พี่โบตั๋นแอบแรงง อิอิ เครื่อง คาบู มันมีสเน่ห์จิงๆครับ เครื่องผมเคยแตะ 9000 ครับ E15s ครั้งเดียวนะครับ ตอนนั้น ห้าว อย่าทำตามนะคร๊าบบ ไม่ดีแน่นอน
ถ้าใจรักทำไปเลยคับ มันคุ้มค่าแน่กับสิ่งที่ไป ได้ฟิลลิ่ง ได้เสียงแบบโหด ได้เติมน้ำมันบ่อยขึ้น เชียร์คับ
จริงๆ มันเกิน 9000 ด้วยแหละ เพราะตอนนั้นพึ่งติดวัดรอบมาไหม่ ( วัดรอบขึ้นตรง ปรกตินะ ) 9000 + ชัว ๆ แต่ไม่รู้เท่าไหร่ เหอๆ ทีเดียว เลิก กลัวพัง
จะบอกว่าอย่างไหนคุ้มกว่ากันระหว่างวางเครื่องใหม่คงตอบยากอ่ะคับ ถ้าเล่นเครื่องเดิม เล่นเว็บเบอร์ ขยายวาล์ว ขยายพอร์ท ขยายไส้หรือไม่ก้อตามแต่ ถ้าทำเหมือนกันกับเครื่อง หัวฉีด ผมว่าเครื่องคาร์บูเดิมถูกกว่าคับ (ลงเครื่องใหม่+ค่าโมอีก) ถ้าทำเต็มกันจริงๆ เครื่องเดิม ยังไงบาล๊านซ์น้ำหนักน่าจะดีกว่า แต่หากเทียบกันแล้วเรื่องการจูนถ้ามองของในเรื่องความละเอียด การจูนด้วยกล่องคอมพิวเตอร์และหัวฉีดน่าจะละเอียดกว่าคับและความละเอียดนี้เองมันได้เปรียบในเรื่อง ของการประหยัดเชื้อเพลิงคับ ส่วนใหญ่แล้วเครื่องคาร์บูมันพ่นทิ้งซะเยอะเหมือนกันคับมันเลยไม่ค่อย ประหยัด ถ้ามันฉีดได้ใกล้พอร์ทเหมือนหัวฉีดก้อคงดี ส่วนเรื่องความแรงผมว่าไม่ต่างกันมากถ้าได้เครื่อง ที่มีพื้นฐานใกล้ๆกัน เช่นทวินแคมเหมือนกัน แต่ถ้ามาใช้ในชีวิตประจำวัน ความจุกจิกกวนใจอาจจะมีให้เห็นมาก กว่าเครื่องหัวฉีดคับ ยังไงผมก้อชอบคาร์บูมากกว่าเพราะอยู่กับมันมาตั้งแต่เด็ก(คือผมเล่นเรือและใช้เรือในการ เดินทางตั้งแต่เด็กๆคับ)เรื่องความแรงยังไงก้อแรงคับ อย่างรถแดร็กแรงๆในอเมริกาการจ่ายน้ำมันน่าจะใกล้ เคียงคาร์บูคับ การปรับแต่งไม่ยุ่งยากเท่าเครื่องหัวฉีดคับ ไม่ต้องใช้โน๊ตบุ๊คจูน ไม่ต้องแรงกันขนาด9000รอบ หรอกคับ แค่7000รอบตอนมีโหลดที่เกียร์5ก้อหาถนนวิ่งยากแล้วคับ มีรุ่นน้องเล่นบีเอ็มเครื่องm40คาร์บูเว็บเบอร์ 45มิลแคมแต่ง310องศา(ทั้ง2อย่างเบิกใหม่ที่วรจักรในราคาที่ไม่น่าเชื่อคับถูกกว่ากล่องf-con sเสียอีก)ปรับไฟ กับน้ำมันดีๆ เครื่องหัวฉีดอย่างsr20deและb16aก้อเคยดมควันมาแล้วคับ จะตอบว่าอย่างไหนดีกว่ากันคงตอบยาก อย่างที่บอกคับ ขึ้นอยู่กับว่าจะเอามา"เล่น"หรือ"ใช้งาน"คับ เพราะยังไงเครื่องหัวฉีดก้อมีของแต่งที่ใช้วัสดุอย่างดี และสำนักแต่งมากมายทำออกมาให้เล่นเยอะกว่าคับ เครื่องk ของโตโยต้า แคมเดี่ยว 8วาล์ว ทำได้7500ตอนมี โหลดก้อทำได้สบายๆคับ แคมอย่าไปพอกหรือเจียร์ให้เสียเวลาคับของtrdมีให้เบิก ลองไปหาร้านที่วรจักรคับ ยิ่งถ้าได้เครื่องพวก2t-g,3t-gที่เป็นแคมคู่ เว็บเบอร์ เปิดฝากระโปรงออกมาผมว่ามีร้องซี๊ดคับ ผมยังว่าจะเก็บตังค์ เล่นเว็บเบอร์กับเครื่อง4e1300 แต่ยังคงภาคจุดระเบิดด้วยกล่องอีซียูไว้แล้วจ่ายด้วยเว็บเบอร์เลยคับ แต่รอให้ เหลือๆกว่านี้ก่อนอิอิ คงเคยดูคลิ๊ปที่ผมลงไว้ นั่นแหละคับเสียงเว็บเบอร์ที่รอบประมาณ6-7พันรอบตอนมีโหลด คับ [media]http://www.youtube.com/watch?v=dE-_LXmHt6E[/media] [media]http://www.youtube.com/watch?v=QqYBbx4dOhg[/media]
ที่บ้านผมมี 12R เหมือนกันครับ แต่อยู่ในม้ากระโดด ยังไม่มีงบไปทำอีกคันด้วย แต่ถ้ามีโอกาส ไม่พลาดแน่ครับ กระทู้นี้ ข้อมูลเยอะดี ดันไปครับ
ตอนนี้ เท่าที่เห็น เครื่อง คาร์บ ที่ แรงๆ ไม่มี เทอร์โบ ก็ เป็น คาร์แมนเกียร์ สีเหลือง วิ่ง รุ่น โปร 4 สูบ n/a เขาใช้เครื่อง 13b โรตารี่ พอร์ท ตรง คาร์บิว webber 48 ida ตั้ง ตัวเดียว มี ชุดไฟ 6a 2ตัว วิ่งดีสุด 11.1 วินาที (คลอง 5 ก่อน ปิดสนาม) และ ที่ เทพนคร ก็วิ่ง 11.1 -11.3 วินาที ไม่มี ไนตรัส ด้วย ใช้รอบ ราวๆ 9000 - 10000 รอบ/นาที ดูเหมือน เครื่อง ไม่มีอะไร โล่งๆ แต่วิ่งดี จัง เจ้าของรถ เขาว่า เคยใส่ กล่องหัวฉีด ชุดไฟ หัวฉีด แล้ว แต่ เขา ว่า ยัง วิ่ง ไม่เท่า คาร์บิว ที่เคยใช้ แต่ ผมว่า ความถนัด ของแต่ละคน ไม่เหมือน กัน เขา ถนัด คาร์บิว มานาน ไปเล่น หัวฉีด แต่ ไม่คุ้นเคย ทำเเล้ว เลย ไม่ถนัด ไม่แรง เท่า ที่ เล่นกับ คาร์บิว ส่วนตัว ผม ที เคย เล่น คาร์บิว มาก็ แรงดี นะครับ แต่ ถ้า เซ็ท ย่าน รอบสูง สัก 6-7 พันรอบ จะ ไหล รถ ออก ตัว สัก 3 พันรอบ ค้างไว้ แล้ว ออกตัว จะ สะอีก ครับ เหมือน มอไซต์ สอง จังหวะ ต้อง ไล่ เบิ้ลๆ คันแร่ง เเล้ว กระแทก ออกตัวเลย จะ ค้าง รอบ ที่ 3 พัน ค้างไว้ คงที่แล้ว ออก คลัซ ไม่ได้ เหมือน รถหัวฉีด รถ คาร์บิว อาจ เซ็ท ได้ ย่านเดียว เช่น เซ็ทรอบสุง ไว้ รอบ ต่ำ อาจ จะ น้ำมัน หนาไป แต่ หากเซ็ท รอบ ต่ำไว้ รอบ สุง อาจน้ำมัน บางไป ไม่พอ และ อยู่ที่ เวนจูรี่ ที่ใช้ ด้วย หาก ใช้ เวน ใหญ่ไป เดิน เบา แทบ ไม่ได้ ต้อง เร่ง ไว้ ไม่งั้น จะ ดับ ใน อดีต ผม ส่วน ตัวที่เคยใข้ ใน ถนน ประจำวัน ทั่วไป ใช้ เวนจูรี่ 37 ม.