เข้าสู่ระบบหรือลงทะเบียน
ติดต่อลงโฆษณา
[email protected]
หรือโทร. 081-811-1138 หรืออ่านรายละเอียดเพิ่มเติม คลิกที่นี่
RacingWeb.NET | The Racing Cars Community on Web.
ฟอรั่ม
>
Community Car Clubs
>
Pickup Car Clubs
>
MiNi Truck Club
>
คุยกันแบบวิชาการ เพื่อเป็นแนวทางในการทำรถกันบ้างดีมั้ยคับ
>
ตอบกลับหัวข้อ
ชื่อ:
การตรวจสอบ:
กรุณาเปิดใช้งานจาวาสคริปต์เพื่อดำเนินการต่อ
กำลังโหลด...
ข้อความ:
<p>[QUOTE="NONG_SCG, post: 1204995, member: 72265"]เหอๆๆ จะว่าเป็นเพราะน้ำมันก็ถูก เป็นเพราะอัตราส่วนอัดก็ถูก ระเบิดแรงกว่าหรือป่าว อันนี้ไม่แน่ แต่รากเหง้าจริงๆ มันมีที่มาที่ไปอย่างงี้ ดูรูปประกอบไปพลางๆ ก่อน ผมจะเกลิ่นเท้าความซักเล็กน้อย โดยธรรมชาติเครื่องเบนซิน (แก๊สโซลีน) จะไม่สามาเพิ่มอัตราส่วนอัดได้มากเพราะมีข้อคุณลักษณะของน้ำมัน รถบ้านๆ อัตราส่วนอัดก็จะอยู่ที่ราวๆ 9-10 ประมาณนี้ ซึ่งจริงๆ แล้วถ้าไม่ติดข้อจำกัดของน้ำมันก็จะสามารถเพิ่มได้อีก ส่วนเครื่องดีเซลถ้าใช้อัตราส่วนอัดต่ำๆ ก็ทำงานได้ครับ แต่ประสิทธิภาพจะไม่ดี แต่เดี๋ยวนี้มองอย่างงั้นไม่ได้ เพราะอัดตราส่วนอัดเป็นแค่ตัวแทนของความดัน ซึ่งจริงๆ กำลังงานหรือประสิทธิภาพที่ดีก็แปรผันกับความดันในกระบอกนั่นเอง จะเห็นได้ว่ารถที่มีเทอร์โบจะลดอัตราส่วนกำลังอัดลงเพื่อเพิ่มพื้นที่ให้อากาศเข้าไปได้มากๆ แต่พอถึงขั้นตอนอัดจริงความดันในกระบอกจะมากกว่าเครื่องไม่มีเทอร์โบแม้ว่าเครื่องที่ไม่มีเทอร์โบจะมีอัตราส่วนกำลังอัดมากกกว่าก็ตาม เพราะมวลอากาศถูกเทอร์โบดันเข้าไปมากกว่านั่นเอง เหมือนต้อนควายเข้าคอก ควายเยอะคอกก็แน่น อัตราส่วนอัดของดีเซลมีช่วงกว้างทำงานได้ตั้งแต่ 15-20 กว่าๆ แล้วแต่จะออกแบบ แต่ที่เห็นกันมากๆ จะเกาะอยู่ที่ 10 ปลายถึง 20 ต้นๆ </p><p><br /></p><p>เริ่มเข้าเรื่อง ถ้าเครื่องเบนซินและดีเซลมีความโตของกระบอกเท่ากัน (เส้นผ่าน ศก) ด้วยข้อจำกัดของน้ำมันเบนซินทำให้อัตราส่วนอัดได้ประมาณ 10 ส่วนดีเซลต้องอัดไปราวๆ 20 ซึ่งถ้าดูจากรูปแล้วจินตนาการจะเห็นว่าระยะ R ของเครื่องดีเซลต้องยาวกว่า คราวนี้เครื่องทั้งสองตัวเริ่มอัดอากาศแล้วก็จุดระเบิด สมมติให้จ่ายน้ำมันเข้าไปพอๆ (ในแง่พลังงาน ไม่ใช่ในแง่ปริมาณ) พลังงานภายในน้ำมันก็จะถูกแปลงมาเป็นพลังงานความร้อนบางส่วน และก็กลายเป็นงานที่ทำให้เพลาข้อเหวี่ยงหมุน เครื่องดีเซลก็ได้เปรียบซิ่ครับ ระยะ R ยาวกว่าเหมือนเราต่อด้ามประแจยาวกว่าก็ออกแรงขันน้อยกว่า นี่แหละคือที่มาจริงๆ ของเครื่องดีเซลที่มีแรงบิดดีกว่า เครื่องเบนซินแขนสั้นในแง่แรงบิดสู้ไม่ได้แต่ว่าเนื่องจากระยะ R น้อยทำให้ลูกสูบเคลื่อนที่ในระยะสั้นๆ ลูกสูบไม่เดินทางไกลเหมือนดีเซล มันก็ขึ้นลงได้เร็ว นี่แหละครับที่มาว่าทำไมเบนซินจึงมีรอบจัดกว่า </p><p><br /></p><p>เราเปรียบเทียบในแง่ที่ใส่พลังงาน (น้ำมัน) และขนาดความโตกระบอกเท่ากันไปแล้วก็พอจะเห็นภาพคร่าว และกายภายของเครื่องแต่ละแบบ </p><p><br /></p><p>คราวนี้โลกมันพัฒนาไปเยอะ เครื่องเบนซินถ้าเพิ่มอัตราส่วนอัดได้มากกว่านี้ โดยอาจจะมีน้ำมันพิเศษที่ทนต่อกำลังอัดสูงๆ ได้โดยไม่ติดไฟเอง มันก็จะทำให้ช่วงชักมันยาวขึ้นแรงบิดมันก็อาจจะดีกว่าดีเซลบางตัวก็เป็นได้ หรือไม่เพิ่มกำลังอัดแต่เพิ่มน้ำมันเข้าไปมากๆ มันก็มีแรงบิดมากกว่าดีเซลได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นมันก็ต้องออกแบบให้ชิ้นส่วนต่างๆ รับแรงที่เกิดขึ้นได้ด้วย และก็เช่นกันดีเซลถ้าอัดได้อีกมันก็แรงไปอีก หรืออัดไม่ได้แล้วเพิ่มน้ำมันเข้าไปอีก แรงบิดมันก็ได้เพิ่มมาอีก พูดไปพูดมาสรุปได้ก็คือ ถ้าเครื่องมันทนได้คุณเพิ่มน้ำมันไปเหอะทั้งแรงบิดแรงม้ามันก็จะเพิ่ม 555 ไม่ว่าเบนซินหรือดีเซล แต่อารายก็ดีผมว่าเครื่องยนต์ดีเซล มันทนไม่ค่อยไหว รอบ4500-5000 ก็เหนื่อยแล้ว ....มิมิ[/QUOTE]</p><p><br /></p>
[QUOTE="NONG_SCG, post: 1204995, member: 72265"]เหอๆๆ จะว่าเป็นเพราะน้ำมันก็ถูก เป็นเพราะอัตราส่วนอัดก็ถูก ระเบิดแรงกว่าหรือป่าว อันนี้ไม่แน่ แต่รากเหง้าจริงๆ มันมีที่มาที่ไปอย่างงี้ ดูรูปประกอบไปพลางๆ ก่อน ผมจะเกลิ่นเท้าความซักเล็กน้อย โดยธรรมชาติเครื่องเบนซิน (แก๊สโซลีน) จะไม่สามาเพิ่มอัตราส่วนอัดได้มากเพราะมีข้อคุณลักษณะของน้ำมัน รถบ้านๆ อัตราส่วนอัดก็จะอยู่ที่ราวๆ 9-10 ประมาณนี้ ซึ่งจริงๆ แล้วถ้าไม่ติดข้อจำกัดของน้ำมันก็จะสามารถเพิ่มได้อีก ส่วนเครื่องดีเซลถ้าใช้อัตราส่วนอัดต่ำๆ ก็ทำงานได้ครับ แต่ประสิทธิภาพจะไม่ดี แต่เดี๋ยวนี้มองอย่างงั้นไม่ได้ เพราะอัดตราส่วนอัดเป็นแค่ตัวแทนของความดัน ซึ่งจริงๆ กำลังงานหรือประสิทธิภาพที่ดีก็แปรผันกับความดันในกระบอกนั่นเอง จะเห็นได้ว่ารถที่มีเทอร์โบจะลดอัตราส่วนกำลังอัดลงเพื่อเพิ่มพื้นที่ให้อากาศเข้าไปได้มากๆ แต่พอถึงขั้นตอนอัดจริงความดันในกระบอกจะมากกว่าเครื่องไม่มีเทอร์โบแม้ว่าเครื่องที่ไม่มีเทอร์โบจะมีอัตราส่วนกำลังอัดมากกกว่าก็ตาม เพราะมวลอากาศถูกเทอร์โบดันเข้าไปมากกว่านั่นเอง เหมือนต้อนควายเข้าคอก ควายเยอะคอกก็แน่น อัตราส่วนอัดของดีเซลมีช่วงกว้างทำงานได้ตั้งแต่ 15-20 กว่าๆ แล้วแต่จะออกแบบ แต่ที่เห็นกันมากๆ จะเกาะอยู่ที่ 10 ปลายถึง 20 ต้นๆ เริ่มเข้าเรื่อง ถ้าเครื่องเบนซินและดีเซลมีความโตของกระบอกเท่ากัน (เส้นผ่าน ศก) ด้วยข้อจำกัดของน้ำมันเบนซินทำให้อัตราส่วนอัดได้ประมาณ 10 ส่วนดีเซลต้องอัดไปราวๆ 20 ซึ่งถ้าดูจากรูปแล้วจินตนาการจะเห็นว่าระยะ R ของเครื่องดีเซลต้องยาวกว่า คราวนี้เครื่องทั้งสองตัวเริ่มอัดอากาศแล้วก็จุดระเบิด