D.I.Y. แอร์รถยนต์ด้วยตนเองคับ (ใครรถติดไฟแดงนานๆแล้วแอร์ไม่เย็น เข้ามาคับ)

การสนทนาใน 'D.I.Y.' เริ่มโดย enforce, 14 มีนาคม 2006

?

น้ำยาแอร์มาตาฐาน100% บรรจุกระป๋อง เติมเพิ่มเองได้เมื่อน้ำยาแอร์ขาด เพื่อนๆ คิดยังไง

  1. สนใจ...น่าจะเติมเองได้ เพราะดูจากขั้นตอนแล้วไม่น่ายาก ถ้าเหลือเก็บไว้เองได้ ประหยัดเงิน

    77.7%
  2. ระบบแอร์ดูแล้วยุ่งยาก...ไปจ้างเขาซ่อมดีกว่า จ่ายเท่าไรไม่สนแต่ให้เย็นเป็นพอ

    3.9%
  3. ก็ดี...ซื้อแล้วเอาไปให้ช่างแอร์ตามร้านเติมให้ก็ได้ เหลือเก็บไว้ใช้คราวหน้าได้

    9.0%
  4. สนใจ...เพราะว่าน้ำยาแอร์ในถังตามร้านซ่อมทั่วไป...ไม่รู้ว่าน้ำยาแอร์มีคุณภาพแค่ไหน

    34.6%
หลายโหวตที่ได้รับอนุญาต
< Previous Thread | Next Thread >
  1. enforce

    enforce Active Member Member

    2,041
    13
    38
    รถคันหน้าจะเอารุ่นไหนครับพี่ยุทธ :D:D:D:D
     
  2. จินนี่

    จินนี่ New Member Member

    398
    0
    0
    รื้อแล้วยังหาไม่เจออีกหรอครับ


    เทคนิคการฟังเสียงผิดปรกติจากภายนอกเครื่องยนต์ดังที่บอกนั้น ใช้หลักการเดียวกันเลยกับเครื่องฟังเสียงอวัยวะภายในที่หมอใช้เวลาเราไปตรวจ อู่แรกนั้นใช้ท่อสายยางน้ำนั้นจะไม่ได้ยินหรอกผมฟันธงให้เลย(ดีที่ไม่ได้ทำอู่นี้) แต่อู่ที่สองเนี่ยฟังยังไงถึงวิเคราะห์ไม่ได้ว่าเสียงที่ว่านั้นมันเกิดจากอะไร(ดูแม่งๆอยู่นา) แม้รื้อออกมาหมดแล้วก็ยังเดาว่าเป็นที่ปั๊มน้ำมันเครื่อง(กำๆๆๆๆๆๆ) รึไม่ก็ชาปก้าน(เดาอีก)หมายฟามว่ายังไม่รู้อีกว่าเจ้าเสียงนี้มาจากไหนกันแน่ ผมป่าวว่าใครนะครับ แต่อยากบอกว่าเปิ้นฟังบ่อเปง อะงับ ถึงวิเคราะห์บ่อได้ว่าเสียงมาจากไหน

