เข้าสู่ระบบหรือลงทะเบียน
ติดต่อลงโฆษณา
[email protected]
หรือโทร. 081-811-1138 หรืออ่านรายละเอียดเพิ่มเติม คลิกที่นี่
RacingWeb.NET | The Racing Cars Community on Web.
ฟอรั่ม
>
RacingWeb Community
>
Motorsport Forum
>
เริ่มต้นโมดิฟลายเบรกให้อยู่ขึ้น และวิธีต่างๆที่นิยมกัน
>
ตอบกลับหัวข้อ
ชื่อ:
การตรวจสอบ:
กรุณาเปิดใช้งานจาวาสคริปต์เพื่อดำเนินการต่อ
กำลังโหลด...
ข้อความ:
<p>[QUOTE="TUMKUNG_naraka, post: 270738, member: 31393"]<p style="text-align: center"><font face="Tahoma"><font size="3"><span style="color: yellow"><b>ปูพื้นฐานกับ ส่วนประกอบของระบบเบรก ก่อนเริ่มต้นโมดิฟลาย</b></span></font></font></p><p><br /></p><p style="text-align: center"><font face="MS Sans Serif">[SIZE=-1]คิดจะแต่งรถทั้งที ไม่ใช่แต่งแต่ให้แรงๆ และ เร็วๆ เพียงอย่างเดียวนะครับ แต่ที่ต้องคำนึงอีกสิ่งก็คือ หยุดๆ และให้อยู่ๆ ด้วย บางคนคิดว่า เอาเครื่องให้แรงๆไว้ก่อน เบรกเดียวค่อยเก็บเงินทำทีหลัง ผลแรงจริงๆ แต่มิดไปแล้วครับพี่ จะทำเบรกสักหน่อย แต่กลับต้องเปลี่ยนเป็นทำสีทั้งคัน บางคนบอกเบรกอยู่ดีแล้ว ไม่เคยมีปัญหา แต่พอซัดๆ เบรกๆ บ่อยๆ เข้าเหยียบเบรกอีกที อุ๊ยต๊ายตาย เบรกหายไปซะยังนั้นก็มี นั่นไงล่ะ เจออาการเบรกเฟดเข้าให้แล้ว สำหรับรถแรงๆ บางครั้งขับไล่เกียรหนึ่งมาเต็ม พอสับเข้าเกียรสอง แต่มีเหตุให้เหยียบต้องเบรกซะอย่างนั้น อ้าวเบรกข้าหายไปไหน ต้องแก้เอาชีวิตรอดกันพัลวัน ทุกอย่างย่อมเกิดขึ้นได้ อนิจจา คราวนี้เรามาทำความเข้าใจเรื่องระบบเบรกกันก่อนดีกว่า แล้วต่อด้วยปัญหาต่างๆ และการดูแลรักษาระบบเบรก ให้เข้าใจกันก่อน แล้วจึงค่อยมาดูกันว่า การจะโมดิฟลายระบบเบรกให้ดีขึ้น ควรจะเริ่มต้นที่จุดใด และเขามีวิธีการโมดิฟลายอย่างไรกันบ้าง สนใจส่วนใดเลือกอ่านดูละกัน[/SIZE]</font></p> <p style="text-align: center"><br /></p> <p style="text-align: center"><img src="http://www.thaispeedcar.com/Image/Tip/tm-13-brake1/tip14brake1.jpg" class="bbCodeImage wysiwygImage" alt="" unselectable="on" /><img src="http://www.thaispeedcar.com/Image/Tip/tm-13-brake1/tip14brake2.gif" class="bbCodeImage wysiwygImage" alt="" unselectable="on" /><font face="Tahoma">[SIZE=-1][/SIZE]</font> </p> <p style="text-align: center"><font face="Tahoma">[SIZE=-1]<span style="color: #ff0000"><b>ส่วนประกอบของระบบเบรก </b></span>[/SIZE]</font><font face="MS Sans Serif"></font></p> <p style="text-align: center"><font face="MS Sans Serif"><font face="Tahoma">[SIZE=-1]<b><span style="color: #0000ff">1. แป้นเบรก (Brake Pedal) </span></b>[/SIZE]</font>[SIZE=-1][/SIZE][SIZE=-1]หรือขาเบรก เป็นอุปกรณ์ที่ติดอยู่ในรถ ทำหน้าที่คล้ายคานกด รับแรงกดมาจากขา (เท้า) ของผู้ขับขี่ เมื่อเหยียบเบรก ขาเบรกก็จะไปกดสากเบรก ที่สามารถปรับตั้งให้เบรกสูง หรือต่ำได้ ให้เข้าไปกดชุดดันในหม้อลมเบรก[/SIZE]</font></p> <p style="text-align: center"><font face="MS Sans Serif"><font face="Tahoma">[SIZE=-1]<b><span style="color: #0000ff">2. หม้อลมเบรก ( Booster)</span></b>[/SIZE]</font>[SIZE=-1][/SIZE][SIZE=-1] เป็นอุปกรณ์ช่วยเพิ่มแรงกด ให้กับขาของเราให้มีแรงกดมากขึ้น ออกแรงเหยียบน้อยลง โดยภายในจะเป็นชุดสุญญากาศ ต่อแรงลมดูดมาจาก เช่นในรถเครื่องยนต์เบนซิล จะต่อมาจากท่อร่วมไอดี หลังลิ้นปีผีเสื้อในบริเวณนี้ในรอบต่ำ ที่ลิ้นปีผีเสื้อยังเปิดไม่สุด แรงดูดของลูกสูบจะทำให้เกิดแรงดูดสุญญากาศสูงมาก แต่ในรอบเครื่องสูงๆแรงดูดจะน้อยลง หม้อลมนั้นจึงจำเป็นต้องมีขนาดใหญ่ เพื่อเก็บสะสมแรงดูดสุญญากาศไว้ให้มากๆ เพื่อไว้ใช้ในตอนเบรกที่รอบสูงๆ และการเบรกติดต่อกันหลายๆครั้ง ส่วนในเครื่องยนต์ดีเซลมักจะต่อมาจาก ปั้มสุญญากาศแบบอิสระ หรือต่อพ่วงจากปั้มลมหลังตูดไดชาร์จอีกที[/SIZE]</font></p> <p style="text-align: center"><font face="MS Sans Serif"><font face="Tahoma">[SIZE=-1]<b><span style="color: #0000ff">3. วาล์วสุญญากาศ (Combo Vale)</span></b>[/SIZE]</font>[SIZE=-1][/SIZE][SIZE=-1] เป็นลักษณะ One Way Vale ทำหน้าที่ให้ระบบสุญญากาศ เป็นไปในทิศทางเดียว คือให้มีแรงดูดจากหม้อลมเบรกไปยังเครื่อง หรือปั้มลม ป้องกันแรงดันสุญญากาศย้อนกลับ หรือรั่วไหลออกจากหม้อลม[/SIZE]</font></p> <p style="text-align: center"><font face="MS Sans Serif"><br /></font></p> <p style="text-align: center"><font face="MS Sans Serif"></font><img src="http://www.thaispeedcar.com/Image/Tip/tm-13-brake1/tip14brake7.gif" class="bbCodeImage wysiwygImage" alt="" unselectable="on" /><img src="http://www.thaispeedcar.com/Image/Tip/tm-13-brake1/tip14brake5.jpg" class="bbCodeImage wysiwygImage" alt="" unselectable="on" /><font face="Tahoma">[SIZE=-1][/SIZE]</font> </p> <p style="text-align: center"><font face="Tahoma">[SIZE=-1]<b><span style="color: #0000ff">4. แม่ปั้มเบรก (Master Cylinder)</span></b>[/SIZE]</font><font face="MS Sans Serif">[SIZE=-1] [/SIZE]</font><font face="MS Sans Serif">[SIZE=-1] เป็นชุดสร้างแรงดันไฮโดริคให้กับน้ำมันเบรก ให้เกิดแรงดันสูง ภายในประกอบด้วยชุดลูกยางเบรกหลายตัว แต่ละตัวมีหน้าที่ส่งแรงดันของน้ำมันเบรก ไปในสาย หรือท่อน้ำมันเบรก แรงดันขึ้นอยู่กับขนาดของแม่ปั้ม ลูกสูบเบรก ขนาดของลูกยางเบรก และระยะของสากเบรกที่ติดกับแป้นเบรกว่ามีอัตตราทดเท่าไร [/SIZE]</font><font face="MS Sans Serif"></font></p> <p style="text-align: center"><font face="MS Sans Serif">[SIZE=-1]<span style="color: #0000ff"><b><font face="Tahoma">5 น้ำมันเบรก (Brake Fluid)</font></b></span>[/SIZE]<font face="Tahoma">[SIZE=-1][/SIZE]</font>[SIZE=-1] เป็นสารเหลวที่ใช้เป็นตัวกลางในการถ่ายทอดกำลัง แบบไฮโดรลิคไปสู่ปั้มเบรค หรือคาริบเปอร์เบรก อีกทั้งยังเป็นสารหล่อลื่นให้กับลูกยางเบรก ลูกสูบเบรก คุณสมบัติของน้ำมันเบรกแบ่งตามคุณสมบัติการทนความร้อน หรือที่เรียกกันว่า DOT (Department of Transportation) โดย DOT3 จะทนความร้อนได้ไม่ต่ำกว่า 205 องศา DOT4 ทนความร้อนได้ไม่ต่ำกว่า 230 องศา และDOT5 สามารถทนความร้อนได้ไม่ต่ำกว่า 260 องศาเซลเซียส[/SIZE]</font></p> <p style="text-align: center"><font face="MS Sans Serif"><font face="Tahoma">[SIZE=-1]<span style="color: #0000ff"><b>6. ท่อน้ำมันเบรค และสายอ่อนเบรก (Brake Lines)</b></span>[/SIZE]</font>[SIZE=-1] อยู่ในระบบส่งแรงดัน ท่อน้ำมันหรือที่เรียกกันว่า แป๊ปเบรก เป็นท่อเหล็ก หรือทองแดงภายในกลวง เพื่อให้น้ำมันเบรกไหลผ่านด้วยแรงดันสูง [/SIZE]</font></p> <p