• 
  
  ติดต่อลงโฆษณา [email protected] หรือโทร. 081-811-1138 หรืออ่านรายละเอียดเพิ่มเติม คลิกที่นี่

ชื่อ:

การตรวจสอบ:

กำลังโหลด...

ข้อความ:

<p>[QUOTE=&quot;lucifer@bikeloves.com, post: 368601&quot;]เสียใจด้วยในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ก็ดีใจที่ไม่ได้เป็นอะไรมาก</p><p><br /></p><p>ธรรมชาติของรถยนต์ขับเคลื่อนล้อหน้า คือ น้ำหนักกระจายหน้ามากกว่าหลัง&nbsp; ทำให้เวลาเข้าโค้งมักจะมีอาการหน้าดื้อโค้ง (understeer)&nbsp; ผู้ผลิตจึงมักแก้อาการด้วยการใส่เหล็กกันโคลงหลังมาให้ (เพื่อให้เกิดอาการoversteerเป็นการหักล้าง)&nbsp; อาการที่ไม่พึงประสงค์อย่างหนึ่งของรถขับหน้าคือ เมื่อใดก็ตามที่ท้ายรถเริ่มออกข้าง หรือ เกิดอาการ oversteer แล้วมักจะแก้ไขให้กลับมาตรงทางอย่างเก่าค่อนข้างยาก</p><p><br /></p><p>เพราะรถขับหน้ามีการกระจายน้ำหนักไปที่ล้อหน้ามากกว่าล้อหลังดังที่บอกไว้แล้ว&nbsp; ( ท้ายเบา หนักหนัก )&nbsp; เมื่อร่วมกับการแตะเบรค น้ำหนักจะตกลงมาที่ล้อหน้าเพิ่มขึ้นอีก&nbsp; อาการท้ายเบาจะยิ่งมากขึ้น&nbsp; จุดหมุนจึงมาตกที่ล้อหน้ามากขึ้น ท้ายรถจึงยิ่งเซออกข้าง จนเกิดอาการหมุนท้ายปัด</p><p><br /></p><p>สาเหตุของอุบัติเหตุครั้งนี้ น่าจะประกอบกับสิ่งที่คุณอธิบายไว้แล้ว ได้แก่</p><p>1. ขับรถเร็ว</p><p>2. ความสามารถในการยึดเกาะถนนที่ลดลง : ยางเก่า , สูบลมไว้มากเกินกว่าค่าที่ควร</p><p>3. การกระจายน้ำหนักที่ไม่สมดุลของรถ&nbsp; </p><p>4. เหตุผลสุดท้าย ที่ผมวิเคราะห์&nbsp; คือ จังหวะที่ไม่สมดุล&nbsp;&nbsp; คุณบอกว่าคุณเร่งเครื่องในโค้ง ซึ่งก็ถือว่าเป็นเรื่องปกติสำหรับการขับรถขับหน้าแรงๆในโค้ง คือ ยกคันเร่งก่อน แล้วมาเร่งส่งในโค้งเพื่อรักษาสมดุลย์อาการของรถ&nbsp;&nbsp; เพียงแต่ถนนมันอาจจะลื่น + ยางเก่าและสูบลมแข็ง&nbsp; และรถมันกำลังแถออกข้าง ( understeer นะครับ ) แต่ความรู้สึกของคุณในขณะนั้นอาจจะเข้าใจว่าท้ายมันกำลังปัดไปทางซ้าย ( oversteer ) ( เพราะตัวคุณถูกเหวี่ยงออกไปด้วยตามแรงไถลไปทางซ้ายตามแรงเหวี่ยงของรถ )&nbsp; คุณก็เลยยกคันเร่ง และแตะเบรค ( อันนี้เป็นเรื่องปกติของสัญชาติญาณ )&nbsp; อาการของundersteer ก็จะถูกแทนที่ด้วยอาการของ oversteerทันที&nbsp; คือ เมื่อคุณยกคันเร่ง