เข้าสู่ระบบหรือลงทะเบียน
ติดต่อลงโฆษณา
[email protected]
หรือโทร. 081-811-1138 หรืออ่านรายละเอียดเพิ่มเติม คลิกที่นี่
RacingWeb.NET | The Racing Cars Community on Web.
ฟอรั่ม
>
Portal
>
Articles
>
เชฟโรเลตแนะเคล็ดลับประหยัดน้ำมันในยุคเศรษฐกิจตกสะเก็ด
>
ตอบกลับหัวข้อ
ชื่อ:
การตรวจสอบ:
กรุณาเปิดใช้งานจาวาสคริปต์เพื่อดำเนินการต่อ
กำลังโหลด...
ข้อความ:
<p>[QUOTE="News, post: 7108219, member: 3"]<p style="text-align: center"><img src="https://i.imgur.com/hCxeZHz.jpg" class="bbCodeImage wysiwygImage" alt="" unselectable="on" /></p><p><br /></p><p>สำนักข่าว บลูมเบิร์ก หน้าเศรษฐกิจ ระบุว่า ราคาน้ำมันสูงขึ้น 50 เปอร์เซ็นต์ จากปีก่อน และหลายประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานสูงขึ้น ในส่วนของประเทศไทย กระทรวงพาณิชย์ได้มีการคาดการณ์เงินเฟ้อปีนี้ที่ 0.8-1.6 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่อัตราเงินเฟ้อกระตุ้นให้รัฐบาลทั่วภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ให้ความช่วยเหลือแก่ผู้บริโภคผ่านการอุดหนุนพลังงานเชื้อเพลิง ผู้บริโภคสามารถลดค่าใช้จ่ายลงได้ ด้วยการปฏิบัติตามเคล็ดลับการประหยัดน้ำมันที่แนะนำโดยเชฟโรเลต ดังนี้</p><p><br /></p><p><b>ปรับตั้งเครื่องยนต์อย่างถูกต้อง</b></p><p>สำนักงานปกป้องสิ่งแวดล้อมสหรัฐหรืออีพีเอ (Environmental Protection Agency -EPA) เผยว่า เครื่องยนต์ที่มีการปรับตั้งที่ถูกต้องจะช่วยประหยัดน้ำมันเพิ่มขึ้นประมาณ 4 เปอร์เซ็นต์ นอกจากนี้ การแก้ไขปัญหาที่สำคัญ เช่น เซ็นเซอร์วัดปริมาณออกซิเจนทำงานผิดปกติ จะสามารถช่วยเพิ่มระยะทางในการขับขี่ได้มากขึ้น 40 เปอร์เซ็นต์ และผู้ขับขี่ไม่ควรละเลยสัญญาณไฟเตือนให้นำรถเข้าไปตรวจสอบ</p><p><br /></p><p><b>ตรวจสอบแรงดันลมยาง</b></p><p>การเติมลมยางที่เหมาะสมสามารถเพิ่มระยะทางในการขับขี่ได้มากขึ้นถึง 3.3 เปอร์เซ็นต์ และช่วยให้ปลอดภัยและใช้งานได้ยาวนานขึ้น ยางที่มีลมยางอ่อนอาจทำให้อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเพิ่มสูงขึ้น 0.3 เปอร์เซ็นต์ สำหรับทุกหนึ่งปอนด์ต่อตารางนิ้วของความดันลมยางที่ตกลงทั้งสี่ล้อ ทั้งนี้ สำหรับการตรวจสอบลมยาง ผู้ขับขี่ไม่ควรตรวจสอบแค่จากในระบบเพียงอย่างเดียว