• 
  
  ติดต่อลงโฆษณา [email protected] หรือโทร. 081-811-1138 หรืออ่านรายละเอียดเพิ่มเติม คลิกที่นี่

ชื่อ:

การตรวจสอบ:

กำลังโหลด...

ข้อความ:

<p>[QUOTE=&quot;suradet142, post: 7224592, member: 131026&quot;]ตาเหลืองเป็นอาการที่หลายคนอาจสงสัยว่าเกิดจากอะไร และเป็นสัญญาณเตือนของโรคใดบ้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของ ตับอักเสบ ซึ่งเป็นหนึ่งในสาเหตุหลักของอาการตาเหลือง การเข้าใจสาเหตุและอาการของโรคนี้จะช่วยให้เรารับมือและป้องกันได้อย่างถูกวิธี</p><p><br /></p><p><u><b><a href="https://shorturl.asia/NRS4Q" target="_blank" class="externalLink ProxyLink" data-proxy-href="https://shorturl.asia/NRS4Q" rel="nofollow">ตาเหลืองเกิดจากอะไร</a></b></u></p><p>อาการตาเหลืองหรือที่เรียกว่าภาวะดีซ่าน (Jaundice) เกิดจากการสะสมของสารบิลิรูบิน (bilirubin) ซึ่งเป็นผลมาจากการทำงานผิดปกติของตับ ทำให้สารนี้ไม่สามารถถูกขจัดออกจากร่างกายได้อย่างปกติ ส่งผลให้ผิวหนังและตาขาวกลายเป็นสีเหลือง</p><p><br /></p><p><img src="https://img2.pic.in.th/pic/river.png" class="bbCodeImage wysiwygImage" alt="" unselectable="on" /></p><p><br /></p><p><b>สาเหตุของตาเหลืองและโรคตับอักเสบ</b></p><p>&nbsp;&nbsp;&nbsp; ตับอักเสบ (Hepatitis)</p><p>&nbsp;&nbsp;&nbsp; เป็นโรคที่เกิดจากการอักเสบของเนื้อตับ ซึ่งสามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุ โดยเฉพาะไวรัสตับอักเสบชนิดต่าง ๆ ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของโรคนี้</p><p>&nbsp;&nbsp;&nbsp; ไวรัสตับอักเสบ (Hepatitis Virus)</p><p>&nbsp;&nbsp;&nbsp; เป็นสาเหตุที่พบบ่อยที่สุดของตับอักเสบและภาวะดีซ่าน โดยมีหลายชนิด เช่น</p><p>&nbsp;&nbsp;&nbsp; ไวรัสตับอักเสบเอ (HAV)</p><p>&nbsp;&nbsp;&nbsp; ไวรัสตับอักเสบบี (HBV)</p><p>&nbsp;&nbsp;&nbsp; ไวรัสตับอักเสบซี (HCV)</p><p>&nbsp;&nbsp;&nbsp; ไวรัสตับอักเสบดี (HDV)</p><p>&nbsp;&nbsp;&nbsp; ไวรัสตับอักเสบเอฟ (HEV)</p><p><br /></p><p>ไวรัสเหล่านี้สามารถแพร่กระจายผ่านทางอาหาร น้ำดื่ม การสัมผัสเลือด หรือสารคัดหลั่ง รวมถึงการมีเพศสัมพันธ์ โรคตับอื่น ๆ</p><p>&nbsp;&nbsp;&nbsp; - เช่น ตับแข็ง ตับวาย หรือความผิดปกติของทางเดินน้ำดี ซึ่งอาจทำให้เกิดภาวะดีซ่านเช่นกัน</p><p>&nbsp;&nbsp;&nbsp; - ภาวะแทรกซ้อนจากโรคอื่น ๆ</p><p>&nbsp;&nbsp;&nbsp; เช่น โรคโลหิตจาง โรคตับอ่อนอักเสบ หรือภาวะที่มีการทำลายเซลล์เม็ดเลือดแดงอย่างรุนแรง</p><p><br /></p><p><b>อาการของตาเหลืองและ</b><u><b><a href="https://shorturl.asia/NRS4Q" target="_blank" class="externalLink ProxyLink" data-proxy-href="https://shorturl.asia/NRS4Q" rel="nofollow">ตับอักเสบ</a></b></u></p><p>&nbsp;&nbsp;&nbsp; ๐ ตาขาวและผิวหนังเปลี่ยนเป็นสีเหลือง</p><p>&nbsp;&nbsp;&nbsp; ๐ อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร คลื่นไส้</p><p>&nbsp;&nbsp;&nbsp; ๐ ปวดท้องบริเวณตับ</p><p>&nbsp;&nbsp;&nbsp; ๐ มีกลิ่นตัวผิดปกติ</p><p>&nbsp;&nbsp;&nbsp; ๐ ปัสสาวะสีเข้มและอุจจาระสีอ่อน</p><p><br /></p><p><b>วิธีป้องกันและดูแลตัวเอง</b></p><p>&nbsp;&nbsp;&nbsp; รักษาความสะอาดและสุขอนามัย ส่วนใหญ่ของไวรัสตับอักเสบสามารถป้องกันได้ด้วยการล้างมืออย่างถูกวิธี</p><p>&nbsp;&nbsp;&nbsp; หลีกเลี่ยงการใช้เข็มฉีดยาร่วมกัน และการมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกัน</p><p>&nbsp;&nbsp;&nbsp; รับวัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบบีและเอ (สำหรับบางชนิด)</p><p>&nbsp;&nbsp;&nbsp; ตรวจสุขภาพเป็นประจำ และรีบพบแพทย์เมื่อมีอาการผิดปกติ</p><p><br /></p><p>ตาเหลืองเกิดจากหลายสาเหตุ แต่สาเหตุที่พบบ่อยและรุนแรงที่สุดคือ ไวรัสตับอักเสบ ซึ่งเป็นโรคที่ควรได้รับความสนใจเป็นพิเศษ หากปล่อยไว้ไม่รักษา อาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนรุนแรง เช่น ตับวายหรือมะเร็งตับได้ การรู้จักสาเหตุและอาการของตับอักเสบ รวมถึงการป้องกันอย่างถูกวิธี จะช่วยให้ดูแลสุขภาพได้อย่างมีประสิทธิภาพ[/QUOTE]</p><p><br /></p>

• เข้าสู่ระบบด้วย Facebook
• เข้าสู่ระบบด้วย Twitter
• เข้าสู่ระบบด้วย Google

ชื่อผู้ใช้งานหรือที่อยู่อีเมล์ของคุณ:

คุณมีบัญชีผู้ใช้หรือไม่?

• ไม่มี, สร้างบัญชีผู้ใช้ตอนนี้
• มี, รหัสผ่านของฉันคือ:
• ลืมรหัสผ่านของคุณ?

อยู่ในระบบตลอดเวลา

• X