สมมติให้จ่ายน้ำมันเข้าไปพอๆ (ในแง่พลังงาน ไม่ใช่ในแง่ปริมาณ) พลังงานภายในน้ำมันก็จะถูกแปลงมาเป็นพลังงานความร้อนบางส่วน และก็กลายเป็นงานที่ทำให้เพลาข้อเหวี่ยงหมุน เครื่องดีเซลก็ได้เปรียบซิ่ครับ ระยะ R ยาวกว่าเหมือนเราต่อด้ามประแจยาวกว่าก็ออกแรงขันน้อยกว่า นี่แหละคือที่มาจริงๆ ของเครื่องดีเซลที่มีแรงบิดดีกว่า เครื่องเบนซินแขนสั้นในแง่แรงบิดสู้ไม่ได้แต่ว่าเนื่องจากระยะ R น้อยทำให้ลูกสูบเคลื่อนที่ในระยะสั้นๆ ลูกสูบไม่เดินทางไกลเหมือนดีเซล มันก็ขึ้นลงได้เร็ว นี่แหละครับที่มาว่าทำไมเบนซินจึงมีรอบจัดกว่า เราเปรียบเทียบในแง่ที่ใส่พลังงาน (น้ำมัน) และขนาดความโตกระบอกเท่ากันไปแล้วก็พอจะเห็นภาพคร่าว และกายภายของเครื่องแต่ละแบบ คราวนี้โลกมันพัฒนาไปเยอะ เครื่องเบนซินถ้าเพิ่มอัตราส่วนอัดได้มากกว่านี้ โดยอาจจะมีน้ำมันพิเศษที่ทนต่อกำลังอัดสูงๆ ได้โดยไม่ติดไฟเอง มันก็จะทำให้ช่วงชักมันยาวขึ้นแรงบิดมันก็อาจจะดีกว่าดีเซลบางตัวก็เป็นได้ หรือไม่เพิ่มกำลังอัดแต่เพิ่มน้ำมันเข้าไปมากๆ มันก็มีแรงบิดมากกว่าดีเซลได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นมันก็ต้องออกแบบให้ชิ้นส่วนต่างๆ รับแรงที่เกิดขึ้นได้ด้วย และก็เช่นกันดีเซลถ้าอัดได้อีกมันก็แรงไปอีก หรืออัดไม่ได้แล้วเพิ่มน้ำมันเข้าไปอีก แรงบิดมันก็ได้เพิ่มมาอีก พูดไปพูดมาสรุปได้ก็คือ ถ้าเครื่องมันทนได้คุณเพิ่มน้ำมันไปเหอะทั้งแรงบิดแรงม้ามันก็จะเพิ่ม 555 ไม่ว่าเบนซินหรือดีเซล แต่อารายก็ดีผมว่าเครื่องยนต์ดีเซล มันทนไม่ค่อยไหว รอบ4500-5000 ก็เหนื่อยแล้ว ....มิมิ[/QUOTE]
เข้าสู่ระบบด้วย Facebook
เข้าสู่ระบบด้วย Twitter
เข้าสู่ระบบด้วย Google
ชื่อผู้ใช้งานหรือที่อยู่อีเมล์ของคุณ:
คุณมีบัญชีผู้ใช้หรือไม่?
ไม่มี, สร้างบัญชีผู้ใช้ตอนนี้
มี, รหัสผ่านของฉันคือ:
ลืมรหัสผ่านของคุณ?
อยู่ในระบบตลอดเวลา
RacingWeb.NET | The Racing Cars Community on Web.
ฟอรั่ม
>
Community Car Clubs
>
Pickup Car Clubs
>
MiNi Truck Club
>
คุยกันแบบวิชาการ เพื่อเป็นแนวทางในการทำรถกันบ้างดีมั้ยคับ
>
X
หน้าแรก
หน้าแรก
Quick Links
โพสต์ล่าสุด
กิจกรรมล่าสุด
ผู้เขียน
ฟอรั่ม
ฟอรั่ม
Quick Links
ค้นหาฟอรั่ม
โพสต์ล่าสุด
ประกาศซื้อขาย
ประกาศซื้อขาย
Quick Links
ค้นหาประกาศซื้อขาย
กิจกรรมล่าสุด
ผู้ค้าขายคะแนนสูงสุด
สื่อ/วิดีโอ
สื่อ/วิดีโอ
Quick Links
Search Media
New Media
สมาชิก
สมาชิก
Quick Links
สมาชิกที่โดดเด่น
สมาชิกที่ลงทะเบียน
ผู้ใช้งานในขณะนี้
กิจกรรมล่าสุด
โพสต์ข้อมูลส่วนตัวใหม่
เมนู
ค้นหาเฉพาะชื่อ
โพสต์โดยสมาชิก:
แยกชื่อด้วยเครื่องหมายจุลภาค
ใหม่กว่า:
ค้นหาเฉพาะหัวข้อนี้
ค้นหาเฉพาะฟอรั่มนี้
แสดงผลเป็นหัวข้อ
การค้นหาที่มีประโยชน์
โพสต์ล่าสุด
เพิ่มเติม...