สุดยอดจริงๆครับ สำหรับแนวทางการตรวจสอบเพื่อหาสาเหตุ เดี๋ยวถ้าได้ลองทั้ง 2 วิธี แล้วจะมารายงานผลครับ(ผมว่ามันเป็นไอเดียที่เยี่ยมจริงๆเลยครับ อย่างกะดูซีรี่ย์ CSI) ปล : ผมแนบรูปตรงที่ติด Sensor มาให้ดู พอดีว่าช่างไม่ได้ใช้อแดปเตอร์นะครับ ช่างเจาะลงไปเลย (แล้วก็เจอคุณเป้ที่ meeting เห็นบอกว่าก็เจาะที่เดียวกะของผม)
อิอิ มันไม่ใช่เรื่องลึกลับอะไรหรอกครับ มันเป็นวิทยาศาสตร์ทั่วไปเท่านั้นเอง....... ตำแหน่ง Sensor ที่อยู่ตรงคอท่อน้ำออกจากเครื่องอย่างนั้น OK ครับ เป็นตำแหน่งที่ใช้ได้ดีเลยครับ
พี่โต้งครับผม แล้วมันต่างกับใส่อแดปเตอร์ยังไงอะครับ ผมเห็นบางรุ่นท่อซิลิโคน มันมี อแดปเตอร์มาด้วยเลยอะ สรุปว่าแบบไหนเหมาะสมสุดอะครับ
Adapter อย่างที่ tOon` หมายถึง คือ Adapter ที่ต้องตัดต่อท่อยางหม้อน้ำออก แล้วเอา Adapter ที่เราเสีย/ฝัง Sensor ไว้หรือเปล่าครับ........ ถ้าใช่ เรื่องความต่างของอุณหภูมิน้ำที่จะวัดได้ ไม่ค่อยจะมีผลครับ ถ้าท่อน้ำนั้นไม่ยาวมาก อุณหภูมิจะไม่ต่างกันเป็น 5 องศา เลยครับ......... ท่อ Silicone บางรุ่น เช่น Samco ที่ทำให้ EJ บางตัวของ Subaru หรือ SR ขับหลัง Series แรกๆ ก็ทำตัว Adapter แบบฝัง ไว้กับท่อเลย ที่ทำอย่างนั้น เพราะ ท่อ Silicone พวกนั้น เค้าจะทำยาว....... ครอบคุมตัวท่อติดเครื่องที่ฝัง Sensor เดิมติดรถไว้(ท่อเหล็กฝัง Sensor เดิม มีท่อยาง+เข็มขัดรัดหัวท้าย) เวลาเปลี่ยนใช้ท่อ Silicone พวกนี้ ก็ถอดตัวท่อเหล็กเดิมที่มี Sensor ฝังอยู่ออกเลย แล้วก็ใส่ท่อ Silicone แทนความยาวที่ถอดท่อเหล็กเดิมออก แล้วก็ย้าย Sensor มาใส่ที่ท่อใหม่ จะได้ไม่ต้องท่อ Silicone ตัวสั้นๆ หลายๆ ตัว ครับ ข้อต่อ ข้อเชื่อมเยอะ รั่วง่ายกว่าจุดต่อหลายๆ จุดครับ.........
เจอรถผมวันไหนเหรอ สงสัยกำลังขับกลับบ้านนะครับ ส่วนเรื่องความร้อน ตอนนี้ดีขึ้น ลมเข้าเต็มที่ หลังจากเอาสปอร์ตไลท์ออกข้างนึงครับ
แต่ผมว่าติดพัดลมข้างหน้า ถ้าเวลารถวิ่งมีความเร็วพอสมควรเเล้ว กลายเป็นพัดลมที่ติดเพิ่มข้างหน้าไปขวางทางลม
พัดลมยังโอเคครับ ตอนนี้ถอดสปอร์ตไลท์ออกข้างนึง แล้วต่อท่อเข้ามาข้างใน ความร้อนไม่สูงแล้ว สงสัยลมเข้าได้มากขึ้นครับ
เมื่อวานเห็นของจิงมาแย้ว งานฝีมือแท้ๆ คับ ปล..ต้องขอบคุณพี่อาร์ทด้วยนะครับ อุส่าสอนผมปรับสายเกียร์ครับ และที่สำคัญ...อุส่าขับรถมาสอนถึงบ้านเลยด้วย อิอิ ขอบคุณคร๊าบ