ม. แต่ เวลาไป แข่ง จะ เซ็ท ที่ เวนจูรี่ 42 ม.ม แต่ ต้องเซ็ทนมหนู น้ำมัน วงจร เร่งใหญ่ ขึ้น ตามไป ด้วย ให้ สัมพันธ์ กับ เวนจูรี่ แต่ หาก ใช้ เวนจูรี่ 42 ประจำวัน ก็ มี ปัญหา มันแรง จริงๆ แต่ เวลา ซัด มา แล้ว รถ ต้องเบรค พอ จะ กด ต่อ อาจเกิด ปัญหา หัวเทียบ บอดได้ และ ส่วน ปัญหา อีกอัน คือ เวลา ขับ ช้า ๆ ขับ สัก 80 กม/ชม ที่ เกียร์ สูงๆ รอบ ต่ำ เวลา คิด จะ กด ไปเลย เวลา เจอ ใคร อยากเล่นด้วย ยาก หน่อย ต้องไล่ คาร์บิว หน่อย อาจจะ ลดเกียร์ ลง มา ด้วย จะ กด เลย ทันที ทันใด อาจ ขึ้น ช้า อย่างที บอก อยู่ที่ ขนาด เวนจูรี่ ที่ใช้ด้วย บางครั้ง อยากได้ ต้น เลย ไป ลด เวนจูรี่ ที่ไหน ได้ ลด มาแล้วกลับ หายไป ทั้ง ต้น และ ปลาย เลย 555 ลองดู ครับ ก็สนุก ดี อีกอย่าง นมหนู พวกนี้ ซื้อ มาแล้วเปลี่ยนไม่ได้ หาก เปลี่ยน ได้ ที่ร้าน คง เจ๊ง ก็ ลอง แล้ว ไม่เหมาะ ก็เปลี่ยนไป เล่น อีก ตัว ที่ร้าน เลย ไม่ให้ เปลี่ยน หากซื้อไป แล้ว ขาย ขาด ครับ ก็ มี ทางออก อีก มี ชุด เซ็ท เจาะนมหนู ให้ ใหญ่ ขึ้น แต่ ต้อง แยก ดีๆ ไม่งั้น เฮ้ย ไม เบอร์ เล็ก ๆ ใส่ ดัน หนาฉฺบ หายว่ะ บางที งง + ลืม เอา ตัวเล็ก ไป เจาะ แล้ว ใส่ รวม กับ เบอร์ อื่นๆ เลย ต้อง แยก เลย อันนี้ ทะลวง ขยาย ขนาด มาแล้ว 555 คิด ถึงเมื่อก่อน ก็สนุกดี ครับ อ้อ ลืม บอก ไป เมื่อก่อน ผม ใช้ คาร์บิว 48 ida เครื่อง 12a โรตารี่ ครับ
เอา ผล เวลา มาให้ ชม ว่า n/a เครื่อง คาร์บิว ใช้ เบนซิน 95 (ไม่ใช่โซฮอลล์) ไม่ มี ไนตรัส ก็ แรงได้ เวลา ดี ด้วย แล้วครับ SUPER DRAG PRO 4 NA 1. วรวิทย์ วีระบุตร WAXY-DOBUG 11.322 2. อำพล พรหมช่วย WAXY-DOBUG 12.014 3. สาโรจน์ เอื้อพงษ์พันธ์ POWER BY YO 13.84 ที่ มา ของ เวลา จาก http://www.tepnakorn.net/index.php?o...&id=2&Itemid=2 คันที่ได้ 11.32 วินาที et วิ่งได้ 11.1 วินาที แล้ว ครับ น้ำมัน เบนซิน 95 ไม่ ใช้ เครื่อง คาร์บิว webber 48 idaออกเทน ไม่มี ไนตรัส อยากเห็น คน ทำ n/a pro4 วิ่งได้ เลข 10 วินาที ใกล้จะได้เห็นกันแล้ว
