รู้ได้อย่างไรว่าควรต่อประกันกับเจ้าเดิมหรือเจ้าใหม่

การสนทนาใน 'Variety Forum' เริ่มโดย SarochaSugar, 11 พฤศจิกายน 2018

< Previous Thread | Next Thread >
  1. SarochaSugar

    SarochaSugar New Member Member

    11
    0
    1
    เมื่อใกล้เวลาที่ต้องต่อประกันภัยรถยนต์ หลายๆคนอาจรู้สึกสงสัยว่าควรต่อประกันรถกับบริษัทเดิมหรือไม่ แล้วถ้าเปลี่ยนบริษัทแล้วควรต่อประกันรถยนต์ที่ไหนดีล่ะ ดังนั้นวันนี้เราจึงมีข้อแนะนำเล็กๆน้อยๆมาฝากผู้ที่กำลังรู้สึกลังเลอยู่เพื่อให้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้นค่ะ
    เริ่มแรกเลยก็ต้องศึกษาเบี้ยประกันภัยรถยนต์ของทั้งบริษัทเดิมและบริษัทอื่นๆที่เราสนใจว่าต่างกันตรงไหนบ้าง ถ้าค่าเบี้ยแพงกว่าแล้วได้อะไรกลับมาเพิ่มขึ้นหรือไม่ เช่น ความคุ้มครอง บริการ วิธีง่ายๆในการเปรียบเทียบราคาก็คือไปที่เว็บไซต์เปรียบเทียบราคาประกันรถยนต์ต่างๆซึ่งจะช่วยให้เราตัดสินใจได้ง่ายและรวดเร็วขึ้นมาก
    อีกหนึ่งประเด็นที่ควรคิดถึงก็คือการใช้รถของเราเป็นอย่างไร โดยลองดูตารางเปรียบเทียบประกันภัยควบคู่ไป ถ้าเราขับรถไม่แข็งก็ควรจะต่อประกันชั้น 1 และเลือกบริษัทประกันรถที่มีอู่ซ่อมเยอะๆ ถึงแม้ว่าอาจจะต้องจ่ายแพงกว่าก็ตาม แต่ถ้าคุณไม่ค่อยได้ใช้รถคันนี้ และบริษัทประกันที่ใช่อยู่ก็มีค่าเบี้ยไม่แพงและให้ความคุ้มครองเหมาะสมก็ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนบริษัทประกัน
    เพื่อให้ง่ายต่อการเคลมเราควรเลือกทำประกันรถยนต์ชั้น 1 ซึ่งจะเป็นประกันสำหรับผู้ที่ต้องการการคุ้มครองแบบครบครัน เนื่องจากเป็นประกันภัยที่ครอบคลุมทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นอุบัติเหตุอย่าง รถชน ไฟไหม้ รถสูญหาย ถูกโจรกรรม อีกทั้งยังคุ้มครองในกรณีที่ผู้เอาประกันเป็นฝ่ายผิดอีกด้วย จึงเหมาะมากที่สุดกับผู้ขับขี่รถยนตมือใหม่ ที่อาจยังขับไม่คล่องมากนัก หรือเหมาะกับรถยนต์คันใหม่ป้ายแดง เพื่อให้ได้รับความคุ้มครองหากเกิดการชนหรืออุบัติเหตุใดๆ อย่าลืมเปรียบเทียบราคาประกันรถยนต์ก่อนตัดสินใจทำประกันด้วยทุกครั้งเพื่อให้ได้ราคาที่คุ้มที่สุด
    สุดท้ายนี้แน่นอนว่าสิ่งที่ช่วยตัดสินใจได้มากก็การให้บริการของบริษัทประกัน ถึงแม้จะค่าเบี้ยดีคุ้มครองมากแต่ถ้าการบริการล่าช้า เคลมยาก ก็น่าคิดว่าถ้าเราเกิดเหตุฉุกเฉินจะได้รับความช่วยเหลือหรือเงินชดเชยได้ทันท่วงทีหรือไม่


    นอกจากนี้ก็ควรดูสัญญาณอื่นๆประกอบ หากมีสัญญาณต่อไปนี้ ได้แก่การบริการที่ล่าช้า กว่าจะติดต่อได้แต่ละครั้งต้องใช้เวลานาน ยิ่งถ้าเกิดอุบัติเหตุขึ้นมาถ้าต้องรอนานขนาดนี้ก็คงเสียเวลาเป็นอย่างมาก บริษัทประกันที่ดีควรพร้อมให้บริการอย่างทันท่วงที เมื่อเกิดเหตุก็สามารถมาถึงที่ได้อย่างรวดเร็ว สัญญาณต่อมาก็คือค่าเบี้ยสูงกว่าความคุ้มครองที่ควรได้รับ เมื่อเปรียบเทียบราคากับบริษัทประกันอื่นๆแล้วได้ความคุ้มครองที่น้อยกว่าทั้งๆที่เบี้ยเท่ากันซะงั้น ยิ่งถ้ารวมกับการบริการที่ไม่ดีหรือล่าช้าก็ควรเปลี่ยนบริษัทประกันเสียดีกว่า
     
    แก้ไขล่าสุด: 12 พฤศจิกายน 2018
< Previous Thread | Next Thread >

แบ่งปันหน้านี้