เทคนิค สาระ ข้อมูล D.I.Y. การแก้ปัญหาเบื้องต้น...รู้ทันช่าง

หน้าตามันเป็นแบบนี้...

 

แต่เดี๋ยวก่อน ก่อนที่จะตั้งอยากให้ไล่ตรงนี้ดูก่อน

ถ้าสายท่อยางตรงนี้รั่ว ขาด หลุด ก็ส่งผลให้ รอบเดินเบาต่ำกว่าปกติ เบรคทีไรเครื่องจะดับซะให้ได้ รวมทั้งอาการเมื่อเราเปิดแอร์คอมพ์แอร์ทำงาน รอบเครื่องดันต่ำกว่าปกติ ก็เช็คจุดนี้ได้เช่นกัน...

 

อ่ะ เครื่องคาร์บู เฟืองพลาสติกสีขาวๆตัวนี้ละ เอาไว้ตั้งรอบเดินเบานะ อยากให้สูงหรือต่ำก็ลองหมุนๆดูได้

ส่วนตัวที่มีลูกศรชี้ไว้เฉยๆ ก็เป็นจุดที่เอาไว้เช็คท่อยางเหมือนกับจุดแรกนั้นละ ถ้าท่อหลุดอาการเดียวกัน...

 

เอาละถ้าท่อยางไม่หลุดไม่รั่ว คราวนี้เรามาดูวิธีตั้งตัวชดเชยรอบเดินเบากัน

จากรูปก็ประแจเบอร์8 คลายล็อคน็อตตัวเมียตัวล่างก่อน(ใช้คีมปากจิ้งจกจับหัวน็อตตัวบนไว้ด้วยก็ดี) จากนั้นสตาร์ทเครื่องเปิดแอร์ให้คอมพ์แอร์ทำงานด้วยนะเวลาตั้งตัวชดเชยรอบ เมื่อคอมพ์แอร์ทำงานเราก็ดูว่ารอบเครื่องต่ำไปหรือสูงไป เราก็ใช้มือหมุนๆจนได้รอบเครื่องที่ต้องการ ลองปิดแอร์ดูรอบเดินเบาก่อนก็ได้ว่าอยู่ที่เท่าไหร่ ใครไม่มีวัดรอบก็อาศัยเสียงของรอบเครื่องยนต์ละกัน เวลาเปิดแอร์คอมพ์แอร์ทำงานก็ให้สูงกว่าตอนปิดแอร์เล็กน้อย(ประมาณ150-200RPM)
เมื่อได้รอบที่ต้องการแล้วล็อคน็อตตัวเมียตัวล่างให้แน่นด้วยนะครับ...

 

มาเปลี่ยนสายดึงเปิดประตูหลังกับฝาปิดถังน้ำมันกันดีกว่า nv van

สีบเนืองมาจากผมโพสถามแล้วไม่มีคนตอบจึงต้องลุยเดี่ยว

จึงขอแก้ชื่อกระทู้จากถามวิธีเปลี่ยนเป็นบอกวิธีเปลี่ยน

 

