D.I.Y. แอร์รถยนต์ด้วยตนเองคับ (ใครรถติดไฟแดงนานๆแล้วแอร์ไม่เย็น เข้ามาคับ)

น่าจะเป็นเสียงลูกปืนคอมแอร์นะครับ จารบีมันแห้งหมดก็ดังครับ

 

ลืมตอบคำถามนี้ครับ
ให้พัดลมทำงานพร้อมคอมแอร์เลยครับ รับรองรถติดยังไงก็เย็นสบายแน่นอนครับ

 

ขอบคุณๆ enforce มากๆครับ
ถามต่ออีกหน่อยครับ
ผมเคยลองถามช่างดูแล้วอ่ะครับเรื่องเสียงดังวีดดดๆจากคอมแอร์เนี่ยเค้าว่าถ้าลูกปืนดังมันควรจะดัง
ตลอดเวลาถึงจะ ปิด a/c แล้วอ่ะครับแต่กรณีของผมมันดังตอน เปิด A/c ผมเลยไม่ชัวร์ว่ามันเป็นอะไรกันแน่อ่ะครับแล้วถ้าลูกปืนคอมแอร์เสียนี่ค่าเปลี่ยนประมาณเท่าไหร่แล้วต้อง แว็กน้ำยาแอร์ใหม่มั๊ยครับ

 

อันที่ช่างเขาบอกนั้น มันเป็นเสียง ลูกปืนของตัวลูกรอกแล้วมั่งครับ

ส่วนเคทรของคุณนั้นผมว่าเป็นที่ลูกปืนคอมแอร์ครับ เพราะถ้าปิด a/c คอมแอร์จะไม่ทำงาน
ลูกปืนก็จะไม่ดังครับ ถ้าเปิด a/c คอมแอร์ทำงาน หน้าคลัสจับกันทำให้คอมทำงาน ยังไงก็ดังครับ

 

ลืมตอบอีกแล้ว

ลูกปืนคอมลูกละ 200 +- นิดหน่อยครับ
ค่าเปลี่ยนน่าจะอยู่ประมาณ 500 + นะครับ ไม่น่าจะเกิน 1000 บาทครับ

ขึ้นอยู่ว่าการถอดของหน้าคลัสคอมมันยากหรือเปล่า เนื้อที่มันเยอะหรือเปล่าตรงคอมแอร์อะครับ
แต่ถ้าเนื้อที่ไม่พอในการถอดนั้น ก็ต้องปล่อยน้ำยาแอร์ออก แล้วถอดคอมแอร์ออกจากตัวรถ
นำมาทำข้างนอกครับ

 

เพิ่งซ่อมลูกปืนคอมแอร์ไปเมื่อเดือนที่แล้วเหมือนกัน อาการลูกปืนคอมของผม มันจะดังตลอดเวลาเลยครับ (เหมือนที่ช่างบอก)
แต่อาการของคุณกลุ้มจายยยย ถ้าปิด a/c แล้วเงียบ กลัวว่าจะเป็นภายในตัวคอมแอร์ซะแล้วครับ

ตอนผมเปลี่ยนลูกปืน หาลูกปืนของใหม่ไม่ได้เลย (รถวางเครื่องมา)
สุดท้ายก็เลยไปร้านขาย/ซ่อมคอมแอร์ที่เซียงกงบางนา เขาแกะมาจากคอมมือสองให้ และรับประกัน 7 วัน
ค่าเสียหายทั้งหมด 30,000 สตางค์ เพราะค่าแรงถอดคอม+ค่าแว็ค+เติมน้ำมันคอม+เติมน้ำยาแอร์ ผมทำเองทั้งหมด

ลืมบอกไปว่าถ้ารถคุณกลุ้มจายสามารถถอดมูเล่ย์แอร์ได้โดยไม่ต้องถอดคอมแอร์จากเครื่องยนต์
ก็ไม่ต้องเสียค่าแว็ค+เติมน้ำยาแอร์ใหม่ครับ ค่าแรงบวกค่าลูกปืนใหม่ไม่น่าเกิน 1000 บาทครับ (อย่างแพงเลยนะเนี่ย)

 

ร้านที่ผมไปทำอยู่ตรงข้าม ABAC เลยครับ นั่งรอเพลินเลยอ่าครับ แหล่มๆท้างน้าน อิอิอิ

 

