รวมรูปภาพและผลการแข่งรายการ True Visions Bobby Hunter Super One Race 2014 สนามพิเศษ ณ สนาม ช้าง อินเ

ปิดฉากการแข่งขัน True Visions Bobby Hunter Super One Race 2014 สนามพิเศษ กับการลงสนามแข่งอินเตอร์เนชั่นแนลที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ Chang International Circuit จังหวัดบุรีรัมย์​

ก่อนเริ่มรายการแข่ง เมื่อวันศุกร์ที่ 17 ตุลาคม 2557 ได้มีงานมอบรางวัลแชมป์ประจำปี 2014 ที่ร้าน Speed Music Hall ในตัวเมืองบุรีรัมย์ รูปภาพของงานดังกล่าวได้รวมอยู่กระทู้ล่าง


Race 1 วันเสาร์ที่ 18 ตุลาคม 2557

การแข่งขัน True Visions Bobby Hunter Super One Race 2014 เดินทางมาถึงสนามสุดท้ายแล้ว ปิดฉากด้วยความยิ่งใหญ่และสดใหม่ของสนาม Chang International Circuit จังหวัดบุรีรัมย์ สนามที่ได้รับการรับรองจากสหพันธ์ยานยนต์นานาชาติ หรือ FIA ให้เป็นสนามระดับมาตรฐาน FIA Grade 1 ซึ่งก็ได้รับความสนใจจากนักแข่งเข้าร่วมประลองสนามใหม่แห่งนี้อย่างคับคั่ง แข่งกันสบายๆ เนื่องจากไม่มีการเก็บคะแนนสนามประจำปีแล้ว แต่สนามนี้เป็นสนามพิเศษ เก็บคะแนนแค่ 2 สนาม เพื่อรับถ้วยประจำสนาม

สำหรับรุ่นการแข่งขันก็ยังให้ชมกันอย่างครบรส ไม่ว่าจะเป็น Pick-Up 2500 cc. Production, Vip Bracket ต่อด้วย 1600 Modified, Pick-Up 2500 cc. Modified ก่อนเข้าสู่ช่วงถ่ายทอดสดใน True Sport 3 ช่อง 683 กับรุ่น 1500 1600 Production, 1500Cc Modofied, Eco Production แข่งรวมกับ 1500 One Make Race, 2000 cc. Modified + Awd Under 3000 cc., Open Unlimited, Pick-Up Commonrail Modified, Japan Retro และ Classic Car Open

ประเดิมรุ่นแรกด้วยการแข่งขัน Pick-Up 2500 cc. Production กับตำแหน่งโพล โพซิซั่น เจ้าเก่า หมายเลข 29 เล้งมังกรไฟ จรัส แจ้งกมลกุลชัย ตามมาด้วย หมายเลข 7 เอกสิทธิ์ เกรียงโกมล และหมายเลข 98 อดิศักดิ์ สุขสว่าง ในรุ่นนี้รถแข่งทั้งสิ้น 7 คัน วิ่ง 6 รอบสนาม รอบละ 4.554 กิโลเมตร และเป็นหมายเลข 29 ที่นำม้วนเดียวจบ ทิ้งอันดับ 2 หมายเลข 59 ธรรมศักดิ์ จารุฑีฆัมพร และอันดับ 3 หมายเลข 81 เอกสิทธิ์ เกรียงโกมล เข้าเส้นชัยไปอย่างสบายๆ โดยหมายเลข 7 และหมายเลข 98 เสียจังหวะทำให้อันดับหล่นลงไปจากตำแหน่งสตาร์ทอันดับ 2 และ 3 ตามลำดับ






