ความคิดของผมนะครับ เครื่องคาร์บูโมก็เหมือนทำเครื่อง Na โมอ่ะครับ เพิ่มกำลังอัด หาลูกสูบนูน ลดปะเก็น ปาดฝาทำนองเนี่ยแหละ ส่วนที่เหลือก็เรื่องจูน น้ำมันถึง ไฟถึง ก็วิ่งกันและ เครื่องเก่าๆ บางเครื่องที่เขาเล่นกันอยู่ของแต่งแพงมากๆ ขนาดซื้อเครื่องหัวฉีดมาใช้ได้หลายตัวเลยครับ ไม่ใช่ว่าของแต่งเครื่องคาร์บูจะถูกเสมอไปนะ คราวนี้มาดูการจูน เนื่องจากการเซ็ทนมหนูต้องอาศัยความรู้ประสบการณ์ความชำนาญ ไม่ใช่ง่ายหรอกครับ ไม่เหมือนหัวฉีด หากล่องแต่งจูนได้ ก็เล่นได้ง่ายกว่าครับ ที่สำคัยหัวฉีดก็ไม่แพง กล่องเดี๋ยวนี้ก็ถูก ออกมาความเนียนของกราฟแรงม้าที่ได้ยังไงผมมั่นใจว่าหัวฉีดคนจูนเก่งๆทำได้เนียนกว่าคาร์บูที่คนจูนเก่งเหมือนกัน เพราะหัวฉีดมันปรับค่ากันเป็นรอบๆยิ่งกล่องละเอียด ยิ่งล่อกันทุก 50 รอบเลยก็มี และยังสามารถปรับไฟ ได้อีกด้วย ในขณะที่คาร์บู ต้องปรับน้ำมันก่อน และยังมีไฟที่ต้องทำตามเพื่อให้ได้สมรรถนะที่ดี จะใช้หน้าทองขาวเดิม เวลาสึกต้องมานั่งตั้งหน้าทองขาวบ่อยๆ คนธรรมดาคงไม่ชินครับ ในขณะที่หัวฉีดทำทีเดียว ว่ากันไป เอกลักษณ์ของคาร์บู คือถมน้ำมันเข้าไป หาระบบไฟดีๆเพื่อให้เผาไหม้ได้หมดเท่าที่จะทำได้ สมัยนี้กล่องๆไฟดีๆก็สามารถคุมได้เป็นรอบเครื่องเลย ก็มาจบที่ระบบกล่องคุมอยู่ดี ในรถแข่ง Drag เขาไม่ต้องการความละเอียดมาก เพราะใช้รอบสูง และรอบกวาดเร็วมาก การเซ็ทคาร์บู ที่มีกำลังการจ่ายน้ำมันได้มากกว่า หัวฉีดที่ต้องไปตาม ขนาดหัว ไม่สำคัญและ เพราะยังไงก็ถมน้ำมันเข้าไปอยู่ดี ไม่กลัวเปลือง แต่สังเกตุไหมระบบไฟใช้กันอย่างดีเต็มๆ ส่วนมากก็ใช้กล่องคุมอยู่ดีครับ ดังนั้น หากใช้ทุกวัน ในชีวิตประจำวัน ผมแนะนำให้ใช้หัวฉีดที่กว่า ประหยัดกว่า ดูแลง่ายกว่า แต่หากเน้นขับนานๆที ก็แล้วแต่ ถ้าโมกันเป็นพันม้า จะคาร์บูเครื่องใหญ่ น่าจะดีกว่า แต่ถ้าวิ่งเซอร์กิต เครื่องหัวฉีดจะคุ้มกว่า เพราะไม่ต้องสำรองน้ำมันเยอะ เครื่องจูนได้กลังตามสนามได้ง่ายกว่ามานั่งปรับนมหนูที่ต้องใช้เวลากว่า แถมหัวฉีดทได้ละเอียดกว่าในการเรียกรอบตามจังหวะของสนาม ผมเคยเล่นเครื่องรถเต่า แต่งคาร์บูอัดเทอร์โบ วิ่งดีครับ แต่ไงก็ซดกดคันเร่งลงไปที น้ำมันกระดิกร่วงแบบเห็นๆเลย ยิ่งภาวะน้ำมันแพงแบบนี้ เลือกสิ่งที่เหมาะกับตัวเองดีกว่าครับ
ไม่ได้เป็นช่างนะครับ แต่เล่น Weber อยู่ (นานแล้ว) มีปัญหาอะไร ปรึกษาได้ครับ เสาร์-อาทิตย์ อยู่แถวๆ นั้นแหละ