แนะนำติดพัดลมหน้าแผงคอล์ยร้อนแอร์อีกตัวนึง จะช่วยได้มาก (แต่อย่าลืมล้างแผงให้สะอาดก่อนนะครับ)
ผมเคยซื้อของโตโยต้า AE110 แบบ 10 นิ้ว 11 ใบพัดหรือของมิตซูอีคาร์แบบ 2 สปีดมาใช้
ราคาเซียงกงแบบสวย ๆ ต้องขยันหาหน่อย ได้มาตัวละไม่ถึง 500 บาท เสร็จแล้วไปซื้อรีเลย์กับฟิวส์กระบอกมาเดินไฟเอง
พอทำเสร็จแล้ว แอร์เย็นขึ้นเยอะเลยครับ

ถ้าให้ช่างทำ ใช้พัดลมแบบแบนของใหม่ ราคารวมติดตั้งไม่ควรเกิน 1000 บาทครับ

 

อย่างนี้แอร์เสียบ่อยๆคงชอบล่ะสิ ร้านซ่อมวิวดีซะขนาดนั้น อิจฉาง่ะ

 

พี่ยุทธธธธธ จะไปอิจฉาเด็กๆ ทำไมคร้าบบพี่

 

ไอ้ต้าผมไม่เรื่องมากครับ ไขน๊อตถ่ายใต้ท้องมาตลอด ไม่เคยดูด ถ่ายออกทีเกือบ 4 ลิตรก็พอใช้ได้ แถมช่างที่ call center ของ toyota บอกใช้ได้ทั้ง dexron II, III อีกด้วย มันกินง่าย อยู่ง่ายจริงๆ แต่ผมนิยม D II เพราะมันถูกกว่า ลิตรละ 135 เอง เห็นบางคนเข้าไปถามใน pantip.com เรื่องจะล้างเกียร์ทีละหลายพัน คุ้มไหม ผมว่าไม่คุ้มนะ เสียดายตังแทนเลย

ไอ้ Renault นี่มันเรื่องมากจังเรื่องถ่ายน้ำมันเกียร์ ฝรั่งทำไมมันออกแบบมางุ่นวายขนาดนั้น แค่น๊อตถ่ายน้ำมันก้นแคร้งตัวเดียวมันจะยากขนาดไหนเชียว ไม่ใช่ renault ยี่ห้อเดียวนะครับ รถยุโรปบางยี่ห้อก็เป็นแบบนี้เหมือนกัน ใครรู้ช่วยบอกด้วยครับว่าทำไมฝรั่งทำแบบนี้

 

พี่ยุทธ ครับถ้าฝรั่งมันไม่ทำอย่างนั้นรถก็ไม่เข้าศูนย์ซ่อมสิครับ คนก็ทำเองกันหมด
เหมือนกะรถ BMW ครับ ถ้าไฟมันเตือนต้องเข้าศูนย์ ถ้าไม่เข้ารถมันจะค่อยๆ ออกอาการ ต๊องๆ ครับ
BENZ ถ้ายังไม่ถ่ายน้ำมันเครื่องตามกำหนด มันจะไม่ ต๊องเท่า BMW ครับ
BMW เหมือนมันตั้งไว้เลยว่า ถ้าไม่เข้าศูนย์ เครื่องจะสะดุจ หรือเหยียบคันเร่งแล้วจะออกตัวไม่ค่อยดี

ฝรั่งมันเหมือนหลอกคนทั่วโลกครับ เพราะอย่างรถรุ่นใหม่ ระบบแอร์จะไม่มี ตาแมวให้ดูปริมาณน้ำยาแอร์
จะต้องบรรจุเข้าไปตามจำนวนที่เขียนไว้ที่รถ แล้วถามว่าถ้าร้านทั่วไปไม่มีเครื่องเติมน้ำยาแอร์แบบ
ชั่งกิโลกรัม ก็ไม่สามารถเติมน้ำยาแอร์กะรถพวกนี้ได้ครับ ต้องเข้าศูนย์อย่างเดียว

 