ต่อกันด้วยการแข่งขันในรุ่น 1600 Modified ที่มีรุ่นเข้าลงสนามชิงชัยกันทั้งสิ้น 13 คัน หลังจากควอลิฟายด์ผู้ที่ทำเวลาได้ดีที่สุดได้แก่หมายเลข 41 ณัฐพงษ์ เลิศล้ำประเสริฐกุล ตามมาด้วย หมายเลข 66 ชิติพงษ์ บุญบางยาว และอันดับ 3 เดชพล ถนอมกลิ่น ในรุ่นนี้ทำการแข่งขันทั้งสิ้น 6 รอบสนาม เมื่อสัญญาณไฟแดงทั้ง 5 ดวงดับลง รถแข่งทั้งหมดก็พุ่งออกจากกริดสตาร์ท หมายเลข 41 นำโด่งเป็นหัวแถววิ่งเดี่ยวรอเข้าเส้นชัย เมื่อถึงอีกสองรอบสุดท้ายก่อนจบการแข่งขันมีการสะกิดกันเล็กน้อยทำให้อันดับเปลี่ยน และมีตัวแรงแทรกขึ้นมาจากแถวหลังอย่าง หมายเลข 46 หทัย ไชยวรรณ ที่สตาร์ทตำแหน่งบ๊วย แต่ขึ้นมาเข้าเส้นชัยในอันดับ 2 และอันดับ 3 เป็นของ หมายเลข 66 ชิติพงษ์ บุญบางยาว
































Pick-Up 2500 cc. Modified ปล่อยรถแข่งโดยโรลลิ่งสตาร์ท รถปิคอัพในรุ่นนี้เป็นการขับเคี่ยวของรถแข่งในตำแหน่งหัวแถว ประกอบไปด้วย หมายเลข 59 มานะ พรศิริเชิด หมายเลข 11 ไพฑูรย์ ธรรมศิริกุล และ หมายเลข 27 โอฬาร สารสิริรัตน์ ต่างก็เบียดแย่งชิงไลน์เข้าโค้งกันเกือบตลอดการแข่งขัน จนถึงรอบสุดท้าย หมายเลข 11 เบียดขึ้นแซงโค้งหน้าแกรนด์สแตนด์ แต่รถหมายเลข 59 ก็แสดงความเก๋า บังไลน์ จนทำให้หมายเลข 11 เสียหลัก ก็ก็ยังกลับมาตามติดได้อีกครั้ง แล้วก็สามารถขึ้นนำมาได้ ในโค้งเดิมก่อนเข้าเส้นชัย แล้วหมายเลข 59 ยางหน้าแตก ทำให้ หมายเลข 92 ทรงศักดิ์ กรสิริสืบสกุล ที่ตามหลังมาพุ่งเข้าเส้นชัยรับอันดับ 2 ส่วนหมายเลข 59 รับอันดับ 3
















































เข้าสู่ช่วงถ่ายทอดสด True Sport 3 ช่อง 683 กับ 3 ชั่วโมงเต็ม ของการแข่งขันรถยนต์ทางเรียบ True Visions Bobby Hunter Super One Race 2014 เริ่มกันที่รุ่น 1500 - 1600 Production รุ่นนี้ถือว่าเป็นรุ่นที่มันที่สุดเลยก็ว่าได้ เพราะรถแข่งทุกคันต่างเบียดบี้ชิงชัยกันอย่างเต็มที่ เอาใจผู้ชมในสนามที่เข้ามาชม ในรุ่นมีรถลงแข่งทั้งสิ้น 25 คัน แข่งทั้งสิ้น 6 รอบสนาม รถโปรดักชั่นคันแรงที่เหยียบคันเร่งพุ่งทะยานออกจากจุดสตาร์ททุกคันต่างแย่งตำแหน่งเข้าโค้งเพื่อขึ้นนำ แล้วก็เป็นหมายเลข 23 ธนพล พฤทธิพงศ์ ที่แซงหน้าหมายเลข 69 ฉัตรพล เจียมวิจิตร ที่ออกสตาร์ทจากตำแหน่งโพลมา และรถแข่งในแถวหลังก็แย่งชิงอันดับกันอย่างสุดมัน ผลัดกันขึ้นนำกันอย่างคนดูนั่งไม่ติด สุดท้ายผลปรากฏว่า หมายเลข 69 สามารถเข้าเส้นชัยเป็นอันดับ 1 ตามด้วย หมายเลข 23 และอันดับ 3 หมายเลข 29 โทมัส ราลดอร์ฟ ที่สามารถเร่งแซงรถแข่งจากการสตาร์ทอันดับสุดท้าย ขึ้นมารับอันดับ 3 ไปครอง




































