เข้าสู่ระบบหรือลงทะเบียน
ติดต่อลงโฆษณา
[email protected]
หรือโทร. 081-811-1138 หรืออ่านรายละเอียดเพิ่มเติม คลิกที่นี่
RacingWeb.NET | The Racing Cars Community on Web.
ฟอรั่ม
>
Portal
>
Articles
>
5 เทคนิคขับขี่ออฟโรดให้สนุกและปลอดภัย โดยวิศวกรผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของ Ford Everest ใหม่
>
ตอบกลับหัวข้อ
ชื่อ:
การตรวจสอบ:
กรุณาเปิดใช้งานจาวาสคริปต์เพื่อดำเนินการต่อ
กำลังโหลด...
ข้อความ:
<p>[QUOTE="News, post: 7110176, member: 3"]<p style="text-align: center"><img src="https://i.imgur.com/PoifiFT.jpg" class="bbCodeImage wysiwygImage" alt="" unselectable="on" /></p><p><br /></p><p>หากพูดถึงการขับขี่ออฟโรด หลายๆ คนคงนึกถึงภาพการเดินทางที่แสนสมบุกสมบันแถมทดสอบทักษะนักขับได้เป็นอย่างดี แต่นอกเหนือจากความสนุกและประสบการณ์สุดท้าทายที่ได้รับ สิ่งที่สำคัญไม่แพ้กันคือผู้ขับขี่จะต้องมีความรู้และความเชี่ยวชาญในการผจญภัยแบบออฟโรดเพื่อความปลอดภัยต่อตัวเองและเพื่อนร่วมท้องถนน เพราะการขับขี่ออฟโรดนั้นเต็มไปด้วยความท้าทายและอาจไม่สะดวกสบายเหมือนการขับรถบนถนนพื้นผิวเรียบทั่วไปเหมือนในชีวิตประจำวัน</p><p>ทีมวิศวกรของ Ford Everest ใหม่ ได้แนะนำเทคนิคดีๆ ที่จะทำให้คุณสามารถออกเดินทางบนทุกพื้นผิวที่ท้าทายและขับขี่ได้อย่างปลอดภัยเมื่อออกผจญภัยแบบออฟโรด</p><p><br /></p><p><b>1. เตรียมตัวให้พร้อม</b></p><p>การขับขี่แบบออฟโรดนับเป็นเรื่องท้าทายที่เราไม่ควรประมาท ดังนั้น การวางแผนการเดินทางอย่างละเอียด การเตรียมอุปกรณ์ช่วยเหลือและเตรียมรถให้พร้อมใช้งานเต็มกำลังจึงเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างยิ่ง แนะนำให้เตรียมเช็คลิสต์สำหรับการเดินทางโดยเริ่มตั้งแต่ เติมน้ำมันให้เต็มถัง เตรียมเชือกสำหรับลากรถ ยางสำรอง ชุดอุปกรณ์การเปลี่ยนยาง เครื่องปั๊มลมแบบพกพา น้ำดื่ม ไฟฉาย และอื่นๆ</p><p><br /></p><p>ในกรณีที่เกิดเหตุฉุกเฉิน Ford Everest ใหม่ มาพร้อมระบบช่วยโทรฉุกเฉิน (Emergency Assistance) ที่ได้รับการพัฒนาเพื่อให้ผู้ขับขี่สามารถเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือผ่านบลูทูธด้วยระบบ SYNC® และต่อสายไปที่เบอร์ 1669 ในกรณีที่มีอุบัติเหตุ และยังมีระบบแผนที่นำทางด้วยดาวเทียมซึ่งติดตั้งมากับรถที่ยังคงใช้งานได้เมื่อออกนอกพื้นที่ที่มีสัญญาณโทรศัพท์ ทำให้คุณสามารถติดต่อโลกภายนอกเพื่อขอความช่วยเหลือได้ทุกที่ทุกเวลา</p><p><br /></p><p style="text-align: center"><img src="https://i.imgur.com/EyMJHaB.jpg" class="bbCodeImage wysiwygImage" alt="" unselectable="on" /></p><p><br /></p><p><b>2. ลดแรงดันของยาง</b></p><p>เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ง่ายที่สุดที่ช่วยเพิ่มสมรรถนะการขับขี่แบบออฟโรด