AAS พาเจาะลึก Flying Spur Mulliner Hybird อัครยนตรกรรมสปอร์ตซีดานเรือธงรุ่นล่าสุดของ Bentley

การสนทนาใน 'News' เริ่มโดย News, 3 กันยายน 2022

โดย News เมื่อ 3 กันยายน 2022 เมื่อ 02:58
  1. News

    News Member Super Moderator

    929
    3
    18
    [​IMG]

    บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์เบนท์ลีย์อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย พาเจาะลึกอัครยนตรกรรมสปอร์ตซีดานเรือธงรุ่นใหม่ล่าสุดของเบนท์ลีย์ FLYING SPUR MULLINER HYBIRD (ฟลายอิ้ง สเปอร์ มูลินเนอร์ ไฮบริด) อัครยนตรกรรม 4 ประตูตัวท็อปที่สุดจากค่ายผู้ผลิตยนตรกรรมหรูแห่งเมืองผู้ดีที่มาพร้อมการตกแต่งภายนอกและภายในแบบเฉพาะตัวอันเป็นเอกลักษณ์ ประณีต และ งดงามจาก เบนท์ลีย์ มูลินเนอร์ โดย ฟลายอิ้ง สเปอร์ มูลินเนอร์ ไฮบริด ได้เปิดรับคำสั่งจองแล้วด้วยราคาเริ่มต้นที่ 19 ล้านบาท

    [​IMG]

    [​IMG]

    ฟลายอิ้ง สเปอร์ มูลินเนอร์ ไฮบริด ถูกรังสรรค์และพัฒนาขึ้นโดย เบนท์ลีย์ มูลินเนอร์ด้วยการออกแบบ การวางระบบ และ การประกอบด้วยช่างฝีมือระดับปรมาจารย์ในสหราชอาณาจักร โดย ฟลายอิ้ง สเปอร์ มูลินเนอร์ ไฮบริด เปิดตัวในฐานะอัครยนตรกรรมรุ่นเรือธงของเบนท์ลีย์ที่พร้อมจะดึงดูดผู้ที่หลงใหลในรายละเอียด ความประณีต และ ความหรูหราขั้นสุดอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่โด่ดเด่นของ เบนท์ลีย์ มูลินเนอร์ พร้อมความสามารถในการลดการปล่อยมลพิษโดยไม่ลดทอนประสิทธิภาพในการขับขี่ด้วยขุมพลังเครื่องยนต์เบนซินรุ่น V6 ทวินเทอร์โบชาร์จ ขนาดความจุกระบอกสูบ 2.9 ลิตร กับ มอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 100 กิโลวัตต์ มอบพละกำลังสูงสุด 536 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 750 นิวตันเมตร และ อัตราเร่งที่ตอบสนองอย่างง่ายดาย ควบคู่ไปกับความสามารถในการขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า ซึ่งทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 4.3 วินาที และ ทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 285 กม./ชม.

    [​IMG]

    E-motor มอเตอร์อิเล็กทรอนิกส์เทคโนโลยีล่าสุดติดตั้งอยู่ระหว่างเกียร์อัตโนมัติและเครื่องยนต์ ผลิตพละกำลังสูงสุด 134 แรงม้า แรงบิด 400 นิวตันเมตรด้วยพลังงานจากแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาด 18.9 กิโลวัตต์ และ สามารถชาร์จไฟได้ 100 เปอร์เซ็นต์ในระยะเวลาเพียง 2 ชั่วโมงครึ่ง (ระยะเวลาขึ้นอยู่กับแต่ละภูมิภาค) พร้อมอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์แปลงพลังงานที่เก็บไว้จากแบตเตอรี่แรงสูงเพื่อจ่ายให้กับ E-motor หรือเสริมกับอุปกรณ์ประจุไฟฟ้าของรถยนต์ขนาด 12 วัตต์

    [​IMG]

    สำหรับในโหมดการขับขี่ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าจะสามารถลดเสียงรบกวนภายในห้องโดยสารได้กว่า 50% เมื่อเทียบกับเครื่องยนต์สันดาป ผู้โดยสารจึงสัมผัสได้ถึงความเป็นส่วนตัว และ ความเงียบสงบภายในห้องโดยสาร

    [​IMG]