แต่ควรตรวจเช็คสภาพลมยางด้วยอุปกรณ์วัดลมยางที่ดีอย่างน้อยเดือนละครั้ง และหากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม โปรดอ่านคู่มือการใช้งานรถยนต์ของคุณ</p><p><br /></p><p><b>แก้ไขปัญหาสิ่งอุดตัน</b></p><p>หากคุณหายใจไม่ออก คุณก็จะเคลื่อนไหวได้ยากลำบาก เครื่องยนต์ก็เช่นกัน เครื่องกรองอากาศที่เต็มไปด้วยสิ่งสกปรกจะทำให้เครื่องยนต์ทำงานอย่างหนัก และสิ่งแปลกปลอมอาจทำลายเครื่องยนต์ได้ การเปลี่ยนไส้กรองที่อุดตันจะช่วยเพิ่มการประสิทธิภาพในการประหยัดน้ำมันขึ้น 14 เปอร์เซ็นต์ ตามข้อมูลของสำนักงานปกป้องสิ่งแวดล้อมสหรัฐหรืออีพีเอ ระบุว่า ในรถยนต์สมัยใหม่ การเปลี่ยนไส้กรองที่อุดตันและสกปรกจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้รถยนต์มีการเร่งความเร็วที่ดีขึ้น</p><p><br /></p><p><b>เลือกใช้น้ำมันเครื่องให้เหมาะสม</b></p><p>การใช้น้ำมันเครื่องจะช่วยลดการเสียดสีของเครื่องยนต์ เพราะการเสียดสีนั้นจะทำให้เครื่องยนต์ทำงานได้ยากขึ้น ดังนั้น การใช้น้ำมันเครื่องตามที่บริษัทผู้ผลิตรถแนะนำจะช่วยเพิ่มการประหยัดน้ำมันขึ้นอีก 1-2 เปอร์เซ็นต์</p><p><br /></p><p><b>ตรวจสอบฝาถังน้ำมัน</b></p><p>ฝาถังน้ำมันที่หลวมหรือปิดไม่สนิท ไม่เพียงแต่จะทำให้ "ไฟเตือนรูปเครื่องยนต์" แจ้งเตือน แต่ยังเป็นเหตุทำให้น้ำมันระเหยไปหลายล้านลิตรในทุกๆ ปี ฝาถังน้ำมันที่หลวมหรือปิดไม่สนิทจะทำให้การประหยัดน้ำมันลดลง 1-2 เปอร์เซ็นต์</p><p><br /></p><p><b>หลีกเลี่ยงสิ่งของที่มีขนาดใหญ่กว่าปกติ</b></p><p>การมีล้อขนาดใหญ่เต็มซุ้มล้อ และยางอัลตราโลว์โปรไฟล์อาจจะทำให้รถดูน่ามอง แต่จะเพิ่มอัตราการบริโภคน้ำมันให้สูงขึ้น นอกจากนี้ ล้อและยางที่มีขนาดใหญ่ยังทำให้แรงต้านการหมุนของล้อเพิ่มขึ้น เพิ่มน้ำหนักใต้สปริงของช่วงล่าง (Un-sprung weight) และส่งผลต่อหลักอากาศพลศาสตร์ ซึ่งทำให้ใช้น้ำมันมากขึ้น และอาจส่งผลต่อประสิทธิภาพการขับขี่ ในกรณีร้ายแรงอาจเป็นอันตรายต่อการเบรกและการควบคุมรถ</p><p><br /></p><p><b>วางแผนการเดินทางของคุณ</b></p><p>ควรวางแผนการเดินทางให้ดี ไม่ว่าจะเป็นการพาลูกไปโรงเรียน การไปซื้อของใช้จำเป็น เพื่อหลีกเลี่ยงช่วงเวลาที่มีการจราจรติดขัด</p><p><br /></p><p><b>นำสิ่งของที่ไม่จำเป็นออกจากรถ</b></p><p>การบรรทุกสัมภาระที่มากเกินไปทำให้รถของคุณต้องใช้กำลังและสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงในการขับเคลื่อนเพิ่มขึ้น