สวัสดีครับ พอดีผมพึ่งมาได้อ่านหน้านี้ ตอนนี้ผมก็กำลังมีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องแอร์พอดี รถโตโยต้า corona st191 ปี 93 เครื่อง 3sfe 2000 cc. ครับ มันก็เก่าแล้วนะครับ มีปัญหาเรื่องแอร์เย็นไม่ฉ่ำ ได้ทำการแก้ไขปัญหาดังนี้ครับ
1. ทางร้านได้ทำการแก้ไขหลายครั้งนะครับ แต่จะไม่เล่าในรายละเอียด สรุปท้ายสุดก็คือ
ได้ทำการเปลี่ยน
- คอมของมือสอง
- แผงคอนเดนเซอร์
- คอล์ยเย็น
- ดายเออร์
- หัวฉีด
2. หลังจากท้ายสุดที่ได้เปลี่ยนทั้งระบบ เพราะเนื่องจากได้ทำการล้างระบบแล้วปรากฏว่ามีคราบสกปรกสีดำออกมาเป็นจำนวนมาก เขาบอกว่าล้างไม่หมด ให้เปลี่ยนใหม่ดีกว่า ก็ว่าไปตามนั้น
3. หลังจากทำการเติมน้ำยาใส่เข้าไป ก็ปรากฏว่า มันก็ยังไม่ฉ่ำ มันเย็นแบบชืดๆนะครับ ตรวจเช็คเกจ Hi lo ก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ คอมก็น่าจะโอเค ระบบก็ใหม่ทั้งหมด ที่ผมสังเกตุได้ก็คือ ทางท่อทางด้าน lo ที่ออกมาจากตู้ มันเย็นเจี๊ยบเลยนะครับ น้ำนี่หยดติ๋งๆเลย เคยทำแอร์มาก็หลายหนมันยังไม่เคยเห็นว่ามีน้ำเกาะที่ท่อแอร์ขนาดนี้ ที่จริงนะถ้าท่อมันเย็นขนาดนี้ มันก็น่าจะเย็นใช่ไหมครับ รถที่บ้านอีกคัน เป็น sunny ก็มีน้ำเกาะแบบนี้ แอร์มันเย็นเจี๊ยบเลย
4. หลังจากทำไปทำมา ทางช่างมันก็บอกว่ามันทำได้แค่นี้แหละ ไอ้ผมก็ไม่อยากว่าเขานะ เพราะว่าเขาก็พยายามทำให้ทุกอย่างแล้ว (ร้านน่าจะเจ๊งกับเคสของผม เพราะต้องเปลี่ยน dryer และ หัวฉีด ให้ผมสองครั้ง และแว๊คเติมน้ำยาอีก 3 หน เพราะค่อยๆเปลี่ยนไปทีละตัว) แต่ก็ดีกว่าร้านก่อนหน้านี้มันทำให้ผม สามพันกว่า ใช้ได้เดือนเดียว น้ำยารั่วเหมือนเดิมเพราะมันไม่เช็คให้ทุกจุด
5. ตอนนี้ผมก็เลยมานั่งคิดดูหาสาเหตุว่าทำไมมันยังไม่เย็นฟะ เปลี่ยนหมดทุกอย่างแล้วนะนี่ คิดไปคิดมา ก็นึกได้ว่าไอ้รถรุ่นผมนี่มันมีคอยล์ทำความร้อนด้วยนี่หว่า (มันเป็นท้ายโด่งรุ่นแรกนะครับ) ไอ้เพื่อนผมมันก็บอกว่า มันมีความเป็นไปได้เหมือนกันว่าไอ้ความร้อนที่มันมาจากตัวเจ้าฮีตเตอร์มันอาจจะหลุดรอดเข้ามาในระบบความเย็น มันว่ามันจะมีตัวกั้นอยู่ระหว่างลมร้อนกับลมเย็น ถ้าเวลาเราปรับให้อุณหภูมิสูงขึ้น ระบบมันจะใช้ความร้อนมาจากฮีตเตอร์มาผสม เหมือนกับพวกรถยุโรป ถ้าตัวกั้นมันมีรอยรั่วมันก็ทำให้แอร์มันไม่เย็นมากเพราะมีลมร้อนมาผสม
ว่ากันยาวยืดเลยครับ ขออภัยด้วย สรุปก็คือว่ามันมีความเป็นไปได้หรือเปล่าครับ อย่างที่เพื่อนผมว่าว่าลมร้อนมันเล็ดรอดเข้ามาแอร์เลยไม่เย็นเท่าที่ควร มันแนะนำให้ผมตัดระบบน้ำร้อนนี้ออกไปซะ เพราะบ้านเรามันไม่ได้ใช้อยู่แล้ว (ถ้ามองจากหน้าเครื่องช่างมันยังบอกเลยว่าถ้าเห็นน้ำเกาะท่อหยดติ๋งๆอย่างนี้ข้างในมันต้องเย็นฉ่ำสุดๆเลย ซึ่งผมก็ว่าน่าจะเป็นแบบนั้น เหมือนกับแอร์ตามบ้านเลย น้ำเกาะท่อหยดติ๋งๆ)
จริงแล้วก็จะลองทำดู แต่พอดีตอนนี้ทำงานอยู่ ไม่ได้อยู่ที่รถ เห็นกระทู้ที่มีประโยชน์นี้ เผื่อพี่ๆท่านผู้รู้และเคยทำรถรุ่นนี้มาแล้วจะได้แนะนำแนวทางการแก้ปัญหาที่ถูกต้องและเหมาะสมนะครับ เพราะผมหมดไปเยอะแล้วครับ
ขอบพระคุณมากครับ ที่กรุณาอ่าน และขอบพระคุณล่วงหน้าสำหรับข้อแนะนำครับ

