นั่นสิ ผมว่า การตัดสินใจ ครั้งนี้แปลกๆๆ ได้มาขับเฟอร์ แต่ปีหน้า เป็นมือที่สาม ซึ่งไม่รู้จะได้ขับอีกเมื่อไหร่ อาจจะกลายเป็นนั่งยาวก้อได้ หากอยู่ Force India ต่อ ก้อโอกาสปีนี้กำลังมา แถมปีหน้าน่าจะได้ขับต่อด้วยนะเนี่ย แต่อย่างว่า ได้ขับทีม ferrari มันก้อคงเป็นอะไรที่ ดึงดูดๆ สนามหน้า สิงค์โปร์ เนี่ย ถ้าชินรถ F60 ไม่ทัน เนี่ย แย่เลย สนามยิ่งขับยากๆๆ อยู่ ต้องมาพะวงรถอีก แต่สนามนี้ kimi เร็วดีจัง พรุ่งนี้ลุ้นต่อ
NON-KERS ออกมาตัวหนักทุกคนเลยแฮะ ดูๆๆ แล้ว Heiki น่าจะเข้าป้ายนะเนี่ย ตัวหนักแถมอยู่สูง แฮมกับสุทิล ต้องดูหลังพิทแรกถึงจะรู้ คิมี่ ก้อเหมือนกัน ต้องดึงห่างให้ได้มากสุด จากพวกตัวหนัก ออกพิทแรกมา จะได้ไม่ต้องไปตามหลัง Below is the provisional grid for the Italian Grand Prix with each car's weight. 1. Lewis Hamilton, McLaren, 653.5kg 2. Adrian Sutil, Force India, 655 3. Kimi Raikkonen, Ferrari, 662 4. Heikki Kovalainen, McLaren, 683 5. Rubens Barrichello, Brawn GP, 688.5 6. Jenson Button, Brawn GP, 687 7. Vitantonio Liuzzi, Force India, 679.5 8. Fernando Alonso, Renault, 677.5 9. Sebastian Vettel, Red Bull, 682 10. Mark Webber, Red Bull, 683 11. Jarno Trulli, Toyota, 703 12. Romain Grosjean, Renault, 699.8 13. Robert Kubica, BMW Sauber, 697.5 14. Giancarlo Fisichella, Ferrari, 690 15. Nick Heidfeld, BMW Sauber, 697.5 16. Timo Glock, Toyota, 709.8 17. Kazuki Nakajima, Williams, 706.2 18. Nico Rosberg, Williams, 708.6 19. Sebastien Buemi, Toro Rosso, 706 20. Jaime Alguersuari, Toro Rosso, 706
เรียบร้อยยยย เฟอร์ ส้มหล่น เล็กๆๆ Brawn GP กวาด หนึ่ง สอง ต่อด้วยส้มเฟอร์ เสียดายแฮม เหมือนกัน ขับดีนะเนี่ย Force India นาย Luizzi ก้อเสียดาย สนามนี้สนุกๆๆ ดูแล้วลุ้นๆๆ สุดๆ ว่ากันใหม่ สิงค์โปร์ครับ
สนามนี้บรอนว์วางแผนมาดีทำพิตเดียว เข้า 1 - 2 ส่วนที่ 3 คิมี่รับส้ม จากลูอิสที่เหลืออีกไม่ถึงรอบพลาดพาดกำแพงซะงั้น ไม่รู้จะรีบทำไมประคองเข้าเส้นก็ได้โพเดี้ยมแล้ว สนุกจริงๆ คับ พบกันใหม่ที่ไนท์เรสสิงค์โปร์ 27 กันยา จ๊ะ
น่าเสียดายแฮมจัง ที่ยังแร่งอยู่จนรอบสุดท้ายคงดูแล้วว่าเวลาเขาเร็วกว่าคันหน้ากะว่าต่อให้เหลือโค้งสุดท้ายก็จะแซงให้ได้+กับคันหน้าอาจผ่อนลงบ้าง...แต่แล้วก็พลาดจนได้ เฮ้อ..
คิมี่เปิดดัวแบบโอ้โห ได้ใจสุดๆ แอบเสียดายแฮม ผมว่าเค้าขับเหมือนมีพลังพิเศษเหนือคนอื่นๆ มันนิดเดียวจริงๆ ขับแบบOn the edge แล้วก็ดีใจกะลุงด้วย ที่1อีกแล้ว ยิ้มแก้มแทบปริ
พวกเรา ไว้ไปปล่อยพลังพิเศษบั่งดิ ดีป่ะ CAN CUP สนามหน้าเด๋วขอร้องให้พี่ไก่ เอายางมาวางชิดขอบเลยย สร้างบรรยากาศ Street Circuit
เฮ้อออออ เอฟวัน ก้อยังวุ่นวาย ล่าสุดนาย บารริโตเร่ กับ แพท สองหัวของเรโนลต์ ลาออก แล้วทีมยังบอกว่าจะไม่สู้ความเรื่องที่ถูกกล่าวหาอีก เหอ เหอ อะไรกันละเนี่ย ทำจริง ไม่ทำจริง ก้อไม่มีใครรู้นะสิเนี่ย แต่มีลาออกแบบนี้ ก้อโดนเหมาว่า อ่ะนะ แบบนี้ เข้ายุคเสื่อมหรือไงเนี่ย หุหุหุ
ข้อมูลจาก espnstar นะครับ คร่าวๆๆ เหมือนจะผิดจริงนะเนี่ย เพราะจากข้อมูลของการขับ พบว่า ณ โค้งเกิดเหตุฯ ปิเกต์ เร่งในโค้ง แทนที่จะชะลอ โดย FIA กัน Piquet เป็นพยาน และเสนอจะกัน ตา Symonds ด้วย แต่ ตา Symonds ไม่เอา กอดคอกันออกไปพร้อมกับ นายเบอร์โตเร่ The welter of evidence against Briatore and Symonds was damning in the wake of Piquet Jnr providing the FIA's investigation team with two statements detailing what transpired in Singapore. The 24-year-old claimed that, in a meeting with Briatore and Symonds a few hours before the race, he was told to crash his car, and, in a further discussion with the latter, at what point on the circuit. Piquet Jnr, fearing for his future with the team, followed through with the order on lap 14, and at turn 17 of the Singapore track, a point where no crane was on hand, so forcing the intervention of the safety car. As Alonso had pitted two laps earlier, the safety car period played into the double world champion's hands, allowing him to claim the victory. Although suspicions were roused at the time, the matter did not start to surface until just over a fortnight ago at the Belgian Grand Prix. The claim is Nelson Piquet Snr, in the wake of his son being axed by Renault after the Hungarian Grand Prix at the end of July, informed the FIA of what unfolded. The FIA's investigations led them to offer Piquet Jnr immunity against prosecution in return for his testimony. Telemetry data was especially significant as it showed Piquet Jnr accelerating into the crash, rather than braking as a driver would ordinarily do. It is understood the FIA also offered Symonds immunity; however, it is now clear he declined, opting instead to follow Briatore out of the exit door. Briatore's departure brings to an end the career of one of the sport's most colourful characters. The flamboyant 58-year-old Italian started out at Benetton in 1988, overseeing Michael Schumacher's world title triumphs in 1994 and 1995, again in the role of managing director. In 2005 and 2006, as team principal at Renault, Briatore helped the French manufacturer and Alonso become world champions.
คงคุ้มไปแล้วล่ะคับ คุ้นๆว่าอัตราต่อรองหนามนั้นนี่ พี่โซ่ อยู่ปะมาณไม่ต่ำกว่าเต็ง7-8ชัวๆ เพราะควอที่15ซึ่งเต็งหกลงไปราคาอยู่ปะมาณ เกิน1-20อ่ะ เดาว่าหนามนั้นหนามเดียวคุ้มทุนมาแข่งปีนี้ได้ทั้งปีนะ+รวมค่าปรับด้วยจากFIAด้วย