1500 Modified รุ่นนี้มีรถเข้าทำการแข่งขันทั้งสิ้น 17 คัน ทำการแข่งขัน 6 รอบ จากตำแหน่งโพล โพซิชั่น หมายเลข 34 คมกฤษณ์ เลิศล้ำประเสริฐกุล อันดับ 2 หมายเลข 33 ชนินชา ปัญญารุ่งเรือง และอันดับ 3 หมายเลข 26 นราวุธ รักษากุล ในสนามนี้ต้องยกนิ้วให้กับ ชนินชา ที่สามารถกดดัน คมกฤษณ์ จนแซงขึ้นมานำเป็นอันดับ 1 ได้ และรักษาตำแหน่งไว้ได้จนจบการแข่งขัน ตามมาด้วย คมกฤษณ์ ที่ไล่ตามเข้าเส้นชัยมาเป็นอันดับ 2 และอันดับ 3 ตกเป็นของ นราวุธ
























สำหรับรุ่นต่อไปคือรุ่น Eco Production ที่สนามนี้แข่งรวมกับรุ่น 1500 One Make Race จำนวนรถในสนามมีทั้งสิ้น 27 คัน แบ่งเป็นรุ่น Eco Production 16 คัน ผู้ที่สามารถเข้าเส้นชัยเป็นอันดับ 1 คือ หมายเลข 44 วรุฒ กานวิศิษฎ์ อันดับ 2 หมายเลข 22 ภูมิ พรหมาธรรม และอันดับ 3 หมายเลข 66 ชิติพงษ์ บุญบางยาง และ 1500 One Make Race จำนวน 11 คัน สำหรับรุ่นนี้ ผู้ที่สามารถเข้าเส้นชัยเป็นอันดับ 1 คือ หมายเลข 66 จารุวัตร มณีรัตนชัยสิทธิ์ อันดับ 2 หมายเลข 33 ชนินชา ปัญญารุ่งเรือง และอันดับ 3 หมายเลข 58 Chen Jian Hong

รุ่นถัดไปคือรุ่น 2000 cc. Modified และ Awd Under 3000 cc. เครื่องยนต์ไม่เกิน 3,000 cc. ขับเคลื่อน 4 ล้อ มีรถลงทำการแข่งขันรวมกันทั้งสิ้น 18 คันแบ่งเป็น 2000 cc. Modified 12 คัน และ Awd Under 3000 cc. 6 คัน อันดับแรกในการปล่อยสตาร์ทเป็นรุ่น 2000 cc. Modified หมายเลข 90 พิษณุ ศิริมงคลเกษม สุดยอดแชมป์ประจำปีในระดับนักแข่งคลาส B ในอันดับ 2 เป็นหมายเลข 69 อัศวิน อานามนารถ ในรุ่น Awd Under 3000 cc.












มาถึงรุ่นใหญ่และน่าสนใจที่สุดในงานนี้ Open Unlimited ที่มีแต่รถเครื่องแรงๆ มาลงสนามนี้ให้คอมอเตอร์สปอร์ตได้ชมกัน มีรถลงแข่งรวม 13 คัน ในสนามนี้มี Porsche 997 ของหมายเลข 34 กันตศักดิ์ กุศิริ ที่ทำเวลาในรอบควอลิฟายด์ได้ดีที่สุดที่ 1.39.695 นาที ตามมาด้วยอันดับ 2 Lamborghini Fl Ii ของหมายเลข 28 ชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม 1.40.633 นาที และอันดับ 3 หมายเลข 11 เอกรัฐ ดิษเจริญ 1.43.279 นาที รุ่นนี้มันสะใจตั้งแต่การปล่อยแบบ Rolling Start เมื่อสัญญาณธงตีสตาร์ท รถทุกคันก็เร่งเครื่องหวังจะแย่งเข้าโค้งแรกก่อน ยังเป็นคราวของ หมายเลข 34 ที่บังไลน์โค้งไว้ได้ แต่เมื่อถึงทางตรง พละกำลังเครื่องยนต์สู้ Lamborghini Fl Ii ของหมายเลข 28 ไม่ได้ โดนแซงไปตั้งแต่ทางตรงแรกของการแข่งขัน หลังจากนั้นก็ขับเคี่ยวกันทางถึงพริกถึงขิงจนจบการแข่งขัน มาดูทางด้านอันดับที่ 3 และ 4 ที่ต่างก็ใช้รถ Porsche เหมือนกัน ต่างก็โชว์ฝีมือกลยุทธ์ออกมาอย่างเต็มที่จนก็เป็นหมายเลข 55 สรัญ เสรีธรณกุล ที่รับอันดับ 3 ไปครอง
