 

ผมขอตอบเลยนะครับ
- ที่บอกว่าล้างระบบแล้วมันมีคราบดำๆ ออกมาไม่หมดซะที นั้นเกิดจาด น้ำยาที่เอามาล้างระบบนั้น
มันเป็น โซเวน พวกนี้มันจะกดท่อยางต่างๆ (กลับไปดูกระทู้หน้าแรกๆ ละกันนะครับ ผมมีทดลองให้ดู)
- ที่เย็นไม่ ฉ่ำ นั้น อาจจะเป็น เพราะคลอย์เย็น เป็นของเทียม (ผมก็มีเขียนอธิบายไว้แล้ว มีรูปให้ดูด้วย
ว่าของเทียม มันแตกต่างจากของแท้ยังไงครับ)
- ส่วนเรื่อง ฮีดเตอร์จะ(น้ำร้อนจากหม้อน้ำ) มันจะลอดเข้ามาก็ไม่แน่ครับ ต้องลองเอาสายฮีดเตอร์ 2 เส้น
ออกดูก่อนครับ แต่รถ toyota ผมก็มี ฮีดเตอร์ เหมือนกันครับ ผมไม่เคยเจอปัญหานี้นะครับ
- แล้วเกร์ด้าน Hi Lo มันขึ้นอยู่ที่เท่าไรมั่งครับ

ยังไงก็ลองถอดดูก่อนครับ ว่ามันใช่หรือเปล่า แล้วกลับมาบอกกันด้วยนะครับ

 

1. เขาใช้เป็นน้ำใสๆ ลักษณะเหมือนเป็นแอลกอฮอล์นะครับ มันระเหยเร็วมาก แล้วที่ล้างๆไป อุปกรณ์ทุกตัวก็เปลี่ยนหมดแล้ว คือเป็นของใหม่ทุกตัวแล้วยกเว้นคอมเป็นของมือสอง
2.ตอนที่เช็คแรงดัน ผมจำตัวเลขไม่ได้แต่ช่างเขาก็บอกว่าใช้ได้ (ลองเปลี่ยนคอมสองลูกแล้ว)
3.ตู้ที่เปลี่ยนเป็นของอะไรก็ไม่รู้ แต่ไม่ใช่เดนโซแน่นอน แต่ที่ชัวร์คือไม่ใช่ของฟอร์มูล่า ราคาเกือบๆ สามพัน ลูกเก่าผมก็ใช้ยี่ห้อนี้แต่มันก็เย็นใช้ได้ ไม่ห่วยแตกอย่างนี้ ตู้แท้เมื่อก่อนผมก็เคยเปลี่ยน ก็เย็นกว่านิดหน่อยไม่มากมาย
4.หัวฉีดเปลี่ยนของ denso ใหม่เลย
สรุปคือ ผมว่าระบบของรถมันน่าจะสะอาดแล้วนะครับ ผมเห็นเขาเอาน้ำมาราดแผงคอนเดนเซอร์ มันก็ไม่เย็นขึ้น แต่ผมมาข้องใจตรงที่ท่อ low มันเย็นมากๆ มีน้ำเกาะนะครับ เพราะจากประสบการณ์ที่เคยเห็น ถ้าท่อนี้มันเย็นแอร์มันก็น่าจะเย็นด้วย
ที่ผมสงสัยเรื่องลมร้อนเข้า ก็เพราะว่าไอ้ร้านก่อนที่มันซ่อมให้ผม มันประกอบงานกลับไม่ได้เรื่อง ฝารับลมเข้าออกก็ไม่ทำงาน แถมไม่เย็นอีก มาเจ้านี้เขาทำกลับมาเหมือนเดิมแล้ว กลัวว่าไม่รู้ว่าไอ้เจ้าแรกมันทำไม่ดีหรือเปล่า
เดี๋ยวไว้รอกลับบ้านก่อน ค่อยไปลองๆทำดูครับ
ถ้าได้ผลยังไงจะแจ้งให้ทราบครับ
ขอบพระคุณครับ

