D.I.Y. แอร์รถยนต์ด้วยตนเองคับ (ใครรถติดไฟแดงนานๆแล้วแอร์ไม่เย็น เข้ามาคับ)

เจอแล้วครับ ระบบ Super Multi Inverter ของไดกิ้น

http://www.coolaireng.com/webpage/Allair-conpages/daikin/daikin-multi.htm

ราคาแพงกว่าแบบซื้อแยก 2-3 เครื่องเยอะมากเลย ผมขอบาย ไม่สนใจแล้วววว.... :cry::cry::cry:

 

ผมเจอเป็นของ Fujitsu คอม 3 ตัว แผงคลอย์ร้อน 1 คลอย์เย็น 3 ตัว ขนาดกระทัดรัดดีคับ
ติดตั้งอยู่ในวังสวนจิตรดา

การเติมน้ำยาแอร์ของ เครื่องปรับอากาศ Multi พวกนี้ต้องเติมแบบเป็นน้ำหนักเข้าไปคับ
เติมแบบดูที่ เกร์ชาดร์น้ำยาไม่ได้เลย ตอนแรกผมก็ไม่รู้ ผมเติมซะท่อทองแดงแตกเลย
ทำ 3 ครั้ง ท่อทองแดงที่ตัวคลอย์ร้อนแตก 3 ครั้งเลย เพราะระบบมันทำการตัดต่อคอมแอร
ไม่พร้อมกัน เดี๋ยวเดิน 2 ตัว ซักพักคอมก็เดิน 1 ตัว อีกซักพักมันก็เดิน 3 ตัว ยิ่งเติมแล้วยิ่ง งง คับ
พอมารู้ตอนหลัง ช่างที่วังเขา สอบถามที่ Fujitsu ให้ว่าต้องเติมยังไง
ทาง Fujitsu บอกว่าให้เติม ตัวละ 16 กิโลกรัม ผมเลย อ๋อออออ
เลยจับ Cold22 เติมไป 8 กิโลกรัม แล้วไม่ได้ดูเกร์เลย เติมหมดถังแล้วก็ปลดสายเกร์ออก
ลองให้เขาใช้แอร์ดู 2 - 3 วัน ok แอร์ก็เย็นเป็นปรกติดีคับ

แอร์ชุดพวกนี้เหมาะสำหรับ สถานที่ ที่มีพื้นวางคลอย์ร้อนแบบจำกัด และมันจะต้องเดินท่อแอร์
แบบยาวเลยอ่ะคับ เหมาะสำหรับบ้านที่เพิ่งสร้างใหม่อ่ะคับ จะได้เดินท่อสะดวกหน่อย
ถ้าเป็นบ้านที่สร้างแล้ว อยู่ๆ จะติดแอร์ระบบนี้ แทบจะต้องรื้อฝ้าใหม่ทั้งบ้านเลยอะคับ

 

ตัวนี้ของ daikin เป็นอีกแบบครับ คือ 1 compressor แบ่งไปคอยล์เย็นหลายตัว ถ้า compressor ขนาด 30000 btu เปิดแอร์ 1 ตัวได้เต็ม 30000 btu เปิด 2 ตัวได้ตัวละ 15000 btu เปิด 3 ตัวเหลือตัวละ 10000 btu ข้อดีอย่างเดียวก็คือเหมาะกับคอนโดที่มีพื้นที่จำกัด ไม่สามารถติดคอยล์ร้อน 3 ตัวได้ และที่สำคัญคือราคาแพงกว่าซื้อแบบ inverter 3 ตัวซะอีก

ผมไม่ชอบรุ่นนี้ครับ

 

แปลกกกกกก ทำไมกระทู้เงียบผิดปรกติจัง......

พี่ๆ เพื่อนๆๆ ขาประจำยังอยู่กันเปล่าคร้าบบบบ

 

ตอนนี้ แอร์เย็น โอเคเลย ครับเตอร์ ตอนแรก ได้ 4.6 องศา ตอนนี้เปลี่ยน พัดลมคอยร้อนใหม่ เปน แบบ 11 ใบ วัดออกได้ 2.1 องศา ที่บ้านพี่ทรัพย์ เย็นสะใจจิงๆๆ ฝ้าเต็มกะจก หลังคาน้ำเกาะไปหมด ขับรถกลับบ้านมองไม่เห็นทาง ต้องคอยเช็ดฝ้า เพราะ รถติดฟิลม์ดำ 80 % รอบคัน เหอๆ หนาวดีจิงๆ

 

ติดฟิมล์ดำ 80% รอบคัน อิอิ
ทำเหมือนผมตอนเรียนหอการค้าเลยอะ
อิอิ

 

cold22

รบกวนคุณเตอร์ไปแจงรายลเอียดที่บอร์ดสภาฯมีการโพสที่เล่นแรงไปหน่อยครับ
น้ำยาcold22ถ้าคุณเตอร์ได้ลองติดต่อหน่วยงานรับรอง ISO14000 จะได้เป็นอีกทางเลือกนึงของลูกค้า
ปัจจุบันจะใช้กันแต่ 407cครับ
ผมแวะมาอ่านก็ได้ความรู้การเติมแบบ superheatและsubcoolคงจะนำไปปรับใช้กับแอร์บางระบบดูครับ

 

ขอบคุณครับบ ที่มาบอกข่าวสารกันฮะ
ไม่ทราบมี Link ไหมครับ ผมอยากเข้าไปดูอ่ะครับ
ขอบคุณคับ

 

ใช่ link อันนี้ปะคับ http://209.85.175.104/search?q=cach...=6&wNo=43430+cold22&hl=th&ct=clnk&cd=20&gl=th