ผมทำเสร็จแล้วครับ
ราคาสาย 1600 บาท ของแท้ร้าน สยามวรจักร
ขั้นตอน
ถอดชายบันได หน้าขวา หลังทั้งซ้ายและขวาพลาสติกซุ้มล้อที่อยู่ด้านในรถด้านซ้าย ไฟท้ายด้านซ้าย และพลาสติกครอบด้านหลังที่ปิดตัวเลี่อน
หลังจากถอดพลาสติกต่างๆแล้วแวกพรมพื้นออก แล้วใช้ประแจเบอร์ 10 ถอดน็อตยึดแผงคันโยก(มีน็อต2ตัว) จากนั้นก็ปลดสายดึงของเดิมออกจากคันโยก
แล้วมาที่ด้านหลังรถใช้ไขควงแบบหรือใช้มือก็ได้คึงปลายสายที่ติดกับเหล็กตัวยูที่เลื่อนไปมาและขายึดที่อยู่กับที่ออกที่สองจุดโดย ดึงขึ้นด้านบนตรงๆ เอาเชือกผูกที่ปลายสายสายของเก่าไว้
แล้วถอดน็อตยึดสลักล็อกฝาปิดถังเบนซินออก (ตรงส่วนนี้ถ้าของใครหัวน็อตหายหรือเกลียวเสียให้ไปหาซื้อสวิทโยก on-off ที่ร้านอิเลคโทรนิกมันจะมีหัวน็อตมาให้2หัวเลยเกลียวเดียวกันเอามาใช้ได้เลยครับ)
จากนั้นที่สายจะมีกิ๊บอยู่สองคัว บริเวณเหนือซุ้มล้อหลังซ้าย กับใต้เพรมครงเบาะหลังด้านซ้าย(ดูไล่ไปตามสายก็จะเจอเอง ตรงส่วนที่อยู่ใต้พรมให้ลวงมือเข้าไปใต้พรมแล้วดันให้โปร่งขึ้นจะได้ทำงานสะดวกๆ)
แล้วคึงสายจากด้านประตูหลังซ้ายทีละด้านของสาย ที่นี้ก็จะเสร็จสิ้นกระบวนการถอดสายเก่าออก
ส่วนการใส่ ก็เริ่มจากใส่ที่ล็อกฝาปิดถังน้ำมันก่อน ไขน็อตคาไว้ก่อนอย่าพิ่งไขแน่น
แก้เอาปลายเชือกที่ผูกกับสายเส้นเดิม มาผูกกับสายเส้นใหม่ แล้วค่อยๆสาวเชือกจนหัวสายมาโผล่ที่รู แล้วจับสายให้มันโผล่ขึ้นมาบนรู แล้วกดสายให้ร่องของสายลงไปที่ตัวเลื่อนทั้งสองจุด
แล้วเอาปลายสายฝั่งมือโยกสอดรอดใต้พรมไปตามเดิม แต่อย่าลืมใส่กิ๊บลงรูทั้งสองจุดด้วย
แล้วเอาปลายสายสอดมาด้านหน้า ใส่ปลายสายเข้ากับมือโยก แล้วไขน็อตทั้งสองตัว โดยอย่าพึ่งไขตัวใตตัวหนื่งแน่นให้ใส่ทั้งสองตัวก่อนแล้วลองโยกมือโยกดูก่อนว่าเปิดฝาถังน้ำมันได้หรือเปล่าถ้าได้ค่อยไขให้แน่น ภ้าเปิดไม่ได้ให้คลายน๊อตออกเลื่อนสาย(พลาสติกที่น็อตยึดอยู่)แล้วไขพออยู่แล้วลองโยกครับโยกดูถ้าโยกแล้วเปิดฝาถังได้ ก็ไขน๊อตให้แน่นได้เลยครับ
จากนั้นก็ใส่พวกพลาสติกทั้งหลาย
อย่าลืมไขน๊อตที่ฝาปิดที่เติมน้ำมันให้แน่นด้วยนะครับ

ถูกใจขอ Thanks ที่มุมขวาด้วยนะครับ

ภาคต่อไปซ่อมประตูตกด้วยตัวเองครับ

 

ขอบคุณมากครับ
ข้อความนี้รบกวนผู้ดูแลบอร์ด copy ไว้ในกระทู้นี้ด้วยนะครับ
http://racingweb.net/forums/showthread.php?t=238656
(รบกวนลงชื่อคนที่ post ด้วยนะครับ)...

 

ผมขออนุญาต รวมเข้าไว้เลยนะครับ กระทู้ดีมีสาระ

 

วิธีการทดสอบว่า ประตูตก หรือหลวม
ให้เปิดประตูออก แล้วยืนอยู่ด้านปลายของประตูที่เปิด ก้มตัวลงจับที่ขอบล่างสุดประตู แล้วยกขึ้นลงในแนวดิ่งดูถ้ามันหลวมจะรู้สึกว่ามามีระยะคลอนก่อนที่ตัวรถจะขยับขึ้นลงตามการยก

Tips
1 การยกขอบประตูขึ้นลงแล้วทำช้าๆ ไม่งั้นอากจะไม่รู้สึกว่าคลอน
2 ควรเปิดประตูให้มีระยะห่างจากขอบตัวถังไม่เกิน 30 cm เพราะเป็นช่วงที่บู๊ชและสลักหลวม มากที่สุด

เครื่องมือ ประแจเบอร์12, ค้อน, เลื่อย,ตะปูตอกคอนกรีต
อะไหล่ ชุดสลักซ่อมประตูรถ นิสสัน(โดยมากจะมีแต่ของ BIG M แต่ใช้ได้สลักโตเท่ากัน แต่ยาวกว่า ให้ใช้เลื่อยๆออกให้เหลือยาวประมาณ 5.5 cm )ในหนึ่งชุดจะประกอบด้วย
สลัก 1ตัว บู๊ชทองเหลือง 2 ตัว ปริ้นล๊อก 1 ตัว(ตัวนี้ไม่ได้ใช้ครับ)

