Do You Know ? (คุณรู้ไหม)

nismo

ตอนนี้กระแส nismo มาแรงจัง..
เพียบเลย..แต่ไม่มีเงิน
ขอชื่นชมอย่างเดียวแล้วกัน:cry::cry:

 

แวะมาแถม สเกริต์ ตัว 4D ตัวเป็น ๆ

ในไทยตอนนี้ มีตัวเป็น ๆ เหมือนกัน น่ะ
จำได้ว่า ตอนมาสีแดง
ถามกันว่า ใช่เปล่าว่ะ
ตอนนี้ ใครใส่อยู่ไม่รู้

 

แวะเอารูปกล้วย NISMO มาฝากครับ ตอนนั้นลังเลว่าจะใส่เหมือนกัน

แต่มันกว้างแค่ 6 ครึ่ง ออฟใส่แล้วมันหุบเข้าไป

ก็เลยไม่ได้เอามา ที่สำคัญเบาพอ ๆ กับ wata แต่ราคาถูกกว่านะ

 

ขอเก็บรูปคันสีเขียว ไปให้แฟนดูครับ

 

เออพี่ครับ ล้อสกาย GTS-GTR ใส่ บี14 ได้ป่าวอะครับ
ดูมันแข็งแกร่งดีอะครับ

 

ใส่ได้ครับ แต่ต้องแปลงดุมรถไม่ก็แปลงล้อคร้าบ เพราะล้อสกายมัน 5รู114.3

 

ขอบคุณครับ

 

ฝากเอาเข้า Do you know ครับ

สาเหตุและความเสียหายของเทอร์โบ


1. สิ่งแปลกปลอมภายนอก (Foreign Object)




สิ่งแปลกปลอมจากภายนอกที่ผ่านเข้าไปในเสื้อไอดีหรือโข่งไอเสียจะกระแทกทำ ความเสียหายต่อใบพัดไอดี และใบพัดไอเสีย ดังนั้นจึงต้องมีการตรวจสอบอย่างละเอียดว่าไม่มีสิ่งตกค้างในท่อไอดีและท่อ ไอเสีย เมื่อมีการถอดเปลี่ยนเทอร์โบทุกครั้ง หากใบพัดไอดีหรือใบพัดไอเสียบิดงอ อย่าดัดและนำไปใช้ใหม่เพราะใบพัดที่ดัดจะแตกหรือหักทันทีที่ใช้งาน อย่าใช้เทอร์โบที่มีใบพัดเสียหายเนื่องจากแกนเพลาจะเกิดการไม่สมดุล ทำให้ชิ้นส่วนต่างๆ เสียหายมากขึ้นจนเทอร์โบไม่สามารถใช้งานได้

2. น้ำมันเครื่องสกปรก (Dirty Oil)



น้ำมันสกปรกจะทำความเสียหายต่อเทอร์โบโดยทำให้เกิดรอยสึกที่ผิวบู๊ทและรูใน เสื้อกลาง เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหานี้ควรเปลี่ยนถ่ายน้ำมัน และไส้กรองตามกำหนดของผู้ผลิตเครื่องยนต์ รวมทั้งทุกครั้งที่มีการถอดเปลี่ยนเทอร์โบใหม่

สาเหตุของน้ำมันสกปรกเกิดได้จากสิ่งเหล่านี้คือ
1. ไส้กรองน้ำมันเครื่องอุดตันและเนื้อกระดาษฉีกขาดเป็นรู
2. ฝุ่นเข้าเครื่องยนต์มากเกินไปในช่วงขณะซ่อมแซม หรือบำรุงรักษาเครื่องยนต์
3. เศษโลหะที่สึกหรอจากชิ้นส่วนต่างๆ ในเครื่องยนต์
4. เกิดการผิดปกติในระบบบายพาสวาล์วของระบบไส้กรองน้ำมันหล่อลื่น
5. น้ำมันคุณภาพต่ำ

3. น้ำมันเครื่องมาช้าเกินไป หรือมาไม่ทัน (Oil Delay)



การที่น้ำมันไหลเข้าไม่สะดวก หรือเกิดการติดขัดในช่วงเวลาสั้นๆ เพียง 4-5 วินาที จะยังผลให้เกิดการเสียดสีและเกิดรอยบนผิวโลหะของบู๊ทเทอร์โบ ซึ่งเป็นผลจากสิ่งเหล่านี้

1. ติดตั้งเทอร์โบใหม่โดยมิได้หยอดน้ำมันในเทอร์โบ
2. เปลี่ยนน้ำมันเครื่องและไส้กรอง โดยมิได้เติมน้ำมันในไส้กรองให้เต็ม
3. ไม่ได้ใช้เครื่องยนต์มาเป็นเวลานาน
4. สตาร์ทเครื่องยนต์แล้วเร่งเครื่องทันที
5. แรงดันน้ำมันเครื่องต่ำเกินไป เนื่องจากปั๊มน้ำมันหล่อลื่นผิดปกติ
6. น้ำมันหล่อลื่นเกิดการปนเปื้อน เช่น สารเคมีจากหม้อน้ำ หรือน้ำมันเชื้อเพลิง เข้าไปผสมกับน้ำมัน
หล่อลื่น
7. เครื่องยนต์ทำงานในที่ลาดเอียงมากเกินไป

