activity
Top Rated Traders
Media
Media
Quick Links
Search Media
New Media
Members
Members
Quick Links
Notable Members
Registered Members
Current Visitors
Recent Activity
New Profile Posts
Menu
Search titles only
Posted by Member:
Separate names with a comma.
Newer Than:
Search this thread only
Search this forum only
Display results as threads
Useful Searches
Recent Posts
More...