วิธีการ]
1 เปิดประตูออกให้สุดใช้ค้อนตีสลักที่อยู่ตรงกลางระหว่างบานพับ โดยตีจากล่างชึ้นบน
2 เปิดประตูออกไปให้สุดบานพับ ใช้แระแจเบอร์ 12 ไขน็อตที่บานพับฝั่งประตูออก โดยคลายตัวบนสุดกับล่างสุดออกให้เกือ่บสุดเหลือไว้ 2-3เกลียว แล้วไขน็อตที่เหลือ ออกให้หลุดเลย แล้วให้ช่วยยกไว้ แล้วไขน็อตตัวบนสุดกับล่างสุดออกอย่างรวดเร็ว(ก่อนที่คนยกจะหมดแรง)
3 ใช้ใบเลื่อยค่อยๆเลื่อยตรงสลักให้ขาดกลางเลย ทั้งสลักตัวบนและล่าง จากนั้นใช้ตะปูตอกตรงรอยขาดที่เราเลื่อยไว้ โดยตอกให้สลักท่อนล่างเลื่อนลงไปด้านล่างจนหลุดจากนั้น จึงตอกด้านล่างขึ้นข้างบนจนหลุดก็จะคึงบานพับออกมาได้
4 ตีบู๊ชที่บานพับออกทั้งสองข้าง ใส่บู๊ชใหม่เข้าไป แล้วใส่บานพับกลีบเข้าไป โดยดูที่บานพับตัวล่างก็ได้วว่าอยู่ท่าไหน เสียบสลัก(สลักต้องตัดออก ไม่งั้นจะติด ทำให้ไขหัวน็อตตัวล่างไม่ได้)โดยให้ปีกของสลักอยู่ด้านบน ตอนเสียบสลักลงไปจนถึงช่วงที่มีรีดลายบนตัวสลักแล้วให้หมุนตัวสลักเล็กน้อยเพื่อหาร่องที่ตัวบานพับ
5 ใช้ค้อนตีตัวสลักลงไปได้เลย แต่จะตีลงไปไม่สุดเพราะเดี๋ยวลายที่รัดบนสลักจะลึกเกินไปทำให้ไปขูดบู๊ชทองเหลืองได้ เฆ้นอันเสร็จบานพับตัวบน
6 บานพับตัวล่างก็ทำตามขั้นตอนเดิม
7 หลังจากใส่บานพับทั้งบนและล่างแล้ว ให้หาอะไรมารองขอบของประตูไว้ โดยให้ระดับความสูงของรูน็อตที่ประตู สูงใกล้เคียงกับระดับความสูงของรุน็อตที่บานพับ แล้วก็ไขน็อตตัวบนสุดกับล่างสุด ให้เกือบสุด แล้วค่อยใส่ตัวที่เหลือไขพอตึงมือ แล้วลองปิดประตูดู โดยสังเกตุจากแนวขอบประตูจะเป็นระดับเดียวกัน แล้วไขให้แน่นเลยครับ
8 ใส่สลักตรงกลางระหว่างบานพับตัวบนกับล่างโดยให้ด้านปล่องๆ อยู่ข้างบน

ประตูหน้าซ้ายขวาจะทำเหมือนกัน
ประตูหลังก็เหมือนกันแต่ถ้ามีลูกบ๊อกหรือตัวที เบอร์12จะสะดวกและง่ายกว่าประตูหน้ามากครับ ทั้งการตัดสลักและไขน็อต

ข้อควรระวัง [/COLO R]
1 การตอกสลักเก่าออกควรใช้ความระมัดระวังโดยเพราะประตูหน้าเพราะพื้นที่จำกัด ตอกให้แรงใช้จำนวนครั้งที่ตีให้น้อยที่สุด
2 ถ้าใส่บานพับผิดด้าน ประตูจะปิดไม่ได้
3 ควรทำประตูหลังก่อนเพราะง่ายกว่ามาก
4 ห้ามคลายน็อตบานพับที่ยึดกับตัวถังเด็ดขาด เพราะมันให้ตัวได้เดี๋ยวจะตั้งให้ได้ระดับเดิมยาก

แค่นี้ก็ไม่ต้องคอยเก็บประตูแล้วครับ
ผมมีถ่ายภาพประกอบไว้ด้วยแต่ไม่รู้เอาโพสภาพอย่างไง หวังว่าคงเข้าใจนะ


จาก http://racingweb.net/forums/showthread.php?t=585657

คุณ Bootrunner

 

DIY มาใส่ค้ำโช้ค กันดีกว่า



การเลือกซื้อค้ำโช้ค
แบบคานเหลี่ยมจะดีกว่าแบบคานกลม เพราะรับแรงได้ดีกว่า
แบบยึดน็อตเบ้าโช้คถ้าหาได้แบบ3ตัว จะดี แบบ 2ตัว
แบบเชื่อมติดถาวรจะแข็งกว่าแบบปรับระยะได้
สันที่ยึดคานกับเหล็กยึดเบ้าโช้คฐานยิ่งกว้างยิ่งแข็งแรง

ค้ำโช้คที่ผมซื้อมาราคา 900 บาท
คาน อลูมีเนียมเหลี่ยมแบบมีเกลียวปรับความยาวคานได้
ส่วนที่ยึดเบ้าโช้คเป็นเหล็ก แบบยึดน็อต 2ตัว

