บรรดาพลาสติกมีรูหรือแต่ในบางที่เราไม่ต้องซื้อใหม่สามารถเชื่อมได้ด้วยตัวเอง อุปกรณ์ที่ต้องเตรียม 1.หัวแร้ง 2.เทปอะไรก็ได้ที่ติดแน่น 3.ใจ(เย็นๆ) นำเทปติดที่ด้านหน้าที่เป็นแผลแล้วผลิกด้านหลังลงมือเอาหัวแร้งที่เตรียมเสียบปลั๊กรอไว้จี้ไปที่แผลให้พลาสติกละลายโดยเริ่มจากขอบแผลให้เนื้อพลาสติกที่ละลายเยิ้มมาปิดแผลให้สนิทเวลาทำต้องค่อยๆทำเหมือนการระบายสีนะครับให้ไปทางเดียวเมื่อรูหรือแผลสนิทแล้วอย่าใจร้อนเอาเทปออกให้เอาน้ำมาหยดที่แผลให้เย็นลงแล้วอาเทปออกแล้วทำด้านหน้าต่อถ้าอยากให้เนียน(ด้านหน้านี้ต้องใจเย็นๆมากๆเพราะเป็นด้านที่โชว์ ส่วนด้านหลังอาจจะไม่สวยแต่ไม่ต้องสนใจเพราะไม่มีใครเห็นอยู่แล้ว พอดีมีแต่งานที่ทำแล้วเอาไปดูก่อนนะครับว่าใช้ได้หรือเปล่า เมื่อก่อนเป็นรูที่เกิดจากการเจารสว่านเพื่อยึกวัดรอบความกว้าของรู 2หุน/6.35 มิล View attachment 378120 View attachment 378121
Nissan SR engine Model ทั้งหมดครับ จะได้รู้กันเยอะ ๆ ครับ ว่าตัวไหน มี ม้ากี่ตัว ที่กี่พันรอบ อยู่รถ Body อะไร ขับหน้า ขับหลัง 1 SR18Di 110 PS (81 kW) @6000 rpm and 150 nm @4000 rpm. Nissan Primera Nissan Sunny ----------------------------------------------------------------------------------------------- 2 SR18DE 125 hp (92 kW) @6000 rpm and 156 nm @4800 rpm. Nissan Primera 1989-1998 Nissan Bluebird U14 (125 hp) 1990-1993 Nissan Pulsar GTi B13 (140 hp @6400 rpm and 167 nm @4800 rpm) ----------------------------------------------------------------------------------------------- 3 SR20Di 122 PS (90 kW). Bore and stroke are 86mm and 86mm. 1991-1993 Nissan Primera ----------------------------------------------------------------------------------------------- 4 SR20DE 140 PS (102 kW), later increasing to 160 PS through the use of Nissan's VTC 1991-1994 Nissan Sentra SE-R (140 hp SAE Net) 1991-1994 Nissan NX2000 (140 hp SAE) 1995-1998 Nissan 200SX SE-R (140 hp SAE) 1999 Nissan Sentra SE-Limited (140 hp SAE) 2000-2001 Nissan Sentra SE (145 hp SAE) 1991-2002 Infiniti G20 (140145 hp SAE) U13 Nissan Bluebird P10/P11 Nissan Primera (150 hp) S13 Nissan Silvia (150 hp) S14 Nissan Silvia (160 hp) S15 Nissan Silvia (165 hp) Nissan 180SX N14/N15 Nissan Pulsar/Almera (143 hp) N15 Autech Pulsar (173 hp) Nissan R'nessa B,G, and