 

ผมขอตอบต่อเลยครับ
- ไอ้นั้นแหละครับ โซเวน มันกัดสายยางครับ
- ที่บอกว่าเกร์มันขึ้นใช้ได้นั้น ผมอย่างรู้ครับ ว่าใช้ได้นั้นมันขึ้นเท่าไรครับ (ถ้ามีโอกาศลองดูให้หน่อยครับ)
- รถติดแอร์ยังเย็นอยู่หรือเปล่าครับ
- หรือหาตัววัดอุณหภูมิมา แขวนหน้าช่องแอร์ดูครับว่า อุณหภูมิมันขึ้นเท่าไร
- ตัวเทอร์โม ปรับมาสุดหรือยังครับ ยังไงลองดูละกันนะครับ

 

ไหนๆก็ติดใจตรงฮีตเตอร์แล้ว ลองถอดสายท่อน้ำของฮีตเตอร์ออกสิครับ ไม่ก็ลองเชคอุณหภูมิอากาศก่อนเข้าฮีตเตอร์ และก่อนเข้าอีวาโปเรเตอร์ เทียบกันดูว่าอุณหภูมิที่ผ่านฮีตเตอร์มีอุณหภูมิเท่าไหร่ เพิ่มขึ้นหรือไม่ ถ้าเพิ่มก็คงฮีตเตอร์มีน้ำร้อนเข้าไปวนครับ

 

ขอบพระคุณมากครับ สำหรับทุกๆข้อแนะนำ พอดีผมทำงานอยู่อีกที่นะครับ ยังไม่ได้มีโอกาสกลับบ้าน
ไว้กลับไปแล้วจะลองทำและเก็บข้อมูลมาแจ้งให้ทราบ ถึงความก้าวหน้าในการแก้ปัญหานะครับ

 

ลอเช็คอุณหภูมิหน้าแอร์ก่อน แล้วก็ทำอย่างที่น้องหนิงบอก แล้วก็เช็คอุณหภูมิหน้าแอร์อีกครั้ง
ว่าอุณหภูมิ มันแตกต่างกันหรือเปล่าครับ

แล้วกลับมาบอกกันด้วยนะครับ จะได้เป็นวิทยาทานให้กับคุนอื่นๆ ต่อครับ

 

พี่เตอร์ครับ ผมที่จะขอซื้อน้ำยา cold12 ที่อยู่จังหวัดพิษณุโลก จะให้พี่ส่งให้นะครับ ว่าจะโอนเงินไปให้ก็ยังไม่ว่างสักทีมัวแต่ขับแบบแอร์ไม่ค่อยเย็นไปทั้งวี่ทั้งวัน วันนี้ผมขออนุญาติแอบไปดูเว็ปของบริษัทพี่เตอร์มาว่ามีอะไรขายมั่งขอเอามาฝากเพื่อน ๆ ว่าง ๆ เข้าไปดูได้นะครับ มีสเป็กของน้ำยาด้วย แต่ผมดูแล้วไม่ค่อยเข้าใจ Cold12 กระป๋องหนึ่งมันมีความจุ 100 G. พี่เตอร์บอกว่ารถคันหนึ่งใช้ประมาณ 2 กระป๋อง มันจะพอเหรอครับ ว่าจะสั่งสัก 4 กระป๋อง เพราะปกติผมใช้ R12 เกือบ 1000 G. เลยนะครับ ผมอยู่ต่างจังหวัดการจัดส่งลำบากผมกลัวมันไม่พอ พอดีดีเห็นในเว็ปมีขาย Cold12 แบบถังใหญ่ ๆ ด้วย เด๋วเงินเดือนออกผมว่าจะสั่งถังใหญ่ทีเดียวเลยดีกว่ามั่งเนี้ยเพราะที่บ้านมีอยู่ทั้งหมด 5 คันมีอยู่คันเดียวที่ใช้ R134a ที่เหลือ R12 หมด และก็มีแอร์เย็นแค่คันที่ใช้ R134a อยู่คันเดียว คันอื่น ๆ แค่พออยู่ได้ และอีกอย่าง กระป๋อง 100 G. ถ้าใช้ไม่หมดเก็บไว้ไม่ได้ใช่ป่ะครับเพราะผมเห็นมันเป็นแบบเจาะเอา ไม่เคยใช้แบบนั้นเลย รบกวนขอความรู้หน่อยนะครับ

 

