อาจเป็นได้ครับ อีกประเด็น เพราะผมวางมา 2 ปีแร้ว สังเกตหลังๆ เขม่าตรงท่อไอเสียกระเด็นออกมาเป็นสีดำเลยครับ ก็เลยคิดอยู่ แต่จะลองเปลี่ยนดูก่อนเพราะ ราคามันก็ไม่แรงมาก ตัวสวิทช์วัดความร้อนที่คุณ หยู บอกมา ได้ผลอย่างไร จะแจ้งให้ทราบครับผม
เรื่องสุดท้ายที่ลืมคิดถึงกันคือเรื่องความสมบูรณ์ของเครื่องยนต์น่ะครับ บอ่าลืมด้วย เพราะเครื่องที่ได้มาอาจสดดี เพราะเขาใช้กันบ้านๆ แต่อายุก็นับทศวรรษกันแล้ว แล้วใช้งานแบบบ้านเราด้วย นับวันยิ่งอายุมากขึ้นน่ะครับ ผมไปถามที่อู่ธรรมดาๆเขาบอกรถอายุรุ่นและปีประมาณนี้ก็วิ่งกันประมาณ 8-10 โลลิตรปกติครับ
คือตอนวางใหม่ๆ ผมวิ่งได้ 14 โลลิตรครับ แต่ว่าพอใช้ไป 2 ปี กลับลดลงเหลือ 8 - 10 โลลิตร ซึ่งมันน่าจะมีสาเหตุครับ บางครั้งผมเบื่อช่างทั่วๆไป พอผมบอกกินน้ำมันมากขึ้น เค้าโทษอะไรรู้ปะ แก๊สโซฮลล์มานผิด เซ็งอะ
ต้องขอโทษเพื่อนๆด้วยครับที่ให้ข้อมูลผิดพลาดไป จากการที่คุณเอกได้โทรมาถาม part no ผม แล้วไปถามที่ 0 ปรากฎว่าไม่ใช่ O2 sensor เมื่อวานเลยโทรไปถามที่ 0 แล้วให้เช็คประวัติรถตัวเอง ว่าที่maintenant แล้ว part no. แล้วปรากฏว่าเป็นเซ็นเซอร์ที่อยู่กับวาล์วน้ำ เรื่องมีอยู่ว่าวันที่ไปรับรถมีพนักงานฝ่ายบริการเขาชี้ไปที่ sensor ที่ header แล้วบอกว่าเปลี่ยนตัวนี้ ผมเลยถามว่า O2 sensor เหรอ เขาก็บอกว่าใช่ ผมเลยคิดว่าตัวนี้หล่ะ ใช่เลย เลยรีบมาบอกเพื่อนๆเลย เพราะคิดว่าหลายคนคงมีอาการเหมือนกัน หลังจากนั้นก็มีอีกคนออกมาให้ข้อมูลการดูแลรถ แล้วก็ขับกลับ แล้วเมื่อวานที่โทรไปถามเรื่อง part no. ได้รับแจ้งว่าพอ 0 เปลี่ยนอะไหร่แล้วเขาก็จัดการเช็คกล่องให้ด้วย (น่าจะset ค่าอะไรด้วยมัง ไม่แน่ใจ ถึงทำให้เครื่องวิ่งดีและประหยัดขึ้นเห็นๆ) ส่วน O2 sensor เขาบอกว่าล้างก็ไม่ได้ช่วยให้ดีขึ้นน่ะครับ ถ้าจะให้ดีต้องเปลี่ยนเป็นของใหม่เลย ราคาประมาณ 5,000 +- เลยมาคิดว่าคุ้มป่าว เมื่อก่อนตอนวางเครื่องมาใหม่ๆเมื่อต้นปีที่แล้ว ในเมืองได้ 12 เหลือ 9 ส่วนนอกเมือง เคยวิ่งได้ 15.6 เหลือ 13.6 เดี๋ยวนี้วิ่งวันละ 20 กม เอง ที่สำคัญคือ อะไหร่ตัวอื่นก็ยังเก่าอยู่ เพราะถ้าเปลี่ยนแล้วส่วนอื่นมันเริ่มเสื่อมก็ไม่คุ้มอยู่ดี ยังไงลองหาที่เช็คกล่อง ECU กันมั่งน่ะครับ อาจจะง่ายขึ้นกว่าการคิดว่านั้นเสีย นี่เสีย เพราะอย่างน้อยก็ได้ข้อมูลที่มีค่าอ้างอิงได้บ้าง เดี๋ยวจะฟุ้งซ่านเหมือนผมก่อนหน้านี้ แทบไม่เป็นทำอะไรกันเลย ..... + อ้างถึง ตอบกลับ