ผมลองหาใน google ดูอ่ะคับ

 

http://www.coe.or.th/eservice/coe_webboard/coe_public/coe_show.php?wtype=6&wNo=43430
ตัวนี้ชัดเจนกว่าครับ มีรายละเอียดที่ตั้งใจมากไป ฝากตอบก่อนที่คนมาแจมเยอะจนเนื้อหาเตลิดไปไกลนะครับ

 

ขอบคุณมากๆๆๆ เลยครับที่มาบอกข่าวข้อมูลกันฮะ

อ่านดีๆ แล้วมันเหมือนจงใจโจมตีกันอ่ะคับ ผมคงไม่ขอไปตอบละกันฮะ
ถ้าไปผมเป็นผู้จำหน่ายสินค้า Cold อยู่ ถ้าไปตอบก็ดูเหมือนแก้ตัว

ข้อมูลที่ทางผู้ตั้งกระทู้ขึ้นมานั้น ก็แหมมม เยอะเหลือเกิน..

แล้วทำการย้ายตำแหน่งแอร์แล้วปล่อยน้ำยาแอร์ cold22 ทิ้งไว้ 15 นาที
เห็นท่อรั่ว แล้วเอาไฟมาเชื่อมก็เกิดไฟลุกท่วมห้อง ( อันนี้ผมว่าเวอร์ไปคับ)
ที่บอกว่าไฟไหม้ขา โดนช่าง 3 คนหมดค่ายาไปหลายหมื่นบาท
เดินไม่ได้ แอร์ 13000 Btu เต็มที่ก็มี Cold อยู่ 500 กรัม
อันนี้ท่านผู้อ่านต้องวิเคราะห์กันดูเองนะคับ

ผมเองเคยโดนแอร์ Fujitsu ที่วังสวนจิตรดา ที่เติม Cold ไป 20 กว่ากิโลกรัม
ท่อแตกพุ่งออกมา ผมก็ปล่อยให้มันพ่นหมดแล้วก็ ทำการเอาชุดเชื่อม
มาเชื่อมท่อทองแดงเลย มันก็ไม่เห็นมีไฟลุกอย่างที่ ท่านนั้นเขากล่าวไว้เลย

ผมแนบภาพมาให้ดูนะครับ ที่ทำการทดสอบการติดไฟเวลาน้ำยา Cold
รั่วออกมานั้น เปรวไฟมันเป็นอย่างไร เหมือนกันท่านนั้นเขากล่าวไว้หรือเปล่า

ท่านใดที่เคยคุยกับผมหรือรู้จักผมนั้น จะทราบว่า
ผมเป็นคนมีความรับผิดชอบสูงคับ ถ้ามีปัญหาที่เกิดจากตัวสินค้าจริง
ผมจะรับผิดชอบความเสียหายนั้นเต็มที่อยู่แล้วครับ
และถ้าสินค้าไม่ปลอยภัย มีความเสียงต่อการติดไฟสูง
ผมไม่กล้านำเข้ามาขายแน่นอนครับ ที่กล้านำมาขายในประเทศไทยนั้น
ก็ได้ข้อมูลที่หลายๆ ประเทศทางยุโรปเขาใช้กันมานานมากๆๆๆแล้ว
และประเทศทางยุโรปนั้นเขา มาตาฐานความปลอดภัยเขาสูงกว่าบ้าน
เราเยอะครับ

 

70กว่าหน้าอ่านจนตาลายยังไม่จบเลย มาสะดุดตรงใช้น้ำยาล้างห้องน้ำแล้วจะทำให้คอล์ยร้อนรั่ว ใช่กรดน่ะกัดกร่อนแน่แต่็่็้ต้องดูองค์ประกอบหลายอย่างเช่น ความเข้มข้น, ค่าph, ปริมาณ, ระยะเวลา ซึ่งน้ำยาล้างห้องน้ำก็มีความเข้มข้นเพียง10-15% ค่าph ก็ไม่ต่ำมากไม่เช่นนั้นแม่บ้านคงแย่แน่ ปริมาณก็เล็กน้อยระยะเวลาก็10นาที ปีละครั้ง กระเพาะอาหารคนเรารับกรดอยู่วันไม่ยิ่งกว่าหรือ ถ้าไม่แน่ใจลองไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ หรือน้ำยาล้างแผล ล้างดูก็ได้

 

อ่านสำนวนดู กับเนื้อเรื่องที่ยกมาจาก pantip ก็พอเดาได้ว่าใคร ลองดู คห ที่ 8 แล้วกัน ดูสิว่าจะมาตอบไหม
ถ้าเขามาแนวนี้ก็ต้องเล่นไปกับเขา ให้หาหลักฐานชัดๆ มาพิสูจน์ ไม่งั้นมันก็เป็นแค่ข่าวโคมลอย เขาเล่าว่า ประมาณนั้น

นี่คุณ U D จาก web วิเศษแอร์หรือเปล่าครับ

 

ขอบคุณคร้าบพี่ยุทธ

 

แหะๆๆ หลายหน้ามากๆๆ เลยคับ
ผมเองเปิดหาข้อมูลเก่าๆ ยังตาลายเลยคับ

 

aluminium เป็นสนิมง่ายกว่าเหล็กอีก แต่ สนิมอลูมิเนียม มันเป็นเซรามิก ทำให้ทนต่อสภาพแวดล้อม
ปกติ แผงแอร์พวกนี้จะทำการ anodizing จากโรงงาน ทำให้ผิวกลายเป็นเซรามิก (อลูมินา หรือ อลูมิเนียมออกไซด์) คอยปกป้องการสึกกร่อน แต่เมื่อผิวเซรามิกโดนกรดกัดออก แผงก็จะผุได้ง่าย ยิ่งถ้าผุไม่เท่ากัน จะทำให้เกิดการผุแบบ pitting ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของการรั่วของแผงแอร์
http://scifun.chem.wisc.edu/CHEMWEEK/Aluminum/ALUMINUM.html