X C23/C24 Nissan Serena GF-S15 Autech Silvia (200 hp @7200 rpm) Autobacs Garaiya (200 hp @7200 rpm) ----------------------------------------------------------------------------------------------- 5 SR20DET 205 PS / 225 PS / 250 PS / 275 PS S13/14/15 Nissan Silvia S13 Nissan 180SX S14/S15 Nissan 200SX, 200 PS (146 kW) N14 Nissan Pulsar GTi-R, 230 PS (169 kW) Nissan R'nessa GT Turbo U13 Nissan Bluebird SSS ATTESA LTD 210 PS U12 Nissan Bluebird SSS ATTESA Nissan Serena Nissan Wingroad Nismo 270R (270 hp @6000 rpm) '89 U12 Bluebird Ltd Redtop 8.5:1 150 kW @ 6000 rpm 202 ft·lbf @ 4000 rpm T-25 '91-'95 U13 Bluebird Ltd Redtop 8.5:1 154 kW @ 6000 rpm 202 ft·lbf @ 4000 rpm T-25 '95-'97 W10 Avenir Salut Silvertop 8.5:1 154 kW @ 6000 rpm 202 ft·lbf @ 4000 rpm T-25 '97-'01 W11 Avenir GT4 Silvertop 8.5:1 169 kW @ 6000 rpm 202 ft·lbf @ 3600 rpm T-25 '90-'94 N14 Pulsar GTi-R Redtop 8.3:1 169 kW @ 6400 rpm 203 ft·lbf @ 4800 rpm T-28 79 Trim, .86 A/R Housing '91-'93 S13 Silvia, 180sx Redtop 8.5:1 151 kW @ 6000 rpm 203 ft·lbf @ 4000 rpm T-25 7psi 62 trim 53.8 mm .64 A/R housing '94-'98 S13 180sx Blacktop 8.5:1 151 kW @ 6000 rpm 203 ft·lbf @ 4000 rpm T-25 7psi 62 trim 53.8 mm, .64 A/R housing '95-'99 S14 Silvia, 200sx Blacktop 8.5:1 162 kW @ 6000 rpm 203 ft·lbf @ 4800 rpm T-28 62 trim 53.8 mm, .64 A/R housing, ball bearing '99-02 S15 Silvia, 200sx Blacktop 8.5:1 183 kW @ 6400 rpm 202 ft·lbf @ 4800 rpm T-28 60 trim 60 mm, ball bearing, Inco turbine wheel ----------------------------------------------------------------------------------------------- 6 SR16VE Neo VVL variable valve timing 175 PS (129 kW) @7800 rpm and 119 ft.lbf (161 Nm) @7200 rpm. N15 Nissan Pulsar VZ-R B14 Nissan Lucino VZ-R ----------------------------------------------------------------------------------------------- 6.1 SR16VE N1 Neo VVL variable valve timing 200 PS (147 kW) @ 7800 rpm and 134 ft.lbf (178 Nm) @ 7600 rpm. 300 Lucino versions in series 1 200 Serie versions in series 1 300 Lucino versions in series 2 200 Serie versions in series 2 ----------------------------------------------------------------------------------------------- 