ส่วนการติดตั้ง รถผม nv van เครื่องคาบู
เครื่องมือที่ใช้ ประแจแหวนเบอร์ 6 ลูกบ๊อกเบอร์ 12ขอแบบใหม่ๆเหลื่ยมยังดีอยู่ เพราะน็อตจะค่อนข้างแน่น ไม่งั้นเดี๋ยวเหลี่ยมหัวน็อตจะรูด แล้วจะกลายเป็นเรื่องใหญ่ ประแจเลื่อน แม่แรง

วิธีติดตั้ง
1 ถอดน็อตหางปลายึดฝาปิดหม้อกรองอากาศ แล้วเอากรองอากาศออก ถอดน็อตหลัก ที่ใช้ยึดกับน็อตหางปลายึดฝาปิดหม้อกรองอากาศออก ด้วยประแจแหวนเบอร์ 6
2 ถอดน็อตยึดเบ้าโช๊ค ออกตามจำนวนรูน็อตของเหล็กที่ใช้ยึดกับเบ้าโช๊ค
3 หมุนน๊อตปรับความยาวคาน โดยให้รูของเหล็กยึกเบ้าโช๊ค เยื้องออกไปทางด้านแก้มของตัวรถเล็กน้อย เมื่อใส่ลงไปที่น็อตยึดเบ้าโช้คและตัวคานต้องให้ด้านโค้งของคานหันลงด้านล่าง
4 ใส่หัวน๊อตเบอร์ 12 ที่ยึดเบ้าคาไว้ไขให้เกือบๆสุดทั้งสองด้าน
5 ใช้แม่แรงสอดเข้าทางด้านหน้ารถที่ใต้คานด้านล่าง แล้วยกรถขึ้นจนล้อหน้าทั้งสองข้างลอยจากพื้น
6 ไขหัวน๊อตเบอร์ 12 ที่เบ้าโช๊คทั้งสองข้างให้หนีบเหล็กค้ำโช๊คเบาๆ
7 หมุนคานให้ด้านโค้งหันขึ้นด้านบน (ต้องหมุนมาทางหน้ารถหรือเข้าหาตัวผู้ใส่) คานจะแน่นขึ้นจนหมุนต่อไม่ได้
8 ไขหัวน็อตเบอร์ 12ที่ยึดเบ้าโช๊คให้แน่นเลย
9 ไขน็อตทุกตัวบนคานให้แน่น
10 ใส่น็อตหลักหม้อกรองด้วยประแจเบอร์ 6ใส่ไส้กรองอากาศ ใส่ฝาปิดหม้อกรองอากาศไขน็อคหางปลายึดฝาปิดหม้อกรองให้แน่น
11 ปล่อยแม่แรงลง แล้วก็เอารถไปลองได้เลยครับ

ความยากของงานนี้จะอยู่ที่
การหมุนให้คานกันโครงอยู่ด้านบนพอดี กับตอนใส่ฝาปิดหม้อกรองอากาศ เพราะมันจะติดคาน ต้องสวมบทชายไทยใจโฉด ข่มขืนอย่างเดียวครับ

ข้อควรระวัง
1 ไม่ควรไขน็อตยึดเบ้าโช๊คเข้าออกบ่อยๆ เพราะอาจทำให้เกลียวหวานได้
2 อย่าไขน๊อตยึดเบ้าโช๊คแน่นสุดแรงเกิดเพราะถ้าน็อตขาดขึ้นมาล่ะก็ งานเข้าแน่นนอน ผมโดนมาแล้ว ต้องถอดโช๊คออกมาเปลี่ยนแป้นน๊อต ต้องตั้งศูยน์ใหม่
3 ถ้าเหลี่ยมหัวน๊อตยึดเบ้าโช๊ครูด ก็ใช้หินเจียรมือ เจียรหัวน๊อตออก ด้านหนึ่งโดยที่ต้องพยายามอย่าให้โดนเกลียวของน๊อตตัวผูมากนัก แล้วใช้ไขควงปากแนสกัดหัวน็อตให้ค่อยๆ


Refer :
คุณ Bootrunner
http://racingweb.net/forums/showthread.php?p=8367869

 