สำนักงานปกป้องสิ่งแวดล้อมสหรัฐหรืออีพีเอ ระบุว่า น้ำหนักที่เพิ่มขึ้น 45 กิโลกรัม จะทำให้ประสิทธิภาพในการประหยัดน้ำมันลดลง 2 เปอร์เซ็นต์ และอาจจะลดลงมากขึ้นสำหรับรถยนต์ขนาดเล็ก การบรรทุกของหนักบนราวบนหลังคารถยนต์ทำให้ประสิทธิภาพในการประหยัดน้ำมันลดลงถึง 5 เปอร์เซ็นต์ น้ำมันประมาณหนึ่งในสี่ลิตรของน้ำมันเชื้อเพลิงจะถูกเผาผลาญเมื่อรถต้องต้านกับแรงลม ดังนั้น เมื่อรถมีการบรรทุกสัมภาระไว้บนหลังคาจะทำให้การประหยัดน้ำมันลดลง</p><p><br /></p><p><b>ขับรถให้ช้าลง</b></p><p>การขับรถเคลื่อนที่ไปข้างหน้าจะใช้น้ำมันมากกว่าการรักษาความเร็วให้คงที่ เหยียบคันเร่งอย่างนุ่มนวล เมื่อออกจากทางแยกหรือสัญญาณไฟจราจร หลีกเลี่ยงการเร่งรถอย่างรวดเร็ว การใช้ความเร็วมากเกินไป และการเบรกอย่างรุนแรง ซึ่งจะทำให้การประหยัดน้ำมันลดลง 33 เปอร์เซ็นต์ บนทางหลวง และลดลง 5 เปอร์เซ็นต์ สำหรับการขับรถในเมือง การขับรถที่ความเร็ว 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จะช่วยให้ประหยัดน้ำมันได้ 10-15 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งประหยัดกว่าการขับด้วยความเร็ว 104 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ตามข้อมูลทางทรัพยากรธรรมชาติของประเทศแคนาดา (Natural Resources Canada) ความเร็วที่ช่วยประหยัดน้ำมันมากที่สุด สำหรับรถส่วนมากจะอยู่ระหว่าง 50-80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง</p><p><br /></p><p><b>หลีกเลี่ยงการจอดรถแบบติดเครื่องยนต์นานเกินไป</b></p><p>เมื่อคุณต้องขับรถอยู่ท่ามกลางการจราจรที่ติดขัด หากอากาศไม่ร้อนเกินไป ขอแนะนำให้ดับเครื่องยนต์ การจอดรถโดยที่ติดเครื่องยนต์ไว้จะเผาผลาญน้ำมันอย่างไร้ประโยชน์ รถคันหนึ่งจะกินน้ำมันศูนย์กิโลเมตรต่อหนึ่งลิตร เมื่อเครื่องยนต์ไม่ทำงาน ขณะที่การสตาร์ทรถใหม่จะใช้น้ำมันเพียงเล็กน้อย แต่การจอดรถติดเครื่องยนต์ทิ้งไว้ 15 นาที จะเผาผลาญน้ำมันเกือบหนึ่งลิตร</p><p><br /></p><p><b>ใช้ระบบปรับอากาศอย่างชาญฉลาด</b></p><p>เครื่องปรับอากาศในรถยนต์ลดประสิทธิภาพในการประหยัดน้ำมันลง 10 เปอร์เซ็นต์ ถ้าสภาพอากาศภายนอกเอื้ออำนวย แนะนำให้ปรับเพิ่มแรงลมให้สูงขึ้น