ยอมรับว่าใจมาก แต่ฟันธงว่าสุดท้ายงบจะบานยิ่งกว่า B16A เบรคก็ต้องเปลี่ยน เบรคเดิมเอาไม่อยู่แน่นอน ช่วงล่างก็ต้องเปลี่ยน อย่างน้อย shockl หน้าก็ต้องเป็น สตัทปรับเกลียว เพราะ h22a จะทำให้หน้าหนักมาก ที่สำคัญถ้าวายสายไม่ครบ รถไม่วิ่งอันนี้ปวดหัวแน่ ห้องเครื่องภายใน แถมจะชิดกันมาก พวก มูเลย์ ก็แทบจะ ไม่มีที่แล้ว เอาใจช่วยให้จบครับ ค่าวาง h22 ก็ราวๆ 50000+ ส่วน b16a ก็ราวๆ 70000+
เอาเท่าที่ได้ลองขับในซอยสั้นๆก่อนนะ รถยังไม่ออกมา ความแรง เนื่องจากผมไม่เคยขับพวก B16 หรือ B18 ยาวๆซักที เลยเทียบฟีลลิ่งไม่ได้ แต่ความแรงที่ได้ ถ้าเกิน 3000 รอบขึ้นไป ความสนุกบังเกิดแบบเห็นๆครับ สับแบบแรงๆนี่เอี๊ยดกันยาวๆสามเกียร์ สำหรับตัวผม ผมวางงบสำหรับโปรเจคนี้ไว้ค่อนข้างเยอะ เพราะผมเบื่อที่เปิดฝามาก็เจอ B16 B18 อีกทั้งพวกนี้แรงบิดน้อย อัตราทดก็จัด ขับข้ามจังหวัดรอบสูงมาก (เท่าที่เคยอ่านเจอมา) ซึ่งที่ทำงานผมอยู่นอกเมือง ต้องขับยาวๆทุกวัน บางคนบอกว่า งี้วาง B16+B20 ไม่ดีเหรอ? ผมอยากให้เทียบงบอ่ะครับ เอาแบบทั่วๆไป ที่ไม่ใช่หาของได้ถูกๆหรือเก็บอะไหล่หลังอู่ใส่ โมเครื่องให้กลายเป็น B16+B20 เริ่มวางจบๆก็เท่ากับงบซื้อเครื่อง 2 ตัว มันทะลุเป็นแสนแน่ครับ เรื่องความแรง ผมบอกได้เลยว่า ตอนนี้ผมยังไม่คุ้นชิน ยังไม่กล้ากดมาก บอกตรงๆกลัวครับ แต่ถ้าท่านอื่นอยากจะทำตาม ผมอยากแนะนำว่า มีทางอื่นที่ปวดหัวน้อยกว่านี้เยอะครับ โปรเจคนี้ล่อไปเกือบสี่เดือนและ และต้องมีเก็บงานเรื่องฝากระโปรง ท่อแอร์ ท่อเพาเวอร์อีก เหอๆ
อู่แถวมีนครับ ช่วงล่างผมตั้งกำหนดการณ์ไว้แล้ว แต่เท่าที่ขับ ก็ไม่ได้รู้สึกหน้าหนักอะไร เพราะย้ายอะไหล่หลายๆตัวไปไว้ด้านหลังรถ แถมมีถังแก๊สถ่วงอีกถังนึง สายไฟ เท่าที่เชค จบเกือบหมดแล้วครับ ไฟ Check ไม่ขึ้นแล้วครับ เทคเปิดปกติครับ เบรค รวมไปในค่าวางแล้วครับ เป็นเบรค H22A วิ่งเก็บงานซักเดือนนึง ผมว่าจะติดแก๊สอยู่เนี่ย เหอๆ
มีไรอัพเดท มาโพสอีกนะครับ อยากเหนหน้าตาอะครับ เหนื่อยหน่อยแต่ แรงไม่ซ้ำใคร ความคิดแบบนี้ผมก็เคยคิดครับ ^^ สู้ Q(^^)o ครับ