ลองหาคำว่า pitting corrosion ในเน็ตเพิ่มเอง

ส่วนเรื่องไฟไหม้เท้า ก็เป็นเรื่องไม่แปลกที่จะเกิดขึ้นได้
ในเมื่อช่างไม่มีความรู้ ในการถ่ายสารไวไฟ

อนาคต ต้องเตรียมรับกับผลที่จะเกิดเหตุระเบิด จากเหตุการซ่อมระบบที่ใช้น้ำยา พวก HC
โดยเฉพาะเมืองไทย อาจมีการสั่งห้ามจำหน่ายสารทำความเย็นที่ติดไฟ ในกรณีเกิดอุบัติเหตุใหญ่

คุณ Ter คงต้องระมัดระวังเรื่องความปลอดภัยมากขึ้น
อาจจะจำเป็นต้องทำ ใบ certificated และหนังสือแจ้งให้ลูกค้าทราบว่า ระบบนี้ต้องซ่อมโดยช่างที่ได้รับการอบรมอย่างดีเท่านั้น

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การติดตั้งในห้องแอร์ น้ำยาที่เติมต้องไม่มากกว่า LEL ในกรณีที่น้ำยารั่วเข้าในห้องปิด
คงต้องยึดมาตรฐานการติดตั้งจากเมืองนอกเข้ามาช่วย

 

เคสนี้น่าสนใจ ถ้าเป็นเรื่องจริงล่ะก็ ช่างผิดเต็มๆที่ไม่ระวังในการทำงานกับน้ำยาติดไฟ และต้องนำเคสนี้เป็นกรณีศึกษาในการอบรมช่างแอร์ ในส่วนของลูกค้าควรจะได้รับคำเตือนให้ระวังถ้าจะเรียกช่างแอร์ที่ไหนก็ไม่รู้มาเชื่อมท่อ ต้องให้ช่างแอร์ไล่ระบบด้วย R22 หรือไนโตรเจน ก่อนทุกครั้งเพื่อความปลอดภัย

แอร์ของที่บ้านผมสั่งไว้แล้วว่าห้ามช่างแอร์ที่อื่นมายุ่งกับแอร์ของผมเป็นอันขาด มีอะไรผมทำเอง

กันไว้ดีกว่าแก้ครับ ถ้าผู้ผลิตระบุคำเตือนและข้อควรระวังทั้งหมดไว้ชัดเจนแล้ว ก็ถือว่าแสดงความรับผิดชอบต่อลูกค้าแล้ว ถ้าช่างไม่ปฏิบัติตามก็เป็นเรื่องของตัวบุคคล

 

ขอบพระคุณมากๆๆ เลยครับที่ช่วยให้คำแนะนำคับ
เรื่องการออกใบ Certificated ให้กับช่างที่อบรมในการเปลี่ยน
สารทำความเย็น Cold จะได้นำไปให้ลูกค้าดูได้ว่าทางตัวช่างเอง
ได้ผ่านการอบรมการเปลี่ยนถ่ายน้ำยาแอร์ Cold เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
อันนี้เดี๋ยวผมจะไปคุยในที่ประชุมครับ ส่วนตัวผมว่าดีมากๆ เลยครับ

ขอบคุณมากครับ ถ้ายังไงมีความคิดเห็นอย่างอื่น ก็รบกวน
คุณ Professor กับเพื่อนๆ พี่ๆ ท่านอื่นแนะนำมาด้วยนะครับ
เพราะผมเป็นคนในระบบ อาจมีบางสิ่งที่ผมและทีมงานมองไม่เห็น
หรืออาจจะคิดไม่ถึงอ่ะครับ

 

ถูกครับ ต้องนำไนโตรเจนไล่ระบบก่อนทำการเชื่อม ทุกครั้ง
(พี่ยุทธรู้จิงแหะ ว่าต้องใช้ไนโตรไล่ระบบก่อนทำการเชื่อม
ช่างแอร์ส่วนมากยังไม่รูเลยว่าต้องใช้ไนโตรเจนไล่ระบบอ่ะคับ)

ผมเคยได้ข่าวมาตั้งแต่เด็กอยู่เลยนะครับ มีร้านซ่อมแอร์รถยนต์นั้น
เขาทำการไล่ระบบโดย เอาออกซีเจน อัดเข้าไปทางท่อแอร์ โดยไม่มี
เรกุเรเตอร์(ตัวปรับแรงดัน) ใส่ไว้ด้วย เท่านั้นแหละครับ
ระเบิดทั้งระบบเลย น่ากลัวมากกับช่างที่ไม่มีความรู้ครับ

 

เคยอ่านเจอไหม BENZ แอร์ 3 ปีรั่ว ฮุนได 3ปีก็รั่ว เพราะเป็นอลูมิเนียม แต่รถส่วนใหญ่ เป็น ทองแดง ผมขอเป็นหนูลองยา ในการใช้น้ำยาล้างหองน้ำล้างแผงคอล์ยร้อน แล้วจะรายงานผล

 