เพื่อหมุนเวียนอากาศแทนการปรับลดอุณหภูมิลง และหลีกเลี่ยงการใช้เครื่องปรับอากาศหากขับขี่ด้วยความเร็วต่ำกว่า 64 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยสามารถปิดแอร์และเปิดหน้าต่างแทนได้ถ้าอากาศดี แต่ถ้าหากขับด้วยความเร็วเกินกว่า 72 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แล้วเปิดหน้าต่างรับอากาศจากด้านนอกแรงฉุดของลมที่ไหลเวียนเข้ามาทางหน้าต่างจะทำให้รถกินน้ำมันมากกว่าการเปิดแอร์</p><p><br /></p><p><b>ใช้เกียร์สูง</b></p><p>เมื่อขับรถด้วยเกียร์ธรรมดาให้ใช้เกียร์สูงที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพื่อรักษารอบเครื่องยนต์ให้ต่ำเนื่องจากการหมุนรอบเครื่องยนต์ต่ำจะใช้น้ำมันที่น้อยกว่า แต่ไม่ควรขับขี่เช่นนี้มากเกินไป เพราะจะฉุดกำลังเครื่องยนต์ ทำให้เครื่องยนต์หยุดทำงาน หากขับขี่รถเกียร์อัตโนมัติ ควรผ่อนคันเร่งเล็กน้อย ในจังหวะที่ระบบเกียร์เปลี่ยนไปสู่เกียร์ที่สูงขึ้น รถเชฟโรเลตทุกรุ่นใช้เกียร์อัตโนมัติแบบ 6 สปีด ซึ่งมีอัตราการทดเกียร์ที่สูงกว่า ช่วยลดรอบเครื่องยนต์ขณะขับขี่ด้วยความเร็วสูงคงที่และประหยัดน้ำมัน</p><p><br /></p><p><b>ใช้ระบบควบคุมความเร็วให้คงที่อัตโนมัติ (ครูสคอนโทรล)</b></p><p>ถ้ารถของคุณมาพร้อมระบบครูสคอนโทรล ให้เปิดใช้ระบบนี้ โดยเฉพาะการขับรถบนทางหลวง ระบบครูสคอนโทรลจะช่วยป้องกันไม่ให้ขับรถเร็วเกินกำหนด และช่วยประหยัดน้ำมัน ผ่านการเร่งและผ่อนความเร็วอย่างนุ่มนวล ซึ่งระบบจะมีประสิทธิภาพมากที่สุด เมื่อใช้ร่วมกับโหมด "ประหยัด" หรือโหมด "ออโต้" ทั้งนี้ ไม่ควรใช้ระบบดังกล่าวในช่วงที่ฝนตกหนักหรือบนถนนที่เปียกลื่น</p><p><br /></p><p><b>ลดความเร็วลงอย่างนุ่มนวลหรือเปลี่ยนเกียร์จากเกียร์สูงมาเกียร์ต่ำจนรถจอดสนิท</b></p><p>เมื่อขับรถเกียร์อัตโนมัติในสภาพการจราจรที่หนาแน่น คุณสามารถขับรถเคลื่อนไปข้างหน้าอย่างช้าๆ เพราะรถจะแล่นไปข้างหน้าโดยอัตโนมัติ หากขับรถเกียร์ธรรมดา ให้ลดเกียร์ลงอย่างต่อเนื่องจนรถจอดสนิท ผู้ขับขี่สามารถถอนคันเร่งออก ขณะที่ยังใส่เกียร์เดินหน้าอยู่ได้ เครื่องยนต์สมัยใหม่แทบจะไม่ใช้น้ำมัน และเพียงพอต่อการเลี้ยงเครื่องยนต์ไม่ให้ดับ เครื่องยนต์จะใช้น้ำมันมากกว่าถ้าอยู่เกียร์ว่าง ขณะรถจอดนิ่ง[/QUOTE]</p><p><br /></p>
