เข้าสู่ระบบหรือลงทะเบียน
ติดต่อลงโฆษณา
[email protected]
หรือโทร. 081-811-1138 หรืออ่านรายละเอียดเพิ่มเติม คลิกที่นี่
RacingWeb.NET | The Racing Cars Community on Web.
ฟอรั่ม
>
RacingWeb Community
>
Variety Forum
>
เวลาเพื่อนๆอกหัก เพื่อนๆทำไงอ่ะครับขอบคุณรับ
>
ตอบกลับหัวข้อ
ชื่อ:
การตรวจสอบ:
กรุณาเปิดใช้งานจาวาสคริปต์เพื่อดำเนินการต่อ
กำลังโหลด...
ข้อความ:
<p>[QUOTE="feelgood, post: 341296, member: 222"]<span style="color: Yellow"></span></p><p><span style="color: Yellow"><font size="4">โดยทั่วไปเรามักถือว่าน้ำตาเป็นเครื่องหมายของความอ่อนแอ ความพ่ายแพ้ผิดหวัง เป็นความทุกข์ความเศร้าที่ไม่อยากพบอยากได้จึงไม่มีใครอยากจะคิดถึงรวมทั้งหาคำตอบใดๆ เกี่ยวกับน้ำตาหรือการร้องไห้เลย แม้ว่าอาจเคยมีความสงสัยอยู่บ้าง ทำไมผู้หญิงจึงร้องไห้ง่ายกว่าผู้ชายหรือสงสัยว่าน้ำตานอกจากจะใช้ในการร้องไห้แล้วจะใช้ประโยชน์อย่างอื่นได้อีกหรือไม่</font></span></p><p><span style="color: Yellow"><font size="4"><br /></font></span></p><p><span style="color: Yellow"><font size="4">ที่จริงธรรมชาติสร้างน้ำตามาให้มนุษย์ได้ใช้ประโยชน์หลายประการ ตั้งแต่มีน้ำตาไว้ทำความชุ่มชื้นแก่ดวงตา ช่วยป้องกันการอักเสบติดเชื้อของดวงตา ใช้ล้างสิ่งระคายเคืองออกจากตาใช้เรียกร้องความเห็นอกเห็นใจ ความสงสารจากผู้พบเห็น ใช้เป็นเครื่องมือในการระบายเอาความทุกข์โศกออกไปจากจิตใจ นอกจากนี้น้ำตายังทำให้กวี และนักประพันธ์เพลงหลายยุคหลายสมัยได้ใช้ประโยชน์ในการสร้างสรรค์วรรณกรรมชิ้นเอกที่ประทับใจผู้คนไว้มากมาย นักชีวเคมีแห่งศูนย์วิจัยน้ำตา ชื่อ วิลเลี่ยม เฟรย์ ได้ให้ความสนใจและทำการศึกษาวิจัยเรื่องของน้ำตามาเป็นเวลานานกว่า 15 ปี ได้เขียนผลการวิจัยไว้น่าสนใจคือ การหลั่งน้ำตาของคนเรานั้นถูกควบคุมโดยต่อมน้ำตา ซึ่งจะเป็นผู้กำหนดความเข้มของน้ำตา และควบคุมปริมาณการขับถ่ายธาตุแมงกานีส รวมทั้งแร่ธาตุอื่นๆ ที่ร่างกายสร้างขึ้นขณะที่อารมณ์เปลี่ยนแปลงออกไปจากร่างกายและพบว่าปริมาณของแร่ธาตุต่างๆ ที่มีในน้ำตานั้นมากกว่าที่มีในกระแสเลือดถึง 30 เท่า และได้อธิบายว่าการที่ผู้ร้องไห้จะสบายขึ้น เป็นเพราะว่าร่างกายได้ขจัดเอาสารเคมีต่างๆ ที่เกิดขึ้นในขณะที่มีความทุกข์ออกไปจากร่างกายพร้อมน้ำตานั่นเอง ในการศึกษาของเฟรย์พบว่าผู้ชาย 73% และผู้หญิง 75% ที่กล่าวว่ารู้สึกสบายขึ้นหลังการร้องไห้</font></span></p><p><span style="color: Yellow"><font size="4"><br /></font></span></p><p><span style="color: Yellow"><font size="4">สิ่งที่น่าสนใจอีกประการหนึ่งคือ ในเรื่องส่วนประกอบทางเคมีของน้ำตาที่หลั่งเนื่องจากสาเหตุที่แตกต่างกันพบว่าประกอบด้วยสารเคมีบางอย่างที่เหมือนกันและบางอย่างที่แตกต่างกัน ซึ่งได้มีการทดลองโดยใช้ชายหญิงจำนวนร้อยคนหลั่งน้ำตาด้วยสาเหตุที่แตกต่างกัน 2 วิธีคือ วิธีแรกโดยการหั่นหัวหอมสดทำให้เกิดการระคายเคืองตา น้ำตาก็จะไหลออกมา กับอีกวิธีหนึ่งก็คือกระตุ้นให้เกิดความรู้สึกสะเทือนอารมณ์โดยให้ดูภาพยนต์ 3 เรื่อง ที่ดูแล้วจะกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ แล้วนำน้ำตาที่หลั่งเนื่องจากสาเหตุทั้งสองมาวิเคราะห์หาส่วนประกอบดูความเหมือนและความแตกต่างพบว่าส่วนประกอบที่แตกต่างกันก็คือปริมาณของโปรตีนในน้ำตา น้ำตาที่หลั่งเนื่องจากความรู้สึกสะเทือนอารมณ์จะมีโปรตีนสูงกว่าน้ำตาที่หลั่งเนื่องจากการระคายเคืองตาถึง 24% และเราสามารถสังเกตเห็นได้อย่างชัดเจนก็คือผู้ที่ร้องไห้มากสาเหตุจากสะเทือนอารมณ์มักจะมีสุขภาพทรุดโทรมลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งน่าจะเป็นเพราะร่างกายต้องสูญเสียโปรตีนสูงประกอบกับในภาวะดังกล่าวมักจะมีอาการนอนไม่หลับร่วมด้วยนั่นเอง</font></span></p><p><span style="color: Yellow"><br /></span></p><p><span style="color: Yellow"> <font size="5"> จะเห็นได้ว่าน้ำตานั้นมิได้เป็นสิ่งที่ไร้ค่าไร้ประโยชน์เอาเสียเลยทีเดียวและการร้องไห้ก็ไม่น่าจะถือเป็นเรื่องเสียหายอะไรจนจำเป็นต้องใช้ความพยายามในการสะกดกั้นหลีกเลี่ยง ในยามที่มีความทุกข์เราก็ควรจะร้องไห้เพื่อระบายความทุกข์นั้นออกไปเสียบ้างแต่ที่สำคัญต้องไม่ลืมที่จะถนอมรักษาสุขภาพไว้บ้าง เพื่อเก็บแรงเก็บกำลังไว้คิดหาหนทางต่อสู้แก้ไขปัญหาที่มีอยู่ให้ลุล่วงไปโดยเร็วน่าจะถือว่าเป็นสิ่งที่ถูกต้องมากกว่า</font></span>[/QUOTE]</p><p><br /></p>