น้ำหนักจะกลับมาตกที่ล้อหน้า&nbsp; และเมื่อเริ่มกดเบรค น้ำหนักจะมาตกที่ล้อหน้ามากขึ้น&nbsp; แรงส่งให้เข้าโค้งจึงทำกับล้อหลังมากกว่าล้อหน้า&nbsp; ท้ายรถจึงสาดออกไปทางด้านซ้ายเกินกว่าจะแก้กลับมาได้</p><p><br /></p><p>ตัวผมเองเคยเจอเหตุการณ์คล้ายกันกับกรณีนี้มาบ้าง เพียงแต่ไม่ได้รุนแรงถึงขนาดนี้&nbsp; ตอนนั้นผมเองใช้323 GT (รุ่นแรก ) ขับหน้า วางเครื่อง E5 turbo ฝังเข็ม ปรับบูสท์&nbsp; ทำช่วงล่างมาอย่างดี&nbsp; วันนั้นผมก็ขับมาเร็ว ทั้งๆที่รู้ว่าถนนเส้นนั้นค่อนข้างจะลื่น&nbsp; แล้วก็ดันมาเล่นแผลงๆอีก โดยเร่งเครื่องขึ้นไป แล้วหักพวงมาลัย พร้อมๆกับยกคันเร่งอย่างแรง&nbsp;&nbsp; รถก็เกิดอาการว่าท้ายกำลังจะปัดแทบจะทันที ด้วยอาการตกใจก็เลยกดเบรค&nbsp; รถก็เลยท้ายปัดออกไปเลย&nbsp; อาจจะโชคดีที่ความเร็วไม่มากนัก และพอจะตั้งสติทัน จึงยกเท้าออกจากเบรค แล้วสะบัดพวงมาลัยแก้อาการ&nbsp;&nbsp; ความที่สะบัดพวงมาลัยเร็วเกินไป บวกกับถนนค่อนข้างลื่น (&nbsp; แต่ก็ยังโชคดีที่หลุดออกมาเป็นทางตรงแล้ว )&nbsp; กลายเป็นว่าแก้เกิน ท้ายรถเกิดอาการสะบัดปัดซ้าย&nbsp; แก้แล้วกลับมาปัดขวา&nbsp; แก้อีกทีก็กลับมาปัดซ้าย ( ตอนหลังถึงมารู้ว่า เขาเรียกว่าขับดริฟท์)&nbsp;&nbsp; วันนั้นจบด้วยการเอาล้อหลังไปกระแทกกับขอบทางเท้าของสะพาน เพื่อแลกกับการไม่เอาหน้ารถขึ้นไปเสยกับหัวราวสะพาน&nbsp; ขับกลับบ้านด้วยอาการวิ่งท้ายเอียงเหมือนหมา เพราะเหล็กคอม้า(แกนล้อหลัง)คด&nbsp; แต่โชคดีที่รถไม่เป็นอะไรมาก&nbsp; ในกรณีของผมนั้น 323GTมันเป็นรถท้ายตัด ช่วงสั้น ฐานล้อหน้าหลังสั้นกว่าLancerที่คุณใช้อยู่&nbsp;&nbsp; ความเร็วตอนนั้นก็ไม่มากเท่ากับที่คุณประสพณ์ มันก็เลยแก้อาการได้ง่ายกว่า&nbsp; </p><p><br /></p><p>ผมจึงจำฝังใจว่า ทำอย่างไรก็ได้ อย่าให้ท้ายรถปัดออกจากทาง ( oversteer )ก็แล้ว เพราะมันจะเป็นอาการที่แก้ยากที่สุดสำหรับรถขับหน้า&nbsp; </p><p><br /></p><p>แชร์ประสพการณ์ครับ[/QUOTE]</p><p><br /></p>

• เข้าสู่ระบบด้วย Facebook
• เข้าสู่ระบบด้วย Twitter
• เข้าสู่ระบบด้วย Google

ชื่อผู้ใช้งานหรือที่อยู่อีเมล์ของคุณ:

คุณมีบัญชีผู้ใช้หรือไม่?

• ไม่มี, สร้างบัญชีผู้ใช้ตอนนี้
• มี, รหัสผ่านของฉันคือ:
• ลืมรหัสผ่านของคุณ?

อยู่ในระบบตลอดเวลา

• X