คับก็ดูสภาพแฝงคลอย์ร้อนของรถที่จะทำด้วยละกันนะครับ ถ้าดูสภาพด้วยตาแล้ว
มันเก่า กร่อนมากแล้วก็อย่าไปใช้น้ำยาล้างห้องน้ำเลยครับ ใช้น้ำเปล่าก็พอฮะ
(เดี๋ยวเกิดใช้น้ำยาล้างห้องน้ำ แล้วคลอย์ร้อนคุณรั่ว แล้วผมจะซวยอีกฮะ
กระทู้แรกๆ มีเคทร ล้างแล้วรั่ว ผมนี้ปิดทองหลังพระจริงๆ ครับ)

ตามภาพที่ผมแนบมาให้ดูเป็นของ e30 อายุมันก็เกิน 10 ปีแล้วครับ
ผมใช้ วิม (น้ำยาล้างห้องน้ำ) ล้างก็ไม่รั่วครับ

 

เขาคงซวยจิงๆแหละ

ผมเพิ่งกลับมาจากการเดินทางไกลๆๆๆ ห้าวันสามภาค อิอิอิ อุบลฯ พระนครศรีอยุธยา กรุงเทพ เชียงราย และกลับถึงอุบลเมื่อคืนสองทุ่ม สองพันกว่าโล ว่าจายกเครื่องเจ้าจินนี่และใช้คูล๑๒จ้า แต่ดันจำวันผิดวันนี้ต้องทำงานอีก(กำๆๆ) นานๆเข้ามาทีครับ

ผมว่าจขกท.คงไม่มีเจตนารัยหรอก นอกจากซวยซ้ำซวยซ้อน ผมอ่านทุกคห.จบแล้ว เด๋วสรุปฟันธงให้ฟัง

เพียงแค่คุณเตอร์ให้ความรู้อย่างกระจ่าง เกี่ยวกับเจ้าคูล ทั้งคุณสมบัติ ทั้งการระมัดระวังป้องกัน ทั้งการเตรียมตัวป้องกัน หรือแม้กระทั่งหากจะมีสติกเกอร์ติดไว้ที่คอยล์ร้อนเลยว่า น้ำยาติดไฟให้ระวัง อันตราย ข้อควรระวังและข้อควรปฏิบัติเวลาเติมน้ำยาอะไรประมาณนี้ ก็น่าจาเป็นหนทางลดปัญหาที่อาจจะเกิดในอนาคตลงได้

คนที่ญี่ปุ่นนั้นมีการศึกษามากกว่าคนของเราจ้า เขาถึงใช้คูล อย่างไร้ปัญหา แต่สยามเมืองยิ้มมะต้องเซดดอก เอาเงินไปแจกก็ได้เป็นส.ส.แระ ประเด๋วคนกรุงก็ล้มส.ส.เอง ดังนั้นอย่าไปหวังอะไรให้มากเลย

ผมฟันธงว่า จขกท.ที่เกิดเหตุตามลิ้งค์นั้น คงซวยระเบิดรึไม่ก็เฮงสุดๆ แต่อย่างหลังผมขอผ่านนะ คงไม่ได้ตั้งใจอะไรที่จะโจมตีใคร นอกจากเตือนให้ระวังเท่านั้น(ฟามจริงควรขอบคุณเขาซะอีก) ซึ่งตรงนี้คุณเตอร์และทีมงานก็อย่าไปตีเจตนาเขาผิดไป ผมไม่มีส่วนได้เสีย พิจารณาแล้วควรเป็นเช่นที่บอกมา ซึ่งเป็นกรณีศึกษาเพื่อไม่ให้มันเกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีกในอนาคต อันอาจนำพาคนที่จ้องทำร้ายตัวจริงเอามาเป็นข้ออ้างในการโจมตีได้ หมายความว่าอย่างที่บอกแต่แรก นอกจากเราบอกข้อดีแล้ว ข้อเสีย ข้อควรระวัง ข้อที่จะต้องแก้ไขระมัดระวังในการรั่วก็ดี หรือเปลี่ยนถ่ายครั้งใหม่ก็ดี ควรทำอย่างไร อาจทำเป็นสติ๊กเกอร์แถมให้กับลูกค้าเราเวลาซื้อน้ำยาพ่วงไปเลย ให้เขาติดไว้ที่คอยล์ร้อน หรือคอยล์เย็นภายในบ้าน ให้ช่างหรือใครก็ตามที่จะมาทำในตอนหลังได้ระมัดระวัง ได้อ่านได้ศึกษาก่อนลงมือกะมันเพื่อกันเหตุร้ายซึ่งอาจเกิดขึ้นได้จากความบื้อของช่างหรือจากความซวยของเจ้าของที่ดันโทรตามช่างบื้อมาทำ เหมือนสติกเกอร์หลังทีวี ที่ติดไว้ว่าห้ามเปิดฝาหลังเครื่องอันตรายจากไฟแรงสูงอย่างนี้เป็นต้น โลกเราก็เป็นเช่นนี้ล่ะ มีสุขมีทุกข์ มีตั้งอยู่ก็ดับไป วนเวียนๆกันไปเช่นนี้แล

เข้ามาทักทายทุกคนครับ ตรุษจีนไปเทียวไหนกาน ขอให้ร่ำรวยเฮงๆทุกคนนะครับ อย่าซีเรียสกันครับ แล้วก็ให้ได้รับอังเปาซองใหญ่ๆทุกๆคน อิอิอิ ไปทำงานต่อแระ

 