[QUOTE="News, post: 7108219, member: 3"][center][img]https://i.imgur.com/hCxeZHz.jpg[/img][/center] สำนักข่าว บลูมเบิร์ก หน้าเศรษฐกิจ ระบุว่า ราคาน้ำมันสูงขึ้น 50 เปอร์เซ็นต์ จากปีก่อน และหลายประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานสูงขึ้น ในส่วนของประเทศไทย กระทรวงพาณิชย์ได้มีการคาดการณ์เงินเฟ้อปีนี้ที่ 0.8-1.6 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่อัตราเงินเฟ้อกระตุ้นให้รัฐบาลทั่วภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ให้ความช่วยเหลือแก่ผู้บริโภคผ่านการอุดหนุนพลังงานเชื้อเพลิง ผู้บริโภคสามารถลดค่าใช้จ่ายลงได้ ด้วยการปฏิบัติตามเคล็ดลับการประหยัดน้ำมันที่แนะนำโดยเชฟโรเลต ดังนี้ [b]ปรับตั้งเครื่องยนต์อย่างถูกต้อง[/b] สำนักงานปกป้องสิ่งแวดล้อมสหรัฐหรืออีพีเอ (Environmental Protection Agency -EPA) เผยว่า เครื่องยนต์ที่มีการปรับตั้งที่ถูกต้องจะช่วยประหยัดน้ำมันเพิ่มขึ้นประมาณ 4 เปอร์เซ็นต์ นอกจากนี้ การแก้ไขปัญหาที่สำคัญ เช่น เซ็นเซอร์วัดปริมาณออกซิเจนทำงานผิดปกติ จะสามารถช่วยเพิ่มระยะทางในการขับขี่ได้มากขึ้น 40 เปอร์เซ็นต์ และผู้ขับขี่ไม่ควรละเลยสัญญาณไฟเตือนให้นำรถเข้าไปตรวจสอบ [b]ตรวจสอบแรงดันลมยาง[/b] การเติมลมยางที่เหมาะสมสามารถเพิ่มระยะทางในการขับขี่ได้มากขึ้นถึง 3.3 เปอร์เซ็นต์ และช่วยให้ปลอดภัยและใช้งานได้ยาวนานขึ้น ยางที่มีลมยางอ่อนอาจทำให้อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเพิ่มสูงขึ้น 0.3 เปอร์เซ็นต์ สำหรับทุกหนึ่งปอนด์ต่อตารางนิ้วของความดันลมยางที่ตกลงทั้งสี่ล้อ ทั้งนี้ สำหรับการตรวจสอบลมยาง ผู้ขับขี่ไม่ควรตรวจสอบแค่จากในระบบเพียงอย่างเดียว แต่ควรตรวจเช็คสภาพลมยางด้วยอุปกรณ์วัดลมยางที่ดีอย่างน้อยเดือนละครั้ง และหากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม โปรดอ่านคู่มือการใช้งานรถยนต์ของคุณ [b]แก้ไขปัญหาสิ่งอุดตัน[/b] หากคุณหายใจไม่ออก คุณก็จะเคลื่อนไหวได้ยากลำบาก เครื่องยนต์ก็เช่นกัน เครื่องกรองอากาศที่เต็มไปด้วยสิ่งสกปรกจะทำให้เครื่องยนต์ทำงานอย่างหนัก และสิ่งแปลกปลอมอาจทำลายเครื่องยนต์ได้ การเปลี่ยนไส้กรองที่อุดตันจะช่วยเพิ่มการประสิทธิภาพในการประหยัดน้ำมันขึ้น 14 เปอร์เซ็นต์ ตามข้อมูลของสำนักงานปกป้องสิ่งแวดล้อมสหรัฐหรืออีพีเอ ระบุว่า ในรถยนต์สมัยใหม่ การเปลี่ยนไส้กรองที่อุดตันและสกปรกจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้รถยนต์มีการเร่งความเร็วที่ดีขึ้น [b]เลือกใช้น้ำมันเครื่องให้เหมาะสม[/b] การใช้น้ำมันเครื่องจะช่วยลดการเสียดสีของเครื่องยนต์ เพราะการเสียดสีนั้นจะทำให้เครื่องยนต์ทำงานได้ยากขึ้น ดังนั้น การใช้น้ำมันเครื่องตามที่บริษัทผู้ผลิตรถแนะนำจะช่วยเพิ่มการประหยัดน้ำมันขึ้นอีก 1-2 เปอร์เซ็นต์ [b]ตรวจสอบฝาถังน้ำมัน[/b] ฝาถังน้ำมันที่หลวมหรือปิดไม่สนิท ไม่เพียงแต่จะทำให้ "ไฟเตือนรูปเครื่องยนต์" แจ้งเตือน แต่ยังเป็นเหตุทำให้น้ำมันระเหยไปหลายล้านลิตรในทุกๆ ปี ฝาถังน้ำมันที่หลวมหรือปิดไม่สนิทจะทำให้การประหยัดน้ำมันลดลง 1-2 เปอร์เซ็นต์ [b]หลีกเลี่ยงสิ่งของที่มีขนาดใหญ่กว่าปกติ[/b] การมีล้อขนาดใหญ่เต็มซุ้มล้อ และยางอัลตราโลว์โปรไฟล์อาจจะทำให้รถดูน่ามอง แต่จะเพิ่มอัตราการบริโภคน้ำมันให้สูงขึ้น นอกจากนี้ ล้อและยางที่มีขนาดใหญ่ยังทำให้แรงต้านการหมุนของล้อเพิ่มขึ้น เพิ่มน้ำหนักใต้สปริงของช่วงล่าง (Un-sprung weight) และส่งผลต่อหลักอากาศพลศาสตร์ ซึ่งทำให้ใช้น้ำมันมากขึ้น และอาจส่งผลต่อประสิทธิภาพการขับขี่ ในกรณีร้ายแรงอาจเป็นอันตรายต่อการเบรกและการควบคุมรถ [b]วางแผนการเดินทางของคุณ[/b] ควรวางแผนการเดินทางให้ดี ไม่ว่าจะเป็นการพาลูกไปโรงเรียน การไปซื้อของใช้จำเป็น เพื่อหลีกเลี่ยงช่วงเวลาที่มีการจราจรติดขัด [b]นำสิ่งของที่ไม่จำเป็นออกจากรถ[/b] การบรรทุกสัมภาระที่มากเกินไปทำให้รถของคุณต้องใช้กำลังและสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงในการขับเคลื่อนเพิ่มขึ้น สำนักงานปกป้องสิ่งแวดล้อมสหรัฐหรืออีพีเอ ระบุว่า น้ำหนักที่เพิ่มขึ้น 45 กิโลกรัม จะทำให้ประสิทธิภาพในการประหยัดน้ำมันลดลง 2 เปอร์เซ็นต์ และอาจจะลดลงมากขึ้นสำหรับรถยนต์ขนาดเล็ก การบรรทุกของหนักบนราวบนหลังคารถยนต์ทำให้ประสิทธิภาพในการประหยัดน้ำมันลดลงถึง 5 เปอร์เซ็นต์ น้ำมันประมาณหนึ่งในสี่ลิตรของน้ำมันเชื้อเพลิงจะถูกเผาผลาญเมื่อรถต้องต้านกับแรงลม ดังนั้น เมื่อรถมีการบรรทุกสัมภาระไว้บนหลังคาจะทำให้การประหยัดน้ำมันลดลง [b]ขับรถให้ช้าลง[/b] การขับรถเคลื่อนที่ไปข้างหน้าจะใช้น้ำมันมากกว่าการรักษาความเร็วให้คงที่ เหยียบคันเร่งอย่างนุ่มนวล เมื่อออกจากทางแยกหรือสัญญาณไฟจราจร หลีกเลี่ยงการเร่งรถอย่างรวดเร็ว