4. น้ำมันเครื่องเข้าไม่พอ หรือ ขาดน้ำมันเครื่อง (Oil Starvation)




การขาดน้ำมันหล่อลื่นอย่างแรงเป็นระยะเวลานานเกินกว่า 8-10 วินาที จะยังผลให้ชิ้นส่วนภายในเทอร์โบเกิดความเสียหาย โดยจะสังเกตได้จากการเปลี่ยนสีของโลหะนอกเหนือจากการเสียดสีและสึกหรอบนผิว โลหะ การขาดน้ำมันเลี้ยงเทอร์โบ จะทำความเสียหายรุนแรงกว่าการที่น้ำมันเข้าช้าหรือไม่ทัน ซึ่งจะเกิดสาเหตุมาจาก

1. ท่อน้ำมันเข้าเทอร์โบแตกอุดตัน หรือบิดงอ
2. ปั๊มน้ำมันหล่อลื่นเสีย
3. น้ำมันเครื่องในก้นอ่างต่ำเกินไปหรือไม่มีน้ำมัน
4. ใช้เครื่องยนต์ในที่ลาดเอียงมากเกินไป
5. ลมรั่วเข้าไปในระบบหล่อลื่น

5. เกิดความร้อนสูงเกินไป (Overheat)




การที่แก๊สไอเสียมีอุณหภูมิสูงเกินไป หรือการดับเครื่องยนต์ในทันทีหลังการใช้งานมาอย่างหนักโดยมิได้ให้น้ำมัน หล่อลื่นเทอร์โบมีอุณหภูมิลดลงจะทำให้เกิดการสะสมของคราบคาร์บอนภายในชิ้น ส่วนเทอร์โบ หลังการใช้งาน ควรให้เครื่องยนต์อยู่ในรอบเดินเบาประมาณ 2-3 นาทีก่อน เพื่อให้อุณหถูมิหล่อลื่นน้ำมันในเทอร์โบเย็นตัวลงก่อนการดับเครื่องทุก ครั้ง

ความร้อนจากด้านโข่งไอเสียจะผ่านเข้าในเสื้อกลางยังผลให้เกิดเป็นคราบ คาร์บอน และกัดกร่อนชิ้นส่วนในระบบแบริ่ง ความเสียหายส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นบนแหวนไอเสีย, ร่องแหวนไอเสีย, การเกิดขี้ตะกรันอุดตันทางเดินภายในของน้ำมันหล่อลื่น การเกิดความร้อนสูงจัด และทำให้หน้าแปลนโข่งไอเสียเกิดร้าวแตก หรือเสียรูป สาเหตุเกิดจาก

1. ไส้กรองอากาศอุดตันหรือท่อดูดอากาศติดขัด
2. การดับเครื่องยนต์โดยทันทีหลังการใช้งานมา
3. น้ำมันเครื่องคุณภาพต่ำ
4. ไม่ถ่ายน้ำมันเครื่องตามกำหนด ทำให้น้ำมันหมดสภาพ
5. เกิดการรั่วของลมไอดี หรือแก๊สไอเสีย
6. ระบบเชื้อเพลิงไม่สมบูรณ์ หรือมีปัญหา
7. การติดตั้งโข่งไอเสียผิดวิธี
8. ท่อน้ำมันเข้าอุดตัน

เนื่องจากเทอร์โบมีรอบการทำงานระหว่าง 100,000 - 200,000 รอบ ดังนั้นจึงมีความจำเป็นต้องซ่อมตามอายุ ก่อนเทอร์โบจะเสียหาย ซึ่งบริษัทจำหน่ายรถ หรือ เครื่องยนต์มักไม่พูดถึงเรื่องนี้ เพราะเกรงว่าลูกค้าจะหาว่าเครื่องเทอร์โบจุกจิก ซึ่งกลับกลายเป็นภาระของเจ้าของรถ เมื่อเทอร์โบเกิดความเสียหายมากต้องเปลี่ยนเทอร์โบใหม่ทั้งลูก หรือไส้กลางที่มีราคาสูง เนื่องจากไม่คุ้มค่าที่จะซ่อมเป็นชิ้น การถอดซ่อมตามอายุจะมีค่าใช้จ่ายที่ถูกกว่ามากคือประมาณ 7,000-8,000 บาท เมื่อเทียบกับ 20,000-30,000 บาท เมื่อใช้จนเสียหายมาก

 

จะบอกว่าหน้า 8 สุดยอด 55

 

Upซะหน่อยเรื่องโช้คB14นะครับ