หายไฟนานเลยพี่จินนี่ วันนี้ผมก็พึ่งไปที่ สันักงานทนายความ มารุต บุญนาค
มาเหมือนกันฮะ ไปปรึกษาเรื่องทวงเงินที่ประเทศญี่ปุ่นฮะ ลูกค้าเขาติดเงิน
ผมอยู่ 12 ล้านบาท แล้วมันเงียบไปเลย ผมเลยปรึกษาให้ทาง มารุต บุญนาค
(ผมได้คุยกับทางลูกสาว เจ้าของอะคับ) ให้เขาจัดการฟ้องเรียกเงินมาให้ได้
แล้วผมต้องการเงินคืนแค่ 5 ล้านบาท ส่วนที่เหลือ 7 ล้านผมให้เขาหมดเลย
เขาก็รับเรื่องไว้ แต่ไม่รู้ว่าจะได้เรื่องหรือเปล่าด้วยอะคับ

มาเรื่องกระทูกันต่อครับ
อ่านกระทู้ล่างแล้วพอเข้าใจแล้วครับว่า เจ้าของบ้านต้องการบอกอะไรฮะ
แต่เรื่องที่ไฟรวกขาขนาดนั้นผมบอกตรงๆ ว่าผมไม่เชื่อครับ ถ้าไฟลุก
ก็ลุกแค่แวบเดี๋ยวแล้วก็ ไฟก็ดับครับ ไม่น่าจะถึงกับไฟรวกขาอ่ะคับ

จะมีอีกเคทรหนึ่งนะครับ ถ้าน้ำมันคอมพุ่งออกมาโดนที่เท้าด้วยนั้น ผมเชื่อครับ
ว่าเท้าพองได้ เพราะผมเองก็พึ่งโดนเองกะตัวคับ

เพราะเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมานี้ผมก็ไปเปลี่ยนน้ำยาแอร์ให้ที่
บริษัท easy insure มาเจ้าของเขาเป็นเพื่อนป๋าผมอะคับ
http://www.easyinsure.co.th/contact.php#
เปลี่ยนแอร์ไป 16 ตัว ก็ลดค่าไฟไปเยอะเหมือนกันฮะ

แล้วมีตัวหนึ่งที่วาวร์ลูกศรมันเสีย ผมก็ไปขันออกเพื่อปล่อยน้ำยา R22 ออก
แล้วน้ำยาแอร์ R22 พร้อมน้ำมันคอม มันดันพึ่งใส่มือผม Oh....ho
แสบเลยครัย มือ แขน ผมที่โดนน้ำมันคอมนั้น เป็นรอยแดงเลย
ณ วันนี้รอยที่โดนตรงแขนกะมือผม เป็นรอยดำจางๆอยู่เลยครับ
ถ้าโดนน้ำยาแอร์อย่างเดียวมันก็ไม่เป็นไร แต่ดันโดนน้ำมันด้วยนี้สิคับ
แทนที่น้ำยาแอร์มันโดนอากาศแล้วจะละเหยไป มันดันมีน้ำมันคอมผสม
เลยทำให้น้ำยาแอร์ระเหยช้ากว่าเดิมเลยทำให้ เนื้อฟองเลย

ท้ายนี้ขอให้เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ทุกท่านมีเงิน มีทองใช้ ไม่ขาดมือนะคับ
ของให้ทุกๆ ท่านโชคดีในปีชวดนะครับ

 

คุณจินนี่ยกเครื่องช้า ผมแซงหน้าไปแล้ว
ช่วง 2 อาทิตย์ที่ผ่านมาเครื่องยนตร์มีเสียงผิดปกติ ดังแก๊กๆๆๆรัว เสียงดังตามรอบเครื่อง ตอนแรกก็นึกว่าลูกปืนอะไรสักคงแตกแถวหน้าเครื่อง ปรากฏว่าถอดสายพานออกหมด ให้เครื่องเดินอย่างเดียว เสียงก็ยังดัง คราวนี้เลยถอดสายพานราวลิ้นออก ถอดลูกรอกดันสานพานออกมาดูก็ยังปกติดี ลูกปืนไม่แตก ไม่คลอน แล้วเสียงมันจะมาจากไหนล่ะ

 

วิธีของช่างระดับเทพ เขาตรวจซ่อมรถคันล่ะหลายล้านกัน

เด๋วจาบอกสูตรลับให้ ตามมาๆจินตนาการนึกภาพตามไปด้วยนะจาได้ทำตามได้ถูกต้อง

สูตรลับนี้ผมได้มาเมื่อสักสิบกว่าปีที่แล้ว จาเล่าคามเป็นมาให้ฟังสักนิดพอจาได้จินตนาการออก

เรื่องของเรื่อง มีอยู่ว่ามีบีเอ็ม๕๒๐ไอ ป้ายแดงคันหนึ่ง ซึ่งเจ้าของกลุ้มใจมาก เข้าศูนย์สี่ห้าครั้งก็ยังหาจุดที่มันดังไม่เจอสักที และทุกครั้งที่เข้าไปก็โดนฟันทุกทีไป กรณีศึกษาน่าจาเทียบเคียงกับคุณยุทธได้ รู้แต่ว่าเสียงผิดปรกตินั้นมาจากภายในเครื่องยนต์อย่างแน่นอน แต่ไม่รู้ว่าตรงจุดไหน ช่างที่ศูนย์ก็จนปัญญา เดาว่าตัวนี้ พอเปลี่ยนก็ไม่หาย เจ้าของรถก็เป็นหนูลองยากะจ่ายเงินลูกเดียว ผมมีช่างประจำที่คอยดูแลเจ้าโจโจ้ให้อยู่ในสภาพพร้อมเดินทางเสมอ(ตอนนั้นจินนี่ยังไม่เกิดเลยอิอิอิ) ชื่อว่าช่างจ่อย เก่งกาจในรถยุโรปและอเมริกามาก ตัวก็เล็กๆจ่อยๆสมชื่อ พอดีวันนั้นผมว่างไปนั่งคุยเล่นกะช่างจ่อยพอดี เถ้าแก่เจ้าของบีเอ็มก็ขับเจ้าตัวปัญหาเข้ามาที่อู่พอดี เล่าอาการให้ช่างจ่อยฟัง ช่างจ่อยฟังอย่างตั้งใจ แล้วก็บอกว่ารอเอาไม่ได้หรอกครับ ต้องจอดรถทิ้งไว้ให้เช็คละเอียดอีกที วันหลังค่อยโทรมาถามและรับรถ

