เข้าสู่ระบบหรือลงทะเบียน
ติดต่อลงโฆษณา
[email protected]
หรือโทร. 081-811-1138 หรืออ่านรายละเอียดเพิ่มเติม คลิกที่นี่
RacingWeb.NET | The Racing Cars Community on Web.
ฟอรั่ม
>
RacingWeb Community
>
Racing Forum (Cars Forum)
>
>>>นี่คือ..."MINI"!!!
>
ตอบกลับหัวข้อ
ชื่อ:
การตรวจสอบ:
กรุณาเปิดใช้งานจาวาสคริปต์เพื่อดำเนินการต่อ
กำลังโหลด...
ข้อความ:
<p>[QUOTE="DUKE_68, post: 1009991, member: 33494"]<img src="http://upload.wikimedia.org/wikipedia/th/a/ac/Mini_sketch.jpg" class="bbCodeImage wysiwygImage" alt="" unselectable="on" /></p><p>ภาพสเก็ต "มินิ" ของ เซอร์ อเล็กซ์ อิซซิกอนิส</p><p><br /></p><p><br /></p><p><font size="3">การออกแบบครั้งแรกอยู่ในโครงการ ADO15 (ย่อมาจาก <b>A</b>ustin <b>D</b>rawing <b>O</b>ffice โครงการที่ 15) มินิเกิดมาจากปัญหาจากการขาดแคลนเชื้อเพลิง ในปี 1956 อันเป็นผลมาจากวิกฤติการณ์ซูเอซ ที่มีการลดการจ่ายน้ำมัน สหราชอาณาจักรเล็งเห็นว่าต้องรื้อฟื้นการจัดสรรเชื้อเพลิง ยอดขายรถใหญ่ตกลง และเกิดความครึกครื้นของตลาดรถที่เรียกว่า รถบับเบิล ที่มีต้นกำเนิดมาจากเยอรมนี ลีโอนาร์ด ลอร์ด หัวหน้าในบีเอ็มซีพิจารณาเห็นว่า จะต้องทำอะไรบางอย่างอย่างรวดเร็ว เขาได้เริ่มสร้างความต้องการพื้นฐานการออกแบบ เช่น รถจะต้องอยู่ในกล่องที่มีขนาด 10 &times; 4 &times; 4 ฟุต (3 &times; 1.2 &times; 1.2 ม.) , ทีนั่งผู้โดยสารควรมีขนาด 6 ฟุต (1.8 ม.) และความยาว 10 ฟุต (3 ม.) และเครื่องยนต์อันเนื่องมาจากเหตุผลทางด้านราคา ควรที่จะเป็นยูนิตมาตรฐาน อิซซิโกนิสผู้ที่ทำงานร่วมกับอัลวิสมาก่อน ได้กลับมาร่วมงานกับบีเอ็มซีอีกครั้งในปี 1955 และด้วยความชำนาญด้านการออกแบบรถเล็กอยู่แล้ว ทีมงานออกแบบรถมินิยังมี แจ็ก แดเนียลส์ (ที่เคยทำงานกับเขาเมื่อครั้งออกแบบ มอร์ริส ไมเนอร์) , คริส คิงแฮม (เคยร่วมงานอัลวิสมาก่อน) ,นักเรียนวิศวกรรมศาสตร์เครื่องยนต์สองคน และผู้เขียนแบบอีก 4 คน โดยพวกเขาได้ร่วมออกแบบเป็นรถต้นแบบเมื่อเดือนตุลาคม 1957 ซึ่งพวกเขาเรียกว่า "กล่องสีส้ม" อันเนื่องมาจากสีของมัน</font></p><p><font size="3"><br /></font></p><p><font size="3">ADO15 ใช้ลักษณะทั่วไปของบีเอ็มซี เอ-ซีรีส์ 4 กระบอกสูบ เครื่องยนต์ใช้น้ำลดความร้อน แต่นอกเหนือไปจากนั้นยังมี Transverse engine กับน้ำมันหล่อลื่น ,ระบบขับเคลื่อน 4 สปีด