ลืมเอาเว็ปที่ผมเข้าไปศึกษามาให้เพื่อน ๆ ดูครับ http://www.coolmangroup.com/coolman...11&PHPSESSID=4e6973333fda465bbfb6cad4a68ee006

 

ตอบเลยนะครับ
- ในภาพนั้นป็นขนาด 100 G อันนั้นจะเอาไว้ส่งประเทศญี่ปุ่นครับ ถ้าเป็นของที่ขายในประเทศจะเป็นขนาด 200 G ครับ honda Jazz ใช้แค่ 1 กระป๋อง 200G ก็เต็มพอดีเลยครับ
- ที่เป็นขนาด 200 G จะมีหัวเติมอยู่ครับ ไม่ต้องเจาะกระป๋องครับ เหลือสามารถเก็บไว้ได้ครับ
หรือลองดูกระทู้หน้าเก่าๆ ดูครับจะมีภาพแบบ 200G อยู่ครับ

ถ้ายังไงก็ mail มาหาผมละกันครับว่าจะให้ส่งไปที่ไหนครับ

 

พี่เตอร์ครับ ที่ผมเคยถามพี่เรื่องน้ำท่วม Brower สาเหตุ เจอแล้วครับ มันตันนั่นเอง
เลยไปจัดการล้าง เรียบร้อยครับ
แต่มีเรื่องจะรบกวนถาม
คือผมชนอะครับ ตรงวาล์วที่มีฝา ปิดนะครับ ฝาพลาสติกสีฟ้าๆ ที่เสียบสาชาร์จ น้ำยาอะครับ
ผมลองเปิดดู ทำไมมัดัง ฟี๊ด เหมือนมันมีแรงดันพุงออกมานิดนึงอะครับอะครับ หรือว่ามันซึมออกมาได้ครับ

มันปกติมั๊ยครับ

 

นานมากๆๆ เลยครับ ผมก็ว่าหายไปไหนว้า

ตอบเลยนะครับ
- ถ้าขันฝาพลาสติกออกมาแล้วมันมีลมออกมาแสดงว่า รั่วซึมคับ จิงๆ แล้วถ้าขันฝาพลาสติกสีฟ้าๆ นั้นออกมาจะต้องไม่มีน้ำยาแอร์ออกมาครับ จะต้องมีข้อต่อสำหรับเติมน้ำยาแอร์ R134a เท่านั้นครับ มันจะเป็นเหมือนเข็ม อะครับเพื่อไปแหย่ล รูนั้นให้น้ำยาแอร์ออกมาครับ
แต่สามารถขันปิดได้ครับมันเป็นเกลียวอยู่มั่งครับถ้าจำไม่ผิดครับ

ลองเอาน้ำผสมแฟ้บแล้วทาจุดนั้นดูว่ามีลมออกมาหรือเปบ่า ถ้าไม่มีก็แสดงว่าไม่รั่วครับ

 

อะครับขอบคุณครับผม เดี๋ยวลองขันดูครับ

 

มีข้อน่าคิดนะที่คุณถามมาเกี่ยวกับปัญหากรณีของคุณทั้งหมด มีข้อน่าสังเกตว่าแล้วก่อนนั้นทำไมมันทำงานได้ปรกติล่ะ อยู่มาได้ตั้งหลายเดือนไม่ใช่หรอครับ ผมคิดว่าปัญหาที่เกิดนี้น่าจะอยู่ภายในนั่นล่ะ ควรหาให้เจอ(โดยเฉพาะทำไมเกจถึงขึ้นสูงปรี๊ดจนคอมตัด แต่ทางโลแค่๔๐เอง น่าจะมีปัญหาอยู่ที่ด้านสูงเช็คดีๆเจอแน่) ไม่งั้นจะกลายเป็นระเบิดเวลาแล้วก็เสียเงินก้อนโตในอนาคตได้ครับ(ผมเคยเสียค่าโง่ต้องเปลี่ยนคอมแอร์ทั้งลูกมาแล้วครับ) แค่ถามกลับคำเดียวว่า หากเติมน้ำยาแอร์มากไปดังที่ช่างว่ามา แล้วทำไมก่อนนั้นทำไมมันไม่ตัดล่ะทำงานปรกติรับใช้คุณอยู่ตั้งหลายเดือนไม่ใช้หรอครับ ผมว่าไม่น่าใช่ที่ว่าเติมน้ำยามากไป หากเป็นเช่นนั้นจริงมันจะไม่เย็นหรือเย็นไม่เต็มที่ตั้งแต่แรกแล้วครับ คุณตอบคำถามนี้หรือให้ช่างที่บอกคุณตอบคำถามนี้ให้ได้ก่อน การถ่ายน้ำยาออกมาเป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเท่านั้นครับ มิได้แก้ที่ต้นเหตุแน่นอน ผมเชื่อว่าน่าจะเป็นเช่นนั้นครับ แต่ยังไงก็ขอแสดงความยินดีด้วยครับที่แก้ปัญหาได้ในระดับหนึ่ง