7 SR20VE Neo VVL variable valve timing 190 PS (139 kW) and 144 ft.lbf (195 Nm) and later (2001-2003) 205 PS (150 kw) @7200 rpm and 206 nm @5200 rpm 1998 P11 Nissan Primera 2.0G-V, 190 PS (139 kW) 2001-2003 P12 Nissan Primera, 205 PS (150 kW) 20V U14 Nissan Bluebird SSS, 190 PS (139 kW) ----------------------------------------------------------------------------------------------- 8 SR20VET Turbocharged engine 280 PS (206 kW) @ 6400rpm and 309 nm @ 3200rpm. Nissan X-Trail GT ----------------------------------------------------------------------------------------------- สามารถ ดูเพิ่มเติม ได้ที่ ขอ SPEC SR20 หน่อยครับ http://rcweb.net/forums/showthread.php?t=205929 ||| คุณ เดย์ ของที่สั่งมาเหละ.... ||| ฟันเธอ...เปล่าล่ะ ซี้ดดดด++++ http://rcweb.net/forums/showthread.php?t=221833
ใคร รู้วิธี ถอดไมล์ B13 มัง ไฟไมล์ผมมานดับไป 1 ดวง ตรงวัดความร้อน ตอนกลางคืนมองไม่ เห็นงะ แล้วเปลื่ยนหลอดไฟเองได้ปะ ใช้หลอดแบบไหน ขอบคุงกาบ
อ่ะงั้นจัด วิธีการต่อ เกจ ของ A'PEXi EL เริ่มด้วย Press Meter EL --------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ต่อด้วย วัดบูส 2 แบบ --------------------------------------------------------------------------------------------------------------- และ Ex-temp
วิธีติดตั้งที่เปิดกระโปรงหลังไฟฟ้า B11 การทำที่เปิดกระโปรงหลังไฟฟ้า อุปกรณ์ 1ปืนหรือที่เรียกมอเตอร์เซ็นทรัลล็อค ราคา 150 บาท ขอซื้อได้ตามร้านประดับยนต์หรือคลองถมจะถูกกว่า 2.สวิสต์เปิดกระโปรงหลังของนิสสัน มี 2 แบบ(สามารถใส่ช่องของคอลโซลได้เลยสวยงามและรียบร้อย หรือสวิสต์กด 1 จังหวะ(เจาะใส่จุดตรงที่เป็นที่ใส่สายดึงโช๊คสต๊าทเครื่องยนต์จะมี 2 จุด ซ้าย ขวา) 3.ท่อยางร้อยสายไฟ(สำหรับต้องการความเรียบร้อย) 4.ฟิวส 1ชุด 5. สายไฟ 6.หางปลา ห่วง 2 ตัว และตัวผู้ตัวเมียแบบกลมหรือแบน 7.เหล็กยึดลักษณะฉาก+น๊อต(ทำขายึดมอเตอร์) 8.สว่าน(เพื่อเจาะรูยึดขาติดมอเตอร์) วิธีทำ 1.ติดตั้งตัวมอเตอร์ดึงกับชุดกลไกลล็อคฝากระโปรงซึ่งจะมีลวดเหมือนซี่ลอวจักกระยานมาร้อยตรงหูของกลอนซึ่งมีมาให้อยู่แล้วแล้วจะมีตัวล็อคใส่พอหลวมไว้ก่อนขันน๊อตไว้ 2.เดินสายไฟจากแบตหรือจุดที่มีไฟตรงจากแบตมาต่อบัตกรีเข้ากับชุดฟิวส์(ขั้ว +)พร้อมต่อสายไฟกับหางปลาตัวผู้ตัวเมียต่อเข้ากับสวิสต์วึ่งจะมี 2 สาย (1.จากแบต 2.