style="text-align: center"><font face="MS Sans Serif"><br /></font></p> <p style="text-align: center"><font face="MS Sans Serif"></font><img src="http://www.thaispeedcar.com/Image/Tip/tm-13-brake1/tip14brake3.jpg" class="bbCodeImage wysiwygImage" alt="" unselectable="on" /><img src="http://www.thaispeedcar.com/Image/Tip/tm-13-brake1/tip14brake4.jpg" class="bbCodeImage wysiwygImage" alt="" unselectable="on" /><font face="Tahoma">[SIZE=-1][/SIZE]</font> </p> <p style="text-align: center"><font face="Tahoma">[SIZE=-1]<span style="color: #0000ff"><b>7. สายอ่อนเบรก (Brake Host) </b></span>[/SIZE]</font><span style="color: #0000ff"><b><font face="MS Sans Serif">[SIZE=-1][/SIZE]</font></b></span><font face="MS Sans Serif">[SIZE=-1]สายอ่อนเบรกทำมาจากท่อยางไฮโดรลิค หลายชั้นหุ้มด้วยยางกันการเสียดสี และกันความร้อน สามารถอ่อนตัวไปตามการหมุนของล้อ และการขยับของช่วงล่างได้อย่างคล่องตัว [/SIZE]</font><font face="MS Sans Serif"></font></p> <p style="text-align: center"><font face="MS Sans Serif">[SIZE=-1]<b><font face="Tahoma"><span style="color: #0000ff">8. ปั้มเบรก หรือคาริเปอร์เบรก (Caliper Brakes)</span></font></b></font></p> <p style="text-align: center"><font face="MS Sans Serif">ถ้าเป็นระบบดิสเบรก จะเป็นลักษณะเหมือนปากคีบ หรือเรียกกันว่าก้ามปู ภายในบรรจุลูกสูบเบรก แบ่งตามจำนวนลูกสูบ เรียกว่า พอร์ท เช่น 1 พอร์ท หรือ 4 พอร์ท เพื่อป้องกันการรั่วไหลของน้ำมันเบรกด้วยลูกยางเบรก เป็นชีลกลมๆรอบๆลูกสูปเบรก ป้องกันฝุ่นและน้ำเข้าด้วยลูกยางกันฝุ่นอีกครั้ง</font></p> <p style="text-align: center"><font face="MS Sans Serif">ในระบบดรั้มเบรก ปั้มเบรก จะเรียกกันว่ากระบอกเบรก เป็นลักษณะเป็นแท่งกลวงยาว ภายในบรรจุลูกสูบเบรก เป็นแท่งกลมประกอบติดกับลูกยางเบรกทั้ง 2 ด้านต่อมาดันผ้าดรัมเบรกให้ขยับเข้าออกได้[/SIZE]</font></p> <p style="text-align: center"><font face="MS Sans Serif">[SIZE=-1]<span style="color: #0000ff"><b><font face="Tahoma">9. จานเบรค แบ่งได้เป็น 2 ระบบคือ</font></b></span>[/SIZE]<font face="Tahoma">[SIZE=-1][/SIZE]</font>[SIZE=-1]</font></p> <p style="text-align: center"><font face="MS Sans Serif">[SIZE=-2]<span style="color: #ff3300"><b>ระบบ ดรั้มเบรก (Drum Brakes)</b></span>[/SIZE] จานเบรกจะเป็นรูปถ้วย มีชุดแม่ปั้มเบรก และผ้าเบรกประกอบอยู่ภายใน ผ้าดรัมเบรกจะเป็นลักษณะรูปเสี้ยวครึ่งวงกลม 2 ชิ้น ประกอบกับชุดสปริงดึงกลับ ชุดสายเบรคมือ และชุดตั้งระยะห่างของผ้าเบรก</font></p> <p style="text-align: center"><font face="MS Sans Serif">[SIZE=-2]<span style="color: #006600"><b>ข้อดี</b></span>[/SIZE] ผ้าเบรก และจานเบรก มีเนื้อที่สัมผัสกันมาก การเบรกจึงมีประสิทธิภาพสูง สิ้นเปลืองวัสดุน้อย ผ้าเบรกสึกช้ากว่าอายุการใช้งานยาวนาน หมดปัญหาเรื่องจานเบรกคด </font></p> <p style="text-align: center"><font face="MS Sans Serif">[SIZE=-2]<span style="color: #006600"><b>ข้อเสีย</b></span>[/SIZE]ระบายความร้อนได้ช้า ในการใช้งานเบรกหนักจะเกิดอาการเบรกเฟด (เบรกลื่นในขณะความร้อนสูง) ต้องคอยตั้งระยะผ้าเบรกอย่างสม่ำเสมอ ระยะผ้าเบรกในแต่ละล้อที่ไม่เท่ากัน ส่งผลให้ประสิทธิภาพในการเบรกไม่เท่ากันไปด้วย รถอาจเสียการทรงตัวเวลาเบรกได้ ถ้ามีการเปียกน้ำต้องใช้เวลาในการสลัดน้ำทิ้งนาน หรือรอเกิดความร้อนจนน้ำแห้ง และจะเกิดอาการลื่น เกิดการสะสมตัวของฝุ่นเบรก ทำให้ประสิทธิภาพต่ำลง</font></p> <p style="text-align: center"><font face="MS Sans Serif">[/SIZE][SIZE=-2]<b><span style="color: #ff3300">ระบบ ดิสเบรก (Disk Brakes) </span></b>[/SIZE][SIZE=-1]จานเบรกเป็นลักษณะกลมแบน คล้ายจานดิส มีทั้งแบบมีร่องระบายความร้อน และไม่มีร่องระบายความร้อน จานเบรกทำมาจากวัสดุหลายชนิด เช่นเหล็กหล่อ และวัสดุผสม ผ้าเบรกแบ่งเป็น 2 ชิ้นประกบกับจานเบรก โดยมีแม่ปั้มเบรก หรือก้ามปูหนีบไว้อีกที </font></p> <p style="text-align: center"><font face="MS Sans Serif"><b>[SIZE=-2]<span style="color: #006600">ข้อด</span>[/SIZE]</b>ี มีการระบายความร้อนที่ดี ลดอาการเบรกเฟดในการใช้งานเบรกติดต่อกัน และรุนแรง ระยะห่างผ้าเบรกมีการปรับตั้งได้เอง ตามความหนาของผ้า ทำให้ประสิทธิภาพดีเท่ากันในทุกล้อ ลดการสะสมตัวของฝุ่นเบรก </font></p> <p style="text-align: center"><font face="MS Sans Serif"><b>[SIZE=-2]<span style="color: #006600">ข้อเสีย</span>[/SIZE]</b> จานเบรกติดตั้งภายนอกสัมผัสกับความชื้น น้ำ และฝุ่นผง ทำให้มีการสึกหรออย่างรวดเร็ว เกิดอาการบิดตัวได้ง่าย เมื่อต้องเจอกับน้ำในขณะมีความร้อน ใช้ต้นการผลิตทุนสูง[/SIZE]</font></p> <p style="text-align: center"><font face="MS Sans Serif"><br /></font></p> <p style="text-align: center"><font face="MS Sans Serif"></font><img src="http://www.thaispeedcar.com/Image/Tip/tm-13-brake1/tip14brake8.jpg" class="bbCodeImage wysiwygImage" alt="" unselectable="on" /><img src="http://www.thaispeedcar.com/Image/Tip/tm-13-brake1/tip14brake9.jpg" class="bbCodeImage wysiwygImage" alt="" unselectable="on" /><font face="Tahoma">[SIZE=-1][/SIZE]</font> </p> <p style="text-align: center"><font face="Tahoma">[SIZE=-1]<b><span style="color: #0000ff">10. ผ้าเบรก (Brake Pad)</span></b>[/SIZE]</font><font face="MS Sans Serif">[SIZE=-1] [/SIZE]</font><font face="MS Sans Serif">[SIZE=-1] เป็นตัวที่ทำให้เกิดความฝืดระหว่าง ผ้าเบรก และจานเบรก ความฝืดมากมีผลทำให้รถยนต์ ลดความเร็วได้ระยะทางที่สั้นลง ผ้าเบรกแบ่งเกรดตามวัสดุที่ใช้ผสมในเนื้อผ้าเบรก และค่าความฝืดหรือค่า มิว Coefficient of Friction ได้ 3 แบบคือ</font></p> <p style="text-align: center"><font face="MS Sans Serif">[SIZE=-2]<b><span style="color: #ff3300">1. NAO (Non Asbestos Organic)</span></b>[/SIZE]ใช้วัสดุที่มีความอ่อน จำพวก เคฟล่า ส่วนผสม ของยางไม้ ไฟเบอร์ จากเดิมที่เคยใช้พวกแร่ใยหิน Asbestos ที่ถูกยกเลิกไปแล้ว เนื่องจากความไม่ปรอดภัยต่อระบบหายใจ พวกนี้จะมีความฝืดที่ดีในอุณหภูมิต่ำ แต่ที่ความร้อนสูงจะจับตัวได้ไม่ดี มีเสียงรบกวนน้อย ส่วนมากใช้กับรถ OEM จากโรงงาน ระดับความฝืดอยู่ที่ 0.30 - 0.45 </font></p> <p style="text-align: center"><font face="MS Sans Serif"><b>[SIZE=-2]<span style="color: #ff3300">2. Semi-Metallic</span>[/SIZE]</b> ใช้วัสดุจำพวกใยโลหะที่มีความอ่อน มีส่วนประกอบเช่น เนื้อไฟเบอร์ประมาณ 