และขับเคลื่อนด้วยล้อหน้า ส่วนมากรถเล็กขับเคลื่อนล้อหน้าจะพัฒนาในลักษณะคล้าย ๆ กันในรูปแบบนี้ หม้อน้ำรถยนต์อยู่ข้างซ้าย และยังสามารถมีพัดลม แต่ลมที่กลับมามีความกดอากาศต่ำใต้ปีกหน้า ตรงจุดนี้เป็นเยี่ยมในด้านระยะทางของพาหนะ แต่มีจุดด้อยด้านระบายความร้อนหม้อน้ำรถยนต์ผ่านเครื่องยนต์</font></p><p><font size="3"><br /></font></p><p><font size="3"> </font></p><p><font size="3">ภายในรถมอร์ริส มินิไมเนอร์ ปี 1959ระบบกันสะเทือนออกแบบโดยเพื่อนของอิซซิโกนิส ที่ชื่อ ดร. อเล็ก โมลตันจากโมลตัน ดีเวลล็อปเมนต์ส จำกัด ใช้ระบบเต้ายางแทน ระบบนี้ช่วงลดขนาดระบบกันสะเทือนซึ่งก็หมายถึงใช้พื้นที่ได้น้อยลง อยู่ในตำแหน่งซับเฟรม (รองรับเครื่องยนต์ เกียร์ กับชิ้นส่วนช่วงล่าง) การใช้เต้ายางทำให้เกิดความไม่ยืดหยุ่น แต่ล้อผลักออกมาที่มุมของรถ ทำให้มินิมีลักษณะการควบคุมเหมือนรถโกคาร์ต ตอนแรกได้วางแผนไว้ว่าจะเชื่อมระบบของเหลวไว้ด้วยกัน เหมือนกับที่อิซซิโกนิสและโมลตันเคยทำงานร่วมกันในอัลวิส ในช่วงทศวรรษ 1950 แต่การพัฒนาสั้นไปทำให้ไม่พร้อมสำหรับการออกในรถมินิ ระบบช่วงล่างเป็นระบบ Hydrolastic คือเป็นระบบใช้น้ำเป็นของเหลวแทนน้ำมันในกระเปาะรองรับน้ำหนักของรถ ใช้ครั้งแรกใน ออสติน 1100 ออกในปี 1962 กระทะล้อขอบ 10 นิ้ว ทำให้ยางรถต้องพัฒนาตามมาด้วย ซึ่งได้ร่วมกับบริษัทดันล็อป</font></p><p><font size="3"><br /></font></p><p><font size="3">หน้าต่างเป็นหน้าตาบานเลื่อนอยู่ในประตู และยังมีที่เก็บของเล้ก ๆ ในพื้นที่ที่เป็นกลไกลหมุนของหน้าต่าง อิซซิโกนิสพูดว่า ขนาดของพื้นที่เก็บของมาจากความต้องการจะเก็บขวดกอร์กินที่เขาชื่นชอบบนรถ ส่วนฝากระโปรงก็มีติดบานพับไว้ที่ก้นทำให้รถสามารถเก็บสัมภาระได้มากขึ้น การผลิตรถในช่วงแรกป้ายทะเบียนรถจะมีบานพับ และจะทำให้เห็นว่ากระโปรงรถเปิดไว้ แต่การออกแบบนี้ก็ไม่ได้ผลิตต่อเนื่องจากพบว่าอาจทำให้แก๊สไหลมาที่ที่นั่งคนขับได้เมื่อกระโปรงรถเปิด</font></p><p><font size="3"><br /></font></p><p><font size="3">รถมินิมีโครงแบบโมโนคิว (monocoque) เชื่อมรอยต่อซึ่งจะเห็นจากข้างนอกตัวรถจาก A-pillar และ C-pillar และระหว่างตัวรถและพื้นรถที่จะเป็นรอยต่อ เพื่อให้โครงสร้างง่ายขึ้น ส่วนประกอบเหล่านี้แสดงให้เห็นว่าจะใช้ขนาดที่น้อยที่สุดแต่ได้พื้นที่ภายในที่มากที่สุดสำหรับผู้โดยสารและสัมภาระ</font></p><p><font size="3"><br /></font></p><p><font