Log in or Sign up
ติดต่อลงโฆษณา
[email protected]
หรือโทร. 081-811-1138 หรืออ่านรายละเอียดเพิ่มเติม คลิกที่นี่
RacingWeb.NET | The Racing Cars Community on Web.
Forums
>
RacingWeb Community
>
Racing Forum (Cars Forum)
>
นักวิจัยเผยแก๊สโซฮอล์-เอทานอลปล่อยสารก่อมะเร็ง
>
Reply to Thread
Name:
Verification:
Please enable JavaScript to continue.
Loading...
Message:
<p>[QUOTE="$%+[~GT~]+%$, post: 1051169, member: 12760"]คมชัดลึก : </p><p><br /></p><p> นักวิจัยศูนย์วิจัยฯสิ่งแวดล้อม เปิดผลวิจัยอากาศกทม.ช่วง 3ปี เหตุใช้ก๊าซโซฮอลล์-เอทานอลมากขึ้น สารก่อมะเร็งกลุ่มคาร์บอนิล สูงขึ้นตาม ชี้อนุสาวรีย์-พระราม5-สุขุมวิท-ดอนเมือง-รัชดาภิเษก วิกฤติสุด เสนอปรับลดเอทานอล ติดตั้งระบบจ่ายแก๊สมีประสิทธิภาพ</p><p><br /></p><p> วันที่ 20 มี.ค.2552 การสัมมนาวิชาการทิศทางการวิจัยกับการแก้ไขวิกฤติสิ่งแวดล้อม จัดโดยศูนย์วิจัยและฝึกอบรมด้านสิ่งแวดล้อม กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.) นางเดซี่ หมอกน้อย นักวิจัยด้านอากาศ จากศูนย์วิจัยและฝึกอบรมด้านสิ่งแวดล้อม นำเสนอผลงานวิจัยปริมาณการแพร่กระจายของสารประกอบคาร์บอนิลในอากาศในเขต กทม. ระหว่างปี 2549-2551</p><p><br /></p><p> โดยระบุว่า ภายหลังรัฐบาลมีนโยบายส่งเสริมให้ประชาชนหันมาใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ เนื่องจากมีราคาถูกกว่าราคาน้ำมันเบนซิน และดีเซล เฉลี่ย 5-10 บาทต่อลิตร อีกทั้งจะเพิ่มสัดส่วนปริมาณเอทานอลมากขึ้นจากเดิมกำหนด 15% เป็น 85% คาดการณ์ได้ว่าจะส่งผลให้สารพิษกลุ่มคาร์บอนิล ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็ง และอยู่ในกลุ่มสารอินทรีย์ระเหยง่ายในบรรยากาศมีแนวโน้มสูงขึ้นตามมาด้วย</p><p><br /></p><p> นางเดซี่ กล่าวว่า เมื่อทำการวิจัยและเก็บตัวอย่างสารกลุ่มคาร์บอนิล แบบใช้ปั้มดูดอากาศครอบคลุมพื้นที่ริมถนน 49 จุดในเขต กทม.การจราจรหนาแน่น ก็พบค่าความเข้มข้นของสารกลุ่มคาร์บอนิล จำนวน 10 ชนิด เช่น ฟอร์มัลดีไฮด์ อะเซทัลดีไฮด์ อะซีโตน อะโครรีน มีความเข้มข้นแตกต่างกันไป</p><p><br /></p><p> โดยเฉพาะที่น่าตกใจ คือ พบระดับค่าความเข้มข้นของฟอร์มัลดีไฮท์ และอะเซทัลดีไฮท์ มีความเข้มข้นเกินมาตรฐานเฝ้าระวังที่ OEHHA ซึ่งเป็นหน่วยงานประเมินด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของสหรัฐอเมริกา ได้ประเมินความเสี่ยงของคน ที่รับสารชนิดนี้เพียง 1.23 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) อย่างต่อเนื่อง จำนวน 40 ต่อ 1 ล้านคน มีโอกาสเป็นมะเร็ง </p><p><br /></p><p> ขณะที่บริเวณริมถนนของอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ถนนพระราม 5 รัชดาภิเษก สุขุมวิท และดอนเมืองของไทย มีค่าความเข้มข้นของสารฟอร์มัลดีไฮด์ 10.6 มคก./ลบ.