เข้าสู่ระบบหรือลงทะเบียน
ติดต่อลงโฆษณา
[email protected]
หรือโทร. 081-811-1138 หรืออ่านรายละเอียดเพิ่มเติม คลิกที่นี่
RacingWeb.NET | The Racing Cars Community on Web.
ฟอรั่ม
>
Community Car Clubs
>
Mitsubishi Car Clubs
>
Evolution Thailand
>
แน่ะนำทีคับใช้ เครื่องโว3 เกียร์โว1 กล่องโว1 รถกินน้ำมัน+เร่งเครื่องตอนเครื่องเย็นแบบกดคันเร่งทันทีๆ
>
ตอบกลับหัวข้อ
ชื่อ:
การตรวจสอบ:
กรุณาเปิดใช้งานจาวาสคริปต์เพื่อดำเนินการต่อ
กำลังโหลด...
ข้อความ:
<p>[QUOTE="พัทยา@MRC#012, post: 1239039, member: 9244"]อาการแบบนี้มีหลายสาเหตุครับ แต่สิ่งที่แนะนำให้ตรวจสอบอันดับแรกๆคือ</p><p>หากรถไม่มีกำลัง อันดับแรกที่ควรจะทำตามมาตราฐานของช่างเครื่อง คือ</p><p>1. ตรวจสอบกำลังอัดครับ </p><p>เครื่อง1-3 ที่วางมาจากญี่ปุ่น ตอนนี้อายุเกิน 10ปี ทุกตัว เมื่อนำมาวางใหม่ ควรเปิดฝาสูบตรวจสอบสภาพของห้องเผาไหม้ครับ</p><p>ปัจจุบันเท่าที่เปิดดู ผมมักจะเจอเครื่องญี่ปุ่นที่มีปัญหาเหล่านี้ </p><p>หัวลูกสูบเริ่มกร่อน-ละลาย ฝาสูบกร่อน ร่องแหวนแตก ผนังเสื้อสูบเป็นรอย หรือปะเก็นฝาสูบหมดสภาพ </p><p>เพราะปัจจุบันจะหาเครื่องสวยๆสดๆ สภาพดีจากญี่ปุ่น ผมบอกได้เลยว่าไม่มีแล้วครับ</p><p>อาการพวกนี้ทำให้กำลังอัดต่ำ-หาย-รั่ว-เผาไหม้ไม่สมบูรณ์ เป็นสาเหตุของเครื่องไม่มีกำลังได้ทั้งหมด</p><p>อาการจะออกมากน้อยตามสภาพการใช้งานมาจากญี่ปุ่นครับ </p><p>อย่างเคสเบาๆก็กำลังอัดในแต่ละสูบไม่เท่ากัน และแตกต่างกันไม่มาก รถจึงมีปัญหาคล้ายลักษณะที่เป็นอยู่ครับ</p><p>คือเหมือนจะดีแต่ไม่สมบูรณ์</p><p>วิธีการเบื้องต้น สามารถวัดแรงอัดอากาศจากเบ้าหัวเทียนได้(วิธีนี้ไม่ใช่วิธีการหากำลังอัดนะครับ แต่ใช้สังเกตุปัญหาได้ </p><p>กำลังอัดเครื่องยนต์ C/R ต้องวัดอีกอย่างจากการหาปริมตรของห้องเผาไหม้ทั้งหมดแล้วนำมาคำนวณเท่านั้นครับ )</p><p>เราวัดแรงอัดอากาศจากเบ้าหัวเทียนไปทีละสูบ หากสูบใดต่ำกว่าสูบอื่นๆจนผิดปกติ เช่น สูบ1-3วัดได้ 97 แต่สูบ4 วัดได้แค่ 75</p><p>แสดงว่าสูบสี่มีปัญหาเรื่องกำลังอัด เมื่อถอดหัวเทียนมาดูจะเห้นสิ่งผิดปกติจากสูบอื่นๆ ลักษณะแบบนี้ควรเปิดฝาสูบเพื่อตรวจสอบปัญหา</p><p>เท่านั้นครับ ย้ำว่าหากคิดว่าผิดปกติ ควรเปิดฝาสูบเพื่อตรวจสอบครับ เปิดแล้วไม่เจออะไรก็จะได้ตัดปัญหาทิ้งไปไล่อย่างอื่นได้ครับ</p><p>อย่าเสียเวลาไปไล่เรื่องระบบไฟหาก Mechanical