size="3">หุ่นจำลองจะดูแตกต่างจากรถต้นแบบ โดยมีการเพิ่มซับเฟรมที่ด้านหน้าและด้านข้าง ถึงยูนิบอดี้ให้รับแรงสะเทือนได้และการเข้าโค้ง โดยมีคาร์บูเรเตอร์อยู่ข้างหลังแทนที่จะเป็นด้านหน้า ยังต้องการปรับเปลี่ยนเฟืองพิเศษเพื่อที่จะวางเครื่องและสายพานในทางทิศทางตรงข้ามของเครื่องยนต์ การลดเฟืองทำให้มีประสิทธิภาพของน้ำหนักในกล่องเฟืองและช่วยป้องกัน ชุดเฟืองความฝืด (synchromesh) ที่เป็นปัญหาในรถแม่แบบช่วงแรก ขนาดเครื่องยนต์ลดจาก 948 เป็น 848 ซีซี ที่ลดความเร็วสูงสุดจาก 90 ไมล์/ชม. (145 กม./ชม.) ให้ควบคุมได้ที่ ไมล์/ชม.(116 กม./ชม.)</font></p><p><font size="3"><br /></font></p><p><font size="3">ถึงแม้ว่ารูปทรงจะมาจากประโยชน์ใช้สอย แต่รถมินิก็ได้เป็นสัญลักษณ์ที่คลาสสิก โรเวอร์กรุ๊ป เจ้าของบีเอ็มซี ได้จดรูปแบบการออกแบบให้ฐานะยี่ห้อสินค้า</font></p><p><br /></p><p><img src="http://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/thumb/2/26/Morris_Mini_interior_1959.jpg/800px-Morris_Mini_interior_1959.jpg" class="bbCodeImage wysiwygImage" alt="" unselectable="on" /></p><p>ภายในรถมอร์ริส มินิไมเนอร์ ปี 1959[/QUOTE]</p><p><br /></p>
[QUOTE="DUKE_68, post: 1009991, member: 33494"][img]http://upload.wikimedia.org/wikipedia/th/a/ac/Mini_sketch.jpg[/img] ภาพสเก็ต "มินิ" ของ เซอร์ อเล็กซ์ อิซซิกอนิส [SIZE="3"]การออกแบบครั้งแรกอยู่ในโครงการ ADO15 (ย่อมาจาก [B]A[/B]ustin [B]D[/B]rawing [B]O[/B]ffice โครงการที่ 15) มินิเกิดมาจากปัญหาจากการขาดแคลนเชื้อเพลิง ในปี 1956 อันเป็นผลมาจากวิกฤติการณ์ซูเอซ ที่มีการลดการจ่ายน้ำมัน สหราชอาณาจักรเล็งเห็นว่าต้องรื้อฟื้นการจัดสรรเชื้อเพลิง ยอดขายรถใหญ่ตกลง และเกิดความครึกครื้นของตลาดรถที่เรียกว่า รถบับเบิล ที่มีต้นกำเนิดมาจากเยอรมนี ลีโอนาร์ด ลอร์ด หัวหน้าในบีเอ็มซีพิจารณาเห็นว่า จะต้องทำอะไรบางอย่างอย่างรวดเร็ว เขาได้เริ่มสร้างความต้องการพื้นฐานการออกแบบ เช่น รถจะต้องอยู่ในกล่องที่มีขนาด 10 × 4 × 4 ฟุต (3 × 1.2 × 1.2 ม.) , ทีนั่งผู้โดยสารควรมีขนาด 6 ฟุต (1.8 ม.) และความยาว 10 ฟุต (3 ม.) และเครื่องยนต์อันเนื่องมาจากเหตุผลทางด้านราคา ควรที่จะเป็นยูนิตมาตรฐาน อิซซิโกนิสผู้ที่ทำงานร่วมกับอัลวิสมาก่อน ได้กลับมาร่วมงานกับบีเอ็มซีอีกครั้งในปี 1955 