มาอัพเดทครับ วางเครื่องจบ เอาออกจากอู่ ที่งบ 7x,xxx ครับ แต่ก็ต้องมีตามเก็บเรื่องท่อแอร์ ฝากระโปรง และอาจจะสายเพาเวอร์อีกนิดหน่อย ซึ่งผมก็ไม่ซีเรียสอะไร ความแรง ความเร็วขึ้นเร็วมากครับ เกียร์5 ขับไหลๆ เหยียบลงไปหน่อยนี่ค่อยๆดึงขึ้นเลยครับ ไม่ต้องรอมากเท่าไหร่ แต่ถ้าสับเกียร์ลงมาให้รอบเหมาะสม ดึงกระจายทุกเกียร์เลยครับ เอาไว้จบทุกอย่างแล้ว อาจจะถ่ายคลิปอัตราเร่งมาฝากครับ (ถ้าหากล้องได้นะ) จะได้ดูเทียบกับพวก B18 B16 ด้วย
เชื่อมือพี่เพลินครับ... EF ขาวผมไปนอนมา 1 week เพราะ ดื้อแพ่ง... อยู่ๆดับครับ งงมาก.... ไล่ไฟใหม่หมด สรุป อะไรขาดไม่รู้ เส้นเดียว รวนได้.. ออกมากริ๊บ...
อ่อ คุณนี่เอง กำลังสงสัยเชียวว่า EF ใคร หุหุ ดูๆแล้ว B16 ก็แน่นห้องเครื่องใช่ย่อยนะครับ แทบไม่มีที่สอดมือเลยอ่ะ
มันคงแรงกว่าb16 b18 อยุ่แล้วคับ กับแรงบิดที่ได้ แต่การคุมรถมันยากกว่าเยอะ เพราะน้ำหนักข้างหน้า หนักกว่าแน่ๆๆ การเซอร์วิสยาวๆๆคงเหนื่อยหน่อย ที่บอกว่าคุมยาก ไม่ได้หมายถึงการขับแบบปกติ ไว้ ลองตอนที่ซัดรถอ่ะคับหมุดบนถนน จะรุ้ว่าคุมยาก ef นิสัยท้ายจะขึ้นไวมา ทำให้เช็ทรถยาก ถ้าเอาแบบใช้งาน ซัดบ้างขำขำก็น่าสนใจคับ แต่ถ้าคิดจะวิ่งให้คล่องตัว ยากหน่อย กลัวว่าแทนที่จะ ขับสนุก แต่ขับเหนื่อบ เพราะคุมรถยากคับ แต่ไงก้ยกนิ้วให้
เรื่องหนักหน้า ไม่น่าเป็นห่วงครับ เพราะตอนนี้ย้ายแบตลูกโตมาไว้ข้างหลัง+ถังแก๊ส LPG อีกถัง ยังไม่รวมยางอะไหล่ กับเครื่องมือจำเป็นต่างๆ เท่าที่ลองมุดดูที่เส้นวิภาวดี กับเลียบด่วน ยังไม่เจออาการหนักหน้าหรือท้ายออกครับ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นผมก็อยากจะรอดูเรื่องศูนย์ล้อก่อนด้วย เพราะตอนนี้ยังไม่ได้ตั้งเลยครับ
รถผมรถจ่ายตลาดครับ... แต่ใส่เหล็กกันโคลงหลังด้วย ค้ำตามจุดต่างๆ ผมว่า ดีขึ้นมากครับ สำหรับอีขาวแก่ผมนั้น ค่อนข้างนิ่งครับ ไม่มีอาการสะบัดเลย ลองดูครับ
เท่าที่ลองวิ่งไปเมเจอร์ รัชโยธิน กะคลองถม รถติดๆ หรือจอดไว้เฉยๆ เดินเบา ความร้อนไม่ขึ้นครับ แต่พัดลมทำงานนานหน่อย ผมมีกันโคลงหลังอยู่แล้วครับ ส่วนค้ำโช้คหน้ากำลังรอเก็บงานก่อนครับ ค้ำหลังบนใส่ไม่ได้ ติดถังแก๊สครับ มีค้ำจุดอื่นแนะนำมั้ยครับ