เมื่อวาน วันแห่งความรักรถค่อนข้างติดช่วงบ่าย
ขับๆรถอยู่ เครื่องฮีทกลางถนนค่อยๆเข้าข้างทาง รถผมมีเครื่องวัดอุณภูมิเครื่องยนต์มันจะเตือนตอนอุณภูมิ95องศา แต่เกจความร้อนก็ขึ้นไม่สุดนะครับประมาณ3/4ของเกจ เปิดฝากระโปรงรถดูหม้อพัก น้ำเต็มจนล้นรูน้ำล้นของหม้อพัก มองซ้ายมองขวา มีเครื่องกรองน้ำหยอดเหรียญ พอดีมีเศษเหรียญอยู่1บาท หยอดเข้าไป ได้มาเกีอบลิตร เอามาราดหม้อน้ำแล้วก็รอจนอุณภูมิลดเหลือ70กว่าๆ น้ำในหม้อพักก็ค่อยๆโดนดูดกลับเข้าหม้อน้ำ สตาร์ทเครื่องมองไปที่ถนน รถยังติดเหมือนเดิม เอาลุยต่อ พอออกรถไปได้หน่อยอุณภูมิก็ค่อยๆขึ้นอีก รถก็ยังติดอยู่ ใช้วิธีดับเครื่องพอรถด้านหน้าขยับก็ติดเครื่องแล้วก็ดับเครื่องสลับกันไปเรื่อยๆ
จนหลุดจากรถติดมาได้แบบลุ้นตลอด อุณภูมิก็ยังสูงอยู่แต่ก็ลดลงมาหน่อย กลับถึงบ้านได้แบบลุ้นตลอด วันนี้มีเวลาถอดออกตรวจดูวาวล์น้ำเอาไปต้มดูก็เปิดปกติแต่เปิดเยอะมาก ลองดูที่ช่องที่ใส่วาวล์น้ำว่าขี้ตะกันเเยอะหรือเปล่า เอานิ้วแหย่ดู จ๊ากเลย อะไรเนี่ย มีสปริงกับแผ่นเหล็ยกลมๆแบนๆอยู่ ถึงบ้างออ สปริงส่วนท้ายของวาวล์น้ำแกนมันขาดอุดทางน้ำเครื่องเลยฮีทเลย
ไหนๆก็ถอดแล้วเลยถอดดูปั้มน้ำซะเลย เจ้าของเก่าพึ่งเปลี่ยนมารอดไปไม่ต้องเปลี่ยนแต่ตรงคอท่อที่สวมสายยางกรอนพอสมควร เลยเปลี่ยนซะเลย

ขั้นตอนการถอดวาวล์น้ำและปั้มน้ำ
1ไขน็อตยึดลูกวินปั้มน้ำ เบอร์10 4ตัว คายให้หลวมก่อนทั้ง4ตัว
2 ไขน็อตล้อที่ตั้งสายพานไดชาร์ทให้หย่อนแล้วถอดลูกวินปั้มน้ำออก
3 ถอดแจ็คสายไปเทอร์โมสวิทซ์ ใช้ประแจตัวY เบอร์ 10ไขน้อตฝาครอบวาวล์น้ำออกมีทั้งหมด3ตัวและน็อตยีดสายกราว์ ใช้ค้อนเคาะเบาๆก็หลุด ก็จะเห็นวาวล์น้ำแล้วครับ
3.1 วิธีการตรวจสอบว่วล์น้ำหากระป๋องเอาน้ำใส่ตั้งไฟให้น้ำร้อน พอถึงอุณภูมิที่วาวล์น้ำจะเปิด มันจะเปิดออก เอาขึ้นจากน้ำ รอพักหนึ่งพออุณภูมิวาวล์น้ำเริ่มลดก็จะค่อยๆปิด แต่เราต้องดูด้วยนะครับว่ามันปิดสนิทหรือเปล่าด้วยนะครับ ปกติร้อนต้องเปิด เย็นต้องปิดสนิทนะครับ
4 วิธีถอดปั้มน้ำ ใช้ประแจเบอร์ 10 ไขน็อตที่ท่อใส่วาวล์น้ำ มี3ตัว
5 ถอดปั้มน้ำด้วยประแจเบอร์ 10มีน็อตอยู่ 6 หรือ 7ตัวเนี่ยแหละผมไม่แน่ใจ แต่ที่สำคัญต้องจำตำแหน่งที่ใส่น็อตไว้ด้วยนะครับ เพราะเบอร์ 10เหมือนกันแต่ยาวไม่เท่ากันครับ
5.1 วิธีตรวจสอบปั้มน้ำ ลองหมุนดูว่าลูกปืนหมุนปกติไหม มีสะดุดหรือโยกได้หรือเปล่าถ้ามี เตรียมเปลี่ยนได้เลย ของเทียม 590บาท ของแท้ 1750บาท เลือกเอาครับ ลองเอาน้ำกรอกใส่ตัวปั้มด้านใบพัดดูว่ามีน้ำซึมออกที่รูน้ำเล็กๆด้านข้างหรือไม่ ถ้ามีซิลปั้มเสียครับ แล้วก็ดูว่ากร่อนมากไหม ถ้ามากก็เปลี่ยนครับ เดี๋ยววันดีคืนดีมันทะลุจะแย่เอา ถ้าซื้อปั้มน้ำเทียมจะมีปะเกนมันให้ด้วย2ชิ้น ของแท้ไม่รู้มีประเกนให้หรือเปล่า
6 เวลาประกอบก็ ทากาวแบบที่เป็นกาวทาประเกนแบบที่เป็นยางใส่ปั้มน้ำเข้าไปก่อนแล้วก็ใส่ปะเกนทากาวท่อที่ใส่วาวล์น้ำไขน็อตให้แน่น ใส่วาวล์น้ำและฝาครอบวาวล์น้ำอย่าลืมทากาวด้วยนะครับ ใส่ตรงฝาครอบวาวล์น้ำนี้จะมีจะมีเทอร์โมสวิทซ์อยู่เป็นทองเหลือง
6.1 วิธีการทดสอบเทอร์โมสวิทซ์ว่าเสียหรือไม่ ก็ต้มน้ำรอจนร้อน(จุ่มน้ำเฉพาะส่วนที่เป็นทองเหลืองนะครับ)เอามิเตอร์ตั้งที่วัความต้านทาน วัดที่ขั้วไฟฟ้าเข็มมิเตอร์ต้องขึ้นนะครับ
7 ใส่ลูกวินปั้มน้ำโดยใส่น็อตไขให้ตึง ใส่สายพาน ไขน็อตตั้งไดชาร์ทให้สายพานตึง ล็อกน็อตยึดไดชาร์ทให้แน่น แล้วเอามือจับสายพานที่อยู่ตรงไดรชาร์ท แล้วไขน็อตลูกวินปั้มน้ำให้แน่นอีกครั้ง
8 วิธีเติมน้ำหม้อน้ำ เปิดฝาหม้อน้ำเทน้ำยาหม้อน้ำใส่ภาชนะเติมน้ำเปล่าผสมกันแล้วเทใส่หม้อน้ำ พอน้ำเต็มก็บีบตรงท่อยางจะมีฟองอากาศออกน้ำจะลดลงก็เติมน้ำอีกจะฟองอากศไม่ค่อยมีก็เติมน้ำใส่ถังพักปิดฝาหม้อน้ำ สตาร์ทเครื่องยกถังพักน้ำให้สูงไว้ พอเครื่องร้อนวาว์ลน้ำเปิดอากาศในระบบก็จะออกมาที่หม้อพักน้ำก็จะเข้าไปแทนทีในหม้อน้ำ รอจนไม่มีอากาศออกมาแล้วก็เป็นอันเรียบร้อย
9 ตรวจเช็คจุดรั่วต่างๆตามที่เราถอด ทากาว และท่อยางต่างๆ
10 แล้วก็เกิดอีกหนึ่งเหตุการณ์ไม่คาดฝัน หมุนน็อตพลาสติกถ่ายย้ำหม้อน้ำยังไม่ทันตึงมือเลยน็อตขาดคารูถ่ายน้ำเลย
10.1 วิธีเอาน็อตออกใช้ไขควงปากแบนตอกไปตรงกลางน็อตพลาสติกเลยครับระวังอย่าให้โดนเกลียวของหม้อน้ำนะครับ ตอกจนมันผุมเข้าไปในหม้อน้ำเลย แล้วถอดท่อยางน้ำเส้นล่างออก เติมน้ำเข้าหม้อน้ำน็อตที่ขาด จะ