50% เป็นตัวช่วยให้เกิดความฝืด และทนความร้อน ใช้เรซิ่นประมาณ 15% ช่วยในการประสานตัว และสาร Abrasive 10% และพวก Metal Power อีก 10 % พวกนี้จะมีความฝืดดีที่อุณหภูมิสูง ใช้กับรถบรรทุกหนัก และรถที่ใช้งานเบรกหนักอย่างต่อเนื่อง เช่นรถที่ชอบขับที่ความเร็วสูงเบรกบ่อยๆ ระดับความฝืดจะอยู่ที่ 0.40-0.55</font></p> <p style="text-align: center"><font face="MS Sans Serif">[SIZE=-2]<span style="color: #ff3300"><b>3. Fully Metallic</b></span>[/SIZE]ใช้วัสดุพวกผงเหล็กที่มีความละเอียด เช่นผงทองแดง ไททาเนียม เซรามิค คาร์บอน มาขึ้นรูป ผ้าเบรกพวกนี้จะมีประสิทธิภาพมากที่ความร้อนสูง มีความฝืดคงที่ แต่จะมีเสียงดัง มีการสึกหรอสูงทั้งผ้าเบรก และจานเบรก เหมาะสำหรับรถแข่งในสนามแข่งขันที่จานเบรกร้อนตลอดเวลา ระดับความฝืดอยู่ที่ 06.0 ขึ้นไป[/SIZE]</font></p> <p style="text-align: center"> </p> <p style="text-align: center"><img src="http://www.thaispeedcar.com/Image/Tip/tm-13-brake1/tip14brakefront.jpg" class="bbCodeImage wysiwygImage" alt="" unselectable="on" /><img src="http://www.thaispeedcar.com/Image/Tip/tm-13-brake1/tip14brake10.gif" class="bbCodeImage wysiwygImage" alt="" unselectable="on" /></p><p>[/QUOTE]</p><p><br /></p>
[QUOTE="TUMKUNG_naraka, post: 270738, member: 31393"][CENTER][FONT=Tahoma][SIZE=3][COLOR=yellow][B]ปูพื้นฐานกับ ส่วนประกอบของระบบเบรก ก่อนเริ่มต้นโมดิฟลาย[/B][/COLOR][/SIZE][/FONT][/CENTER] [CENTER][FONT=MS Sans Serif][SIZE=-1]คิดจะแต่งรถทั้งที ไม่ใช่แต่งแต่ให้แรงๆ และ เร็วๆ เพียงอย่างเดียวนะครับ แต่ที่ต้องคำนึงอีกสิ่งก็คือ หยุดๆ และให้อยู่ๆ ด้วย บางคนคิดว่า เอาเครื่องให้แรงๆไว้ก่อน เบรกเดียวค่อยเก็บเงินทำทีหลัง ผลแรงจริงๆ แต่มิดไปแล้วครับพี่ จะทำเบรกสักหน่อย แต่กลับต้องเปลี่ยนเป็นทำสีทั้งคัน บางคนบอกเบรกอยู่ดีแล้ว ไม่เคยมีปัญหา แต่พอซัดๆ เบรกๆ บ่อยๆ เข้าเหยียบเบรกอีกที อุ๊ยต๊ายตาย เบรกหายไปซะยังนั้นก็มี นั่นไงล่ะ เจออาการเบรกเฟดเข้าให้แล้ว สำหรับรถแรงๆ บางครั้งขับไล่เกียรหนึ่งมาเต็ม พอสับเข้าเกียรสอง แต่มีเหตุให้เหยียบต้องเบรกซะอย่างนั้น อ้าวเบรกข้าหายไปไหน ต้องแก้เอาชีวิตรอดกันพัลวัน ทุกอย่างย่อมเกิดขึ้นได้ อนิจจา คราวนี้เรามาทำความเข้าใจเรื่องระบบเบรกกันก่อนดีกว่า แล้วต่อด้วยปัญหาต่างๆ และการดูแลรักษาระบบเบรก ให้เข้าใจกันก่อน แล้วจึงค่อยมาดูกันว่า การจะโมดิฟลายระบบเบรกให้ดีขึ้น ควรจะเริ่มต้นที่จุดใด และเขามีวิธีการโมดิฟลายอย่างไรกันบ้าง สนใจส่วนใดเลือกอ่านดูละกัน[/SIZE][/FONT] [SIZE=2][/SIZE] [IMG]http://www.thaispeedcar.com/Image/Tip/tm-13-brake1/tip14brake1.jpg[/IMG][IMG]http://www.thaispeedcar.com/Image/Tip/tm-13-brake1/tip14brake2.gif[/IMG][FONT=Tahoma][SIZE=-1][COLOR=#ff0000][/COLOR][/SIZE][/FONT] [FONT=Tahoma][SIZE=-1][COLOR=#ff0000][B]ส่วนประกอบของระบบเบรก [/B][/COLOR][/SIZE][/FONT][FONT=MS Sans Serif] [FONT=Tahoma][SIZE=-1][B][COLOR=#0000ff]1. แป้นเบรก (Brake Pedal) [/COLOR][/B][/SIZE][/FONT][SIZE=-1][COLOR=#0000ff][/COLOR][/SIZE][SIZE=-1]หรือขาเบรก เป็นอุปกรณ์ที่ติดอยู่ในรถ ทำหน้าที่คล้ายคานกด รับแรงกดมาจากขา (เท้า) ของผู้ขับขี่ เมื่อเหยียบเบรก ขาเบรกก็จะไปกดสากเบรก ที่สามารถปรับตั้งให้เบรกสูง