อีกทั้งช่วยเพิ่มความสะดวกสบายภายในห้องโดยสารตลอดระยะเวลาการเดินทาง นอกจากนี้ ข้อดีในการลดแรงดันของยางนั้นมีอยู่มากมาย เช่น</p><ul> <li>หากพื้นผิวยางสามารถสัมผัสพื้นผิวของถนนได้มากเท่าไหร่ ก็จะช่วยให้รถสามารถกระจายน้ำหนักได้สมดุลมากเท่านั้น</li> <li>ยางจะสามารถดูดซับแรงกระทบได้มากขึ้น ซึ่งจะช่วยปกป้องล้อและส่วนอื่นๆ ของยานพาหนะเมื่อขับเคลื่อนบนถนนที่มีพื้นผิวขรุขระ</li> <li>การลดแรงดันของยางจะมอบความรู้สึกของการขับขี่ที่นุ่มนวลและสะดวกสบายมากยิ่งขึ้นเมื่อออกผจญภัยแบบสมบุกสมบัน ยางที่อ่อนเล็กน้อยจะช่วยยึดเกาะถนนที่มีพื้นผิวขรุขระและสามารถลดแรงกระแทกได้ในเวลาเดียวกัน</li> </ul><p>โดยฟังก์ชั่นระบบตรวจจับลมยาง (Tire Pressure Monitoring System) ของ Ford Everest ใหม่ จะทำหน้าที่คอยตรวจวัดความดันลมในยางล้อทั้ง 4 ล้อ และเตือนผู้ใช้งานเมื่อความดันลมเปลี่ยนแปลง ระบบนี้นอกจากจะช่วยเสริมประสิทธิภาพการใช้น้ำมันแล้ว ยังช่วยเพิ่มความปลอดภัย และยืดอายุการใช้งานของยางอีกด้วย</p><p><br /></p><p style="text-align: center"><img src="https://i.imgur.com/8Muv6aU.jpg" class="bbCodeImage wysiwygImage" alt="" unselectable="on" /></p><p><br /></p><p><b>3. ขับรถด้วยความเร็วต่ำที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้</b></p><p>การขับรถเร็ว หมายถึง คุณจะมีเวลาตอบสนองน้อยลงต่อสิ่งรอบข้างที่จะเกิดขึ้นโดยไม่ทันตั้งตัว และมักจะใช้เวลานานกว่าเมื่อคุณต้องการจะหยุดรถ ความเร็วจะเพิ่มความเสียหายต่อยานพาหนะมากขึ้นในกรณีที่คุณขับรถข้ามสิ่งกีดขวางหรือเมื่อปะทะกับสิ่งใดก็ตาม ในทางกลับกัน การขับรถในอัตราความเร็วต่ำจะช่วยให้ระบบกันกระเทือนรับมือกับแรงกระทบได้ดีกว่า ทำให้การขับขี่นั้นนุ่มนวลและสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ คุณยังมีเวลามากพอที่จะตรวจสอบสิ่งรอบข้าง และมีเวลาไตร่ตรองก่อนจะตอบสนองกับสถานการณ์ที่ไม่คาดคิด</p><p><br /></p><p>เพื่อให้คุณขับรถทางไกลได้อย่างสะดวกสบายและปลอดภัย ระบบควบคุมความเร็วแบบรักษาระยะห่างอัตโนมัติ (Adaptive Cruise Control) ของ Ford จะช่วยควบคุมความเร็วตามที่คุณกำหนด และจะรักษาระยะห่างจากรถคันหน้าให้อัตโนมัติ โดยระบบจะช่วยเบรกและเร่งความเร็วให้ตามระยะห่างจากรถคันหน้า โดยที่คุณไม่ต้องคอยเหยียบเบรกและคันเร่ง เป็นตัวช่วยที่ดีเยี่ยมเมื่อต้องเดินทางระยะไกล</p><p><br /></p><p style="text-align: center"><img src="https://i.imgur.com/vF1djle.jpg" class="bbCodeImage wysiwygImage" alt="" unselectable="on" /></p><p><br /></p><p><b>4. เลือกเส้นทางที่ดีที่สุดทุกครั้ง</b></p><p>ทุกครั้งที่ต้องออกเดินทาง ควรศึกษาเส้นทางให้ละเอียดเพื่อความปลอดภัยของตัวคุณเอง พยายามศึกษาว่าในเส้นทางนั้นๆ มีจุดไหนที่ต้องระวังเป็นพิเศษ เช่นทางโค้ง ทางเลี้ยวหักศอก ทางชัน และอื่นๆ เพื่อให้การเดินทางเป็นไปอย่างราบรื่นและเพื่อให้คุณได้สนุกกับประสบการณ์ออฟโรดแบบขั้นสุด</p><p><br /></p><p>ด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะของ Ford Everest ใหม่อย่างระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางชัน จะทำให้การขับรถลงภูเขาที่ลื่นและลาดชันง่ายยิ่งขึ้นกว่าเดิม บวกกับความสามารถในการลุยน้ำสูงถึง 80 ซม. ทำให้คุณมั่นใจได้ว่า ต่อให้บุกป่าฝ่าดงแค่ไหน คุณก็จะได้รับความปลอดภัยตลอดเส้นทางเมื่ออยู่ในรถคันนี้</p><p><br /></p><p style="text-align: center"><img src="https://i.imgur.com/Pl7iDGv.jpg" class="bbCodeImage wysiwygImage" alt="" unselectable="on" /></p><p><br /></p><p><b>5. ทำความเข้าใจในเรื่องการขับขี่บนพื้นผิวถนนที่แตกต่างกัน</b></p><p>พื้นผิวถนนที่แตกต่างกันจำเป็นต้องใช้เทคนิคและฟังก์ชั่นการขับขี่ที่แตกต่างกันด้วย ระบบขับเคลื่อน 4 ล้ออัจฉริยะใน Ford Everest ใหม่ จะทำให้การผจญภัยของคุณง่ายขึ้น เพียงปรับโหมดให้เหมาะกับสภาพพื้นผิวต่างๆ ที่คุณขับในแต่ละครั้ง </p><p><br /></p><p>ระบบขับเคลื่อน 4 ล้ออัจฉริยะ หรือ Terrain Management System (TMS) ของ Ford Everest ใหม่ มีทั้งโหมดปกติ โหมดโคลน โหมดทราย และโหมดหิน ทำงานร่วมกับระบบล็อกเฟืองท้ายควบคุมด้วยไฟฟ้าเพื่อให้บุกตะลุยไปได้ทุกที่ ไม่ว่าสภาพถนนจะเป็นแบบไหน เพียงหมุนปุ่มปรับโหมด คุณก็สามารถสนุกกับการขับขี่บนเส้นทางออฟโรดได้ตลอดทริป[/QUOTE]</p><p><br /></p>
[QUOTE="News, post: 7110176, member: 3"][center][img]https://i.imgur.com/PoifiFT.jpg[/img][/center] หากพูดถึงการขับขี่ออฟโรด หลายๆ คนคงนึกถึงภาพการเดินทางที่แสนสมบุกสมบันแถมทดสอบทักษะนักขับได้เป็นอย่างดี แต่นอกเหนือจากความสนุกและประสบการณ์สุดท้าทายที่ได้รับ สิ่งที่สำคัญไม่แพ้กันคือผู้ขับขี่จะต้องมีความรู้และความเชี่ยวชาญในการผจญภัยแบบออฟโรดเพื่อความปลอดภัยต่อตัวเองและเพื่อนร่วมท้องถนน เพราะการขับขี่ออฟโรดนั้นเต็มไปด้วยความท้าทายและอาจไม่สะดวกสบายเหมือนการขับรถบนถนนพื้นผิวเรียบทั่วไปเหมือนในชีวิตประจำวัน ทีมวิศวกรของ Ford Everest ใหม่ ได้แนะนำเทคนิคดีๆ ที่จะทำให้คุณสามารถออกเดินทางบนทุกพื้นผิวที่ท้าทายและขับขี่ได้อย่างปลอดภัยเมื่อออกผจญภัยแบบออฟโรด [b]1. เตรียมตัวให้พร้อม[/b] การขับขี่แบบออฟโรดนับเป็นเรื่องท้าทายที่เราไม่ควรประมาท ดังนั้น การวางแผนการเดินทางอย่างละเอียด การเตรียมอุปกรณ์ช่วยเหลือและเตรียมรถให้พร้อมใช้งานเต็มกำลังจึงเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างยิ่ง แนะนำให้เตรียมเช็คลิสต์สำหรับการเดินทางโดยเริ่มตั้งแต่ เติมน้ำมันให้เต็มถัง เตรียมเชือกสำหรับลากรถ ยางสำรอง ชุดอุปกรณ์การเปลี่ยนยาง เครื่องปั๊มลมแบบพกพา น้ำดื่ม ไฟฉาย และอื่นๆ ในกรณีที่เกิดเหตุฉุกเฉิน Ford Everest ใหม่ มาพร้อมระบบช่วยโทรฉุกเฉิน (Emergency Assistance) ที่ได้รับการพัฒนาเพื่อให้ผู้ขับขี่สามารถเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือผ่านบลูทูธด้วยระบบ SYNC® และต่อสายไปที่เบอร์ 1669 ในกรณีที่มีอุบัติเหตุ และยังมีระบบแผนที่นำทางด้วยดาวเทียมซึ่งติดตั้งมากับรถที่ยังคงใช้งานได้เมื่อออกนอกพื้นที่ที่มีสัญญาณโทรศัพท์ ทำให้คุณสามารถติดต่อโลกภายนอกเพื่อขอความช่วยเหลือได้ทุกที่ทุกเวลา [center][img]https://i.imgur.com/EyMJHaB.jpg[/img][/center] [b]2. ลดแรงดันของยาง[/b] เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ง่ายที่สุดที่ช่วยเพิ่มสมรรถนะการขับขี่แบบออฟโรด อีกทั้งช่วยเพิ่มความสะดวกสบายภายในห้องโดยสารตลอดระยะเวลาการเดินทาง นอกจากนี้ ข้อดีในการลดแรงดันของยางนั้นมีอยู่มากมาย เช่น [list][*]หากพื้นผิวยางสามารถสัมผัสพื้นผิวของถนนได้มากเท่าไหร่ ก็จะช่วยให้รถสามารถกระจายน้ำหนักได้สมดุลมากเท่านั้น [*]ยางจะสามารถดูดซับแรงกระทบได้มากขึ้น ซึ่งจะช่วยปกป้องล้อและส่วนอื่นๆ ของยานพาหนะเมื่อขับเคลื่อนบนถนนที่มีพื้นผิวขรุขระ [*]การลดแรงดันของยางจะมอบความรู้สึกของการขับขี่ที่นุ่มนวลและสะดวกสบายมากยิ่งขึ้นเมื่อออกผจญภัยแบบสมบุกสมบัน ยางที่อ่อนเล็กน้อยจะช่วยยึดเกาะถนนที่มีพื้นผิวขรุขระและสามารถลดแรงกระแทกได้ในเวลาเดียวกัน[/list] โดยฟังก์ชั่นระบบตรวจจับลมยาง (Tire Pressure Monitoring System) ของ Ford Everest ใหม่ จะทำหน้าที่คอยตรวจวัดความดันลมในยางล้อทั้ง 4 ล้อ และเตือนผู้ใช้งานเมื่อความดันลมเปลี่ยนแปลง ระบบนี้นอกจากจะช่วยเสริมประสิทธิภาพการใช้น้ำมันแล้ว ยังช่วยเพิ่มความปลอดภัย และยืดอายุการใช้งานของยางอีกด้วย [center][img]https://i.imgur.com/8Muv6aU.jpg[/img][/center] [b]3. ขับรถด้วยความเร็วต่ำที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้[/b] การขับรถเร็ว หมายถึง คุณจะมีเวลาตอบสนองน้อยลงต่อสิ่งรอบข้างที่จะเกิดขึ้นโดยไม่ทันตั้งตัว และมักจะใช้เวลานานกว่าเมื่อคุณต้องการจะหยุดรถ ความเร็วจะเพิ่มความเสียหายต่อยานพาหนะมากขึ้นในกรณีที่คุณขับรถข้ามสิ่งกีดขวางหรือเมื่อปะทะกับสิ่งใดก็ตาม ในทางกลับกัน การขับรถในอัตราความเร็วต่ำจะช่วยให้ระบบกันกระเทือนรับมือกับแรงกระทบได้ดีกว่า ทำให้การขับขี่นั้นนุ่มนวลและสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ คุณยังมีเวลามากพอที่จะตรวจสอบสิ่งรอบข้าง และมีเวลาไตร่ตรองก่อนจะตอบสนองกับสถานการณ์ที่ไม่คาดคิด เพื่อให้คุณขับรถทางไกลได้อย่างสะดวกสบายและปลอดภัย ระบบควบคุมความเร็วแบบรักษาระยะห่างอัตโนมัติ (Adaptive Cruise Control) ของ Ford จะช่วยควบคุมความเร็วตามที่คุณกำหนด และจะรักษาระยะห่างจากรถคันหน้าให้อัตโนมัติ โดยระบบจะช่วยเบรกและเร่งความเร็วให้ตามระยะห่างจากรถคันหน้า โดยที่คุณไม่ต้องคอยเหยียบเบรกและคันเร่ง