http://racingweb.net/forums/showthread.php?t=593606
คุณ Bootrunner

 

ไฟส่องเท่า กับ ไฟเรือนหน้าปัทม์

อุปกรณ์: >>>
1. ขั้วไฟเดิม ที่ติดเรือนไมล์มา
2. หลอด LED(RGB) 3 สี/หลอด, 4 ขา = 3 ตัว
3. VR(ตัวต้านทานปรับค่าได้) ค่า 500 ohm = 3 ตัว
4. ตัวต้านทาน (R) ค่า 500 ohm = 9 ตัว
5. กล่องพลาสติก VR = 1 อัน
6. Board วงจรเปล่าๆ
7. สายไฟ, ท่อหด

เปลี่ยนสีไฟ ก็ปรับ vr เอาตามใจชอบเลยครับค่อยๆหมุน ก็จะเกิดการผสมสีกันของแม่สีครับ



_____________________________________


Refer:
http://racingweb.net/forums/showthread.php?t=601808
คุณ Virus_X ครับ

 

อุปกรณ์: >>>
1. แท่งหลอด LED สีอะไรก็ได้แล้วแต่ชอบ/อย่างน้อย6หลอด = 2 แถว แท่งละ 35
2. สวิท3ทาง 6ขา อิสระ (สามารถเปิดตลอดได้ และปิดไม่ใช้งานได้ และเปิดประตูแล้วติดได้) = 1 ตัว ตัวละ 20
3. วงจรหน่วงเวลา (ยี่ห้อที่ผมซื้ออย่าซื้อนะ ซื้อมาใช้ไม่ได้มีอุปกรณ์เสีย 2 ตัว ดีนะที่ซ่อมได้) = 1 แผง แผงละ 160
4. กล่องพลาสติก ไว้ใส่วงจร = 1 กล่อง กล่องละ 15
5. capacitor 1000uF/50v (ค่ายิ่งมากก็จะใช้เวลาดับช้า) = 2 ตัว ตัวละ 12
6. ตัวต่อเชื่อมจุดต่างๆ = 12 ตัว ตัวละ 3
7. กระปุกฟิวส์ + ฟิวส์ 10 A (สำหรับรถยนต์) = 1 ตัว ชุดละ 35
8. สายไฟ, ท่อหด






