เข้าสู่ระบบหรือลงทะเบียน
ติดต่อลงโฆษณา
[email protected]
หรือโทร. 081-811-1138 หรืออ่านรายละเอียดเพิ่มเติม คลิกที่นี่
RacingWeb.NET | The Racing Cars Community on Web.
ฟอรั่ม
>
Community Car Clubs
>
Japanese Car Clubs
>
Mazda 323&626 Club
>
ความรู้เกี่ยวกับยางปีเก่า
>
ตอบกลับหัวข้อ
ชื่อ:
การตรวจสอบ:
กรุณาเปิดใช้งานจาวาสคริปต์เพื่อดำเนินการต่อ
กำลังโหลด...
ข้อความ:
<p>[QUOTE="elmo, post: 951447, member: 47977"]ยางเก่าเก็บไม่น่าสน</p><p> </p><p>ความเข้าใจผิด : เป็นที่ทราบกันทั่วไปว่า ยางรถยนต์ที่ถูกเก็บสต็อกไว้ สามารถหมดสภาพได้ แม้จะยังไม่เคยใช้งานก็ตาม แต่ตัวเลขจำนวนเดือนปีที่จะถือว่าไม่น่าซื้อใช้ของแต่ละคนไม่เท่ากัน บางคนตั้งใจว่า ผลิตเกิน 3 เดือนจะไม่ซื้อ บางคน 6 เดือน หรือบางคน 1 ปีกว่าๆ ยังรับได้ ความเข้าใจผิดก็คือ คนที่หวาดระแวงเกินเหตุ เก็บเกิน 3-6 เดือนไม่เอาแล้ว ทำเป็นว่ายางรถยนต์จะเน่าง่ายๆ แบบขนมเค้กหรือต้องรอของที่อบเสร็จกันหน้าเตาเลย</p><p> </p><p>ความเป็นจริง : ข้อมูลจากผู้ผลิตยางรถยนต์ หากเก็บโดยไม่โดนความร้อนจัดเย็นจัด ไม่ถูกสารเคมี และจัดวางอย่างเหมาะสม จะสามารถเก็บ สต็อกได้นานถึงกว่า 5 ปีก็ยังมี โดยไม่เสื่อมสภาพ สามารถนำมาใช้งานได้</p><p> </p><p>ส่วนที่ตั้งแง่ ว่าเกิน 3-6 เดือนจะไม่ซื้อ สงสัยต้องตระเวนหากันเหนื่อย ถ้ามีคนเข้าใจผิดกันมากๆ สงสัยอีกหน่อยต้องเหนื่อยไปดักซื้อหน้าโรงงานกันเลย ผลิตมาเก็บไว้ หากขายไม่ดี เกิน 6 เดือนแล้วจะขายไม่ออก</p><p> </p><p>ถ้าคิดว่าคำแนะนำนั้น เป็นเพราะกลัวขายยางเก่าเก็บไม่ได้ ก็ย้อนไปอ่านกรณีที่แนะนำอายุการใช้งานของยาง ก็ยาวนานเช่นเดียวกัน ในฐานะของผู้บริโภคลดลงมาเหลือ 3 ปีก็คงรับได้ จึงสรุปว่า ยางรถยนต์ที่ถูกเก็บไว้ไม่เกิน 3 ปี ยังสามารถซื้อมาใช้งานได้ตามปกติโดยไม่ต้องกังวลอะไร หรือถ้ายังกลัว ก็สักไม่เกิน 2 ปียังรับได้ แต่ถ้าวิตกจริต เก็บมาแถวๆ ไม่เกิน 1 ปี หรือเกินเล็กน้อย ก็คงสบายใจได้</p><p><br /></p><p>มานับอายุ(ขัย)ของยางกันเถอะ</p><p>----------ความสำคัญของ "ยางรถยนต์" นั้นขอบอกว่าไม่แพ้กับชิ้นส่วนอื่นๆที่ประกอบขึ้นมาเป็นรถ 1 คันเลย เพราะนอกจากจะช่วยให้รถขับเคลื่อนไปได้แล้วยังช่วยในระบบการเบรกเมื่ออยู่ใน ถนนที่มีสภาพที่ลื่นหรือขรุขระ ยางที่ดีนั้นจะต้องมีคุณสมบัติในการช่วยให้ผู้ขับขี่มีความนั่นใจและลดการก ระแทก ผู้ใช้รถหลายคนลืมที่จะให้ความสำคัญกับยางแต่กลับไปเน้นที่น้ำมันหรือ เครื่องยนต์จนลืมนึกถึงความสำคัญของยางที่เรียกได้ว่าจะต้องเผชิญกับสภาพแวด ล้อมที่โหดร้ายตลอดเวลาการใช้งาน</p><p><br /></p><p>----------ผลการวิจัยพบว่าเนื้อยาง นั้นจะมีการ ยืดตัวไปมานับเป็นล้านๆครั้งขณะที่กลิ้งตัวไปตามถนนจนกว่าจะหมดสภาพการใช้ งาน ตัวอย่างเช่นยางขนาด 185/70 R13 หากวิ่งด้วยความเร็ว 130 กม./ชม. จะต้องหมุนถึง 20 รอบ/วินาที นั่นแสดงว่าการออกแบบและการผลิตยางแต่ละเส้นนั้นได้มีการนำองค์ประกอบต่างๆ โดยเฉพาะเรื่องความทนทานและอายุการใช้งานเข้ามาเป็นองค์ประกอบสำคัญในการ พัฒนาผลิตภัณฑ์ด้วย</p><p><br /></p><p>----------โดยทั่วไปแล้ว อายุของยางรถยนต์จะเริ่มตั้งแต่วันแรกที่ไปใช้งานจริงหรือติดล้อวิ่งไม่ใช่ จากวันเดือนปีที่ผลิตเหมือนอย่างอาหารหรือผลิตภัณฑ์อื่นๆและหากพิจารณาถึง การสิ้นสุดของการใช้งานแล้วล่ะก็ ให้พิจารณาจากความสึกหรอของดอกยาง ซึ่งดูจากสะพานยางที่อยู่ระหว่างร่องดอกยาง ที่มีควาสูงประมาณ 1.6 มิลลิเมตร หากพบว่าดอกยางมีอัตราการสึกจนถึงระดับนี้แล้วแสดงว่ายางเส้นนั้นหมดอายุและ ควรเปลี่ยนยางเส้นใหม่เพื่อความปลอดภัยอย่างไรก็ดี หากคุณต้องการให้การขับขี่อย่างมั่นใจและปลอดภัยยิ่งขึ้น ในสภาพการขับขี่ที่มีฝน ขอแนะนำให้คุณเปลี่ยนยางเส้นใหม่ทุกครั้งเมื่อ ตรวจสอบพบว่าการสึกหรอ ลึกประมาณ 3.5 มิลลิเมตร</p><p><br /></p><p>----------สำหรับยาง ที่ยังไม่ได้ถูกนำไปใช้งาน นั้น สามารถเก็บได้เป็นระยะเวลาไม่น้อยกว่า 3 ปี (ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการเก็บรักษาจากคำแนะนำของบริษัทผู้ผลิต) ก่อนนำไปติดล้อวิ่งจริงซึ่งเป็นระยะเวลาที่ยาวนานมากจนกระทั่งผู้ขับขี่ไม่ จำเป็นที่ต้องให้ความสนใจในการตัดสินใจซื้อยาง แต่ก็ควรให้ความสำคัญกับการเลือกยางรถยนต์ให้ถูกกับการใช้งาน ยี่ห้อที่ไว้ใจได้และมีการดูแลยางรถยนต์อย่างสม่ำเสมอเพื่อความปลอดภัยที่ แท้จริง</p><p><br /></p><p>นอกจากนี้หากว่าต้องการยืดอายุการใช้งานของยางให้มากขึ้นเราก็มีเคล็ดลับมาให้ท่านผู้อ่านลองทำตามดู</p><p><br /></p><p>-----[1.] ควรตรวจสอบลมยางเป็นประจำทุก 2 สัปดาห์ หรือทุกครั้งก่อนการเดินทางไกลให้มีความดันลมยางที่เหมาะสม (ควรทำเมื่อยางอยู่ในอุณหภูมิปกติ) นอกจากนั้นควรตรวจสอบความดันลมยางของยางอะไหล่ และควรอ้างอิงความดันลมยางจากคู่มือของบริษัทนั้นๆ</p><p>-----[2.] ควรเปลี่ยนวาล์วทุกครั้งที่เปลี่ยนยางเส้นใหม่ เนื่องจากความกดดันจากแรงหนีศูนย์อาจทำให้ยางลมอ่อน ส่งผลให้ยางเกิดความเสียหายได้</p><p>-----[3.] การตั้งศูนย์ ถ่วงล้อ เพื่อปกป้องช่วงล่าง ช่วยลดการสั่นสะเทือน รองรับแรงกระแทกรวมถึงระบบพวงมาลัยทำให้ยางใช้งานได้ยาวนานยิ่งขึ้น</p><p>-----[4.] ลักษณะการทรงตัวของรถเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่มีผลต่อการสึกหรอของ</p><p><br /></p><p>ยางการตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอจะช่วยไม่ให้ลมยางอ่อน เสื่อมสภาพเร็วและสึกเก็บรักษายางอย่างไรดี?</p><p><br /></p><p>-----[1.] การเก็บรักษายางของคุณให้อยู่ในสภาพที่ดีพร้อมสำหรับการใช้งานอยู่เสมอ คุณควรทำความสะอาดยางด้วยน้ำสะอาดและเช็ดให้แห้ง แกะเอากรวดและก้อนหินต่างๆ ซึ่งอาจติดอยู่ที่ดอกยางออกเสมอ</p><p>-----[2.] การเก็บรักษาที่ดี ช่วยให้การใช้งานยางของคุณยาวนานมากยิ่งขึ้น</p><p># หากใส่ยางเข้ากับล้อแล้ว ควรเก็บโดยการวางราบลงกับพื้น หรือหาที่แขวน</p><p># หากยังไม่ได้ยางใส่เข้ากับล้อ ให้เก็บยางโดยการตั้งยางไว้กับพื้น</p><p>-----[3.] ขอแนะนำให้ให้คุณเก็บรักษายางไว้ในที่เย็น ไม่ควรเก็บยางไว้ในที่ที่ถูกแสงแดดโดยตรง เมื่อทำการเปลี่ยนยาง หรือสลับยางระหว่างล้อ ควรจดจำตำแหน่งในการใส่ให้ถูกต้อง อาทิเช่น ควรทำเครื่องหมาย FL แทนสำหรับ ยางล้อหน้าด้านซ้าย</p><p>-----[4.] ในกรณีที่คุณมีรถพ่วง หรือยานยนต์ที่มักต้องทิ้งให้จอดอยู่ในโรงรถเป็นเวลานานๆ ขอแนะนำให้คุณเพิ่มแรงดันยางมากกว่าปกติ อย่างน้อย 7 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว (0.5 บาร์)</p><p>**ขอบคุณข้อมูลจาก มิชลิน** </p><p><br /></p><p>ชอชอบคุณที่มาจาก >> <a href="http://forum.thai-jedi.com/index.php/topic,261.0.html" target="_blank" class="externalLink ProxyLink" data-proxy-href="http://forum.thai-jedi.com/index.php/topic,261.0.html" rel="nofollow">http://forum.thai-jedi.com/index.php/topic,261.0.html</a> ครับ[/QUOTE]</p><p><br /></p>