ต่อเดินไฟที่มอเตอร์)และเดินสอดใต้พรมมาที่ท้ายรถและใช้หางปลามาติดเพื่อสามารถถอดเอาตัวมอเตอร์มาแก้ไขในภายหลังได้และสายสีดำ(สายกราว)ที่มอเตอร์ต่อสายไฟหรือถ้าสายไฟพอถึงตัวถังในท้ายรถได้ก็ต่อหางปลาห่วงติดเข้ากับตัวรถ 3.เมื่อต่อวงจรไฟฟ้าครบแล้วก็ถึงตอนตั้งตัวมอเตอร์ให้หาแหล็กหรืออะไรก็ได้กดกลไกลกลอนให้อยู่ในลักษณะล็อคแล้วเลื่อนตัวยึดซี่ลวดจักรยานมาชิดพอหลวมแล้วขันน๊อตให้แน่นแล้วลองกดสวิสต์เช๊คดูแล้วปิดฝากระโปรงแล้วทดสอบดูแต่ถ้าปิดไม่ได้เกิดจากตัวยึดชิดไปแต่ถ้าเปิดไม่ได้แต่ระบบทำงานตัวยึดหลวมไป 4.คุณสามารถหาแผ่นพลาสติกมาทำการบังมอเตอร์เพื่อความสวยงามก็จะจ๊าบมักๆ ปล.ผมไม่ใช่ช่างโดยกำเนิดศักพ์อาจเรียกไม่ถูกต้องแต่เวลาไปซื้อร้านรู้จัก วิธีการอาจงงๆเล็กน้อยถึงมากแต่ผู้ที่มีความรู้เรื่องไฟ้าบ้างน่าจะพอเข้าใจ(เดี๋ยวรูปตามา ง่วงมักๆๆ)ถ้าไม่เข้าใจหรือสนใจมากดูตัวอย่าง โทรมาได้ครับ 0813434843 ตี๋
เกี่ยวกับ "ครัช" -------------------------------------------------------------------------------- ...............ถ้าวัสดุที่เป็นผ้าคลัทช์เหมือนกัน จะเต็มแผ่น หรือ 3 4 6 8 ก้อน . . . ก็จับได้พอๆกันหมด ขนาดพื้นที่ผิวสัมผัสไม่มีผลแบบมีนัยะ(มีผลน้อยมากๆ)ต่อความสามารถในการจับ ข้อความข้างบนอาจค้านความรู้สึกว่าผ้าเยอะๆ ทำไมมันไม่จับดีกว่า . . เดี๋ยวจะขยายความให้ดูครับ มามองที่หน้าที่พื้นฐานของคลัทช์ก่อน > คลัทช์ทำหน้าที่จับแรงบิดไม่ใช่แรงม้า . . . ดังนั้นสิ่งที่ต้องมองคือ คลัทช์นั้นรับแรงบิดได้ขนาดไหน . . . คลัทช์ Vigo 160 ม้า มีแรงจับสูงกว่าของเครื่อง B18CR 200 ม้า เพราะแรงบิดของ Vigo สูงกว่า B18 เยอะ แม้ม้าจะน้อยกว่า ปัจจัยที่ทำให้คลัทช์รับแรงบิดได้ขนาดไหนก้มี . . ขนาดจาน, แรงกดจาน(Cover), ค่าความฝืด (วัสดุที่ใช้ทำผ้าคลัทช์), จำนวนแผ่นของผ้าคลัทช์ มามองในแง่การปรับปรุงคลัทช์ ในปัจจัยต่างๆ - ขนาดจาน . . มีผลน้อย เพราะเราไม่สามรถเพิ่มขนาดจานคลัทช์ได้ง่ายๆ เพราะทุกอย่างต้องตามมาหมดทั้ง ฟลายวีลและ Cover . . ถึงทำได้ก็คงใหญ่ขึ้นแค่ 10-20 มม. เมื่อเทียบกับขนาดเดิมคิดเป็น % แล้วนิดเดียว เมื่อเทียบความสามารถที่เพิ่มขึ้นกับความยุ่กยาก > ไม่คุ้มเหนื่อย - แรงกด . . . มีผลโดยตรง ต่อความสามารถในการจับแรงบิด . . . แต่ก้ต้องแลกด้วยการออกแรงที่มากขึ้น น่องโป่ง - ค่าความฝืด . . . เห็นผลชัดเจน เปลี่ยนจากผ้าธรรมดาเป็นผ้าโลหหะ เช่น ทองแดง หรือโลหะชนิดอื่น หรือวัสดุอื่นๆที่มีค่า มิวสูงกว่า . . จะเห็นผลได้ชัดเจนว่าจับดีขึ้น แม้จะใช้ Cover เดิม . . . บางอย่างยิ่งร้อนยิ่งฝืด บางอย่างอาจจะร้อนแล้วฝืดน้อยลง แต่ก้ยังทนอุณหภูมิได้สูงกว่าผ้าเดิม ที่อุณหภูมิสูงๆก้ยังฝืดกว่าผ้าเดิม . . . . แต่ยิ่งฝืดความนุ่มนวลในการจับก็มักจะหายไปแปรผันตรงกับค่าความฝืด เพราะมันยอมให้ Slip ตอนคลัทช์กำลังจะจับได้น้อยลง - จำนวนแผ่น . . . นี่ก็เห็นผลชัดเจนที่สุด เพิ่มคลัทช์เข้าไปอีกแผ่น แรงจับเพิ่มขึ้นเท่าตัวในทันที แม้จะใช้แรงกดเท่าเดิม . . คลัทช์หลายแผ่นจึงไม่หนักแต่จับแรงบิดได้สุงกว่ามากๆ . . . . คลัทช์แผ่นเดียวทำยังไงมันก็มี limit สูงสุดที่มันจะรับแรงบิดได้ ไม่ว่าจะใช้ผ้าเนื้ออะไร เพิ่มแรงกดเป็นเท่าไร . . . รถแรงๆที่ยังไงก็มีแรงบิดเกินกว่าที่แผ่นเดียวจะรับได้ ก้ต้องเพิ่มแผ่น เพราะสามารถรับแรงบิดได้เท่าตัวในทันที ดังนั้นในรถที่ไม่แรงจริงๆ เช่นรถ NA ม้าไม่เกิน 300 แรงบิดไม่เยอะ ส่วนใหญ่คลัทช์แผ่นเดียวดีๆก็เอาอยู่ . . . ดังนั้นการใส่คลัทช์เกินกว่า 1 จึงเป็นเรื่องที่ไม่จำเป็นและจะทำให้รถช้าลง เพราะมากแผ่น ชุดคลัทช์ก็หนักขึ้น . . ชุดคลัทช์มันก็ต้องหมุนไปกับฟลายวีลตลอด ก็ต้องหมุนของหนักให้มันกินแรงเล่นไปเปล่าๆ . . . คลัทช์หลายแผ่นเขาไว้ใช้กับรถแรงจริงๆที่คลัทช์แผ่นเดียวเอาไม่อยู่แล้ว . . . ถ้ายังไม่ถึงจุดนี้ อย่าใช้ เสียเงินเปล่า แพงและหนัก ทีนี้มาลองมองที่ว่า . . ทำไมขนาดพื้นที่หน้าสัมผัสไม่มีผล ต่อการรับแรงบิด ? > แรงกดจาก Cover สมมุติมีแรงกด 100 กิโล . . . พื้นที่จานจะมีเท่าไร แรงกดก้คือ 100 เท่าเดิม แต่การกระจายแรงไปในแต่ละพื้นที่ต่างกันไป 3 ก้อนก็มีแรงกด 33.3 กิโลต่อก้อน . . 4 ก้อนเหลือ 25 . . 6 ก้อนเหลือ 16.6 . . . แต่แรงกด รวมยังเท่าเดิม . . . ดังนั้นการรับแรงบิดจึงเท่าเดิม แล้วมีมากก้อน น้อยก้อน เต็มแผ่น . . ต่างกันยังไง? > ต่างกันที่ความนุ่มนวลในการจับ และความทนทาน . . . . ตอนก่อนคลัทช์จะจับเต็ม ช่วงที่เกิดการ Slip . จากการเฉลี่ยแรงกดต่อพื้นผิวสัมผัส พื้นที่มาก แรงกดเฉลี่ยน้อยลง การค่อยๆจับจะเป็นไปได้ดีกว่าการกดโครมลงไปในพื้นที่เล็กๆ . . . ซึงการเฉลี่ยแรงกดนี้ ก็สืบต่อไปถึงเรื่องของความทนทานด้วย กดแรงก็สึกเยอะ(เหมือนเหยียบเบรคแรงๆ กดหนักสึกเร็ว กดเบาๆก็ทนหน่อย) ดังนั้นพื้นที่เยอะ เฉลี่ยแรงกดลงมาน้อยลง ก้สึกช้าหน่อย . . . . นี่คือเหตุผลว่าทำไม รถเดิมๆจากโรงงานจึงใช้ผ้าเต็มแผ่น นุ่มนวล ทนทาน ทีนี้สืบเนื่องจากแรงกดเฉลี่ยต่อพื้นที่น้อยลง ก็ทำให้การทำงานของคลัทช์ในการใช้งานหนักๆต่อเนื่อง ได้ดีขึ้น . . . ทุกครั้งที่คลัทช์จะจับ จะเกิดความร้อน พื้นที่เยอะการกระจายความร้อนเฉลี่ยก็ดีขึ้น เกิดความร้อนน้อยลง . . . ความร้อนที่น้อยลง ตัวผ้าคลัทช์เองก้สามรถรักษาค่าความฝืดได้อย่างมีเสถียรภาพดีขึ้น (ซึ่งอาจจะหมายถึงยังจับดีกว่า เมื่อต้องทำงานหนักๆต่อเนื่อง) แต่ที่อุณหภูมิเดียวกัน . . . ขนาดพื้นที่ผิวที่มากหรือน้อย ไม่มีผลต่อความสามรถในการจับแบบมีนัยยะครับ เรื่องพื้นที่สัมผัส อาจขัด อาจค้านความรู้สึก . . . แต่เรื่องจริงๆมันเป็นเช่นนี้ครับ เรื่องแรงกดเฉลี่ยต่อพื้นที่ก็สามรถนำไปใช้อธิบายเรื่องเบรคได้เช่นเดียวกัน . . . ผ้าเบรคใหญ่ ดีเรื่องทน คาลิปเปอร์ลูกสูบเยอะๆ เฉลี่ยแรงกดต่อพื้นที่ได้ดีขึ้น ผ้าทน เฟดช้ากว่าและจับนุ่มนวลขึ้นกว่าผ้าเบรคพื้นที่เล็กๆ . . . บังเอิญเบรคมันสร้างความร้อนเยอะ ผ้าเล็กๆจึงร้อนและเฟดจนกลายเป็นเบรคห่วยไป ช่วยอธิบายตรงนี้อีกนิดได้มั้ยครับ ยังไม่ค่อยเข้าใจ ว่าเพิ่มเป็น 2 แผ่น ทำไมเพิ่มแรงจับเท่าตัว มันเพิ่มขึ้นเพราะ มันสามารถทำให้แรงกดรวมที่ลงบนผ้าคลัทช์ท้งหมดเพิ่มขึ้น????????? มองให้ง่ายขึ้น เอาไม้มาแผ่นนึง เอาน้ำหนัก 100 กก. มากดลงไป ที่พื้นก้รับน้ำหนัก 100 ที่แผ่นไม้เองก้ 100 . . . . เอาไม้มาเพิ่มเป็น 2 แผ่น น้ำหนัก 100 เหมือนเดิม ที่พื้นก็ยังรับแรงกด 100 . ไม้ทั้ง 2 แผนแต่ละแผ่นก้ยังมีแรงกด 100 อยู่เท่าเดิม . . . . ถ้านับที่หน้าสัมผัสของแผ่นไม้แต่ละหน้า ทุกหน้าสัมผัสมีแรงกด 100 เท่ากันหมด . . . จะ 1 หรือ 2 แผ่น แต่ละหน้าสร้างแรงเสียดทานได้เท่าเดิม แต่แรงเสียดทานรวมที่พื้นผิวมากขึ้น 1 เท่าตัว มองแบบคณิตศาสตร์ ของคลัทช์ที่กล่าวมาแล้วข้างต้น การรับแรงบิดของคลัทช์เกิดจากสูตรดังนนี้ แรงบิดคลัทช์ = ขนาดเส้นผ่าน0กลาง x ค่าสัมประสิทธิแรงเสียดทาน x แรงกด x จำนวนแผ่น มองตัวแปรทั้งหลาย - ขนาดจานเพิ่มขึ้น อย่างเก่งไม่เกิน 10-20% . . .ผลลัพธ์ก็แตกต่างไม่เกิน 10% - ค่าสัมประสิทธิแรงเสียดทาน . . . ผ้าธรรมดามีค่านี้แถวๆ 0.25 . . . ผ้าโลหะทั้งหลายมี แถวๆ 0.3 -0.32 . . . แตกต่างกัน 20-25% . . . คลัทช์ก็มีความสามารถรวมขึ้น 20-25% . . . ผ้าคลัทช์เนื้อแปลกๆบางตัวมีค่านี้เพิ่มขึ้นได้ถึง 50% - แรงกด . . . มีปัญญาเพิ่มเท่าไรเท่าที่เหยียบไหว เพิ่มขึ้นกี่% การรับแรงบิดก็เพิ่มขึ้นเท่านั้นครับ - ผ้าคลัทช์ . . เพิ่มจาก 1 เป็น 2 มัน 100% ในทันที . . 3 แผ่นก็ 200% ทันทีเหมือนกัน มองเป็นสูตรแบบนี้ คงพอมองเห้นง่ายขึ้นนะครับว่าทำไมเพิ่มแผ่นแล้วแรงกดเพิ่มขึ้น 1 เท่าตัว รถโดยทั่วไป ใช้ผ้าคลัทช์ฝืดๆ + เพิ่มแรงกดซัก 20-30% ก็รับแรงบิดเพิ่มขึ้นได้ ประมาณ 50% ซึ่งก็น่าจะเหลือพอสำหรับรถที่ไม่โมกันแบบแรงชนิดแรงขึ้นเป็นเท่าตัว