    โดยเมื่อเทียบกับอัครยนตรกรรมแบบอเนกประสงค์รุ่น เบนเทก้า ไฮบริด รุ่น ฟลายอิ้ง สเปอร์ มูลินเนอร์ ไฮบริด สามารถผลิตพละกำลังเพิ่มขึ้นกว่า 80 แรงม้า และ ถือเป็นอัครยนตรกรรมสปอร์ตซีดานที่ได้รับการรับรองว่ามีประสิทธิภาพในการประหยัดเชื้อเพลิงและมีอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ต่ำที่สุดในปัจจุบัน โดยมีค่าเฉลี่ยการปล่อย CO2 เพียง 75 กรัม ต่อ กิโลเมตร เท่านั้น ในขณะที่ เบนเทก้า ไฮบริด มีค่าเฉลี่ยการปล่อย CO2 อยู่ที่ 78 กรัม ต่อ กิโลเมตร

    [​IMG]

    ฟลายอิ้ง สเปอร์ มูลินเนอร์ ไฮบริด ได้แสดงให้เห็นว่าระบบไฮบริดไม่ได้ลดทอนความหรูหราหรือสมรรถนะของเครื่องยนต์แต่ประการใด แต่ด้วยการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างเครื่องยนต์สันดาปภายในและมอเตอร์ไฟฟ้าจึงทำให้สัมผัสได้ถึงความเงียบสงบในทุกรูปแบบของการขับขี่ และตัวรถยังได้รับการออกแบบให้เป็นอัครยนตรกรรมที่เหมาะสำหรับทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสาร ห้องโดยสารที่หรูหราแบบร่วมสมัยได้ยกระดับการผสมผสานองค์ประกอบหลักจากดีเอ็นเอของเบนท์ลีย์เข้ากับเทคโนโลยีอันล้ำสมัย และงานฝีมือที่ดีที่สุดของโลก ประกอบกับรายละเอียดที่พิถีพิถัน พื้นผิวแกะสลัก และลวดลายเส้นสายอันร่วมสมัยที่จะทำให้ผู้ครอบครองสัมผัสได้ถึงประสบการณ์สุดพิเศษไปตลอดเส้นทาง

    [​IMG]

    การออกแบบภายนอกของ ฟลายอิ้ง สเปอร์ มูลินเนอร์ ไฮบริด ที่ถูกบรรจงรังสรรค์ขึ้นอย่างประณีตประกอบด้วยตัวเลือกเฉดสีมูลินเนอร์ที่มีให้เลือกสรรกว่า 16 เฉดสีมาตรฐาน ล้ออัลลอยด์แบบมูลินเนอร์ขนาด 22 นิ้วอันเป็นเอกลักษณ์ในเฉดสีเทาเคลือบเงา มาพร้อมตัวยึดโลโก้รูปตัว ‘B’ กึ่งกลางล้อจากมูลินเนอร์เพื่อให้โลโก้รูปตัว ‘B’ ตั้งตรงตลอดเวลาขณะรถเคลื่อนที่ กระจังหน้าออกแบบด้วยลวดลายเพชรแบบ 2 ชั้น (Double Diamond) และ กระจังหน้าด้านล่างแบบโครเมียมที่เข้ากันได้อย่างลงตัวกับช่องระบายอากาศด้านข้างที่ตกแต่งด้วยลวดลายเพชรแบบ 2 ชั้น และ ตัวอักษร ‘Mulliner’ พร้อมฝาครอบกระจกข้างเฉดสีเงินซาติน โดยมี เบนท์ลีย์ ฟลายอิ้ง บี มาสคอต (Bentley Flying ‘B’ Mascot) สัญลักษณ์ของเบนท์ลีย์ที่มีเฉพาะรุ่น ฟลายอิ้ง สเปอร์ เท่านั้น ติดตั้งบริเวณด้านหน้าของฝากระโปรง และ สามารถเรืองแสงพร้อมคุณสมบัติควบคุมการขึ้น-ลงจากภายในห้องโดยสารด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ พร้อมเติมเต็มความสมบูรณ์แบบด้วยการตกแต่งฝาครอบปิดถังน้ำมันเชื้อเพลิงด้วยโลโก้รูปตัว 'B'

    [​IMG]