การใช้ความเร็วมากเกินไป และการเบรกอย่างรุนแรง ซึ่งจะทำให้การประหยัดน้ำมันลดลง 33 เปอร์เซ็นต์ บนทางหลวง และลดลง 5 เปอร์เซ็นต์ สำหรับการขับรถในเมือง การขับรถที่ความเร็ว 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จะช่วยให้ประหยัดน้ำมันได้ 10-15 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งประหยัดกว่าการขับด้วยความเร็ว 104 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ตามข้อมูลทางทรัพยากรธรรมชาติของประเทศแคนาดา (Natural Resources Canada) ความเร็วที่ช่วยประหยัดน้ำมันมากที่สุด สำหรับรถส่วนมากจะอยู่ระหว่าง 50-80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง [b]หลีกเลี่ยงการจอดรถแบบติดเครื่องยนต์นานเกินไป[/b] เมื่อคุณต้องขับรถอยู่ท่ามกลางการจราจรที่ติดขัด หากอากาศไม่ร้อนเกินไป ขอแนะนำให้ดับเครื่องยนต์ การจอดรถโดยที่ติดเครื่องยนต์ไว้จะเผาผลาญน้ำมันอย่างไร้ประโยชน์ รถคันหนึ่งจะกินน้ำมันศูนย์กิโลเมตรต่อหนึ่งลิตร เมื่อเครื่องยนต์ไม่ทำงาน ขณะที่การสตาร์ทรถใหม่จะใช้น้ำมันเพียงเล็กน้อย แต่การจอดรถติดเครื่องยนต์ทิ้งไว้ 15 นาที จะเผาผลาญน้ำมันเกือบหนึ่งลิตร [b]ใช้ระบบปรับอากาศอย่างชาญฉลาด[/b] เครื่องปรับอากาศในรถยนต์ลดประสิทธิภาพในการประหยัดน้ำมันลง 10 เปอร์เซ็นต์ ถ้าสภาพอากาศภายนอกเอื้ออำนวย แนะนำให้ปรับเพิ่มแรงลมให้สูงขึ้น เพื่อหมุนเวียนอากาศแทนการปรับลดอุณหภูมิลง และหลีกเลี่ยงการใช้เครื่องปรับอากาศหากขับขี่ด้วยความเร็วต่ำกว่า 64 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยสามารถปิดแอร์และเปิดหน้าต่างแทนได้ถ้าอากาศดี แต่ถ้าหากขับด้วยความเร็วเกินกว่า 72 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แล้วเปิดหน้าต่างรับอากาศจากด้านนอกแรงฉุดของลมที่ไหลเวียนเข้ามาทางหน้าต่างจะทำให้รถกินน้ำมันมากกว่าการเปิดแอร์ [b]ใช้เกียร์สูง[/b] เมื่อขับรถด้วยเกียร์ธรรมดาให้ใช้เกียร์สูงที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพื่อรักษารอบเครื่องยนต์ให้ต่ำเนื่องจากการหมุนรอบเครื่องยนต์ต่ำจะใช้น้ำมันที่น้อยกว่า แต่ไม่ควรขับขี่เช่นนี้มากเกินไป เพราะจะฉุดกำลังเครื่องยนต์ ทำให้เครื่องยนต์หยุดทำงาน หากขับขี่รถเกียร์อัตโนมัติ ควรผ่อนคันเร่งเล็กน้อย ในจังหวะที่ระบบเกียร์เปลี่ยนไปสู่เกียร์ที่สูงขึ้น