ยังไม่สมบูรณ์ เพราะอาจะเสียเครื่องทั้งตัวโดยไม่จำเป็น</p><p>พื้นฐานจริงๆ เราต้องแก้ Mechanical ของเครื่องให้สมบูรณ์ก่อน แล้วจึงค่อยไปไล่ปัญหาเรื่องไฟ จึงจะเป็นการแก้ปัญหาที่ถูกต้องครับ </p><p><br /></p><p>สาเหตุที่เครื่องยนต์เย็นแล้ว ไม่มีกำลังเพราะ อาการเริ่มต้นของความเสียหายยังไม่มาก เมื่อเครื่องเย็นMechanicalในห้องเผาไหม้ ยังขยายตัวไม่เต็มที่ ทำให้กำลังอัดรั่วไหล เครื่องจึงไม่มีกำลัง เมื่อเครื่องร้อนการขยายตัวของชิ้นส่วนมีมากขึ้น ทำให้กำลังอัดที่เคยรั่ว อาจจะชดเชยกลับมาได้ระดับหนึ่ง จึงรู้สึกว่าเครื่องมีกำลังขึ้นเมื่อเครื่องร้อน</p><p><br /></p><p>2. อุปกรณ์อิเล็คทรอนิกส์ ต่างๆ ที่ทำงานเมื่อเครื่องเย็น และ ร้อน แตกต่างกันตามแต่ละชนิดออกไป</p><p>เช่น </p><p>O2 Sensor ที่จะเริ่มทำงานมีค่าเป็นเคมีไฟฟ้า ระดับ mV. เมื่อตัวเซ็นเซอร์ร้อน ที่ราวๆ 45 องศา ขึ้นไป</p><p>หากO2 Sensor เพี้ยน ก็อาจจะเกิดปัญหาเรื่องจุดในการวัดหรือการทำงานเพี้ยนได้ เช่นตอนเครื่องเย็นO2 ไม่อ่าน หรือ ร้อนมากกว่า45 องศา แล้วก็ยังไม่อ่าน ทำให้กล่อง ECU ประมวลผลไม่ถูกต้องได้ รถจึงมีอาการกินน้ำมันมาก</p><p>เพราะกล่องเดิมๆ จะปรับน้ำมันตามO2 Sensor เมื่อO2 เพีย้น กล่องจะเพี้ยนและกินน้ำมันมาก เมื่อน้ำมันก็ย่อมเผาไหม้ไม่หมดและวิ่งไม่ออกครับ</p><p><br /></p><p>Water Temp ก็สามารถก่อปัญหาได้เช่นกัน เช่นเพี้ยน กล่องจะอ่านค่าอุฦณหภูมิเครื่องยนต์ผิดพลาด ทำให้ชดเชยน้ำมันมาหนา</p><p>รถจึงวิ่งไม่ออก</p><p><br /></p><p>ISC โดยเฉพาะในวงจรของ Warm Coil และ Idle Position Sw. ก็สามารถเพี้ยน และสร้างปัญหาได้เช่นกัน</p><p>Air Flow เพี้ยนก็เป็นไปได้ครับ</p><p><br /></p><p>อุปกรณ์พวกนี้หากเสีย เราสามารถใช้ MUT ต่อเพื่อดูการทำงานที่บกพร่องของอุปกรณ์นั้นๆ และ ระบุสาเหตุว่าเสียที่เซ็นเซอร์ตัวไหนได้เลยครับ แต่หากเพี้ยนบางครั้งอาจจะวัดไม่เจอ ต้องลองสลับหรือเปลี่ยนดู</p><p><br /></p><p>ผมไม่แนะนำให้รื้อพวกเซ็นเซอร์พวกนี้ออกซ่อมเอง เพราะหากเราไม่รู้รายละเอียด ที่เราเรียกว่า Technical Detail ของมันจริงๆ</p><p>รื้อออกมาก็พังเท่านั้นครับ เราต้องมีความรู้เกี่ยวกับของพวกนี้จริงๆ จึงจะรื้อ-ซ่อม-Calibrateมันกลับมาใช้งานได้ครับ</p><p>อย่าง O2 ที่ชอบรื้อกัน ผมถามว่ารู้หรือเปล่าว่ามันคือ เทอร์โมคลัปเบิ้ลชนิดไหน ค่าความต้านทานเท่าไร ตารางความร้อน