    สำหรับภายในห้องโดยสารของ ฟลายอิ้ง สเปอร์ มูลินเนอร์ ไฮบริด ได้ถูกรังสรรค์ด้วยอักษร ‘Mulliner’ แบบเรืองแสงบริเวณกาบประตูและไฟต้อนรับแบบ LED ส่องสว่างลงด้านล่างเมื่อเปิดประตูห้องโดยสาร พร้อมการนำเสนอการผสมผสานของสามเฉดสีแบบสั่งทำพิเศษถึงแปดแบบจากมูลินเนอร์ และ คอลโซลหน้าตกแต่งด้วยไม้วีเนียร์แบบ Grand Black สลักด้วยตัวอักษร ‘Mulliner’ พร้อมสัมผัส Mood Lighting Specification ระบบไฟที่มอบหลากหลายเฉดสีภายในห้องโดยสาร ซึ่งสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการเพื่อเพิ่มบรรยากาศความสุนทรีภายในห้องโดยสาร พร้อมการตกแต่งอย่างหรูหราด้วยการเดินเส้นสีที่เน้นความเข้มของลายเส้นและการปักอักษร ‘Mulliner’ อันเป็นเอกลักษณ์บนเบาะโดยสาร

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    Mulliner Driving Specification ถูกติดตั้งเป็นอุปกรณ์มาตรฐานโดยนำการเย็บลวดลายแบบเพชรซ้อนเพชร (Diamond-in-Diamond) ซึ่งเป็นกระบวนการที่ใช้ระยะเวลากว่า 18 เดือนในการพัฒนา โดยเพชรแต่ละเม็ดจะประกอบด้วยกว่า 712 ฝีเข็ม มาใช้ในการตกแต่งบนเบาะโดยสาร และ การตกแต่งด้วยการใช้หนังแบบ 3 มิติที่บริเวณประตูห้องโดยสารทั้ง 4 ประตู โดยลายเส้นของเบาะโดยสารแบบตัดกันจะเข้ากันได้ดีกับการเน้นลายเส้นที่ล้อมรอบห้องโดยสารจากบริเวณคอนโซลกลาง รอบแผงหน้าปัด และ บริเวณประตูห้องโดยสาร ซึ่งจะทำให้สัญลักษณ์ เบนท์ลีย์ บี แบบโครเมียมบริเวณประตูห้องโดยสารโดดเด่นยิ่งขึ้น

    [​IMG]

    [​IMG]

    งานฝีมือแบบร่วมสมัยและความหรูหราที่สะกดทุกสายตาผสมผสานกับเทคนิคพิเศษรังสรรค์ลวดลายเสมือนเพชรบนคอนโซลกลาง และ คอนโซลหลัง ส่วนบริเวณตรงกลางแดชบอร์ดข้างช่องแอร์ตกแต่งด้วย นาฬิกา ‘Breitling for Mulliner’ แบบอนาล็อกหน้าปัดสีเงินสุดเอ็กซ์คลูซีฟที่จะมีตกแต่งเฉพาะรุ่น ฟลายอิ้ง สเปอร์ มูลินเนอร์ ไฮบริด เท่านั้น

    [​IMG]

    อีกหนึ่งซิกเนเจอร์ของ ฟลายอิ้ง สเปอร์ มูลินเนอร์ ไฮบริด ยังคงเป็นแผงหน้าปัดแบบ LED พร้อมกราฟิกมูลินเนอร์แบบใหม่ที่มีสไตล์เฉพาะตัว ผนวกเข้ากับหน้าจอ Infotainment แบบหมุนได้ 3 ด้าน อย่าง Bentley Rotating Display อันเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งประกอบด้วยแผงลายไม้วีเนียร์แบบเรียบหรู หน้าจอระบบสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว แบบอเนกประสงค์ และ มาตรวัดแบบอนาล็อก 3 ช่องสุดคลาสสิคที่แสดงผลของอุณหภูมิ เข็มทิศ และ นาฬิกา มาพร้อมกับคันเร่งแบบสปอร์ต พวงมาลัยแบบดูโอโทน 3 ก้านสไตล์สปอร์ตแบบปรับอุณหภูมิได้ และ ซันรูฟแบบพาโนรามาช่วยเพิ่มบรรยากาศความหรูหราภายในห้องโดยสาร

    [​IMG]

