• 
  
  ติดต่อลงโฆษณา [email protected] หรือโทร. 081-811-1138 หรืออ่านรายละเอียดเพิ่มเติม คลิกที่นี่

ชื่อ:

การตรวจสอบ:

กำลังโหลด...

ข้อความ:

<p>[QUOTE=&quot;TolvlT, post: 800795, member: 708&quot;]วิธีการล้างรถ (ในแบบของผม)</p><p><br /></p><p>ก่อนอื่นต้องเข้าใจก่อนว่า ขนแมวที่เกิดขึ้นเนี่ย เกิดขึ้นเพราะว่ามีฝุ่นหรือทราย หรืออะไรที่แข็ง ๆ ไปติดกับสีรถ แล้วเกิดการเสียดสี</p><p><br /></p><p>เวลาล้างรถ ถ้ารถสกปรก ให้เอาน้ำฉีด แต่ที่เราทำไม่ได้ดี เพราะว่าน้ำมันไม่แรงเหมือนที่ร้านไงครับ ฝุ่นและสิ่งสกปรกมันเลยออกได้ไม่มาก&nbsp; ให้ใช้วิธี ชโลมน้ำให้ทั่วก่อน แล้วค่อย ๆ เอามือลูบที่รถเปล่า ๆ เลยครับ เพราะมือเราจะรู้ว่าหากโดนเศษหินเศษทราย จะเบามือลงเอง ระหว่างเอามือลูบก็ให้ถือน้ำฉีดไปด้วยนะครับ สิ่งสกปรก(พวกเม็ดทราย ฝุ่น) จะได้ไหลลงมา</p><p><br /></p><p>แล้วค่อยลงโฟมหรือแชมพู โดยใช้ฟองน้ำนุ่ม ๆ และแยกฟองน้ำด้านบน และชายล่างกับล้อด้วย เพราะข้างล่างทรายและฝุ่นมันเยอะ</p><p><br /></p><p>ฉีดน้ำให้สะอาดสุด ๆ ตรงนี้ บางคนล้างคนเดียว กว่าจะทำให้รถสะอาดทั้งคัน มันแห้งก่อนครับ ให้ระวัง เพราะคราบสกปรกมันก็จะไปเกาะอีกอยู่ดี เวลาเช็ดแห้งจะทำให้เป็นรอย</p><p><br /></p><p>อันนี้สำคัญครับ ฟองน้ำที่ใช้ล้างเสร็จแล้ว เอาไปทำความสะอาดให้ดี เพราะมันจะเป็นตัวสะสมทราย อาจทำให้การล้างครั้งต่อไป ทำให้สีเป็นรอยได้ ส่วนใหญ่จะเอาไปแช่น้ำ เพื่อให้ฟองน้ำมันคลายตัว เอาสิ่งสกปรกออกมา</p><p><br /></p><p>เวลาเช็ดแห้ง ให้เอาผ้าชาร์มัวเช็ดหมาดก่อนครับ แล้วค่อยเอาผ้าไมโครไฟเบอร์เช็ดให้แห้ง</p><p><br /></p><p>ตรงนี้คือข้อแตกต่างระหว่าง ที่ร้าน กับ </p><p><br /></p><p>1. ร้านคาร์แคร์(ดี ๆ) ส่วนใหญ่จะมี Spray wax หรือ Detailer ซึ่งมันจะผสมสาร Lube ให้เวลาเราเช็ดแล้วมันลื่น ทำให้เช็ดง่าย ไม่หนืด ซึ่งจะทำให้ขนผ้าไปเสียดสีกับสีรถ ทำให้เป็นรอยขนแมว (น้ำยาพวกนี้หาซื้อได้ทั่วไป สำคัญ แต่ไม่ค่อยเห็นมีคนใช้)</p><p><br /></p><p>2.&nbsp; ถ้าเราล้างเอง เราไม่มีลมค่อยเป่าตามช่อง ตามซอกครับ อาจทำให้น้ำมันขังด้านใน นาน ๆ ไปอาจทำให้รถผุ หรือสีหมองเพราะคราบน้ำได้ครับ</p><p><br /></p><p>3. น้ำที่ร้านใช้ มีแรงดัน และปริมาณน้ำมากครับ ซึ่งแค่แรงดันมันก็ช่วยชะล้างสิ่งสกปรกไปเยอะแล้ว แถมในซุ้มล้อ หรืออะไรก็ตามที่มือไปไม่ถึง มันก็ความสะอาดได้พอควรครับ</p><p><br /></p><p>4. ล้างเอง เก็บรายละเอียดจริง ๆ อาจใช้เวลาถึง 2 - 3 ชั่วโมง แต่เวลาไปร้าน 45 นาที เพราะเค้ามีกับซัก 10 คน 20 มือคอยทำ และ20ตา คอยดูและสังเกตุว่าตรงไหนไม่สะอาดครับ</p><p><br /></p><p>5. อันนี้สำคัญที่สุดครับ&nbsp; คือหมั่นเคลือบสีรถให้บ่อย ๆ ครับ เพราะบ้านเราล้างรถบ่อย แถมสภาพอากาศค่อนข้างแย่ ทำให้น้ำยามันอยู่ได้ไม่นาน ให้สังเกตดูรถที่เคลือบสีบ่อย ๆ ครับ ว่ามันจะลื่น ซึ่งความลื่นเนี่ยแหละ เป็นตัวทำให้สีไม่ค่อยเป็นขนแมว เพราะเมื่ออะไรมาติด ก็หลุดง่าย หากเกิดการเสียดสี ก็จะผ่านไปเบา ๆไม่หนืด ๆ ฝืด ๆ เหมือนรถไม่เคยเคลือบสีเลย ตรงนี้หากทำเอง มันเหนื่อยมากครับ แถมกินเวลาซักครึ่งวัน แถมเปลืองน้ำยามาก ๆ เพราะไม่มีเครื่องไว้ลงน้ำยา[/QUOTE]</p><p><br /></p>

• เข้าสู่ระบบด้วย Facebook
• เข้าสู่ระบบด้วย Twitter
• เข้าสู่ระบบด้วย Google

ชื่อผู้ใช้งานหรือที่อยู่อีเมล์ของคุณ:

คุณมีบัญชีผู้ใช้หรือไม่?

• ไม่มี, สร้างบัญชีผู้ใช้ตอนนี้
• มี, รหัสผ่านของฉันคือ:
• ลืมรหัสผ่านของคุณ?

อยู่ในระบบตลอดเวลา

• X