เหอะๆๆๆๆ ทีแรกผมก็งง ไม่เข้าใจ แต่พอเถ้าแก่เจ้าของรถให้ลูกน้องเอารถอีกคันมารับกลับไปเท่านั้นล่ะถึงได้ถึงบางอ้อ ครับพี่น้อง แบบว่าช่างจ่อยตรวจดูหาตำแหน่งของเสียงที่ผิดปรกติในบีเอ็มคันนั้นไม่ถึงนาทีก็พบจุดที่มันเกิดปัญหาครับ เหอะๆๆๆๆๆ

ผมก็ถามด้วยความซื่อว่า อ้าวจ่อย ทำไมให้เขากลับไปล่ะ หาแค่แป๊ปเดียวเองนี่ จ่อยมันก็บอกว่า ขืนให้เขาอยู่ เขาก็รู้ความลับผมดิเพ่ แล้วผมจาเรียกค่าซ่อมให้มันสมกับรถคันล่ะหลายล้านให้มันคุ้มได้ไง ทำแค่นาทีเดียว ช่างที่ศูนย์มันบื้อเองหาไม่เจอ ผมก็เลยได้สูตรลับนี้มาบอกต่อไงครับ เกือบยี่สิบปีแระ อิอิอิ

ให้หาท่อยางยาวประมาณหนึ่งเมตร(ท่อน้ำมันก็ได้ครับเอาสะอาดๆหน่อยล่ะเพราะต้องเสียบเข้าที่หูเราด้วย) เส้นผ่าศูนย์กลางภายในท่อไม่ต้องใหญ่มากนักซักห้ามิลหรือครึ่งเซนต์ก็น่าจาเกินพอ แล้วก็หาโลหะเป็นแท่งอาจจะเป็นปลายไขควงที่ด้ามไม่มีแล้ว หรือเหล็กเส้นกลมๆก็ได้ ยาวสักห้าหกนิ้วก็เกินพอ แล้วใช้แท่งโลหะนี้เสียบเข้าไปในท่อยางเลย เอาขนาดพอดีกันนะอย่าให้หลวมหรือคับเกินไป เสียบเข้าไปสักหนึ่งนิ้วก็น่าจาได้แระ เท่านี้ก็เป็นอันว่าเสร็จสรรพ ได้เครื่องมือฟังเสียงผิดปรกติของเครื่องยนต์ทุกกรณีแล้วล่ะครับ

วิธีใช้ ให้ใช้ปลายโลหะจี้เข้าที่จุดที่เราต้องการฟัง ซึ่งเสียงมันจะต่างกัน เช่น ฟังเสียงวาวล์ก็จี้ไปที่ฝาส่วนบน ฟังเสียงลูกสูบก็จี้ไปที่เสื้อสูบ ฟังเสียงลูกปืนคอม กลไกภายในคอมก็จี้ไปที่คอม ได้ชาร์ท หรือลูกปืนลูกรอก ได้ทุกจุดล่ะ แล้วเอาส่วนท่อที่ไม่ได้เสียบอะไรนั่นเสียบเข้าในรูหูเราเลย

คุณยุทธจะได้ยินเสียงเขก แกร๊กๆๆๆๆๆ เองล่ะว่า ตรงไหนมันเจ้ง หากไร้ปัญหา เสียงมันจะราบรื่นไม่สะดุด ช่างจ่อยให้วิชานี้ผมมา ใช้ในการตรวจหาจุดเสียหรือจุดที่เริ่มเสื่อมของชิ้นส่วนได้ชะงักนักแล นะจาบอกให้ ตอนนั้นรับปากกะช่างจ่อยว่าจะไม่บอกใคร แต่มันจายี่สิบปีแล้ว บอกหน่อยเพื่อเป็นวิทยาทาน กะมันขาดอายุความไปแล้วคงไม่เป็นไรมั๊ง อิอิอิ แล้วช่างจ่อยตอนนี้ก็ซ่อมรถจนรวยแล้ว คงไม่ว่าหรอกครับ

ไปลองทำดู ได้ผลยังไงก็บอกด้วยเด้อ ครับ ไปแระ

ตอนหลัง ทราบจากช่างจ่อยว่าได้ค่าวิชานี้ไปหลายเงิน เถ้าแก่เจ้าของบีเอ็มคันนั้นก็ยิ้มจนแก้มแทบปริ เพราะก่อนนั้นก็จ่ายค่าฉลาดน้อยไปหลายหมื่นเหมือนกันแต่ก็ไม่หายสักกะที รถใหม่ๆป้ายแดงแท้ๆดันมีเสียงดังได้ยังไง งานนั้นเป็นเสียงลูกปืนสายพานตัวในที่อยู่ลึกเข้าไปยากแก่การสังเกต แต่ไม่ได้รอดตาช่างจ่อยไปได้ครับ หลังจากที่ตรวจพบเปลี่ยนทิ้งก็เงียบกลิบเลยครับ คุณยุทธเอาไปทำเลยครับ ตกลงผมไม่ได้ยกเครื่องอีก เพราะต้องเดินทางเข้าขอนแก่นกะบุรีรัมย์อีกครับ ตอนนี้เครื่องยนต์สองเครื่องที่ผมโอเวอร์ฮอลไว้ข้างนอก ก็ยิ้มหวานรอคิวยกขึ้นแล้วครับ แต่ว่ามันต้องเปลี่ยนและเช็คอะไหล่อีกหลายรายการ คงใช้เวลาไม่ต่ำกว่าสามหรือสี่วัน หากไม่ว่างจริงๆ ผมก็คงรอจนว่างล่ะครับ งานนี้ยกลงเมื่อไร คูล๑๒ ใส่ทันทีครับ แค่นี้ก็หนาวจนติดลบแล้วเกินพอแล้ว ตอนวันเดินทางกลับจากเชียงราย อุณหภูมิภายนอกลง๑๖องศาครับ กว่าจะได้เปิดแอร์ก็เกือบถึงพิษณุโลกโน่น ทางเหนือเย็นพอควรครับ