เป็นตัวช่วยที่ดีเยี่ยมเมื่อต้องเดินทางระยะไกล [center][img]https://i.imgur.com/vF1djle.jpg[/img][/center] [b]4. เลือกเส้นทางที่ดีที่สุดทุกครั้ง[/b] ทุกครั้งที่ต้องออกเดินทาง ควรศึกษาเส้นทางให้ละเอียดเพื่อความปลอดภัยของตัวคุณเอง พยายามศึกษาว่าในเส้นทางนั้นๆ มีจุดไหนที่ต้องระวังเป็นพิเศษ เช่นทางโค้ง ทางเลี้ยวหักศอก ทางชัน และอื่นๆ เพื่อให้การเดินทางเป็นไปอย่างราบรื่นและเพื่อให้คุณได้สนุกกับประสบการณ์ออฟโรดแบบขั้นสุด ด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะของ Ford Everest ใหม่อย่างระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางชัน จะทำให้การขับรถลงภูเขาที่ลื่นและลาดชันง่ายยิ่งขึ้นกว่าเดิม บวกกับความสามารถในการลุยน้ำสูงถึง 80 ซม. ทำให้คุณมั่นใจได้ว่า ต่อให้บุกป่าฝ่าดงแค่ไหน คุณก็จะได้รับความปลอดภัยตลอดเส้นทางเมื่ออยู่ในรถคันนี้ [center][img]https://i.imgur.com/Pl7iDGv.jpg[/img][/center] [b]5. ทำความเข้าใจในเรื่องการขับขี่บนพื้นผิวถนนที่แตกต่างกัน[/b] พื้นผิวถนนที่แตกต่างกันจำเป็นต้องใช้เทคนิคและฟังก์ชั่นการขับขี่ที่แตกต่างกันด้วย ระบบขับเคลื่อน 4 ล้ออัจฉริยะใน Ford Everest ใหม่ จะทำให้การผจญภัยของคุณง่ายขึ้น เพียงปรับโหมดให้เหมาะกับสภาพพื้นผิวต่างๆ ที่คุณขับในแต่ละครั้ง ระบบขับเคลื่อน 4 ล้ออัจฉริยะ หรือ Terrain Management System (TMS) ของ Ford Everest ใหม่ มีทั้งโหมดปกติ โหมดโคลน โหมดทราย และโหมดหิน ทำงานร่วมกับระบบล็อกเฟืองท้ายควบคุมด้วยไฟฟ้าเพื่อให้บุกตะลุยไปได้ทุกที่ ไม่ว่าสภาพถนนจะเป็นแบบไหน เพียงหมุนปุ่มปรับโหมด คุณก็สามารถสนุกกับการขับขี่บนเส้นทางออฟโรดได้ตลอดทริป[/QUOTE]
เข้าสู่ระบบด้วย Facebook
เข้าสู่ระบบด้วย Twitter
เข้าสู่ระบบด้วย Google
ชื่อผู้ใช้งานหรือที่อยู่อีเมล์ของคุณ:
คุณมีบัญชีผู้ใช้หรือไม่?
ไม่มี, สร้างบัญชีผู้ใช้ตอนนี้
มี, รหัสผ่านของฉันคือ:
ลืมรหัสผ่านของคุณ?
อยู่ในระบบตลอดเวลา
RacingWeb.NET | The Racing Cars Community on Web.
ฟอรั่ม
>
Portal
>
Articles
>
5 เทคนิคขับขี่ออฟโรดให้สนุกและปลอดภัย โดยวิศวกรผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของ Ford Everest ใหม่
>
X
หน้าแรก
หน้าแรก
Quick Links
โพสต์ล่าสุด
กิจกรรมล่าสุด
ผู้เขียน
ฟอรั่ม
ฟอรั่ม
Quick Links
ค้นหาฟอรั่ม
โพสต์ล่าสุด
ประกาศซื้อขาย
ประกาศซื้อขาย
Quick Links
ค้นหาประกาศซื้อขาย
กิจกรรมล่าสุด
ผู้ค้าขายคะแนนสูงสุด
สื่อ/วิดีโอ
สื่อ/วิดีโอ
Quick Links
Search Media
New Media
สมาชิก
สมาชิก
Quick Links
สมาชิกที่โดดเด่น
สมาชิกที่ลงทะเบียน
ผู้ใช้งานในขณะนี้
กิจกรรมล่าสุด
โพสต์ข้อมูลส่วนตัวใหม่
เมนู
ค้นหาเฉพาะชื่อ
โพสต์โดยสมาชิก:
แยกชื่อด้วยเครื่องหมายจุลภาค
ใหม่กว่า:
ค้นหาเฉพาะหัวข้อนี้
ค้นหาเฉพาะฟอรั่มนี้
แสดงผลเป็นหัวข้อ
การค้นหาที่มีประโยชน์
โพสต์ล่าสุด
เพิ่มเติม...