[QUOTE="elmo, post: 951447, member: 47977"]ยางเก่าเก็บไม่น่าสน ความเข้าใจผิด : เป็นที่ทราบกันทั่วไปว่า ยางรถยนต์ที่ถูกเก็บสต็อกไว้ สามารถหมดสภาพได้ แม้จะยังไม่เคยใช้งานก็ตาม แต่ตัวเลขจำนวนเดือนปีที่จะถือว่าไม่น่าซื้อใช้ของแต่ละคนไม่เท่ากัน บางคนตั้งใจว่า ผลิตเกิน 3 เดือนจะไม่ซื้อ บางคน 6 เดือน หรือบางคน 1 ปีกว่าๆ ยังรับได้ ความเข้าใจผิดก็คือ คนที่หวาดระแวงเกินเหตุ เก็บเกิน 3-6 เดือนไม่เอาแล้ว ทำเป็นว่ายางรถยนต์จะเน่าง่ายๆ แบบขนมเค้กหรือต้องรอของที่อบเสร็จกันหน้าเตาเลย ความเป็นจริง : ข้อมูลจากผู้ผลิตยางรถยนต์ หากเก็บโดยไม่โดนความร้อนจัดเย็นจัด ไม่ถูกสารเคมี และจัดวางอย่างเหมาะสม จะสามารถเก็บ สต็อกได้นานถึงกว่า 5 ปีก็ยังมี โดยไม่เสื่อมสภาพ สามารถนำมาใช้งานได้ ส่วนที่ตั้งแง่ ว่าเกิน 3-6 เดือนจะไม่ซื้อ สงสัยต้องตระเวนหากันเหนื่อย ถ้ามีคนเข้าใจผิดกันมากๆ สงสัยอีกหน่อยต้องเหนื่อยไปดักซื้อหน้าโรงงานกันเลย ผลิตมาเก็บไว้ หากขายไม่ดี เกิน 6 เดือนแล้วจะขายไม่ออก ถ้าคิดว่าคำแนะนำนั้น เป็นเพราะกลัวขายยางเก่าเก็บไม่ได้ ก็ย้อนไปอ่านกรณีที่แนะนำอายุการใช้งานของยาง ก็ยาวนานเช่นเดียวกัน ในฐานะของผู้บริโภคลดลงมาเหลือ 3 ปีก็คงรับได้ จึงสรุปว่า ยางรถยนต์ที่ถูกเก็บไว้ไม่เกิน 3 ปี ยังสามารถซื้อมาใช้งานได้ตามปกติโดยไม่ต้องกังวลอะไร หรือถ้ายังกลัว ก็สักไม่เกิน 2 ปียังรับได้ แต่ถ้าวิตกจริต เก็บมาแถวๆ ไม่เกิน 1 ปี หรือเกินเล็กน้อย ก็คงสบายใจได้ มานับอายุ(ขัย)ของยางกันเถอะ ----------ความสำคัญของ "ยางรถยนต์" นั้นขอบอกว่าไม่แพ้กับชิ้นส่วนอื่นๆที่ประกอบขึ้นมาเป็นรถ 1 คันเลย เพราะนอกจากจะช่วยให้รถขับเคลื่อนไปได้แล้วยังช่วยในระบบการเบรกเมื่ออยู่ใน ถนนที่มีสภาพที่ลื่นหรือขรุขระ ยางที่ดีนั้นจะต้องมีคุณสมบัติในการช่วยให้ผู้ขับขี่มีความนั่นใจและลดการก ระแทก ผู้ใช้รถหลายคนลืมที่จะให้ความสำคัญกับยางแต่กลับไปเน้นที่น้ำมันหรือ เครื่องยนต์จนลืมนึกถึงความสำคัญของยางที่เรียกได้ว่าจะต้องเผชิญกับสภาพแวด ล้อมที่โหดร้ายตลอดเวลาการใช้งาน ----------ผลการวิจัยพบว่าเนื้อยาง นั้นจะมีการ ยืดตัวไปมานับเป็นล้านๆครั้งขณะที่กลิ้งตัวไปตามถนนจนกว่าจะหมดสภาพการใช้ งาน ตัวอย่างเช่นยางขนาด 185/70 R13 หากวิ่งด้วยความเร็ว 130 กม./ชม. จะต้องหมุนถึง 20 รอบ/วินาที นั่นแสดงว่าการออกแบบและการผลิตยางแต่ละเส้นนั้นได้มีการนำองค์ประกอบต่างๆ โดยเฉพาะเรื่องความทนทานและอายุการใช้งานเข้ามาเป็นองค์ประกอบสำคัญในการ พัฒนาผลิตภัณฑ์ด้วย ----------โดยทั่วไปแล้ว อายุของยางรถยนต์จะเริ่มตั้งแต่วันแรกที่ไปใช้งานจริงหรือติดล้อวิ่งไม่ใช่ จากวันเดือนปีที่ผลิตเหมือนอย่างอาหารหรือผลิตภัณฑ์อื่นๆและหากพิจารณาถึง การสิ้นสุดของการใช้งานแล้วล่ะก็ ให้พิจารณาจากความสึกหรอของดอกยาง ซึ่งดูจากสะพานยางที่อยู่ระหว่างร่องดอกยาง ที่มีควาสูงประมาณ 1.6 มิลลิเมตร หากพบว่าดอกยางมีอัตราการสึกจนถึงระดับนี้แล้วแสดงว่ายางเส้นนั้นหมดอายุและ ควรเปลี่ยนยางเส้นใหม่เพื่อความปลอดภัยอย่างไรก็ดี หากคุณต้องการให้การขับขี่อย่างมั่นใจและปลอดภัยยิ่งขึ้น ในสภาพการขับขี่ที่มีฝน ขอแนะนำให้คุณเปลี่ยนยางเส้นใหม่ทุกครั้งเมื่อ ตรวจสอบพบว่าการสึกหรอ ลึกประมาณ 3.5 มิลลิเมตร ----------สำหรับยาง ที่ยังไม่ได้ถูกนำไปใช้งาน นั้น สามารถเก็บได้เป็นระยะเวลาไม่น้อยกว่า 3 ปี (ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการเก็บรักษาจากคำแนะนำของบริษัทผู้ผลิต) ก่อนนำไปติดล้อวิ่งจริงซึ่งเป็นระยะเวลาที่ยาวนานมากจนกระทั่งผู้ขับขี่ไม่ จำเป็นที่ต้องให้ความสนใจในการตัดสินใจซื้อยาง แต่ก็ควรให้ความสำคัญกับการเลือกยางรถยนต์ให้ถูกกับการใช้งาน ยี่ห้อที่ไว้ใจได้และมีการดูแลยางรถยนต์อย่างสม่ำเสมอเพื่อความปลอดภัยที่ แท้จริง นอกจากนี้หากว่าต้องการยืดอายุการใช้งานของยางให้มากขึ้นเราก็มีเคล็ดลับมาให้ท่านผู้อ่านลองทำตามดู -----[1.] ควรตรวจสอบลมยางเป็นประจำทุก 2 สัปดาห์ หรือทุกครั้งก่อนการเดินทางไกลให้มีความดันลมยางที่เหมาะสม (ควรทำเมื่อยางอยู่ในอุณหภูมิปกติ) นอกจากนั้นควรตรวจสอบความดันลมยางของยางอะไหล่ และควรอ้างอิงความดันลมยางจากคู่มือของบริษัทนั้นๆ -----[2.] ควรเปลี่ยนวาล์วทุกครั้งที่เปลี่ยนยางเส้นใหม่ เนื่องจากความกดดันจากแรงหนีศูนย์อาจทำให้ยางลมอ่อน ส่งผลให้ยางเกิดความเสียหายได้ -----[3.] การตั้งศูนย์ ถ่วงล้อ เพื่อปกป้องช่วงล่าง ช่วยลดการสั่นสะเทือน รองรับแรงกระแทกรวมถึงระบบพวงมาลัยทำให้ยางใช้งานได้ยาวนานยิ่งขึ้น -----[4.] ลักษณะการทรงตัวของรถเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่มีผลต่อการสึกหรอของ ยางการตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอจะช่วยไม่ให้ลมยางอ่อน