 

อ้าว มีคำถามอีกหรอลืมดู ก่อนที่จะติดพัดลมหน้าคอยล์ร้อน ผมว่าเราควรย้อนกลับไปดูวันเก่าๆที่เราใช้นั้นว่าเป็นเช่นไร หมายความว่า หากก่อนหน้านั้นหากมันยังปรกติอยู่ คุณก็ไม่มีปัญหาเรื่องติดไฟแดงแล้วแอร์ไม่เย็นอย่างนี้เป็นต้นหรือไม่ สิ่งที่ควรทำก็คือ พยายามหาจุดเสียที่มันทำให้ความเย็นลดลงไปให้เจอเสียก่อน แล้วก็ทำการแก้ไขตรงนั้นให้มันกลับมาเย็นดังเดิมเสียก่อน น่าจะดีกว่าการคาดคะเนว่าน่าจะทำอย่างนั้นอย่างนี้ เด๋วกลายเป็นว่างบบานปลายไป สุดท้ายก็ต้องกลับมาแก้ที่จุดเดิมอยู่ดี ส่วนติดพัดลมที่ว่าราคา ๑๔๐๐ บาท ก็น่าจะเป็นราคาบวกค่าแรงค่าติดตั้งแล้วครับ น่าจะเป็นของใหม่ ถูกแพงแล้วแต่ร้านครับอันนี้ไม่ขอออกความเห็น แต่ผมซื้อได้ในราคาของใหม่แกะกล่องขนาด๑๐นิ้ว ๖๕๐ บาทครับ แต่เรามาติดตั้งเอง ซึ่งก็ต้องมีค่าสายไฟ รีเลย์กระป๋อง(อย่างดี) เฉพาะค่าอุปกรณ์ก็เฉียดพันแระ

การเพิ่มพัดลมเข้าไป ก็ไม่ต่างกับการอั๊พเกรดมันให้ประสิทธิภาพสูงขึ้น เจ้าจินนี่ของผมเดิมติมฟิมล์ใส แดดเปรี้ยงๆก็สู้ได้สบายครับตอนยังกิ๊กๆอยู่ วันนี้อายุมันก็กว่าสิบปีแล้ว ผมติดฟิมล์กันร้อน(ทึบ) แล้วก็ทำแอร์เองทั้งคันมาหลายปีแล้ว ได้ติดพัดลมไฟฟ้าหน้าคอยล์ร้อนเพิ่มเข้าไปอีกสองตัว ๑๐ กับ ๖ นิ้ว พอดีกะแผงคอยล์ร้อยเด๊ะ สั่งให้ทำงานทันทีพร้อมกับชุดคลัชท์ที่คอมแอร์ คอมแอร์ตัดก็หยุดทำงาน ขณะเดียวกันหากพัดลมหลักหลังหม้อน้ำทำงานก็จะทำงานด้วย พร้อมกันทั้งสามตัวเลย ผมเพิ่งกลับจากการเดินทางไปทำงานหลายจังหวัดเมื่อคืนนี้ประมาณสองทุ่มกว่า(เพิ่งว่างมาเปิดดูวันนี้ครับ) ฝ่าพายุทั้งไปและกลับ ยังเย็นจนหนาวตลอดการเดินทาง ค่อยๆศึกษาไปครับ แม้เราไม่ทำเอง ช่างก็หลอกเราไม่ได้ครับ อยากฝากแค่ อย่าแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ หาสาเหตุของปัญหาที่เป็นต้นเหตุให้เจอแก้ที่ตรงนั้นก่อนครับ แล้วจะมีความสุขกับการใช้มันอย่างประสิทธิภาพสูงสุดครับ

 