การติดเซ็นทรัลล็อคของประตู 4 บาน วีธีการเดินระบบไฟก็ไม่ยาก 1.จะมีชุดกล่องคุม 1 ตัว 2.ปืน 4 ตัว 1 ในนั้นจะมีตัวที่สายไฟมากว่า 2 เส้น 1ตัว(คือตัวที่ติดตั้งด้านฝั่งคนขับ 3. รีโมท 2 ตัว ในตัวกล่องคุม จะมีสายไฟหลายเส้นอย่าพึ่งไฟงง ให้สังเกตุ หลักๆของที่ต่อระบบไฟจะมี สีแดง(ไฟจากแบต)จะมีฟิวส์ติดอยู่ สีดำ(กราวน์) สีส้ม 2 เส้นคือสายที่ต่อระบบแตรหรือระบบสัญญาณไฟ ส่วนที่เหลืออีกประมาณ 10 เส้น คือ ประตู 4 บาน และสวิสต์กดล๊อคจากในรถ วีธีแยกแต่ประตูให้แยก เป็นชุดละ 2 เส้น เช่น ม่วง+ม่วงมีเส้นดำ และมื่อแยกได้ สีบานที่เหลือ 2 เส้น คือสำหรับสวิสต์ การติดตั้งตัวมอเตอร์ดึงสลัก(ปืน) ถอดแผงประตูออกสังเกตุจากกลอนจะมีเหล็กเส้นต่อไปที่กลอนนั่นคือจุดที่จะติดตัวยึดกลอนให้วัดระยะจะที่จะเจาะยึดปืนกับระยะที่ติดจุดยึดสลัก(อาจจะต้องมีการดัดตัวเหล็กเส้นที่ให้มากับตัวมอเตอร์ให้เปใกล็กับเหล็กสลักประตูลักษณะแนบคู่แล้วใส่ตัวยึด(จะมีลักษณะเป็นก้อนสี่เหลี่ยมมีน๊อตขันยึด 3ตัวและรูใส่ลวดเหล็ก) สำหรับการวัดระยะการยึดให้กดล็อคและและจับยึดในลักษณะให้ตัวหัวปืนถอยเกือสุด)หัวมอเตอร์จะขยับขึ้นลงได้คือระยะในการดึง) รูที่จะเจาะยึดเป็นขนาดเล็กสังเกตุน็อตเกลียวที่แถมมากับปืน ปล.การติดตั้งตัวปืนอาจะต้องใช้เวลาพอสมควรเพราะหาจุดยึดเดี๋ยวรอผมอีกนิดดีกว่าจะถ่ายรูจุดยึดมาให้จะเร๊วขึ้นอีกเป็นกอง ผมอธิบายพอคร่าวๆ ผมใช้เวลาเกือบทั้งวันเหมือนกันแต่ภูมิใจที่สามารถทำได้เองเคยถามร้านมันคิดค่าแรงแพงเหมือนกัน 500-800 เลย ถ้าติดที่ร้านประมาณ 2000 ขึ้น
ไฟหลังดำทั้งเส้นใครชอบลองทำดูนะคับผมว่าดุดี....ใช้ติ๊กเกอร์ดำใสปามาณ4แผ่นลงทุนไม่เกิน300คับ ที่เหลือแลวแต่ความเนียน ของผมให้ร้านทำเลยเนียนกิ๊บ อิอิ ไม่ต้องห่วงเรื่องความสว่างนะคับ ไม่มีลดน้อยลงเลย เพราะว่าติ๊กเกอร์ก้อเหมือนฟิลม์บางๆคล้ายๆพรมมาจรรย์อ่ะ
SUNNY THAILAND NO.069 SUNNY SAFE & SECURITY CONCEPT http://www.logistics-perfect.com อย่าพึงคิดว่าเราเคยมีบุญคุณกับใครกี่ครั้ง แต่พึงนึกเสมอว่าใครมีบุญคุณกับเราบ้าง
ขอโทษครับ ขอความกรุณา ช่วยบอกวิธี ติดวัดรอบ auto gauge หน้ามืดครับ เครื่อง sr20det ฝาดำ ปกติใส่ autometer อยู่ ก็ขึ้น พอเอาอันนี้มาใส่ ก็ต่อสัญญาณ วัดรอบจากกล่องที่เดินไว้เก่า มันไม่ขึ้นนะครับ เห็นตามคู่มือ บอกให้ต่อจากคอยล์ แต่ผมหาไม่เจอ ช่วยบอกหน่อยครับว่าต้องทำอย่างไร มีสาย 4 สายครับ แดง , ดำ , ม่วง , เขียว ขอบพระคุณล่วงหน้าครับ จะเข้ามาดูทุกวันครับ