รถเชฟโรเลตทุกรุ่นใช้เกียร์อัตโนมัติแบบ 6 สปีด ซึ่งมีอัตราการทดเกียร์ที่สูงกว่า ช่วยลดรอบเครื่องยนต์ขณะขับขี่ด้วยความเร็วสูงคงที่และประหยัดน้ำมัน [b]ใช้ระบบควบคุมความเร็วให้คงที่อัตโนมัติ (ครูสคอนโทรล)[/b] ถ้ารถของคุณมาพร้อมระบบครูสคอนโทรล ให้เปิดใช้ระบบนี้ โดยเฉพาะการขับรถบนทางหลวง ระบบครูสคอนโทรลจะช่วยป้องกันไม่ให้ขับรถเร็วเกินกำหนด และช่วยประหยัดน้ำมัน ผ่านการเร่งและผ่อนความเร็วอย่างนุ่มนวล ซึ่งระบบจะมีประสิทธิภาพมากที่สุด เมื่อใช้ร่วมกับโหมด "ประหยัด" หรือโหมด "ออโต้" ทั้งนี้ ไม่ควรใช้ระบบดังกล่าวในช่วงที่ฝนตกหนักหรือบนถนนที่เปียกลื่น [b]ลดความเร็วลงอย่างนุ่มนวลหรือเปลี่ยนเกียร์จากเกียร์สูงมาเกียร์ต่ำจนรถจอดสนิท[/b] เมื่อขับรถเกียร์อัตโนมัติในสภาพการจราจรที่หนาแน่น คุณสามารถขับรถเคลื่อนไปข้างหน้าอย่างช้าๆ เพราะรถจะแล่นไปข้างหน้าโดยอัตโนมัติ หากขับรถเกียร์ธรรมดา ให้ลดเกียร์ลงอย่างต่อเนื่องจนรถจอดสนิท ผู้ขับขี่สามารถถอนคันเร่งออก ขณะที่ยังใส่เกียร์เดินหน้าอยู่ได้ เครื่องยนต์สมัยใหม่แทบจะไม่ใช้น้ำมัน และเพียงพอต่อการเลี้ยงเครื่องยนต์ไม่ให้ดับ เครื่องยนต์จะใช้น้ำมันมากกว่าถ้าอยู่เกียร์ว่าง ขณะรถจอดนิ่ง[/QUOTE]
เข้าสู่ระบบด้วย Facebook
เข้าสู่ระบบด้วย Twitter
เข้าสู่ระบบด้วย Google
ชื่อผู้ใช้งานหรือที่อยู่อีเมล์ของคุณ:
คุณมีบัญชีผู้ใช้หรือไม่?
ไม่มี, สร้างบัญชีผู้ใช้ตอนนี้
มี, รหัสผ่านของฉันคือ:
ลืมรหัสผ่านของคุณ?
อยู่ในระบบตลอดเวลา
RacingWeb.NET | The Racing Cars Community on Web.
ฟอรั่ม
>
Portal
>
Articles
>
เชฟโรเลตแนะเคล็ดลับประหยัดน้ำมันในยุคเศรษฐกิจตกสะเก็ด
>
X
หน้าแรก
หน้าแรก
Quick Links
โพสต์ล่าสุด
กิจกรรมล่าสุด
ผู้เขียน
ฟอรั่ม
ฟอรั่ม
Quick Links
ค้นหาฟอรั่ม
โพสต์ล่าสุด
ประกาศซื้อขาย
ประกาศซื้อขาย
Quick Links
ค้นหาประกาศซื้อขาย
กิจกรรมล่าสุด
ผู้ค้าขายคะแนนสูงสุด
สื่อ/วิดีโอ
สื่อ/วิดีโอ
Quick Links
Search Media
New Media
สมาชิก
สมาชิก
Quick Links
สมาชิกที่โดดเด่น
สมาชิกที่ลงทะเบียน
ผู้ใช้งานในขณะนี้
กิจกรรมล่าสุด
โพสต์ข้อมูลส่วนตัวใหม่
เมนู
ค้นหาเฉพาะชื่อ
โพสต์โดยสมาชิก:
แยกชื่อด้วยเครื่องหมายจุลภาค
ใหม่กว่า:
ค้นหาเฉพาะหัวข้อนี้
ค้นหาเฉพาะฟอรั่มนี้
แสดงผลเป็นหัวข้อ
การค้นหาที่มีประโยชน์
โพสต์ล่าสุด
เพิ่มเติม...