    ฟลายอิ้ง สเปอร์ มูลินเนอร์ ไฮบริด ยังมอบความสะดวกสบายพร้อมความหรูหราภายในห้องโดยสารด้านหลังด้วยโต๊ะไม้วีเนียร์แบบพับจากมูลินเนอร์ที่ทำงานด้วยระบบไฟฟ้า ติดตั้งบริเวณด้านหลังของเบาะโดยสารคู่หน้า โดยสามารถกางออกได้ด้วยการกดเพียงปุ่มเดียว และสามารถปรับระดับด้วยตัวเองเพื่อเผยให้เห็นพื้นผิวที่ตกแต่งด้วยหนังแท้ พร้อมช่องสำหรับวางปากกา โดยผู้โดยสารสามารถกดปุ่มค้างไว้เพื่อให้โต๊ะกลับสู่ตำแหน่งเดิมได้อย่างสวยงาม

    [​IMG]

    สำหรับเทคโนโลยีภายในห้องโดยสาร ฟลายอิ้ง สเปอร์ มูลินเนอร์ ไฮบริด มอบการเชื่อมต่อสู่โลกแห่งดิจิทัลในทุกมิติด้วย Apple CarPlay พร้อมควบคุมระบบความบันเทิงด้านหลังด้วยรีโมทคอนโทรลแบบสัมผัสที่จะช่วยให้ผู้โดยสารสัมผัสได้ถึงสุนทรียภาพภายในห้องโดยสารจากชุดเครื่องเสียงระดับพรีเมียม Bentley Standard Audio System ขนาด 650 วัตต์ เครื่องขยายเสียง 11 ช่อง 10 ลำโพง พร้อมระบบช่วยเหลือในการขับขี่แบบ TOURING และ CITY SPECIFICATION

    [​IMG]

    สำหรับออปชั่นเด่นของ ฟลายอิ้ง สเปอร์ มูลินเนอร์ ไฮบริด คือ ระบบความบันเทิงสำหรับห้องโดยสารด้านหลังรูปแบบใหม่ มอบสุดยอดประสบการณ์ความบันเทิงด้วยหน้าจอแบบสัมผัสความละเอียดสูง 1920 x 1080 พิกเซล ขนาด 10.1 นิ้ว จำนวน 2 จอ ติดตั้งบริเวณด้านหลังของเบาะโดยสารคู่หน้า ทำงานร่วมกับระบบเครื่องเสียง Naim for Bentley ระดับไฮเอนด์ ขนาด 2,200 วัตต์ ซึ่งถือเป็นแบรนด์เครื่องเสียงชั้นนำระดับโลกและ ถือเป็น Bentley’s Global Audio Partner ที่ได้มอบสุดยอดระบบความบันเทิงภายในห้องโดยสารของอัครยนตรกรรมเบนท์ลีย์ โดยสามารถเชื่อมต่อเข้ากับอุปกรณ์เคลื่อนที่ส่วนตัวด้วยเทคโนโลยีบลูทูธเพื่อเชื่อมคุณเข้าสู่โลกแห่งความบันเทิงตลอดการเดินทาง

    [​IMG]

    ผู้ครอบครอง ฟลายอิ้ง สเปอร์ มูลินเนอร์ ไฮบริด จะได้รับซองใส่กุญแจหนังพร้อมกล่องกุญแจมูลินเนอร์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวเข้ากับห้องโดยสารด้วยตัวเลือก 3 เฉดสีให้เลือกสรร โดยกุญแจทั้ง 2 ดอกจะถูกจัดเตรียมไว้ในกล่องอย่างสวยงาม

    [​IMG]

    เอเอเอสฯ มอบข้อเสนอที่ดีที่สุดในการครอบครอง Bentley Flying Spur Mulliner Hybrid ด้วยราคาเริ่มต้นที่ 19 ล้านบาท พร้อมการรับประกันแบตเตอรี่ไฮบริดนาน 8 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตร (อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน) การรับประกันจากโรงงานผู้ผลิตฯ พร้อมตัวเลือกสำหรับแผนต่อระยะเวลาการรับประกันจากโรงงานผู้ผลิต (Bentley Extended Warranty) สูงสุด 4 ปี และผู้ช่วยฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง นาน 3 ปีเต็ม

    สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อ เบนท์ลีย์ แบงค็อก โดย บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด โทร. 080-925-9999 หรือ 02-261-1050 LINE Official Account: @bentleybangkokaas คลิก https://lin.ee/4JOaZyE8V
     

ความคิดเห็น

การสนทนาใน 'News' เริ่มโดย News, 3 กันยายน 2022

แบ่งปันหน้านี้