Video สาธิตชิ้นงานครับ click ที่รูปนะครับ





Refer:
http://racingweb.net/forums/showthread.php?t=601808
คุณ Virus_X ครับ

 

ขอท้าวความก่อนนะครับ ............... คือตอนเอารถมาจากพ่อผม ก็ยังดีๆอยูครับ แต่พอมาถึงผม ไอ้นั่นก็เสียไอ้นี่ก็เสีย ยังไม่ทันได้ขับเลย ผมก็เลยต้อง D.I.Y เองอยู่หลายอย่างด้วยเนื่องจากอะไหล่ไม่ค่อยจะมีเพราะว่ารถก็ปาไป 10 กว่าปีแล้ว น็อตล็อกยางอะไหล่ก็เหมือนกัน พอดีโชคดีของผม ผมเองจะไป อุตรดิตถ์ (บ้านแฟน) ก็เลยเอายางอะไหล่ออกมาเช็คสภาพ ยางอะไหล่ก็รั่วอีก กำ จริงๆ ก็เลยเอายางไปปะ เสร็จแล้วตอนเอากลับมาใส่นี่แหละปัญหา น็อตรูดเฉยเลยทั้งๆที่ยังไม่ได้ ขันกลับเข้าไปเลย ดีนะที่เอาออกมาเช็คไม่งั้นล้ออะไหล่ได้ล่วงกลางทางแน่ ก็เลยไปอุตรดิตถ์ก่อน แล้วพอกลับมา กรุงเทพก็เลยจะไปหาซื้อน็อต ผมเองลองไปหาซื้อน็อตตั้งแต่กลับจากอุตรดิตถ์ เมื่อตอนปีใหม่ จนถึงกลางเดือน มีนาคม ก็ยังไม่มีที่ไหนมีขายเลย จะไปโรงกลึงก็แพงเหลือเกิน ก็เลยต้องแก้ไขเองซะเลย ก็เลยเอามาฝากเพื่อนๆเผื่อใครเป็นอย่างผม เผื่อจะมีประโยชน์บ้างครับ แต่หลายคนถามว่าทำไมไม่เอาน็อตแกนยาวไปอ๊อกแล้วตัดหัวน็อตออกแล้วเอาน็อตตัวเมียใส่ก็จบ ตอนแรกก็คิดว่าจะทำอย่างนั้น แต่คิดดูอีกที ว่าเมื่อเอาน็อตขันตามเกลียวขึ้นไปอีกแบบเดิมก็มีโอกาสรูดอีกคอนข้างสูง ขนาดน็อตเดิมๆที่ติดกับรถมาตัวก็ไม่ใช่เล็กๆเลยยังรูดเลย นับประสาอะไรก็น็อตเหล็กผสมสมัยนี้นิ่มจะตายไป................

อุปกรณ์ที่ซื้อเพิ่ม

แหวนเหล็กเบอร์ 17 / 1ตัว
น็อต เบอร์ 10 สแตนเลส / 2 ตัว
น็อต เบอร์ 12 แกนสั้น สแตนเลส / 2 ตัว
แหวนสปริง เบอร์ 10 สแตนเลส / 4 ตัว
แหวนเบอร์ 12 สแตนเลส / 4 ตัว
สปริงที่ใส่กับแกนน็อต ความแข็งพอมือดันได้ 1 เส้น
น็อตตัวเมีย เบอร์ 10 สแตนเลส / 2 ตัว

น็อต 2 ตัวนี้ใช้ยึดกับตัวถังรถครับ เปลี่ยนเป็นสแตนเลส ซะเลยป้องกันสนิมรับประทาน

Refer http://racingweb.net/forums/showthread.php?t=607883
คุณ Virus_X

 

เกริ่นนำก่อนครับ

รถ nv ของเราๆนั้นก็มีอายุนานพอสมควร สมัยนั้นยังไม่ค่อยมีรถที่ตั้งเวลาปัดน้ำฝนมากเท่าไหร่นักจะมีก็มีแต่รุ่น TOP ของแต่ละสายการผลิต แล้วเวลาขับรถไปเจอฝนตกแบบพึ่งเริ่มตกหรือฝนใกล้ที่จะหยุด ที่ปัดน้ำฝนของเราก็ดันมีแค่ 2 ระดับ คือ เร็ว กับ เร็วมาก ซึ่งการที่มีน้ำบนกระจกไม่มากเท่าที่ควรการปัดของที่ปัดน้ำฝนก็จะฝืด บางคันก็มีเสียง ก็จะทำให้ยางปัดน้ำฝนเสื่อมก่อนเวลาอันควรและนานๆไปก็อาจจะทำให้กระจกเป็นรอยได้ จึงเกิดไอเดียทำที่ตั้งเวลาปัดน้ำฝนขึ้นมาครับ จริงๆแล้วผมเองจะซื้อจากพี่เบิ้มก็ได้ครับ แต่ผมเห็นว่ามันไม่ตรงรุ่นมันมีมาเกินตรงที่ปัดน้ำฝนด้านหลังนี่แหละที่ผมไม่ถูกใจ เลยหาวิธีทำเองซะเลย