รุ่นรองสุดท้ายก็เป็นรุ่นใหญ่เช่นเดียวกันในประเภทปิคอัพ ในรุ่น Pick-Up Commonrail Modified มีรถแข่งลงแข่งทั้งสิ้น 12 คัน รุ่นนี้ทำการแข่ง 6 รอบสนาม ปล่อยแบบ Rolling Start ผู้ที่ได้สตาร์ทในอันดับ 1 ได้แก่ หมายเลข 99 วริศ อ่อนระยับ ตามมาด้วยหมายเลข 11 ไพฑูรย์ ธรรมาศิริกุล และ หมายเลข 18 Hiroyuki Kobayashi ตามลำดับ และเป็นหมายเลข 99 ที่นำแบบรวดเดียวจบรับอันดับ 1 ไปครอง ส่วนอันดับ 2 หมายเลข 11 และอันดับ 3 หมายเลข 28 ธนวัตน์ สุวรรณรัตน์




















































รุ่นสุดท้ายของสนามนี้คือ Japan Retro และ Classic Car Open แบบเต็มกริดสตาร์ท 31 คัน กับ 4 รอบสนามแบบชิวๆ นักแข่งผู้รักในรถคลาสสิคและเรโทรก็มาร่วมลงสนามประวัติศาสตร์แห่งใหม่ของประเทศกันอย่างคับคั่ง โดยผู้นำบนกริดสตาร์ท ได้แก่ หมายเลข 97 Mark Peter อันดับ 2 หมายเลข 100 พรชัย รัตนกิจ และอันดับ 3 หมายเลข 025 อัตตพจน์ ศรีพรหม โดยรถรุ่นนี้พร้อมเพรียงกันแข่งอย่างมีระเบียบจนจบการแข่งขัน ผลการแข่งขันอันดับ 1 หมายเลข 100 อันดับ 2 หมายเลข 025 และ อันดับ 3 หมายเลข 66 พิเชษฐ์ ตัญกาญจน์ ที่ดันรถแข่งขึ้นมาจบในอันดับ 3 ได้อย่างสวยงาม

ช่วงท้ายของงานมีคอนเสิร์ทจาก 3.50 BAND, Rock Rider : Silly Fools, DAK Big Ass, AIR Bourne

 

Race 2 วันอาทิตย์ที่ 19 ตุลาคม 2557

Pick-Up 2500 cc. Production ลงทำการแข่งขันทั้งสิ้น 8 คัน จากตำแหน่ง ในรอบที่สองของการแข่งขัน รถแข่งหมายเลข 77 และรถหมายหมายเลข 5 ที่เสียหลักชนกัน หมายเลข 77 ยางหลังแตก เครื่องพัง ไม่สามารถแข่งต่อได้ รถแข่งขวางแทร็คอยู่ตรงโค้งฮอนด้า กรรมการตีธงเหลืองและขึ้นป้าย Sc (Safety Car) ต้องลงไปเคลียร์รถออกจากสนามแข่ง เสียเวลาไปการแข่งไป 2 รอบสนาม รถแข่งที่เหลือวิ่งต่อได้อีก 1 รอบการแข่ง และยังคงเป็นหมายเลข 29 จรัส แจ้งกมลกุลชัย ในรถ Chevrolet ที่เข้าเส้นชัย เป็นอันดับ 1 ทิ้งห่างอันดับ 2 หมายเลข 81 เอกสิทธิ์ เกรียงโกมล ในรถ Isuzu อยู่หลายช่วงคันรถ และอันดับ 3 ตกเป็นของหมายเลข 7 ชวัลวิทย์ วาปีสิทธิพันธ์ ในรถ Isuzu