 

พี่ยุทธคับ แคมชาพ์ล ละลายเปล่าฮะ
ที่ผมเคยเป็นนะครับเครื่อง Toyota กะเครื่อง Honda
อาการของมันคือ
- เครื่องเริ่มร้อนแล้ว เสียงก็จะดังตามรอมเครื่อง ดังแก็กๆๆๆๆ
- แล้วพอเครื่องร้อนก็จะไม่มีกำลังอัด วิ่งไม่ออก ปล่อยร้อนซักพัก เครื่องดับเอง
เครื่อง toyota ผมอาการดังกล่าวเปิดฝาวาวร์ออกมา ลูกสูบแตก 3 ลูก พร้อมกับแคมชาพ์ลละลาย
เครื่อง Honda เสื้อสูบแตก แคมชาพ์ล ละลายเช่นเดียวกันครับ

ของพี่ยุทธอาจจะไม่ถึงขั้นนี้ก็ได้ฮะ ลองเช็คดูก่อนฮะ

 

ส่วนตัวก็รู้สึกแปลกๆกับสภาพการวาบไฟที่แจ้งมา ผมเองก็เคยทดสอบการติดไปหลายแบบ
ที่เห็นกับตาคือถ้าปล่อยเป็นสถานะของเหลวแบบเป็นฝอย จะไม่ติดไฟเลย
แต่ถ้าเป็นก๊าซก็วูบวาบพอควร
น้ำยาเหลวที่สัมผัสอากาศภายนอก ไอระเหยท่าทางจะติดไฟยากเหมือนกัน
ส่วนวิธีอื่นให้ลูกน้องลอง ผมไม่ค่อยแน่ใจเท่าไหร่

เหตุการณ์ที่แจ้งมาชวนให้คิดในแง่ลบมากกว่า ทั้งลักษณะการขยายความหลายกระทู้ และโอกาศเกิดขึ้น

ผมเห็นด้วยกับใบcer.ครับ จะลดปัญหาที่เกิดขึ้น รวมถึงการให้ข้อมูลที่ชัดเจนกับผู้ใช้ จะได้ช่วยกันอีกทางนึง

ผมมาจากเวปวิเศษจริงๆครับ พอดีช่วงนี้แถวอีสานอากาศยังเย็นๆอยู่ และผมขี้เกียจไปประชุมแอร์ ก็เลยแวะมาติดตามข่าวที่นี่บ้างน่ะครับ
โชคดีปีใหม่(คนจีน) ขอให้ประสบความสำเร็จหน้าที่การงานทุกๆคนนะครับ

 

ขอบคุณมากๆๆ นะครับที่มาบอกข่าวสารกันฮะ
ถ้าไงก็เข้ามา update ในนี้เรื่อยๆ ละกันนะครับ
เผื่อคุณ U D มีข้อคิดเห็นหรือข้อแนะนำเพิ่มเติมก็เชิญเลยนะครับ
ผมน้อมรับ ทุกความคิดเห็นครับผม

 

ขอบคุณครับ ผมวิ่งไปหาช่าง 2 รายเรื่องอาการนี้ เป็นช่างที่อู่เล็กๆใกล้บ้าน และทั้ง 2 ร้านทำอย่างที่คุณจินนี่ว่ามาเลย เอาสายยางที่ต่อกับก๊อกอยู่ สะบัดน้ำออก ข้างหนึ่งจิ้มไปที่เครื่อง อีกข้างยัดเข้าหู จ่อไปตามจุดต่างๆที่น่าสงสัย แล้วก็หาไม่เจอ ร้านที่ 2 นี่หลังจากจิ้มสายพานจนทั่ว แล้วจึงถอดสายพานหน้าเครื่องออกหมด ติดเครื่องอีกครั้งโดยไม่มีการหมุนของปั๊มน้ำ คอมแอร์ ไดชาร์ท ปั๊มพาวเวอร์ เสียงก็ยังมีอยู่ จึงคิดว่าเสียงมาจากข้างในเครื่องแน่ ต่อไปก็เริ่มถอดหน้าเครื่อง เอาลูกรอกดันสายพานไทม์มิ่งมาดูก็ไม่พบความผิดปกติ สายพานไทม์มิ่งก็ปดติ งานนี้ก็เป็นอันว่าต้องรื้อเครื่องแน่ๆ