หรือต่ำได้ ให้เข้าไปกดชุดดันในหม้อลมเบรก[/SIZE] [FONT=Tahoma][SIZE=-1][B][COLOR=#0000ff]2. หม้อลมเบรก ( Booster)[/COLOR][/B][/SIZE][/FONT][SIZE=-1][COLOR=#0000ff][/COLOR][/SIZE][SIZE=-1] เป็นอุปกรณ์ช่วยเพิ่มแรงกด ให้กับขาของเราให้มีแรงกดมากขึ้น ออกแรงเหยียบน้อยลง โดยภายในจะเป็นชุดสุญญากาศ ต่อแรงลมดูดมาจาก เช่นในรถเครื่องยนต์เบนซิล จะต่อมาจากท่อร่วมไอดี หลังลิ้นปีผีเสื้อในบริเวณนี้ในรอบต่ำ ที่ลิ้นปีผีเสื้อยังเปิดไม่สุด แรงดูดของลูกสูบจะทำให้เกิดแรงดูดสุญญากาศสูงมาก แต่ในรอบเครื่องสูงๆแรงดูดจะน้อยลง หม้อลมนั้นจึงจำเป็นต้องมีขนาดใหญ่ เพื่อเก็บสะสมแรงดูดสุญญากาศไว้ให้มากๆ เพื่อไว้ใช้ในตอนเบรกที่รอบสูงๆ และการเบรกติดต่อกันหลายๆครั้ง ส่วนในเครื่องยนต์ดีเซลมักจะต่อมาจาก ปั้มสุญญากาศแบบอิสระ หรือต่อพ่วงจากปั้มลมหลังตูดไดชาร์จอีกที[/SIZE] [FONT=Tahoma][SIZE=-1][B][COLOR=#0000ff]3. วาล์วสุญญากาศ (Combo Vale)[/COLOR][/B][/SIZE][/FONT][SIZE=-1][COLOR=#0000ff][/COLOR][/SIZE][SIZE=-1] เป็นลักษณะ One Way Vale ทำหน้าที่ให้ระบบสุญญากาศ เป็นไปในทิศทางเดียว คือให้มีแรงดูดจากหม้อลมเบรกไปยังเครื่อง หรือปั้มลม ป้องกันแรงดันสุญญากาศย้อนกลับ หรือรั่วไหลออกจากหม้อลม[/SIZE] [SIZE=2][/SIZE] [/FONT][IMG]http://www.thaispeedcar.com/Image/Tip/tm-13-brake1/tip14brake7.gif[/IMG][IMG]http://www.thaispeedcar.com/Image/Tip/tm-13-brake1/tip14brake5.jpg[/IMG][FONT=Tahoma][SIZE=-1][B][COLOR=#0000ff][/COLOR][/B][/SIZE][/FONT] [FONT=Tahoma][SIZE=-1][B][COLOR=#0000ff]4. แม่ปั้มเบรก (Master Cylinder)[/COLOR][/B][/SIZE][/FONT][FONT=MS Sans Serif][SIZE=-1][COLOR=#0000ff] [/COLOR][/SIZE][/FONT][FONT=MS Sans Serif][SIZE=-1] เป็นชุดสร้างแรงดันไฮโดริคให้กับน้ำมันเบรก ให้เกิดแรงดันสูง ภายในประกอบด้วยชุดลูกยางเบรกหลายตัว แต่ละตัวมีหน้าที่ส่งแรงดันของน้ำมันเบรก ไปในสาย หรือท่อน้ำมันเบรก แรงดันขึ้นอยู่กับขนาดของแม่ปั้ม ลูกสูบเบรก ขนาดของลูกยางเบรก และระยะของสากเบรกที่ติดกับแป้นเบรกว่ามีอัตตราทดเท่าไร [/SIZE][/FONT][FONT=MS Sans Serif] [SIZE=-1][COLOR=#0000ff][B][FONT=Tahoma]5 น้ำมันเบรก (Brake Fluid)[/FONT][/B][/COLOR][/SIZE][FONT=Tahoma][SIZE=-1][/SIZE][/FONT][SIZE=-1] เป็นสารเหลวที่ใช้เป็นตัวกลางในการถ่ายทอดกำลัง แบบไฮโดรลิคไปสู่ปั้มเบรค หรือคาริบเปอร์เบรก อีกทั้งยังเป็นสารหล่อลื่นให้กับลูกยางเบรก ลูกสูบเบรก คุณสมบัติของน้ำมันเบรกแบ่งตามคุณสมบัติการทนความร้อน หรือที่เรียกกันว่า DOT (Department of Transportation) โดย DOT3 จะทนความร้อนได้ไม่ต่ำกว่า 205 องศา DOT4 ทนความร้อนได้ไม่ต่ำกว่า 230 องศา และDOT5 สามารถทนความร้อนได้ไม่ต่ำกว่า 260 องศาเซลเซียส[/SIZE] [FONT=Tahoma][SIZE=-1][COLOR=#0000ff][B]6. ท่อน้ำมันเบรค และสายอ่อนเบรก (Brake Lines)[/B][/COLOR][/SIZE][/FONT][SIZE=-1] อยู่ในระบบส่งแรงดัน ท่อน้ำมันหรือที่เรียกกันว่า แป๊ปเบรก เป็นท่อเหล็ก หรือทองแดงภายในกลวง เพื่อให้น้ำมันเบรกไหลผ่านด้วยแรงดันสูง [/SIZE] [SIZE=2][/SIZE] [/FONT][IMG]http://www.thaispeedcar.com/Image/Tip/tm-13-brake1/tip14brake3.jpg[/IMG][IMG]http://www.thaispeedcar.com/Image/Tip/tm-13-brake1/tip14brake4.jpg[/IMG][FONT=Tahoma][SIZE=-1][COLOR=#0000ff][/COLOR][/SIZE][/FONT] [FONT=Tahoma][SIZE=-1][COLOR=#0000ff][B]7. สายอ่อนเบรก (Brake Host) [/B][/COLOR][/SIZE][/FONT][COLOR=#0000ff][B][FONT=MS Sans Serif][SIZE=-1][/SIZE][/FONT][/B][/COLOR][FONT=MS Sans Serif][SIZE=-1]สายอ่อนเบรกทำมาจากท่อยางไฮโดรลิค หลายชั้นหุ้มด้วยยางกันการเสียดสี และกันความร้อน สามารถอ่อนตัวไปตามการหมุนของล้อ และการขยับของช่วงล่างได้อย่างคล่องตัว [/SIZE][/FONT][FONT=MS Sans Serif] [SIZE=-1][B][FONT=Tahoma][COLOR=#0000ff]8. ปั้มเบรก หรือคาริเปอร์เบรก (Caliper Brakes)[/COLOR][/FONT][/B] ถ้าเป็นระบบดิสเบรก จะเป็นลักษณะเหมือนปากคีบ หรือเรียกกันว่าก้ามปู ภายในบรรจุลูกสูบเบรก แบ่งตามจำนวนลูกสูบ เรียกว่า พอร์ท เช่น 1 พอร์ท หรือ 4 พอร์ท เพื่อป้องกันการรั่วไหลของน้ำมันเบรกด้วยลูกยางเบรก เป็นชีลกลมๆรอบๆลูกสูปเบรก ป้องกันฝุ่นและน้ำเข้าด้วยลูกยางกันฝุ่นอีกครั้ง ในระบบดรั้มเบรก ปั้มเบรก จะเรียกกันว่ากระบอกเบรก เป็นลักษณะเป็นแท่งกลวงยาว ภายในบรรจุลูกสูบเบรก เป็นแท่งกลมประกอบติดกับลูกยางเบรกทั้ง 2 ด้านต่อมาดันผ้าดรัมเบรกให้ขยับเข้าออกได้[/SIZE] [SIZE=-1][COLOR=#0000ff][B][FONT=Tahoma]9. จานเบรค แบ่งได้เป็น 2 ระบบคือ[/FONT][/B][/COLOR][/SIZE][FONT=Tahoma][SIZE=-1][/SIZE][/FONT][SIZE=-1] [SIZE=-2][COLOR=#ff3300][B]ระบบ ดรั้มเบรก (Drum Brakes)[/B][/COLOR][/SIZE] จานเบรกจะเป็นรูปถ้วย มีชุดแม่ปั้มเบรก และผ้าเบรกประกอบอยู่ภายใน ผ้าดรัมเบรกจะเป็นลักษณะรูปเสี้ยวครึ่งวงกลม 2 ชิ้น ประกอบกับชุดสปริงดึงกลับ ชุดสายเบรคมือ และชุดตั้งระยะห่างของผ้าเบรก [SIZE=-2][COLOR=#006600][B]ข้อดี[/B][/COLOR][/SIZE] ผ้าเบรก และจานเบรก มีเนื้อที่สัมผัสกันมาก การเบรกจึงมีประสิทธิภาพสูง สิ้นเปลืองวัสดุน้อย ผ้าเบรกสึกช้ากว่าอายุการใช้งานยาวนาน หมดปัญหาเรื่องจานเบรกคด [SIZE=-2][COLOR=#006600][B]ข้อเสีย[/B][/COLOR][/SIZE]ระบายความร้อนได้ช้า ในการใช้งานเบรกหนักจะเกิดอาการเบรกเฟด (เบรกลื่นในขณะความร้อนสูง) ต้องคอยตั้งระยะผ้าเบรกอย่างสม่ำเสมอ ระยะผ้าเบรกในแต่ละล้อที่ไม่เท่ากัน ส่งผลให้ประสิทธิภาพในการเบรกไม่เท่ากันไปด้วย รถอาจเสียการทรงตัวเวลาเบรกได้ ถ้ามีการเปียกน้ำต้องใช้เวลาในการสลัดน้ำทิ้งนาน หรือรอเกิดความร้อนจนน้ำแห้ง และจะเกิดอาการลื่น เกิดการสะสมตัวของฝุ่นเบรก ทำให้ประสิทธิภาพต่ำลง [/SIZE][SIZE=-2][B][COLOR=#ff3300]ระบบ ดิสเบรก (Disk Brakes) [/COLOR][/B][/SIZE][SIZE=-1]จานเบรกเป็นลักษณะกลมแบน คล้ายจานดิส มีทั้งแบบมีร่องระบายความร้อน และไม่มีร่องระบายความร้อน จานเบรกทำมาจากวัสดุหลายชนิด เช่นเหล็กหล่อ และวัสดุผสม ผ้าเบรกแบ่งเป็น 2 ชิ้นประกบกับจานเบรก โดยมีแม่ปั้มเบรก หรือก้ามปูหนีบไว้อีกที [B][SIZE=-2][COLOR=#006600]ข้อด[/COLOR][/SIZE][/B]ี มีการระบายความร้อนที่ดี ลดอาการเบรกเฟดในการใช้งานเบรกติดต่อกัน และรุนแรง ระยะห่างผ้าเบรกมีการปรับตั้งได้เอง ตามความหนาของผ้า ทำให้ประสิทธิภาพดีเท่ากันในทุกล้อ ลดการสะสมตัวของฝุ่นเบรก [B][SIZE=-2][COLOR=#006600]ข้อเสีย[/COLOR][/SIZE][/B] จานเบรกติดตั้งภายนอกสัมผัสกับความชื้น น้ำ และฝุ่นผง ทำให้มีการสึกหรออย่างรวดเร็ว เกิดอาการบิดตัวได้ง่าย เมื่อต้องเจอกับน้ำในขณะมีความร้อน