1500 Modified รุ่นนี้ลุ้นกันสุดมัน เป็นการสู้กันระหว่างชนินชา ปัญญารุ่งเจริญ และ คมกฤษณ์ เลิศล้ำประเสริฐกุล ที่ปล่อยสตาร์ทก็หนีไม่พ้น ตามจี้กันมาตลอดการแข่งขัน จนสุดท้าย ก็เป็น คมกฤษณ์ เลิศล้ำประเสริฐกุล ตามมาด้วย ชนินชา ปัญญารุ่งเจริญ


















Pick-Up 2500 cc. Modified มีรถลงชิงชัยกันทั้งสิ้น 11 คัน นำโดยหมายเลข 92 ทรงศักดิ์ กรสิริสืบสกุล ในกริดสตาร์ทที่ 1 ตามมาด้วยหมายเลข 27 โอฬาร สารสิริรัตน์ และกริดที่ 3 หมายเลข 11 ไพฑูรย์ ธรรมศิริกุล ซึ่งในรุ่นนี้มีการเปลี่ยนอันดับกันอย่างมโหฬาร เมื่อรถแข่งแถวหน้ามีอันต้องอันดับร่วง โดยหมายเลข 92 เข้าเส้นชัยในอันดับที่ 8 หมายเลข 11 ร่วงไปอยู่อันดับที่ 10 และหมายเลข 27 ไม่จบในสนามนี้ ปล่อยให้นักแข่งหมายเลข 13 เฉลิมพล ผลลูกอินทร์ หมายเลข 17 นิพน คตศรี และหมายเลข 78 พิสิษฐ์ เนตรเดชาธนาสิทธิ์ ที่สตาร์ทอยู่กริดหลังๆขึ้นมารับธงตราหมากรุกไปตามลำดับ






























ในวันนี้ก่อนเข้าสู่ช่วงถ่ายทอดสด มี Special Race โดยการนำรถหมายเลข 14 ของ ป๋าวอ วรพจน์ บุญช่วยเหลือ บุคคลสำคัญของวงการมอเตอร์สปอร์ตไทย นักแข่งผู้เป็นดั่งครูของนักแข่งรุ่นหลัง มาลงวิ่งในสนาม ช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต แห่งนี้ จำนวนทั้งสิ้น 3 รอบสนาม เพื่อเป็นการไว้อาลัยในการจากอย่างกะทันหันไปจากอุบัติเหตุ






รุ่น 1500 - 1600 Production รุ่นแรกของการแข่งขันในช่วงถ่ายทอดสดทางช่อง True Sport 3 ช่อง 683 กับรถแข่งจำนวน วิ่งทั้งสิ้น 6 รอบสนาม สำหรับโพล โพซิชั่น ได้แก่ หมายเลข 29 โธมัส ราลดอล์ฟ ที่ได้อันดับ 3 สนามที่ผ่านมา สตาร์ทอันดับ 2 คือ หมายเลข 69 ฉัตรพล เจียมวิจิตร และอันดับ 3 หมายเลข 23 ธนพล พฤทธิพงศ์ สนามนี้เจอฝนตกลงมาเล็กน้อยทำให้กลายเป็น Wet Race แบบเบาๆ ก็ยังได้เห็นรถแข่งมีการลื่นเสียหลักอยู่เล็กน้อย แต่ส่วนใหญ่ก็ประคองรถจนจบการแข่งขัน สุดท้ายผลปรากฏว่า หมายเลข 29 เข้าเส้นชัยเป็นอันดับ 1 ตามมาด้วย หมายเลข 23 ที่สามารถแซง ขึ้นมาจบเป็นอันดับ 2 ได้ ส่วนหมายเลข 69 รับอันดับ 3 ไปครอง




