เสื่อมสภาพเร็วและสึกเก็บรักษายางอย่างไรดี? -----[1.] การเก็บรักษายางของคุณให้อยู่ในสภาพที่ดีพร้อมสำหรับการใช้งานอยู่เสมอ คุณควรทำความสะอาดยางด้วยน้ำสะอาดและเช็ดให้แห้ง แกะเอากรวดและก้อนหินต่างๆ ซึ่งอาจติดอยู่ที่ดอกยางออกเสมอ -----[2.] การเก็บรักษาที่ดี ช่วยให้การใช้งานยางของคุณยาวนานมากยิ่งขึ้น # หากใส่ยางเข้ากับล้อแล้ว ควรเก็บโดยการวางราบลงกับพื้น หรือหาที่แขวน # หากยังไม่ได้ยางใส่เข้ากับล้อ ให้เก็บยางโดยการตั้งยางไว้กับพื้น -----[3.] ขอแนะนำให้ให้คุณเก็บรักษายางไว้ในที่เย็น ไม่ควรเก็บยางไว้ในที่ที่ถูกแสงแดดโดยตรง เมื่อทำการเปลี่ยนยาง หรือสลับยางระหว่างล้อ ควรจดจำตำแหน่งในการใส่ให้ถูกต้อง อาทิเช่น ควรทำเครื่องหมาย FL แทนสำหรับ ยางล้อหน้าด้านซ้าย -----[4.] ในกรณีที่คุณมีรถพ่วง หรือยานยนต์ที่มักต้องทิ้งให้จอดอยู่ในโรงรถเป็นเวลานานๆ ขอแนะนำให้คุณเพิ่มแรงดันยางมากกว่าปกติ อย่างน้อย 7 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว (0.5 บาร์) **ขอบคุณข้อมูลจาก มิชลิน** ชอชอบคุณที่มาจาก >> [url]http://forum.thai-jedi.com/index.php/topic,261.0.html[/url] ครับ[/QUOTE]
เข้าสู่ระบบด้วย Facebook
เข้าสู่ระบบด้วย Twitter
เข้าสู่ระบบด้วย Google
ชื่อผู้ใช้งานหรือที่อยู่อีเมล์ของคุณ:
คุณมีบัญชีผู้ใช้หรือไม่?
ไม่มี, สร้างบัญชีผู้ใช้ตอนนี้
มี, รหัสผ่านของฉันคือ:
ลืมรหัสผ่านของคุณ?
อยู่ในระบบตลอดเวลา
RacingWeb.NET | The Racing Cars Community on Web.
ฟอรั่ม
>
Community Car Clubs
>
Japanese Car Clubs
>
Mazda 323&626 Club
>
ความรู้เกี่ยวกับยางปีเก่า
>
X
หน้าแรก
หน้าแรก
Quick Links
โพสต์ล่าสุด
กิจกรรมล่าสุด
ผู้เขียน
ฟอรั่ม
ฟอรั่ม
Quick Links
ค้นหาฟอรั่ม
โพสต์ล่าสุด
ประกาศซื้อขาย
ประกาศซื้อขาย
Quick Links
ค้นหาประกาศซื้อขาย
กิจกรรมล่าสุด
ผู้ค้าขายคะแนนสูงสุด
สื่อ/วิดีโอ
สื่อ/วิดีโอ
Quick Links
Search Media
New Media
สมาชิก
สมาชิก
Quick Links
สมาชิกที่โดดเด่น
สมาชิกที่ลงทะเบียน
ผู้ใช้งานในขณะนี้
กิจกรรมล่าสุด
โพสต์ข้อมูลส่วนตัวใหม่
เมนู
ค้นหาเฉพาะชื่อ
โพสต์โดยสมาชิก:
แยกชื่อด้วยเครื่องหมายจุลภาค
ใหม่กว่า:
ค้นหาเฉพาะหัวข้อนี้
ค้นหาเฉพาะฟอรั่มนี้
แสดงผลเป็นหัวข้อ
การค้นหาที่มีประโยชน์
โพสต์ล่าสุด
เพิ่มเติม...