ม. และสูงเกินระดับความเสี่ยงของสหรัฐอเมริกา 5 เท่า และถือว่าสูงกว่าในเมืองโอซาก้า ของญี่ปุ่น และเมืองออนทาริโอ ของแคนาดา 3-5 เท่า เนื่องจากมีสัดส่วนของเอทานอล 3 และ 15% ในแก๊สโซฮอล์</p><p><br /></p><p> “ขณะที่ค่าความเข้มข้นของสารอะเซทัลดีไฮท์อยู่ในช่วง 3.31 ไมโครกรัม ต่อ ลูกบาศก์เมตร จากมาตรฐานของอเมริกา 2.2 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ถือว่ามีค่าความเข้มมากกว่าเช่นกัน ส่วนสาเหตุที่ทำแก๊สโซฮอล์มีสารมลพิษดังกล่าวมาจากกระบวนการเผาไหม้ที่ไม่สมบูรณ์ เมื่อมีรถยนต์ปล่อยสารมลพิษออกมาแล้วเจอกับแสงในบรรยากาศ ยังจะส่งผลให้สารมลพิษตัวอื่นๆมาค่าเพิ่มมากขึ้น โดยจะเห็นว่ากทม.มีการตรวจพบโอโซนในบรรยากาศสูงขึ้น รวมทั้งฝุ่นละอองขนาดเล็กที่มีผลต่อสุขภาพ ที่มีแนวโน้มสูงขึ้นตลอด 2-3 ปีในพื้นที่ริมถนนที่มีการจรจรหนาแน่น โดย เฉพาะในช่วงเวลากลางวันควรจะหลีกเลี่ยงการเข้าไปในเขตที่มีการจราจรคับคั่ง อย่างไรก็ตาม เนื่องจากขณะนี้ กรมควบคุมมลพิษ ได้ออกมาตรฐานค่าเฝ้าระวังสารอินทรีย์ระเหยง่ายในบรรยากาศรวม 9 ชนิด อาทิ สารเบนซีน แต่สำหรับสารฟอร์มัลดีไฮด์ และสารอะเซทัลดีไฮท์ ยังไม่มีการกำหนดมาตรฐานของไทยเอง แต่แนวโน้มการใช้ก๊าซโซฮฮล์ที่มีปริมาณ 5 ล้านลิตรต่อวัน ก็ควรต้องเร่งพิจารณาออกมาตรฐาน” นางเดซี่ กล่าว</p><p><br /></p><p> ด้าน นายสุวิทย์ คุณกิตติ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.) กล่าวถึงความคืบหน้าในการประกาศเขตควบคุมมลพิษที่มาบตาพุด จ.ระยองว่า ขณะนี้เตรียมเชิญหน่วยงานเกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นด้านสิ่งแวดล้อม ภาคอุตสาหกรรม ผู้ประกอบการ และภาคท้องถิ่นเข้าหารือ เพื่อเตรียมมาตรการเพื่อที่จะลดสารมีพิษ โดยเน้นการมีส่วนร่วม การแลกเปลี่ยนความคิดเห็นของทุกฝ่าย แต่จะต้องอยู่บนพื้นฐานของความถูกต้องและเป็นธรรม รวมทั้งจะทำความเข้าใจกับภาคอุตสาหกรรม ที่มีความเป็นห่วงว่าจะกระทบต่อการลงทุน รวมถึงกระบวนการติดตามประเมินผล คาดว่าจะสามารถประกาศเขตควบคุมมลพิษในพื้นที่ระยองได้ไม่เกิน 1 เดือนข้าง</p><p><br /></p><p> ดร.สุพัฒน์ หวังวงศ์วัฒนา อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ(คพ.) กล่าวถึงสถานการณ์คุณภาพอากาศ ว่า มลพิษหลัก ยังคงเป็นฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 10 ไมครอน โดยเฉพาะใน ต.หน้าพระลาน จ.สระบุรี พื้นที่จ. ราชบุรี สมุทรปราการ ลำปาง พระนครศรีอยุธยา เชียงใหม่ และนครราชสีมา ส่วนกทม. ฝุ่นริมถนนค่าเฉลี่ย 24 ชั่วโมง ตรวจวัดได้ในช่วง 8.1 - 205.4 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร เกินมาตรฐาน 3.3 % ลดลงจากปี 50 ที่ตรวจวัดได้ในช่วง 9.8-242.7 มคก./ลบ.ม. หรือ 4.7 % พื้นที่ยังมีปัญหาคือ ถนนดินแดง พระราม 6 พระราม 4 ราชปรารภ พิษณุโลก สุขุมวิท เยาวราช สามเสน สุขาภิบาล 1 เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีปัญหามลพิษทางอากาศจากก๊าซโอโซนที่เกินมาตรฐานเป็นครั้งคราว ในกทม. นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรสาคร สมุทรปราการ ราชบุรี เป็น</p><p><br /></p><p> “แนวโน้มปัญหาก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ กำลังจะกลับมาเป็นมลพิษอันดับต้นๆ ในพื้นที่ กทม.หลังจากที่ปี 2548-49 มลพิษดังกล่าวไม่เคยพบเกินมาตรฐาน แต่ระหว่างปี 50-51 ตรวจพบก๊าซดังกล่าวเกินมาตรฐานที่กำหนดไว้โดยเฉพาะในเขตมีการจราจรหนาแน่นมาก อาทิ ดินแดง สาเหตุหลักมาจากรถเก่าไม่ดูแลรักษาเครื่องยนต์จำนวนหนึ่งนำรถไปติดตั้งก๊าซธรรมชาติมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ปัญหาที่เกิดขึ้นน่าจะมาจากการติดตั้งระบบแก๊สในส่วนควบคุมการจ่ายแก๊สไม่มีประสิทธิภาพ และที่ผ่านมาจะเน้นความปลอดภัยเป็นหลัก แต่ไม่ได้คำนึงถึงมลพิษ ทั้งนี้เมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาได้ประสานไปยังกระทรวงพลังงาน กระทรวงคมนาคม และกรมการขนส่งทางบกให้ตรวจสอบการะบายมลพิษจากการติดตั้งแก๊สด้วย เพราะถ้าไม่ควบคุมอนาคตก๊าซคาร์บอนมอนนอกไซต์จะทำให้มลพิษในกทม.น่าเป็นห่วงยิ่งขึ้น” อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ ระบุ</p><p><br /></p><p><span style="color: Lime">ข้อมูลอ้างอิงมาจากลิ๊งค์นี้ครับ</span></p><p><a href="http://www.komchadluek.net/detail/20090320/6176/นักวิจัยเผยแก๊สโซฮอล์เอทานอลปล่อยสารก่อมะเร็ง.html" target="_blank" class="externalLink ProxyLink" data-proxy-href="http://www.komchadluek.net/detail/20090320/6176/นักวิจัยเผยแก๊สโซฮอล์เอทานอลปล่อยสารก่อมะเร็ง.html" rel="nofollow">http://www.komchadluek.net/detail/20090320/6176/นักวิจัยเผยแก๊สโซฮอล์เอทานอลปล่อยสารก่อมะเร็ง.html</a></p><p><br /></p><p><img src="styles/default/xenforo/clear.png" class="mceSmilieSprite mceSmilie8" alt=":D" unselectable="on" unselectable="on" /> <img src="styles/default/xenforo/clear.png" class="mceSmilieSprite mceSmilie8" alt=":D" unselectable="on" unselectable="on" /> <img src="styles/default/xenforo/clear.png" class="mceSmilieSprite mceSmilie8" alt=":D" unselectable="on" unselectable="on" /> <img src="styles/default/xenforo/clear.png" class="mceSmilieSprite mceSmilie8" alt=":D" unselectable="on" unselectable="on" /> <img src="styles/default/xenforo/clear.png" class="mceSmilieSprite mceSmilie8" alt=":D" unselectable="on" unselectable="on" /> <img