และย่านใช้งานเป็นอย่างไร บางรุ่นมีHeaterมาด้วยก็ตรวจสอบกันไม่ถูกและไม่รู้ว่ามันคืออะไรด้วยซ้ำ ของพวกนี้ต้องมีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับมันก่อนที่จะรื้อครับ </p><p><br /></p><p>Air FLOW ก็เป็นอีกตัวที่ชอบรื้อกันครับ ถ้ารื้อมาทำความสะอาดควรใช้ความละเอียดกับมัน ค่อยทำไป </p><p>ที่สำคัญอะไรที่แกะไม่ได้ อย่าแกะครับ เพราะญี่ปุ่นมัน Calibrate มาแล้ว แกะแล้วเพี๊ยนแน่นอนครับ</p><p><br /></p><p>ของพวกนี้ เท่าที่รื้อกันเองส่วนมากพังครับ ทั้งๆที่ก่อนรื้อมันไม่พัง </p><p>ผมถึงแนะนำให้สลับแทน ถ้าสลับแล้วของเดิมไม่เสีย ก็ยังเก็บของเดิมไว้ใช้ต่อได้ วิธีนี้ดีกว่าครับ </p><p><br /></p><p>เห็นมั้ยครับว่าเบื้องต้นเรามี 2 ส่วนที่ต้องตรวจสอบ </p><p>แต่ Mechanical เป้นอันดับแรกที่ต้องตรวจสอบครับ</p><p>ส่วนวิธีการตรวจสอบและวิเคราะห์ปัญหา คุยกับช่างดีกว่าครับ เพราะของพวกนี้ถ้าไม่เห็นหน้างาน </p><p>ผมบอกปัญหาไม่ได้เลยครับ ช่างที่เห็นหน้างานและตรวจสอบควรจะให้คำตอบได้ดีกว่าครับ[/QUOTE]</p><p><br /></p>
[QUOTE="พัทยา@MRC#012, post: 1239039, member: 9244"]อาการแบบนี้มีหลายสาเหตุครับ แต่สิ่งที่แนะนำให้ตรวจสอบอันดับแรกๆคือ หากรถไม่มีกำลัง อันดับแรกที่ควรจะทำตามมาตราฐานของช่างเครื่อง คือ 1. ตรวจสอบกำลังอัดครับ เครื่อง1-3 ที่วางมาจากญี่ปุ่น ตอนนี้อายุเกิน 10ปี ทุกตัว เมื่อนำมาวางใหม่ ควรเปิดฝาสูบตรวจสอบสภาพของห้องเผาไหม้ครับ ปัจจุบันเท่าที่เปิดดู ผมมักจะเจอเครื่องญี่ปุ่นที่มีปัญหาเหล่านี้ หัวลูกสูบเริ่มกร่อน-ละลาย ฝาสูบกร่อน ร่องแหวนแตก ผนังเสื้อสูบเป็นรอย หรือปะเก็นฝาสูบหมดสภาพ เพราะปัจจุบันจะหาเครื่องสวยๆสดๆ สภาพดีจากญี่ปุ่น ผมบอกได้เลยว่าไม่มีแล้วครับ อาการพวกนี้ทำให้กำลังอัดต่ำ-หาย-รั่ว-เผาไหม้ไม่สมบูรณ์ เป็นสาเหตุของเครื่องไม่มีกำลังได้ทั้งหมด อาการจะออกมากน้อยตามสภาพการใช้งานมาจากญี่ปุ่นครับ อย่างเคสเบาๆก็กำลังอัดในแต่ละสูบไม่เท่ากัน และแตกต่างกันไม่มาก รถจึงมีปัญหาคล้ายลักษณะที่เป็นอยู่ครับ คือเหมือนจะดีแต่ไม่สมบูรณ์ วิธีการเบื้องต้น สามารถวัดแรงอัดอากาศจากเบ้าหัวเทียนได้(วิธีนี้ไม่ใช่วิธีการหากำลังอัดนะครับ แต่ใช้สังเกตุปัญหาได้ กำลังอัดเครื่องยนต์ C/R ต้องวัดอีกอย่างจากการหาปริมตรของห้องเผาไหม้ทั้งหมดแล้วนำมาคำนวณเท่านั้นครับ ) เราวัดแรงอัดอากาศจากเบ้าหัวเทียนไปทีละสูบ หากสูบใดต่ำกว่าสูบอื่นๆจนผิดปกติ เช่น สูบ1-3วัดได้ 97 แต่สูบ4 วัดได้แค่ 75 แสดงว่าสูบสี่มีปัญหาเรื่องกำลังอัด เมื่อถอดหัวเทียนมาดูจะเห้นสิ่งผิดปกติจากสูบอื่นๆ ลักษณะแบบนี้ควรเปิดฝาสูบเพื่อตรวจสอบปัญหา เท่านั้นครับ ย้ำว่าหากคิดว่าผิดปกติ ควรเปิดฝาสูบเพื่อตรวจสอบครับ เปิดแล้วไม่เจออะไรก็จะได้ตัดปัญหาทิ้งไปไล่อย่างอื่นได้ครับ อย่าเสียเวลาไปไล่เรื่องระบบไฟหาก Mechanical ยังไม่สมบูรณ์ เพราะอาจะเสียเครื่องทั้งตัวโดยไม่จำเป็น พื้นฐานจริงๆ เราต้องแก้ Mechanical ของเครื่องให้สมบูรณ์ก่อน แล้วจึงค่อยไปไล่ปัญหาเรื่องไฟ จึงจะเป็นการแก้ปัญหาที่ถูกต้องครับ สาเหตุที่เครื่องยนต์เย็นแล้ว ไม่มีกำลังเพราะ อาการเริ่มต้นของความเสียหายยังไม่มาก เมื่อเครื่องเย็นMechanicalในห้องเผาไหม้ ยังขยายตัวไม่เต็มที่ ทำให้กำลังอัดรั่วไหล เครื่องจึงไม่มีกำลัง เมื่อเครื่องร้อนการขยายตัวของชิ้นส่วนมีมากขึ้น ทำให้กำลังอัดที่เคยรั่ว อาจจะชดเชยกลับมาได้ระดับหนึ่ง จึงรู้สึกว่าเครื่องมีกำลังขึ้นเมื่อเครื่องร้อน 2. อุปกรณ์อิเล็คทรอนิกส์ ต่างๆ ที่ทำงานเมื่อเครื่องเย็น และ ร้อน แตกต่างกันตามแต่ละชนิดออกไป เช่น O2 Sensor ที่จะเริ่มทำงานมีค่าเป็นเคมีไฟฟ้า ระดับ mV. เมื่อตัวเซ็นเซอร์ร้อน ที่ราวๆ 45 องศา ขึ้นไป หากO2 Sensor เพี้ยน ก็อาจจะเกิดปัญหาเรื่องจุดในการวัดหรือการทำงานเพี้ยนได้ เช่นตอนเครื่องเย็นO2 ไม่อ่าน หรือ ร้อนมากกว่า45 องศา แล้วก็ยังไม่อ่าน ทำให้กล่อง ECU ประมวลผลไม่ถูกต้องได้ รถจึงมีอาการกินน้ำมันมาก เพราะกล่องเดิมๆ จะปรับน้ำมันตามO2 Sensor เมื่อO2 เพีย้น กล่องจะเพี้ยนและกินน้ำมันมาก เมื่อน้ำมันก็ย่อมเผาไหม้ไม่หมดและวิ่งไม่ออกครับ Water Temp ก็สามารถก่อปัญหาได้เช่นกัน เช่นเพี้ยน กล่องจะอ่านค่าอุฦณหภูมิเครื่องยนต์ผิดพลาด ทำให้ชดเชยน้ำมันมาหนา รถจึงวิ่งไม่ออก ISC โดยเฉพาะในวงจรของ Warm Coil และ Idle Position Sw. ก็สามารถเพี้ยน และสร้างปัญหาได้เช่นกัน Air Flow เพี้ยนก็เป็นไปได้ครับ อุปกรณ์พวกนี้หากเสีย เราสามารถใช้ MUT ต่อเพื่อดูการทำงานที่บกพร่องของอุปกรณ์นั้นๆ และ ระบุสาเหตุว่าเสียที่เซ็นเซอร์ตัวไหนได้เลยครับ แต่หากเพี้ยนบางครั้งอาจจะวัดไม่เจอ ต้องลองสลับหรือเปลี่ยนดู ผมไม่แนะนำให้รื้อพวกเซ็นเซอร์พวกนี้ออกซ่อมเอง เพราะหากเราไม่รู้รายละเอียด ที่เราเรียกว่า Technical Detail ของมันจริงๆ รื้อออกมาก็พังเท่านั้นครับ เราต้องมีความรู้เกี่ยวกับของพวกนี้จริงๆ จึงจะรื้อ-ซ่อม-Calibrateมันกลับมาใช้งานได้ครับ อย่าง O2 ที่ชอบรื้อกัน ผมถามว่ารู้หรือเปล่าว่ามันคือ เทอร์โมคลัปเบิ้ลชนิดไหน ค่าความต้านทานเท่าไร ตารางความร้อน และย่านใช้งานเป็นอย่างไร บางรุ่นมีHeaterมาด้วยก็ตรวจสอบกันไม่ถูกและไม่รู้ว่ามันคืออะไรด้วยซ้ำ ของพวกนี้ต้องมีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับมันก่อนที่จะรื้อครับ Air FLOW ก็เป็นอีกตัวที่ชอบรื้อกันครับ ถ้ารื้อมาทำความสะอาดควรใช้ความละเอียดกับมัน ค่อยทำไป ที่สำคัญอะไรที่แกะไม่ได้ อย่าแกะครับ เพราะญี่ปุ่นมัน Calibrate มาแล้ว แกะแล้วเพี๊ยนแน่นอนครับ ของพวกนี้ เท่าที่รื้อกันเองส่วนมากพังครับ ทั้งๆที่ก่อนรื้อมันไม่พัง ผมถึงแนะนำให้สลับแทน ถ้าสลับแล้วของเดิมไม่เสีย ก็ยังเก็บของเดิมไว้ใช้ต่อได้ วิธีนี้ดีกว่าครับ เห็นมั้ยครับว่าเบื้องต้นเรามี 2 ส่วนที่ต้องตรวจสอบ แต่ Mechanical เป้นอันดับแรกที่ต้องตรวจสอบครับ ส่วนวิธีการตรวจสอบและวิเคราะห์ปัญหา คุยกับช่างดีกว่าครับ เพราะของพวกนี้ถ้าไม่เห็นหน้างาน ผมบอกปัญหาไม่ได้เลยครับ ช่างที่เห็นหน้างานและตรวจสอบควรจะให้คำตอบได้ดีกว่าครับ[/QUOTE]
เข้าสู่ระบบด้วย Facebook
เข้าสู่ระบบด้วย Twitter
เข้าสู่ระบบด้วย Google
ชื่อผู้ใช้งานหรือที่อยู่อีเมล์ของคุณ:
คุณมีบัญชีผู้ใช้หรือไม่?
ไม่มี, สร้างบัญชีผู้ใช้ตอนนี้
มี, รหัสผ่านของฉันคือ:
ลืมรหัสผ่านของคุณ?
อยู่ในระบบตลอดเวลา
RacingWeb.NET | The Racing Cars Community on Web.
ฟอรั่ม
>
Community Car Clubs
>
Mitsubishi Car Clubs
>
Evolution Thailand
>
แน่ะนำทีคับใช้ เครื่องโว3 เกียร์โว1 กล่องโว1 รถกินน้ำมัน+เร่งเครื่องตอนเครื่องเย็นแบบกดคันเร่งทันทีๆ
>
X
หน้าแรก
หน้าแรก
Quick Links
โพสต์ล่าสุด
กิจกรรมล่าสุด
ผู้เขียน
ฟอรั่ม
ฟอรั่ม
Quick Links
ค้นหาฟอรั่ม
โพสต์ล่าสุด
ประกาศซื้อขาย
ประกาศซื้อขาย
Quick Links
ค้นหาประกาศซื้อขาย
กิจกรรมล่าสุด
ผู้ค้าขายคะแนนสูงสุด
สื่อ/วิดีโอ
สื่อ/วิดีโอ
Quick Links
Search Media
New Media
สมาชิก
สมาชิก
Quick Links
สมาชิกที่โดดเด่น
สมาชิกที่ลงทะเบียน
ผู้ใช้งานในขณะนี้
กิจกรรมล่าสุด
โพสต์ข้อมูลส่วนตัวใหม่
เมนู
ค้นหาเฉพาะชื่อ
โพสต์โดยสมาชิก:
แยกชื่อด้วยเครื่องหมายจุลภาค
ใหม่กว่า:
ค้นหาเฉพาะหัวข้อนี้
ค้นหาเฉพาะฟอรั่มนี้
แสดงผลเป็นหัวข้อ
การค้นหาที่มีประโยชน์
โพสต์ล่าสุด
เพิ่มเติม...