ใช้ต้นการผลิตทุนสูง[/SIZE] [SIZE=2][/SIZE] [/FONT][IMG]http://www.thaispeedcar.com/Image/Tip/tm-13-brake1/tip14brake8.jpg[/IMG][IMG]http://www.thaispeedcar.com/Image/Tip/tm-13-brake1/tip14brake9.jpg[/IMG][FONT=Tahoma][SIZE=-1][B][COLOR=#0000ff][/COLOR][/B][/SIZE][/FONT] [FONT=Tahoma][SIZE=-1][B][COLOR=#0000ff]10. ผ้าเบรก (Brake Pad)[/COLOR][/B][/SIZE][/FONT][FONT=MS Sans Serif][SIZE=-1][COLOR=#0000ff] [/COLOR][/SIZE][/FONT][FONT=MS Sans Serif][SIZE=-1] เป็นตัวที่ทำให้เกิดความฝืดระหว่าง ผ้าเบรก และจานเบรก ความฝืดมากมีผลทำให้รถยนต์ ลดความเร็วได้ระยะทางที่สั้นลง ผ้าเบรกแบ่งเกรดตามวัสดุที่ใช้ผสมในเนื้อผ้าเบรก และค่าความฝืดหรือค่า มิว Coefficient of Friction ได้ 3 แบบคือ [SIZE=-2][B][COLOR=#ff3300]1. NAO (Non Asbestos Organic)[/COLOR][/B][/SIZE][COLOR=#ff3300][/COLOR]ใช้วัสดุที่มีความอ่อน จำพวก เคฟล่า ส่วนผสม ของยางไม้ ไฟเบอร์ จากเดิมที่เคยใช้พวกแร่ใยหิน Asbestos ที่ถูกยกเลิกไปแล้ว เนื่องจากความไม่ปรอดภัยต่อระบบหายใจ พวกนี้จะมีความฝืดที่ดีในอุณหภูมิต่ำ แต่ที่ความร้อนสูงจะจับตัวได้ไม่ดี มีเสียงรบกวนน้อย ส่วนมากใช้กับรถ OEM จากโรงงาน ระดับความฝืดอยู่ที่ 0.30 - 0.45 [B][SIZE=-2][COLOR=#ff3300]2. Semi-Metallic[/COLOR][/SIZE][/B] ใช้วัสดุจำพวกใยโลหะที่มีความอ่อน มีส่วนประกอบเช่น เนื้อไฟเบอร์ประมาณ 50% เป็นตัวช่วยให้เกิดความฝืด และทนความร้อน ใช้เรซิ่นประมาณ 15% ช่วยในการประสานตัว และสาร Abrasive 10% และพวก Metal Power อีก 10 % พวกนี้จะมีความฝืดดีที่อุณหภูมิสูง ใช้กับรถบรรทุกหนัก และรถที่ใช้งานเบรกหนักอย่างต่อเนื่อง เช่นรถที่ชอบขับที่ความเร็วสูงเบรกบ่อยๆ ระดับความฝืดจะอยู่ที่ 0.40-0.55 [SIZE=-2][COLOR=#ff3300][B]3. Fully Metallic[/B][/COLOR][/SIZE]ใช้วัสดุพวกผงเหล็กที่มีความละเอียด เช่นผงทองแดง ไททาเนียม เซรามิค คาร์บอน มาขึ้นรูป ผ้าเบรกพวกนี้จะมีประสิทธิภาพมากที่ความร้อนสูง มีความฝืดคงที่ แต่จะมีเสียงดัง มีการสึกหรอสูงทั้งผ้าเบรก และจานเบรก เหมาะสำหรับรถแข่งในสนามแข่งขันที่จานเบรกร้อนตลอดเวลา ระดับความฝืดอยู่ที่ 06.0 ขึ้นไป[/SIZE][/FONT] [IMG]http://www.thaispeedcar.com/Image/Tip/tm-13-brake1/tip14brakefront.jpg[/IMG][IMG]http://www.thaispeedcar.com/Image/Tip/tm-13-brake1/tip14brake10.gif[/IMG][/CENTER][/QUOTE]
เข้าสู่ระบบด้วย Facebook
เข้าสู่ระบบด้วย Twitter
เข้าสู่ระบบด้วย Google
ชื่อผู้ใช้งานหรือที่อยู่อีเมล์ของคุณ:
คุณมีบัญชีผู้ใช้หรือไม่?
ไม่มี, สร้างบัญชีผู้ใช้ตอนนี้
มี, รหัสผ่านของฉันคือ:
ลืมรหัสผ่านของคุณ?
อยู่ในระบบตลอดเวลา
RacingWeb.NET | The Racing Cars Community on Web.
ฟอรั่ม
>
RacingWeb Community
>
Motorsport Forum
>
เริ่มต้นโมดิฟลายเบรกให้อยู่ขึ้น และวิธีต่างๆที่นิยมกัน
>
X
หน้าแรก
หน้าแรก
Quick Links
โพสต์ล่าสุด
กิจกรรมล่าสุด
ผู้เขียน
ฟอรั่ม
ฟอรั่ม
Quick Links
ค้นหาฟอรั่ม
โพสต์ล่าสุด
ประกาศซื้อขาย
ประกาศซื้อขาย
Quick Links
ค้นหาประกาศซื้อขาย
กิจกรรมล่าสุด
ผู้ค้าขายคะแนนสูงสุด
สื่อ/วิดีโอ
สื่อ/วิดีโอ
Quick Links
Search Media
New Media
สมาชิก
สมาชิก
Quick Links
สมาชิกที่โดดเด่น
สมาชิกที่ลงทะเบียน
ผู้ใช้งานในขณะนี้
กิจกรรมล่าสุด
โพสต์ข้อมูลส่วนตัวใหม่
เมนู
ค้นหาเฉพาะชื่อ
โพสต์โดยสมาชิก:
แยกชื่อด้วยเครื่องหมายจุลภาค
ใหม่กว่า:
ค้นหาเฉพาะหัวข้อนี้
ค้นหาเฉพาะฟอรั่มนี้
แสดงผลเป็นหัวข้อ
การค้นหาที่มีประโยชน์
โพสต์ล่าสุด
เพิ่มเติม...