และด้วยความชำนาญด้านการออกแบบรถเล็กอยู่แล้ว ทีมงานออกแบบรถมินิยังมี แจ็ก แดเนียลส์ (ที่เคยทำงานกับเขาเมื่อครั้งออกแบบ มอร์ริส ไมเนอร์) , คริส คิงแฮม (เคยร่วมงานอัลวิสมาก่อน) ,นักเรียนวิศวกรรมศาสตร์เครื่องยนต์สองคน และผู้เขียนแบบอีก 4 คน โดยพวกเขาได้ร่วมออกแบบเป็นรถต้นแบบเมื่อเดือนตุลาคม 1957 ซึ่งพวกเขาเรียกว่า "กล่องสีส้ม" อันเนื่องมาจากสีของมัน ADO15 ใช้ลักษณะทั่วไปของบีเอ็มซี เอ-ซีรีส์ 4 กระบอกสูบ เครื่องยนต์ใช้น้ำลดความร้อน แต่นอกเหนือไปจากนั้นยังมี Transverse engine กับน้ำมันหล่อลื่น ,ระบบขับเคลื่อน 4 สปีด และขับเคลื่อนด้วยล้อหน้า ส่วนมากรถเล็กขับเคลื่อนล้อหน้าจะพัฒนาในลักษณะคล้าย ๆ กันในรูปแบบนี้ หม้อน้ำรถยนต์อยู่ข้างซ้าย และยังสามารถมีพัดลม แต่ลมที่กลับมามีความกดอากาศต่ำใต้ปีกหน้า ตรงจุดนี้เป็นเยี่ยมในด้านระยะทางของพาหนะ แต่มีจุดด้อยด้านระบายความร้อนหม้อน้ำรถยนต์ผ่านเครื่องยนต์ ภายในรถมอร์ริส มินิไมเนอร์ ปี 1959ระบบกันสะเทือนออกแบบโดยเพื่อนของอิซซิโกนิส ที่ชื่อ ดร. อเล็ก โมลตันจากโมลตัน ดีเวลล็อปเมนต์ส จำกัด ใช้ระบบเต้ายางแทน ระบบนี้ช่วงลดขนาดระบบกันสะเทือนซึ่งก็หมายถึงใช้พื้นที่ได้น้อยลง อยู่ในตำแหน่งซับเฟรม (รองรับเครื่องยนต์ เกียร์ กับชิ้นส่วนช่วงล่าง) การใช้เต้ายางทำให้เกิดความไม่ยืดหยุ่น แต่ล้อผลักออกมาที่มุมของรถ ทำให้มินิมีลักษณะการควบคุมเหมือนรถโกคาร์ต ตอนแรกได้วางแผนไว้ว่าจะเชื่อมระบบของเหลวไว้ด้วยกัน เหมือนกับที่อิซซิโกนิสและโมลตันเคยทำงานร่วมกันในอัลวิส ในช่วงทศวรรษ 1950 แต่การพัฒนาสั้นไปทำให้ไม่พร้อมสำหรับการออกในรถมินิ ระบบช่วงล่างเป็นระบบ Hydrolastic คือเป็นระบบใช้น้ำเป็นของเหลวแทนน้ำมันในกระเปาะรองรับน้ำหนักของรถ ใช้ครั้งแรกใน ออสติน 1100 ออกในปี 1962 กระทะล้อขอบ 10 นิ้ว ทำให้ยางรถต้องพัฒนาตามมาด้วย ซึ่งได้ร่วมกับบริษัทดันล็อป หน้าต่างเป็นหน้าตาบานเลื่อนอยู่ในประตู และยังมีที่เก็บของเล้ก ๆ ในพื้นที่ที่เป็นกลไกลหมุนของหน้าต่าง อิซซิโกนิสพูดว่า ขนาดของพื้นที่เก็บของมาจากความต้องการจะเก็บขวดกอร์กินที่เขาชื่นชอบบนรถ ส่วนฝากระโปรงก็มีติดบานพับไว้ที่ก้นทำให้รถสามารถเก็บสัมภาระได้มากขึ้น การผลิตรถในช่วงแรกป้ายทะเบียนรถจะมีบานพับ และจะทำให้เห็นว่ากระโปรงรถเปิดไว้ แต่การออกแบบนี้ก็ไม่ได้ผลิตต่อเนื่องจากพบว่าอาจทำให้แก๊สไหลมาที่ที่นั่งคนขับได้เมื่อกระโปรงรถเปิด รถมินิมีโครงแบบโมโนคิว (monocoque) เชื่อมรอยต่อซึ่งจะเห็นจากข้างนอกตัวรถจาก A-pillar และ C-pillar และระหว่างตัวรถและพื้นรถที่จะเป็นรอยต่อ เพื่อให้โครงสร้างง่ายขึ้น ส่วนประกอบเหล่านี้แสดงให้เห็นว่าจะใช้ขนาดที่น้อยที่สุดแต่ได้พื้นที่ภายในที่มากที่สุดสำหรับผู้โดยสารและสัมภาระ หุ่นจำลองจะดูแตกต่างจากรถต้นแบบ โดยมีการเพิ่มซับเฟรมที่ด้านหน้าและด้านข้าง ถึงยูนิบอดี้ให้รับแรงสะเทือนได้และการเข้าโค้ง โดยมีคาร์บูเรเตอร์อยู่ข้างหลังแทนที่จะเป็นด้านหน้า ยังต้องการปรับเปลี่ยนเฟืองพิเศษเพื่อที่จะวางเครื่องและสายพานในทางทิศทางตรงข้ามของเครื่องยนต์ การลดเฟืองทำให้มีประสิทธิภาพของน้ำหนักในกล่องเฟืองและช่วยป้องกัน ชุดเฟืองความฝืด (synchromesh) ที่เป็นปัญหาในรถแม่แบบช่วงแรก ขนาดเครื่องยนต์ลดจาก 948 เป็น 848 ซีซี ที่ลดความเร็วสูงสุดจาก 90 ไมล์/ชม. (145 กม./ชม.) ให้ควบคุมได้ที่ ไมล์/ชม.(116 กม./ชม.) ถึงแม้ว่ารูปทรงจะมาจากประโยชน์ใช้สอย แต่รถมินิก็ได้เป็นสัญลักษณ์ที่คลาสสิก โรเวอร์กรุ๊ป เจ้าของบีเอ็มซี ได้จดรูปแบบการออกแบบให้ฐานะยี่ห้อสินค้า[/SIZE] [img]http://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/thumb/2/26/Morris_Mini_interior_1959.jpg/800px-Morris_Mini_interior_1959.jpg[/img] ภายในรถมอร์ริส มินิไมเนอร์ ปี 1959[/QUOTE]
เข้าสู่ระบบด้วย Facebook
เข้าสู่ระบบด้วย Twitter
เข้าสู่ระบบด้วย Google
ชื่อผู้ใช้งานหรือที่อยู่อีเมล์ของคุณ:
คุณมีบัญชีผู้ใช้หรือไม่?
ไม่มี, สร้างบัญชีผู้ใช้ตอนนี้
มี, รหัสผ่านของฉันคือ:
ลืมรหัสผ่านของคุณ?
อยู่ในระบบตลอดเวลา
RacingWeb.NET | The Racing Cars Community on Web.
ฟอรั่ม
>
RacingWeb Community
>
Racing Forum (Cars Forum)
>
>>>นี่คือ..."MINI"!!!
>
X
หน้าแรก
หน้าแรก
Quick Links
โพสต์ล่าสุด
กิจกรรมล่าสุด
ผู้เขียน
ฟอรั่ม
ฟอรั่ม
Quick Links
ค้นหาฟอรั่ม
โพสต์ล่าสุด
ประกาศซื้อขาย
ประกาศซื้อขาย
Quick Links
ค้นหาประกาศซื้อขาย
กิจกรรมล่าสุด
ผู้ค้าขายคะแนนสูงสุด
สื่อ/วิดีโอ
สื่อ/วิดีโอ
Quick Links
Search Media
New Media
สมาชิก
สมาชิก
Quick Links
สมาชิกที่โดดเด่น
สมาชิกที่ลงทะเบียน
ผู้ใช้งานในขณะนี้
กิจกรรมล่าสุด
โพสต์ข้อมูลส่วนตัวใหม่
เมนู
ค้นหาเฉพาะชื่อ
โพสต์โดยสมาชิก:
แยกชื่อด้วยเครื่องหมายจุลภาค
ใหม่กว่า:
ค้นหาเฉพาะหัวข้อนี้
ค้นหาเฉพาะฟอรั่มนี้
แสดงผลเป็นหัวข้อ
การค้นหาที่มีประโยชน์
โพสต์ล่าสุด
เพิ่มเติม...