src="styles/default/xenforo/clear.png" class="mceSmilieSprite mceSmilie8" alt=":D" unselectable="on" unselectable="on" /> <img src="styles/default/xenforo/clear.png" class="mceSmilieSprite mceSmilie8" alt=":D" unselectable="on" unselectable="on" /> <img src="styles/default/xenforo/clear.png" class="mceSmilieSprite mceSmilie8" alt=":D" unselectable="on" unselectable="on" /> <img src="styles/default/xenforo/clear.png" class="mceSmilieSprite mceSmilie8" alt=":D" unselectable="on" unselectable="on" />[/QUOTE]</p><p><br /></p>
[QUOTE="$%+[~GT~]+%$, post: 1051169, member: 12760"]คมชัดลึก : นักวิจัยศูนย์วิจัยฯสิ่งแวดล้อม เปิดผลวิจัยอากาศกทม.ช่วง 3ปี เหตุใช้ก๊าซโซฮอลล์-เอทานอลมากขึ้น สารก่อมะเร็งกลุ่มคาร์บอนิล สูงขึ้นตาม ชี้อนุสาวรีย์-พระราม5-สุขุมวิท-ดอนเมือง-รัชดาภิเษก วิกฤติสุด เสนอปรับลดเอทานอล ติดตั้งระบบจ่ายแก๊สมีประสิทธิภาพ วันที่ 20 มี.ค.2552 การสัมมนาวิชาการทิศทางการวิจัยกับการแก้ไขวิกฤติสิ่งแวดล้อม จัดโดยศูนย์วิจัยและฝึกอบรมด้านสิ่งแวดล้อม กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.) นางเดซี่ หมอกน้อย นักวิจัยด้านอากาศ จากศูนย์วิจัยและฝึกอบรมด้านสิ่งแวดล้อม นำเสนอผลงานวิจัยปริมาณการแพร่กระจายของสารประกอบคาร์บอนิลในอากาศในเขต กทม. ระหว่างปี 2549-2551 โดยระบุว่า ภายหลังรัฐบาลมีนโยบายส่งเสริมให้ประชาชนหันมาใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ เนื่องจากมีราคาถูกกว่าราคาน้ำมันเบนซิน และดีเซล เฉลี่ย 5-10 บาทต่อลิตร อีกทั้งจะเพิ่มสัดส่วนปริมาณเอทานอลมากขึ้นจากเดิมกำหนด 15% เป็น 85% คาดการณ์ได้ว่าจะส่งผลให้สารพิษกลุ่มคาร์บอนิล ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็ง และอยู่ในกลุ่มสารอินทรีย์ระเหยง่ายในบรรยากาศมีแนวโน้มสูงขึ้นตามมาด้วย นางเดซี่ กล่าวว่า เมื่อทำการวิจัยและเก็บตัวอย่างสารกลุ่มคาร์บอนิล แบบใช้ปั้มดูดอากาศครอบคลุมพื้นที่ริมถนน 49 จุดในเขต กทม.การจราจรหนาแน่น ก็พบค่าความเข้มข้นของสารกลุ่มคาร์บอนิล จำนวน 10 ชนิด เช่น ฟอร์มัลดีไฮด์ อะเซทัลดีไฮด์ อะซีโตน อะโครรีน มีความเข้มข้นแตกต่างกันไป โดยเฉพาะที่น่าตกใจ คือ พบระดับค่าความเข้มข้นของฟอร์มัลดีไฮท์ และอะเซทัลดีไฮท์ มีความเข้มข้นเกินมาตรฐานเฝ้าระวังที่ OEHHA ซึ่งเป็นหน่วยงานประเมินด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของสหรัฐอเมริกา ได้ประเมินความเสี่ยงของคน ที่รับสารชนิดนี้เพียง 1.23 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) อย่างต่อเนื่อง จำนวน 40 ต่อ 1 ล้านคน มีโอกาสเป็นมะเร็ง ขณะที่บริเวณริมถนนของอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ถนนพระราม 5 รัชดาภิเษก สุขุมวิท และดอนเมืองของไทย มีค่าความเข้มข้นของสารฟอร์มัลดีไฮด์ 10.6 มคก./ลบ.