ถูกเผงเลยครับ ผมละปวดกะบาลกะมันช้ำใจกะมันมาจนทุกวันนี้ไงครับ ตัวดูดเงินตัวจิงเสียงจิ เลยล่ะ ผมโดนผบ.ทบ.ต่อว่าประจำ จะขายก็ไม่ได้ราคาช้ำใจจริงๆ แต่เจ้าจินนี่กลับไม่มีปัญหาครับ แค่เล็กกว่าแต่เบาะกลับนั่งสบายกว่าเยอะR21มันเป็นเบาะหนังแท้ เวลาเดินทางไกลนานๆจะมีความรู้สึกนั่งไม่ค่อยสบายตัวเท่าไรครับ ขอนอกเรื่องหน่อย ที่ผมเคยนั่งมาเกือบทุกยี่ห้อผมขอยกนิ้วให้เบาะของบีเอ็มดับบริวมาอันดับแรกครับ(ปรับได้แม้กระทั่งรองรับท่อนขาของเรา) นั่งสบายที่สุดเวลาขับเดินทางไกล(มากๆ)ปรับได้ลงตัวกับสรีระของเราทุกคน รองลงมาก็เป็นเจ้าจินนี่(นั่งสบายกว่า๓๐๐อีของเพื่อนผมอีกครับ แต่ความลับที่น้อยคนรู้ เบาะเป็นของเรคคาโร่ทำให้ครับเจ้าเดียวกันกับที่ทำเบาะรถแข่งน่านล่ะ ) บางทีผมอยู่หลังเบาะจำเป็นต้องเดินทางต่อเนื่องบางทีเป็นสิบๆชั่วโมงเรื่องนี้จึงเป็นเรื่องสำคัญมาก (ประมาณว่าเรานอนขับไปครับ แต่จิงๆแล้วนั่งขับนั่นล่ะ) ผมจึงใช้เจ้าจินนี่เดินทางตลอดครับ ตอนนี้นางจิ๋วก็ป่วยอยู่ที่อู่(งานนี้ไม่รู้เท่าไร โดนเมียด่าอีกตามฟอร์ม) อิอิ เห็นทีคราวนี้ต้องจอด รึไม่ก็เตะมันไปอยู่เขมรไปเลย จาได้ไม่ต้องทะเลาะกะผบ.ทบ.(ผู้บัญชาการที่บ้าน )

 

ถูกต้องเลยครับ บีเอ็มน่านล่ะตัวดี แถมเมื่อก่อนผู้ใช้สมัยยนตรกิจโดนสองเด้งสามเด้งครับ นอกจากวางยามาจากโรงงาน(ไฟเขียวส้มๆแดงๆน่านล่ะ) ลองมันแดงมะไรเป็นเรื่องต้องเสียเงิน รถก็ออกอาการอย่างคุณเตอร์ว่ามานั่นล่ะ หนักเข้าบริษัทแม่ชักไม่ไหว จำเป็นต้องเข้ามาทำตลาดและบริการลูกค้าเอง(ตอนนี้น่าจาโดนเด้งเดียว อิอิ) ยนตรกิจก็เลยไปขาเกียรไงครับ อิอิ แต่คนที่ใช้รถระดับนี้ ล้วนเป็นผู้ประสพความสำเร็จทั้งนั้นครับ จึงไรปัญหา แต่ก็อดบ่นไม่ได้ครับ ผมเคยเห็นเพื่อนผมมันแซวกัน เจ้าคนขี่บีเอ็มมานบอกว่ารถเศรษฐีขี่ แต่มานกลับบอกคนขี่เบ็นซ์ว่ารถคนจนขี่ ทั้งที่ราคาก็เกินสามล้านทั้งคู่ ก็มานบอกว่ารถกรุเข้าศูนย์ทีไม่เคยต่ำกว่าแสน เบ็นซ์มิงยังซ่อมอู่ข้างนอกได้ตั้งเยอะแยะแถมอะไหล่ถูกอีกต่างหาก อย่างนี้เป็นต้น อิอิ เราถึงได้เป็นทาสเทคโนโลยีเขาจนทุกวันนี้ไงคร๊าบ....เจ้า....นาย...

 

ขอยกนิ้วและชื่นชมพี่เตอร์มากเลยครับ นอกจากจะเป็นผู้มีความรู้ที่อุทิศตนเพื่อส่วนรวมแล้ว ที่ชื่นชอบมาก ๆ เลยก็คือว่าถามปุ๊บตอบปั๊บเลย เหมือนกับว่าพี่เตอร์ต้องเข้ามาตอบกระทู้นี้ทุกวันเลย ผมก็เลยไม่ค่อยอยากจะถามอะไรมาก เห็นแล้วเกรงใจจังครับ ขอให้ให้พี่เตอร์มีความสุขมาก ๆ นะครับ และขอให้เป็นที่พึ่งสำหรับผู้ที่เดือนร้อนเรื่องความเย็นต่อไปครับ