ตามติดๆ กันที่รุ่น 1600 Modified กับสภาพสนามที่แห้งไปบ้างแล้วหลังจากฝนตก รถแข่งก็วอร์มเตรียมความพร้อมกับสภาพแทร็กก่อนแข่งขันจริง การแข่งรุ่นนี้ผู้ชมก็ลุ้นไม่ติดที่นั่งกันอีกแล้ว หลังจากที่รถแข่งในตำแหน่งนำทั้ง 4 ก็ต่างฝ่ายต่างผลัดกันขึ้นนำตลอดทั้งการแข่งขัน 6 รอบสนาม ประกอบไปด้วยหมายเลข 24 ภาสฤทธิ์ พรหมสมบัติ หมายเลข 59 เดชพล ถนอมกลิ่น หมายเลข 46 หทัย ชัยวรรณ และหมายเลข 66 ชิติพงษ์ บุญบางยาว ที่ต่างฝ่ายต่างหาไลน์ชิงเข้าโค้งเพื่อแย่งขึ้นที่ 1 ในเกือบทุกโค้งของการแข่งขัน จนกระทั่งถึงรอบสุดท้ายของสนาม ทุกคันก็ยิ่งกดคันเร่งอย่างเต็มที่ สุดท้าย หมายเลข 59 ซิวธงหมากรุกเป็นคันแรก ตามมาด้วย หมายเลข 46 และ หมายเลข 66 เป็นอันดับสาม ท่ามกลางเสียงเชียร์ลั่นของทีมงานข้างสนาม






































มามันกันต่อกับรุ่นเล็กแต่แรงอย่าง Eco Production ที่แข่งรวมกับ 1500 One Make Race ทั้งสองรุ่นนี้ก็มันสะใจไม่แพ้รุ่นก่อนหน้านี้ กับการแข่งกันอย่างสูสีระหว่างรุ่นต่อรุ่น แข่งทั้งสิ้น 4 รอบสนาม โดยแถวหน้าจะเป็นการแข่งของรุ่น 1500 One Make Race ที่ออกสตาร์ทก่อน ประกอบไปด้วยหมายเลข 58 Chen Jian Hong หมายเลข 87 นิวัฒน์ กลิ่นจำปา และหมายเลข 44 ธานินทร์ รวมใหม่ ตามมาด้วยรุ่น Eco Production ในตำแหน่งออกสตาร์ทนำของรุ่นนี้คือหมายเลข 22 ภูมี พรหมาธรรม หมายเลข 66 ชิติพงษ์ บุญบางยาง และหมายเลข 56 พีรวัตร ตะวันธรงค์ ตามลำดับ ที่ผลัดกันนำอยู่แนวหลัง มีการสะกิดกันบ้าง หลุดโค้งออกนอกแทร็คไปบ้าง แต่ก็สามารถกลับเข้ามาแข่งต่อกันได้ ผลปรากฏว่าในรุ่น 1500 One Make Race ผู้ที่เข้าเส้นชัยเป็นอันดับ 1 คือ หมายเลข 87 อันดับ 2 หมายเลข 66 จารุวัตร มณีรัตนชัย และอันดับ 3 หมายเลข 78 ไพรัตน์ จึงพิริยะ สำหรับรุ่น Eco Production อันดับ 1 หมายเลข 22 หมายเลข 56 และ หมายเลข 66 ตามลำดับ




























รุ่น 2000 cc. Modified + Awd Under 3000 cc. ทั้งสองรุ่นนี้รวมกันแข่งทั้งสิ้น 16 คัน แบ่งเป็น 12 และ 4 คัน ตามลำดับ การแข่งรุ่นนี้ปล่อยแบบสัญญาณไฟ 5 ดวง เมื่อสัญญาณดับลงรถทุกคันกดคันเร่งมิด ออกจากจุดสตาร์ท กรรมการแจ้ง Jump Start หมายเลข 6 อนันต์พัฒน์ ตราบดี 1 โดนบวกเวลา 60 วินาที แต่ไม่ส่งผลอไรต่อรถแข่งแถวหน้า อย่างหมายเลข 69 ที่ออกสตาร์ทมาเป็นอันดับ 1 ที่รับธงตราหมากรุกไปในรุ่น 2000 cc. Modified ตามมาด้วย หมายเลข 15 ธีร์รัถต์ สุทธิสัมพัทน์ และอันดับ 3 หมายเลข 14 ภาสฤทธิ์ พรหมสมบัติ ส่วนอันดับ 1 ของรุ่น Awd Under 3000 cc. อันดับ 1 ได้แก่หมายเลข 72 สราวุธ ชาวเวียง ในรถ Evolution อันดับ 2 ภิษณุ ภูษิตานนธกร ในรถ Evo7 และอันดับ 3 วราพงษ์ แสงฟอง ในรถ Skyline R32






