โจทย์ การทำกาจังหน้าคับ จากกาจังหน้าเดิม บี14 1เลื่อยเล็กๆ คมๆ 2ดาษทราย 3ตาแกรงแล้วแต่ชอบ อันนี้แพงหน่อยปามาณ300 พูลทรัพย์ 4กาวร้อน หรือไอแท่งๆที่ใช้ไฟลนแล้วมันหยดอ่ะคับ วิธิทำ เลือยเลยคับใจเย็น ๆ ของแท้ ขาดยากหน่อย เลาะตามขอบเลย เสด แล้วดาษทรายขัดเก็บรายละเอียด ตัดตาแกรงที่มีให้ใหญ่กว่ารูที่ตัดนิดนึง แล้ววางด้านหลังกาจัง หยดกาวคับ รอแห้ง ขัดๆๆอีกรอบ พ่นดำซะ แค่นี้ก้อดุขึ้นแล๊ว เคยทำตอนแรกๆคับ ใส่ได้เหมือนเดิมเลย ตอบ ผมว่าซื้อดีก่า 600 แต่ต้องยึดน๊อตนิดนึง คับผม
ปรึกษาหน่อยคับ ผมอยากให้ไฟในเรือนไมล์ผม มันเป็นสีขาวสว่างๆเหมือนพวกซีวิค เลยอ่ะคับ บี14เราทำได้มั๊ยคับ ทำที่ไหนหรือใครทำให้ผมได้มั่งคับพี่ๆ
รอคำแนะนำอยู่ครับ ขอบพระคุณล่วงหน้าครับ ยังไงผมก็รออยู่นะครับ พอดีงบน้อยนะครับ ต้องใส่ autogauge แต่ไม่ worry ครับ อยากใส่เรียงๆหลายๆตัวเหมือน defi แต่ทรัพย์ไม่อำนวย แค่ autogauge ก็เท่ห์ได้ครับ ขอบคุณครับ
ได้นะครับ ผมก็ซื้อมาทำเองเหมือนกัน ยังมีหางปลาเหลือด้วย เอามั้ยเอ่ย ส่วน Voltage ซื้อพี่ Bank เอาอ่ะครับ กลับไปดูหน้า 1 นะครับ พี่เด่นเอามาลงไว้ให้แหน่ะ ผมลองดูแล้วอ่ะครับ แต่แยกไม่ออกว่าสายคอยด์มันเป็นเส้นไหน เพราะเค้าพันสายไฟสีดำมาหมดเลย แง่มๆ จำได้ว่าตอนเอาไปให้ช่างเค้าติด ก็เดินจากคอนด์มา 1 เส้นครับ แล้วที่เหลือก็เอามาเชื่อมกับไฟหรี่เอา ไม่รู้จะช่วยได้หรือเปล่า 55 ยังไม่วางรื้อแบบเต็มๆตัวครับ ท่านใดทราบช่วยกันด้วยน้า
http://www.pantip.com/cafe/ratchada/topic/V5433584/V5433584.html ไปเจอมาการถอดซ่อมยางหุ้มเพลาขับ อิอิ เผื่อจะมีคร่ายขยันทำเอง แต่ให้แนะนำซื้อมาทั้งเส้นจากเซียงกง ใส่ไปเลย ทนกว่าด้วย
ไฟอ่านแผนที่ ติดเองครับ View attachment 614988 View attachment 614990 View attachment 614992 View attachment 614993 View attachment 614998
ไม่ได้ถ่ายรูปตอนทำไว้ครับ ผมซื้อตัวไฟมาจากคลองถม ไปค้นเอาที่ร้านตรงกลางๆคลองถมพลาซ่าอ่ะครับ อันละ 100 บาท หาอันบางๆหน่อย ของผมเป็นหลอด LED สีออกน้ำเงินๆ เอามาก็ทาบถานโคมใส่ฝ้าแล้วเอาคัตเตอร์ตัดเลยครับ ระวังอย่าให้เกินนะครับเดี๋ยวจะไม่สวย ต่อไปก็หาที่ยึดน็อต พอดีตรงตำแหน่งที่ผมตัดไปเจอรอยตะเข็บหลังคาพอดี มันจะเหลือออกมานิดนึง ใช้สว่านเจาะ แล้วก็เอาสกรูยึด ส่วนสายไฟก็พ่วงกับไฟในเก๋งอันตรงกลาง เป็นอันเสร็จครับ + อ้างถึง ตอบกลับ