ม. และสูงเกินระดับความเสี่ยงของสหรัฐอเมริกา 5 เท่า และถือว่าสูงกว่าในเมืองโอซาก้า ของญี่ปุ่น และเมืองออนทาริโอ ของแคนาดา 3-5 เท่า เนื่องจากมีสัดส่วนของเอทานอล 3 และ 15% ในแก๊สโซฮอล์ “ขณะที่ค่าความเข้มข้นของสารอะเซทัลดีไฮท์อยู่ในช่วง 3.31 ไมโครกรัม ต่อ ลูกบาศก์เมตร จากมาตรฐานของอเมริกา 2.2 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ถือว่ามีค่าความเข้มมากกว่าเช่นกัน ส่วนสาเหตุที่ทำแก๊สโซฮอล์มีสารมลพิษดังกล่าวมาจากกระบวนการเผาไหม้ที่ไม่สมบูรณ์ เมื่อมีรถยนต์ปล่อยสารมลพิษออกมาแล้วเจอกับแสงในบรรยากาศ ยังจะส่งผลให้สารมลพิษตัวอื่นๆมาค่าเพิ่มมากขึ้น โดยจะเห็นว่ากทม.มีการตรวจพบโอโซนในบรรยากาศสูงขึ้น รวมทั้งฝุ่นละอองขนาดเล็กที่มีผลต่อสุขภาพ ที่มีแนวโน้มสูงขึ้นตลอด 2-3 ปีในพื้นที่ริมถนนที่มีการจรจรหนาแน่น โดย เฉพาะในช่วงเวลากลางวันควรจะหลีกเลี่ยงการเข้าไปในเขตที่มีการจราจรคับคั่ง อย่างไรก็ตาม เนื่องจากขณะนี้ กรมควบคุมมลพิษ ได้ออกมาตรฐานค่าเฝ้าระวังสารอินทรีย์ระเหยง่ายในบรรยากาศรวม 9 ชนิด อาทิ สารเบนซีน แต่สำหรับสารฟอร์มัลดีไฮด์ และสารอะเซทัลดีไฮท์ ยังไม่มีการกำหนดมาตรฐานของไทยเอง แต่แนวโน้มการใช้ก๊าซโซฮฮล์ที่มีปริมาณ 5 ล้านลิตรต่อวัน ก็ควรต้องเร่งพิจารณาออกมาตรฐาน” นางเดซี่ กล่าว ด้าน นายสุวิทย์ คุณกิตติ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.) กล่าวถึงความคืบหน้าในการประกาศเขตควบคุมมลพิษที่มาบตาพุด จ.ระยองว่า ขณะนี้เตรียมเชิญหน่วยงานเกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นด้านสิ่งแวดล้อม ภาคอุตสาหกรรม ผู้ประกอบการ และภาคท้องถิ่นเข้าหารือ เพื่อเตรียมมาตรการเพื่อที่จะลดสารมีพิษ โดยเน้นการมีส่วนร่วม การแลกเปลี่ยนความคิดเห็นของทุกฝ่าย แต่จะต้องอยู่บนพื้นฐานของความถูกต้องและเป็นธรรม รวมทั้งจะทำความเข้าใจกับภาคอุตสาหกรรม ที่มีความเป็นห่วงว่าจะกระทบต่อการลงทุน รวมถึงกระบวนการติดตามประเมินผล คาดว่าจะสามารถประกาศเขตควบคุมมลพิษในพื้นที่ระยองได้ไม่เกิน 1 เดือนข้าง ดร.สุพัฒน์ หวังวงศ์วัฒนา อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ(คพ.) กล่าวถึงสถานการณ์คุณภาพอากาศ ว่า มลพิษหลัก ยังคงเป็นฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 10 ไมครอน โดยเฉพาะใน ต.หน้าพระลาน จ.สระบุรี พื้นที่จ. ราชบุรี สมุทรปราการ ลำปาง พระนครศรีอยุธยา เชียงใหม่ และนครราชสีมา ส่วนกทม. ฝุ่นริมถนนค่าเฉลี่ย 24 ชั่วโมง ตรวจวัดได้ในช่วง 8.1 - 205.4 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร เกินมาตรฐาน 3.3 % ลดลงจากปี 50 ที่ตรวจวัดได้ในช่วง 9.8-242.7 มคก./ลบ.