เริ่มจากเปิดฝาสูบ เปิดแคร้งน้ำมันเครื่อง เอาลูกสูบออกมา แหวนก็หักตอนถอดอีก รื่ออยู่ 1 วันก็ออกมาเป็นชิ้นเกลื่อน ช่างสงสัย 2 จุด คือ ปั๊มน้ำมันเครื่องที่มีลักษณะเป็นเฟือง 2 ตัวซ้อนกันอยู่ โดยยึดติดกับข้อเหวี่ยง ช่างบอก่าพอลองหมุนเฟืองตัวนี้แล้วเสียงมันดังแกร็กๆ กับอีกจุดคือชาร์ปก้านที่ช่างบอกว่ามันสึกไปบ้างและเริ่มขยับตัวได้นิดหน่อย

ไปซื้ออะหลั่ยก็มี
ปะเก็นฝาสูบ
ชาร์ปก้าน
สายพานหน้าเครื่อง
ซีลราวลิ้น
ซีลข้อเหวี่ยง
แหวนลูกสูบ
น้ำมันเครื่อง+กรอง

ช่างบอกว่าปั๊มน้ำมันเครื่องตัวที่ทำเสียงแก๊กๆร้านอะหลั่ยไม่มีขาย ต้องเบิกศูนย์ซึ่งแพง หรือซื้อที่เซียงกงซึ่งช่างเคยซื้อของ altis ราคาอยู่ที่ 2100 ซึ่งผมว่ามันแพงชมัดเลยกับเฟืองเล็กๆ 2 ตัวที่ทำหน้าที่ปั๊มน้ำมันเครื่อง เลยโทรไปปรึกษาพี่แอ้ม จากเว็บ gasthai พี่เขาบอกไอ้ปั๊มตัวนี้มันเสียยากมากๆๆ ปกติอายุมันก็เท่ากับอายุเครื่องนั่นแหละ ไม่น่าจะต้องเปลี่ยน แถมไปซื้อของเซียงกงมาก็ต้องวัดดวงอีก เลยตัดสินใจว่าไม่เปลี่ยนปั๊ม ใช้ตัวเดิมนี่แหละเพราะมันไม่พัง ไม่มีรอยร้าวใดๆ

ช่างที่รื้อก็ทักอีกว่ารื้อขนาดนี้แล้วน่าจะเปลี่ยนยางตืนวาล์ว บดแหวน ตั้งวาล์วไปเลย นั่นเท่ากับต้องเปลี่ยนอุปกรณ์ที่ฝาวาล์วอีกเป็นชุด ก็อีกเป็นพันเหมือนกัน ช่างบอกว่าควันไม่ขาว เครื่องไม่ร้อน ถ้าไม่อยากเสียตังมากก็ยังไม่ต้องยุ่งกับฝาวาล์วก็ได้ ปล่อยไปก่อน ไว้มัยถึงเวลาจริงๆค่อยทำ เพราะผมกะใช้อีกแค่ปีเดียวไม่เกิน 2หมื่น กม ก็เปลียนรถแล้ว

นับว่าไอ้เสียงแก๊กๆๆๆๆนี่มันแพงกว่าที่คิดมากเลย ไอ้ครั้นจะไม่ซ่อมทิ้งไว้ก็ไม่ไว้ใจ มันเสียวๆเวลาขับออกต่างจังหวัด ไปพังกลางทางแล้วจะแพงกว่านี้มาก เลยตัดใจทำให้มันแน่ใจว่าจะไม่พังกลางทางแน่ๆ

เรื่องซื้ออะหลั่ยอีก แหวน riken 600, แหวน toyota 980 เอาของ toyota แต่ก็ยังมีระแวงว่ามันแท้หรือเปล่า

ปะเก็นฝาสูบเทียบ 230 แท้ 660 ก็เอาของแท้
ชาร์ปก้าน 390 จำยี่ห้อไม่ได้ แต่ร้านบอกอันนี้ตัวเดียวกับ toyota ก็เลยเอา
ซีล 2 ตัว ตัวละ 100 นิดๆไม่เป็นไร
น้ำมันเครื่อง PTT Semi syn 4+1 ลิตร 390 + กรอง 70

ช่างตีไว้ว่าค่าแรงทั้งหมด 2500 วันนี้ซื้ออะไหล่ไปแล้ว 2800 วิ่งไปซื้ออะหลั่ยเอง 2 รอบแล้ว

มีคำแนะนำอะไรอีกไหมครับ ช่างจะเริ่มประกอปทุกอย่างเข้าวันอาทิตย์ ก็ว่าสักวันจันทร์คงเสร็จ
นี่ผมก็คิดๆอยู่เรื่อง จะทำยางตีนวาล์ว บดวาล์ว ตั้งวาล์วไปเลยดีไหม แต่ก็ไม่อยากให้ค่าซ่อมมันบานปลายไปอีกหลายพัน

ข้อมูลเพิ่งเติม เครื่องวิ่งมาแล้วประมาณ 175000 กม ไม่เคยทำอะไรกับมันเลยนอกจากเปลี่ยนสายพายราวลิ้นที่ 100000 กม ผมขับรถไม่ร็วใช้รอบที่ 2000 - 2600 เป็นส่วนใหญ่ และเต็มที่ไม่เกิน 3000 รอบ ขับไม่ลากรอบครับ เกียร์ออโต้

 

ชาร์ปไม่ละลายครับ เพราะรื้อออกมาดูทุกชิ้นแล้ว เสียงดังนี่เริ่มตั้งแต่ติดเครื่องเลย กำลังอัดปกติ ขับได้ดีไม่มีปัญหาอะไร นอกจากเสียงที่ดังจากห้องเครื่องมาก รายละเอียดอ่านข้างบนเลนครับ

ผมสั่งช่างห้ามทำระบบแอร์รั่วเด็ดขาด เพราะของเก่ามันเย็นดีอยู่แล้ว ไม่งั้นต้องวิ่งไปหาพี่ทรัพย์อีก