แต่ก้อนะ ถ้าไม่มีอนาคอนด้ามาเพ่นพ่าน ไรๆก้อคงเปนอีกหน้านึงไปเรย แฮม ยังไม่ได้เปนแชมโลก พิเก้ไม่ต้องยัดกำแพง กล๊อคไม่ต้องยกคันเร่งก่อนเข้าเส้นที่บราซิล สัญญา มาสซ่าที่จะหมดปี2010 ก้อสดใส เพราะ อนาคอนด้าโผล่มาสร้างสีสรรแต้ๆ
เริ่มตั้งแต่ Spy-Gate : Mc ขโมยข้อมูล Fer สรุปหัวหน้าออก ทีมโดนปรับ ยึดแต้ม มา Lie-Gate: นาย Ham ให้การอ่ะนะ คราวนี้ ใครออก จำชื่อไม่ได้ มา Crash-Gate: หัวหน้าออก สอง เด๋วดูว่าจะโดนอะไรอีก หุหุหุ เฮ้อ เอฟวัน หรือเนี่ย พวกเขาลืมเรื่อง สปิริต ไปเนอะ กลับมารถเช่าบ้างดีกว่า เราว่ากันตรงๆๆ จะเก็บใครบอกกันล่วงหน้า ให้ระวังโดนดัน ฮ่าฮ่าฮ่า หาทางเอาตัวรอดเอาเอง คิ คิ คิ
:tea::spy: หึหึหึ ขนาดผมรุตัวก่อนยังเปนสิงห์ทะเลทรายมาแล้ว เค้าบอกยืนดูที่พิทนี่มองไม่เหนรถเรย แต่ชอบนะ เร้าจัยดี
ขี้เกียจแปลข่าวมาพักใหญ่ ขออัพเดทหน่อย ไรคโคเน่น + แมคลาเรน ??? ไรคโคเน่นได้เซ็นสัญญา ลงแข่งในซีซั่น 2010 กับแมคลาเรนแล้ว ติดเพียงแค่ว่าสัญญานี้จะเป้นผลได้ก็ต่อเมื่อ ...เขาตกลงกับเฟอร์รารี่ที่เขายังมีสัญญาขับให้อีกหนึ่งปีได้ก่อนเท่านั้น และจากแหล่างข่าว อ้างว่าเขาจะย้ายก็ต่อเมื่อ ...เขาได้รับเงินเดือนตลอดปีจากเฟอร์รารี่ มูลค่าราว 49 ล้านเหรียญ เท่านั้น งานนี้ทำให้นิโค่ รอสเบิร์กที่กำลังถูกทีมแมคลาเรนซึ่งต้องการเขา ...มาแทนที่ เฮคกี้ โควาไลเน่น กับบรอว์นแย่งตัวกันอยู่ต้องตกกระป๋อง โดยหากสัญญาบรรลุผลทางแมคลาเรนก็จะโยนตัวไปให้ทางบรอว์นเลย งานนี้ยิ่งเติมเชื้อไฟให้ข่าวการย้ายไปยังเฟอร์รารี่ของเฟอร์นันโด อลอนโซ่ แชมป์โลกสองสมัยได้เป้นอย่างดี หลังจากที่ทางเฟอร์รารี่ไม่ยอมรับ... และก็ไม่ปฏิเสธข่าวนี้เสียที ซึ่งก็อีกนั่นแหละ ยังต้องดูอนาคตของเขาอีกเช่นกันหลังจากเขาถูก... สภามอเตอร์สปอร์ตโลกเรียกตัวให้การ ในกรณีแกล้งชนของเนลสัน ปิเก้ท์ ปิเก้ท์อ้างว่าในปี 2008 เขาถูก บริอาตอเร่ หัวหน้าทีมเรโนลท์ กับซิมอนด์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิศวกร สั่งให้ขับชน เพื่อเปิดโอกาสให้อลอนโซ่ชนะการแข่งขัน และอลอนโซ่ก็รู้เห็นด้วย บริอาตอเร่ กับ ซิมอนด์ได้ลาออก(ถูกไล่ออก)จากทีมเรโนลท์ และแจ้งดำเนินคดีกับปิเก้ท์ ข้อหาพยายามแบล๊คเมล์ "เขาเป้นคนเสนอความคิดนี้เอง" โดยบอกว่าขอแลกกับการได้ต่อสัญญา ในปี 2009 เนลสัน ปิเก้ท์ เองก็หมดอนาคตนักแข่งเช่นกัน นักขับที่ยอมชนเพื่อให้ได้ต่อสัญญา? สปิริตและจิตวิญญาณนักแข่งหายไปไหน? ใครจะจ้างนักขับคดโกงแบบเขา? เกิดมีทีมอื่นมาจ้างเขาชนล่ะ? สื่อต่างๆสับแหลกปิเก้ท์ไม่เหลือชิ้นดี และความทุเรศอีกอย่างคือ ปิเก้ท์ยอมขึ้นให้การโดยขอสิทธิคุ้มกันไม่ต้องโทษใดๆจาก FIA และขณะนี้เสียงด่าเขาจากทั่วโลกค่อยๆทวีคูณยิ่งขึ้น คร่าวๆเท่านี้ก่อนนะ ขี้เกียจละ
เรียบร้อย คดี crash-gate.. Renault รอลงอาญา สองปี ตา บาริ กับ แพท โดนแบน คนแรกถาวร คนที่สอง ห้าปี อลองโซ รอดไป ไม่มีส่วน เนลสัน กันเป็นพยานไม่โดนโทษ แต่ชีวิตนักแข่งก็จบลงไปด้วยอ่ะเนอะ
ทั้งคู่โดนแบนห้ามเหยียบย่างเข้าเขตควบคุม หรือพื้นที่ภายใต้การดูแลของ FIA โดยเด็ดขาด FIA จะไม่มีการต่ออายุ Super License ให้นักแข่งคนใดก็ตามที่เกี่ยวข้องกับ ทั้งบริอาตอเร่เด็ดขาด (ทั้งทางสัญญา การบริหาร ฯลฯ) ในช่วงติดทัณฑ์บนสองปีนี้ หากมีการทำผิดใดๆที่เทียบเท่าหรือร้ายแรง ทีมเรโนลท์จะถูก Disqualify จากรายการทันที ส่วนปิเก้ท์หลังรอดตัวได้จากสิทธิคุ้มครองพยาน เขาได้กล่าวขอโทษต่อทุกคนผ่านสื่อ ยิ่งคิดผมก็รู้ว่าในตอนนั้นผมไม่ควรยอมทำตาม แต่ผมไม่อยู่ในฐานะที่จะปฏิเสธได้ โดยเขายังหวังจะกลับเข้าสู่วงการ โดนหวังว่าจะมีบุคคลสำคัญซักคนในวงการให้โอกาสเขาอีกครั้ง สรุปแฉกันเอง เน่าหมด โกงทั้งคุ่เละทั้งคู่ + อ้างถึง ตอบกลับ