ม. หรือ 4.7 % พื้นที่ยังมีปัญหาคือ ถนนดินแดง พระราม 6 พระราม 4 ราชปรารภ พิษณุโลก สุขุมวิท เยาวราช สามเสน สุขาภิบาล 1 เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีปัญหามลพิษทางอากาศจากก๊าซโอโซนที่เกินมาตรฐานเป็นครั้งคราว ในกทม. นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรสาคร สมุทรปราการ ราชบุรี เป็น “แนวโน้มปัญหาก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ กำลังจะกลับมาเป็นมลพิษอันดับต้นๆ ในพื้นที่ กทม.หลังจากที่ปี 2548-49 มลพิษดังกล่าวไม่เคยพบเกินมาตรฐาน แต่ระหว่างปี 50-51 ตรวจพบก๊าซดังกล่าวเกินมาตรฐานที่กำหนดไว้โดยเฉพาะในเขตมีการจราจรหนาแน่นมาก อาทิ ดินแดง สาเหตุหลักมาจากรถเก่าไม่ดูแลรักษาเครื่องยนต์จำนวนหนึ่งนำรถไปติดตั้งก๊าซธรรมชาติมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ปัญหาที่เกิดขึ้นน่าจะมาจากการติดตั้งระบบแก๊สในส่วนควบคุมการจ่ายแก๊สไม่มีประสิทธิภาพ และที่ผ่านมาจะเน้นความปลอดภัยเป็นหลัก แต่ไม่ได้คำนึงถึงมลพิษ ทั้งนี้เมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาได้ประสานไปยังกระทรวงพลังงาน กระทรวงคมนาคม และกรมการขนส่งทางบกให้ตรวจสอบการะบายมลพิษจากการติดตั้งแก๊สด้วย เพราะถ้าไม่ควบคุมอนาคตก๊าซคาร์บอนมอนนอกไซต์จะทำให้มลพิษในกทม.น่าเป็นห่วงยิ่งขึ้น” อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ ระบุ [COLOR="Lime"]ข้อมูลอ้างอิงมาจากลิ๊งค์นี้ครับ[/COLOR] [url]http://www.komchadluek.net/detail/20090320/6176/นักวิจัยเผยแก๊สโซฮอล์เอทานอลปล่อยสารก่อมะเร็ง.html[/url] :D :D :D :D :D :D :D :D :D[/QUOTE]
Log in with Facebook
Log in with Twitter
Log in with Google
Your name or email address:
Do you already have an account?
No, create an account now.
Yes, my password is:
Forgot your password?
Stay logged in
RacingWeb.NET | The Racing Cars Community on Web.
Forums
>
RacingWeb Community
>
Racing Forum (Cars Forum)
>
นักวิจัยเผยแก๊สโซฮอล์-เอทานอลปล่อยสารก่อมะเร็ง
>
X
Home
Home
Quick Links
Recent Posts
Recent Activity
Authors
Forums
Forums
Quick Links
Search Forums
Recent Posts
Classifieds
Classifieds
Quick Links
Search Classifieds
Recent Activity
Top Rated Traders
Media
Media
Quick Links
Search Media
New Media
Members
Members
Quick Links
Notable Members
Registered Members
Current Visitors
Recent Activity
New Profile Posts
Menu
Search titles only
Posted by Member:
Separate names with a comma.
Newer Than:
Search this thread only
Search this forum only
Display results as threads
Useful Searches
Recent Posts
More...