อุปกรณ์

กล่องเอนกประสงค์ 1 กล่อง 35 บาท
วงจรชุด KIT 1 ชุด 185 บาท
สายไฟ 2 เมตร 20 บาท
ท่อหด 5 มิล 1 เส้น 10 บาท
ขั้วต่อแต่ละจุด 3 จุด 70 บาท
กระบอกฟิวส์ 1 ชุด 20 บาท

CIRCUIT DIAGRAM

เริ่มจากการถอดพวงมาลัยก่อนครับ ของผมเป็นพวงมาลัยแต่งต้องถอดคอพวงมาลัยด้วย

ถอดพวงมาลัยออกแล้วจะเจอน็อตเบอร์ 19 ยึดคอกับแกน ไขน็อตออกซะ

คอพวงมาลัยแต่งของผมจะค่อนข้างแน่นมากครับ ต้องเอาตัวถอดมู่เล่ย์ มาช่วยถอดคอพวงมาลัย

เมื่อถอดคอพวงมาลัยแล้ว ก็ก้มมาด้านล่างจะเจอน็อต 3 ตัว ก็จะถอดพลาสติกที่ไว้คุมก้านสวิทต่างๆได้

จะมีน็อต 3 ตัวที่ก้านคุมยกเลี้ยว พร้อมคุมปัดน้ำฝน

เมื่อยกก้านคุมยกเลี้ยว พร้อมคุมปัดน้ำฝน ออกก็จะเจอแจ็คต่อ 2 จุด ก็กดตรงที่วงไว้แล้วดึงออกเลยครับ

การต่อของ nv ของเราเป็นการตัดกราวด์

ตัดลายนี้ให้ขาดจากกัน

เดินสายตัวปรับตั้งเวลาใหม่

เดินมาใว้จุดนี้ ต้องเจาะตัวครอบเพื่อยึดตัวปรับ แล้วเอาตัวครอบวอลลุ่มมาครอบอีกทีพื่อความสวยงาม

เอาวงจรลงกล่องซะเพื่อกันช็อต

แล้วเอากล่องวงจรที่ประกอบเสร็จมายึดกับที่ครอบ ก้านคุมยกเลี้ยว พร้อมคุมปัดน้ำฝน ชิ้นล่างตามภาพ

สุดท้ายก็ประกอบย้อนกลับทีละขั้นตอนเป็นอันเสร็จ

สรุปผล



ผลที่ได้เป็นที่หน้าพอใจครับ สามารถตั้งเวลาได้ 3 - 30 วินาที และสามารถปิดการทำงานแล้วใช้งานแบบปกติแบบเดิม 2 ระดับได้เช่นเดิม


Refer : http://racingweb.net/forums/showthread.php?t=663168

คุณ Virus_X

 

เรื่องมีอยู่ว่าผมเอา nv กะบะไปวางเบาะหลัง มันต้องถอดถังน้ำมันเชื้อเพลิง ออกก่อน พอถอดถังน้ำมันออกมาถึงกะตกใจสภาพด้านบน(อย่างว่ามันล้างไม่ได้เพราะว่ามันอยู่ด้านบนติดกับพื้นรถ) ก็อย่างว่าแหละครับรถผมมันไม่ใช่มือ1 ไม่รู้ว่าผ่านมากี่มือ เจ้าของคนเก่าๆเอาไปวิ่งที่ไหนมาบ้างก็มิอาจจะรู้ได้ สภาพก็อย่างที่เห็น เอารถไปล้างอัดฉีดมาแล้วหลายครั้งครับ ก็ยังเป็นแบบนี้ ถ้าไม่แกะถังมาดูก็ไม่รู้ว่าสกปรกมากขนาดนี้

สภาพก่อนล้างครับ





หลังจากล้างด้วยเครื่องฉีดน้ำแรงดันสูง(แรงซะสีหลุดเลย) ก็สะอาดพอสมควร





รอจนแห้งสนิททุกซอกทุกมุม ก็ทำการพ่นสีรองพื้นกันสนิม








รอจนสีรองพื้นกันสนิมแห้งก็พ่นสีดำอีกครั้ง ก็เหมือนใหม่เลย







งานนี้หมดค่าสีไปทั้งหมด 200 ครับ เพื่อนๆสมาชิก NV ถังน้ำมันเป็นแบบผมกันรึป่าว ระวังนะครับ



โดย VIRUS_X เจ้า เก่า