[QUOTE="feelgood, post: 341296, member: 222"][COLOR="Yellow"] [SIZE="4"]โดยทั่วไปเรามักถือว่าน้ำตาเป็นเครื่องหมายของความอ่อนแอ ความพ่ายแพ้ผิดหวัง เป็นความทุกข์ความเศร้าที่ไม่อยากพบอยากได้จึงไม่มีใครอยากจะคิดถึงรวมทั้งหาคำตอบใดๆ เกี่ยวกับน้ำตาหรือการร้องไห้เลย แม้ว่าอาจเคยมีความสงสัยอยู่บ้าง ทำไมผู้หญิงจึงร้องไห้ง่ายกว่าผู้ชายหรือสงสัยว่าน้ำตานอกจากจะใช้ในการร้องไห้แล้วจะใช้ประโยชน์อย่างอื่นได้อีกหรือไม่ ที่จริงธรรมชาติสร้างน้ำตามาให้มนุษย์ได้ใช้ประโยชน์หลายประการ ตั้งแต่มีน้ำตาไว้ทำความชุ่มชื้นแก่ดวงตา ช่วยป้องกันการอักเสบติดเชื้อของดวงตา ใช้ล้างสิ่งระคายเคืองออกจากตาใช้เรียกร้องความเห็นอกเห็นใจ ความสงสารจากผู้พบเห็น ใช้เป็นเครื่องมือในการระบายเอาความทุกข์โศกออกไปจากจิตใจ นอกจากนี้น้ำตายังทำให้กวี และนักประพันธ์เพลงหลายยุคหลายสมัยได้ใช้ประโยชน์ในการสร้างสรรค์วรรณกรรมชิ้นเอกที่ประทับใจผู้คนไว้มากมาย นักชีวเคมีแห่งศูนย์วิจัยน้ำตา ชื่อ วิลเลี่ยม เฟรย์ ได้ให้ความสนใจและทำการศึกษาวิจัยเรื่องของน้ำตามาเป็นเวลานานกว่า 15 ปี ได้เขียนผลการวิจัยไว้น่าสนใจคือ การหลั่งน้ำตาของคนเรานั้นถูกควบคุมโดยต่อมน้ำตา ซึ่งจะเป็นผู้กำหนดความเข้มของน้ำตา และควบคุมปริมาณการขับถ่ายธาตุแมงกานีส รวมทั้งแร่ธาตุอื่นๆ ที่ร่างกายสร้างขึ้นขณะที่อารมณ์เปลี่ยนแปลงออกไปจากร่างกายและพบว่าปริมาณของแร่ธาตุต่างๆ ที่มีในน้ำตานั้นมากกว่าที่มีในกระแสเลือดถึง 30 เท่า และได้อธิบายว่าการที่ผู้ร้องไห้จะสบายขึ้น เป็นเพราะว่าร่างกายได้ขจัดเอาสารเคมีต่างๆ ที่เกิดขึ้นในขณะที่มีความทุกข์ออกไปจากร่างกายพร้อมน้ำตานั่นเอง ในการศึกษาของเฟรย์พบว่าผู้ชาย 73% และผู้หญิง 75% ที่กล่าวว่ารู้สึกสบายขึ้นหลังการร้องไห้ สิ่งที่น่าสนใจอีกประการหนึ่งคือ ในเรื่องส่วนประกอบทางเคมีของน้ำตาที่หลั่งเนื่องจากสาเหตุที่แตกต่างกันพบว่าประกอบด้วยสารเคมีบางอย่างที่เหมือนกันและบางอย่างที่แตกต่างกัน ซึ่งได้มีการทดลองโดยใช้ชายหญิงจำนวนร้อยคนหลั่งน้ำตาด้วยสาเหตุที่แตกต่างกัน 2 วิธีคือ วิธีแรกโดยการหั่นหัวหอมสดทำให้เกิดการระคายเคืองตา น้ำตาก็จะไหลออกมา กับอีกวิธีหนึ่งก็คือกระตุ้นให้เกิดความรู้สึกสะเทือนอารมณ์โดยให้ดูภาพยนต์ 3 เรื่อง ที่ดูแล้วจะกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ แล้วนำน้ำตาที่หลั่งเนื่องจากสาเหตุทั้งสองมาวิเคราะห์หาส่วนประกอบดูความเหมือนและความแตกต่างพบว่าส่วนประกอบที่แตกต่างกันก็คือปริมาณของโปรตีนในน้ำตา น้ำตาที่หลั่งเนื่องจากความรู้สึกสะเทือนอารมณ์จะมีโปรตีนสูงกว่าน้ำตาที่หลั่งเนื่องจากการระคายเคืองตาถึง 24% และเราสามารถสังเกตเห็นได้อย่างชัดเจนก็คือผู้ที่ร้องไห้มากสาเหตุจากสะเทือนอารมณ์มักจะมีสุขภาพทรุดโทรมลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งน่าจะเป็นเพราะร่างกายต้องสูญเสียโปรตีนสูงประกอบกับในภาวะดังกล่าวมักจะมีอาการนอนไม่หลับร่วมด้วยนั่นเอง[/SIZE] [SIZE="5"] จะเห็นได้ว่าน้ำตานั้นมิได้เป็นสิ่งที่ไร้ค่าไร้ประโยชน์เอาเสียเลยทีเดียวและการร้องไห้ก็ไม่น่าจะถือเป็นเรื่องเสียหายอะไรจนจำเป็นต้องใช้ความพยายามในการสะกดกั้นหลีกเลี่ยง ในยามที่มีความทุกข์เราก็ควรจะร้องไห้เพื่อระบายความทุกข์นั้นออกไปเสียบ้างแต่ที่สำคัญต้องไม่ลืมที่จะถนอมรักษาสุขภาพไว้บ้าง เพื่อเก็บแรงเก็บกำลังไว้คิดหาหนทางต่อสู้แก้ไขปัญหาที่มีอยู่ให้ลุล่วงไปโดยเร็วน่าจะถือว่าเป็นสิ่งที่ถูกต้องมากกว่า[/SIZE][/COLOR][/QUOTE]
เข้าสู่ระบบด้วย Facebook
เข้าสู่ระบบด้วย Twitter
เข้าสู่ระบบด้วย Google
ชื่อผู้ใช้งานหรือที่อยู่อีเมล์ของคุณ:
คุณมีบัญชีผู้ใช้หรือไม่?
ไม่มี, สร้างบัญชีผู้ใช้ตอนนี้
มี, รหัสผ่านของฉันคือ:
ลืมรหัสผ่านของคุณ?
อยู่ในระบบตลอดเวลา
RacingWeb.NET | The Racing Cars Community on Web.
ฟอรั่ม
>
RacingWeb Community
>
Variety Forum
>
เวลาเพื่อนๆอกหัก เพื่อนๆทำไงอ่ะครับขอบคุณรับ
>
X
หน้าแรก
หน้าแรก
Quick Links
โพสต์ล่าสุด
กิจกรรมล่าสุด
ผู้เขียน
ฟอรั่ม
ฟอรั่ม
Quick Links
ค้นหาฟอรั่ม
โพสต์ล่าสุด
ประกาศซื้อขาย
ประกาศซื้อขาย
Quick Links
ค้นหาประกาศซื้อขาย
กิจกรรมล่าสุด
ผู้ค้าขายคะแนนสูงสุด
สื่อ/วิดีโอ
สื่อ/วิดีโอ
Quick Links
Search Media
New Media
สมาชิก
สมาชิก
Quick Links
สมาชิกที่โดดเด่น
สมาชิกที่ลงทะเบียน
ผู้ใช้งานในขณะนี้
กิจกรรมล่าสุด
โพสต์ข้อมูลส่วนตัวใหม่
เมนู
ค้นหาเฉพาะชื่อ
โพสต์โดยสมาชิก:
แยกชื่อด้วยเครื่องหมายจุลภาค
ใหม่กว่า:
ค้นหาเฉพาะหัวข้อนี้
ค้นหาเฉพาะฟอรั่มนี้
แสดงผลเป็นหัวข้อ
การค้นหาที่มีประโยชน์
โพสต์ล่าสุด
เพิ่มเติม...