ต่อกันยาวๆ สำหรับรุ่น Open Unlimited ในสนามนี้มีรถเข้าแข่งขัน 8 คัน ปล่อยแบบ Rolling Start จากตำแหน่งสตาร์ทอันดับ 1 เจ้าเก่า หมายเลข 28 ชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม ในรถ Lamborghini Fl Ii ตามมาด้วย หมายเลข 34 กันตศักดิ์ กุศิริ ในรถ Porsche 997 และ หมายเลข 88 Craig Corliss ในรถ Holden เมื่อธงสะบัดเริ่มออกตัวก็เป็นอย่างที่คิด สำหรับ หมายเลข 28 ที่กดทางตรงยาวๆ ทิ้งห่าง หมายเลข 34 ออกไป แต่ก็ยังไม่ขาด ปล่อยให้รถหมายเลข 88 และ 26 ที่ตามหลังมาในอันดับ 3 และ 4 ขับเคี่ยวกันเอง แต่เมื่อมาถึงในรอบที่ 3 ของการแข่งขัน หมายเลข 28 ที่โดนกดดันจากคนคันหลัง ก็เสียหลักในโค้ง 11 เสียหลัก ทำให้หมายเลข 34 ขึ้นนำแบบยาวๆ เข้าเส้นชัย แต่โดนกรรมการปรับเวลา 60 วินาที เนื่องจากรถแข่งเกินออกไปที่รันออฟ แอเรีย ส่งผลให้ ชนม์สวัสดิ์ คว้าชัยชนะ 2 เรซติดต่อกันทันที ส่วนอันดับ 2 เป็นของ เฮงค์ เจ. คิกส์ ด้าน กันตศักดิ์ ร่วงลงไปรับอันดับ 3
























Pick-Up Commonrail Modified ก่อนเริ่มการแข่งขันก็มีฝนที่ตกลงมาเบาๆ ทำให้สนามพอเปียก แต่ก็ไม่เป็นปัญหาเมื่อเริ่มการแข่งขันด้วย Rolling Start รถที่ลงแข่งในรอบนี้มีทั้งสิ้น 11 คัน วิ่งกัน 6 รอบสนาม หมายเลข 99 วริศ อ่อนระยับ อยู่ที่ตำแหน่งสตาร์ทอันดับ 1 ตามมาด้วยหมายเลข 28 ธนวัฒน์ สุวรรณรัตน์ และอันดับ 3 หมายเลข 11 ไพฑูรย์ ธรรมาศิริกุล การแข่งขันรุ่นนี้ที่ไม่มีอันดับเปลี่ยนตลอดการแข่งขัน และเป็นที่แน่นอนสำหรับทั้ง 3 คัน เข้า อันดับ 1 2 3 ตามลำดับ


































ในรุ่นสุดท้าย Japan Retro และ Classic Car Open โดนฝนกระหน่ำก่อนเริ่มการแข่งขัน กรรมการต้องประกาศ Start Delay เพื่อให้นายสนามได้มีการตรวจสอบเรื่องความปลอดภัยของรถและสนามแข่ง และเนื่องจากรถแข่งบางคันไม่มีความพร้อมในการลงแข่งกับสภาพอากาศและสภาพแทร็คแบบนี้ และกรรมการได้ปรึกษากับนักแข่งในรุ่นนี้ผลปรากฏว่าต้องยุติการแข่งเพื่อความปลอดภัย

 

รวมรูปภาพมอบรางวัลให้กับผู้ชนะในแต่ละรุ่นประจำสนามพิเศษ








































































































รวมรูปภาพงานมอบรางวัลแชมป์ประจำปี 2014