    แบบว่าอย่างงี้ครับคุณยุทธ เทคนิคนี้ช่างระดับเทพจริงๆเท่านั้น(ย้ำระดับเทพ)ถึงสามารถวิเคราะห์ได้ มันฟังได้แม้กระทั่งเสียงแหวนสูบหักในสูบใดสูบหนึ่ง(ตอนถอดมันหักหรือว่ามันหักอยู่แล้วล่ะ บางทีเส้นผมบังภูเขาเสียงแกร๊กๆอาจจะเป็นเสียงแหวนหักก็อาจเป็นได้ ความจริงแค่เปลี่ยนแหวนที่หักก็จบแล้ว ) เสียงวาวล์ยันในสูบใดสูบหนึ่ง แม้กระทั่งเสียงของก้านสูบ ข้อเหวี่ยง แคมชาร์ฟ วาวล์คดในสูบใดสูบหนึ่ง แม้แต่ในเฟืองเกียร์ที่มีสิ่งผิดปรกติ เอาเป็นว่าฟังได้ทุกจุดในเครื่องยนต์กันเลยล่ะโดยไม่ต้องรื้อ ไม่ต้องถอดใดๆเลย เพียงแค่ติดเครื่องยนต์แล้วฟังเสียงผิดปรกตินั้นเท่านั้น เป็นการประหยัดเวลาในการรื้อออกมาดู(ต้องสุ่มว่ามันน่าจะเสียงตัวนั้นตัวนี้ แต่ฟังมันข้างนอกเลยแล้ววิเคราะห์ให้ถูกว่าเสียงที่ว่านั้นมาจากชิ้นส่วนไหนกันแน่) ประเด็นก็คือวิเคราะห์ให้ถูกว่ามันเสียตรงไหนก่อนฟังให้รู้แน่ชัดว่าเสียงผิดปรกตินั้นมาจากส่วนไหน่ให้ได้ก่อนแล้วค่อยรื้อครับ ไม่ก็เตรียมวางแผนก่อนรื้อ ไม่งั้นบานปลายแน่(ห่วงจริงๆ) ผมว่ามันเป็นศาสตร์และศิลปขั้นสูงระดับเทพจริงๆซึ่งมีช่างเพียงไม่กี่คนที่มีพรสวรรค์ในเรื่องนี้ครับ(ไม่งั้นช่างจ่อยไม่ได้ตังค์และได้รับความเชื่อถือจากเศรษฐีที่ใช้รถราคาแพงลิบหรอก ลองคิดดูช่างที่ผ่านการอบรบโดยตรงมาจากศูนย์ของรถยี่ห้อนั้นๆยังจนปัญญาหาเท่าไรก็ไม่เจอหาเป็นวันๆเลยครับ ) เสียงแต่ละจุดนั้นเป็นลักษณะเฉพาะตัวของมันผมอธิบายไม่ถูกสำคัญต้องฟังเป็น ต้องสร้างเครื่องมืออย่างที่บอกสำคัญท่อต้องเสียบเข้าไปในรูหูเราเลยถึงจะได้ยินเสียงผิดปรกติและแยกแยะมันออกได้ สำคัญ(อันนี้ขอออกตัวก่อนนะว่าไม่มีเจตนาว่าใครเลย)ช่างคนนั้นเขาฟังเป็นหรือไม่ หรือว่าทำเป็นฟรอมว่าเป็นฟังเป็นเพื่อจารื้อเครื่องออกมาลูกเดียว(อย่างน้อยในเบื้องต้นก็ค่าแรงถอด๒,๕๐๐บาทตุนไว้ก่อนล่ะ แล้วยังจะค่าอะไหล่ที่บวกเข้าไปในบิลที่จะตามมาอีกเป็นหางว่าว ) ซึ่งเป็นข้ออ้างที่เจ้าของรถไม่สามารถปฏิเสธได้ เพราะเสียงเจ้ากรรมนั่นล่ะ สรุป แม้รื้อออกมาหมดแล้วยังตอบไม่ได้ว่าเสียงมาจากจุดไหนใช่หรือไม่ครับ

    อ.แอ้มว่ามานั้นถูกเผงเลยล่ะคุณยุทธ ชิ้นส่วนในเครื่องนั้นเจ้าปั๊มน้ำมันเครื่องเป็นชิ้นส่วนเดียวที่ทนมือทนเท้ามากที่สุดครับ เพราะต้องแช่ในน้ำมันเครื่องอยู่ตลอดเวลา ใครก็ตามที่วิเคราะห์ว่าปั๊มพังเนี่ยให้พึงระวัง และตรวจดูด้วยตัวเองในแน่ใจครับ วิธีทดสอบ แค่เอามือหมุนแล้วเอาฟักบัวแช่ในน้ำมันเครื่องมันก็ดูดให้เห็นแล้ว เช็คแบบพื้นๆง่ายๆ งานนี้ผมกลัวบานปลายครับคุณยุทธ หามผีเข้าไปถึงป่าช้าแล้ว ไม่ฝังก็เผาล่ะ (ช่างรื้อออกมาทั้งเครื่องแล้ว) ทีนี้หากประกอบเข้าไปอีก เสียงเจ้ากรรมกลับมาอีกจาทำงัย ให้ถามช่างคนนี้เลยว่า ให้เขารับแก้งานโดยไม่คิดค่าผ่าเครื่อง๒,๕๐๐จากเราอีก ตกลงให้ชัดๆนะคุณยุทธผมเจอมาเยอะจัด จนไม่อยากบรรยาย ประเภทมั่วๆรื้อลูกเดียวปัญหาที่จาตามมาค่อยว่ากันที่หลัง นอกจากเสียงเงินเสียเวลาแล้ว ยังต้องมาตามแก้งานไม่รู้จบอีก

    ลองทางเลือกที่สามไหม ไม่ต้องไปสนใจมันว่าพังตรงไหน เอาเครื่องเชียงกงลงเลยดีป่ะ ผมว่างบไม่บานปลาย(ในสิ่งที่ยังไม่รู้) จบในงบที่เราพอรับได้(แท๊กซี่ชอบวิธีนี้) ไหนๆก็รื้อเครื่องแล้ว เครื่องเก่าที่เจ้าปัญหาเก็บไว้เป็นอะไหล่ บางทีอาจจะอยู่ในเกียรโอโต้ก็ได้เสียงที่มันออกมาเนี่ยแล้วเราฟังจากภายนอกนั้นจะไม่สามารถแยกแยะได้หรอกว่ามาจาเครื่องหรือเกียรหรือแม้แต่จุดไหนในเครื่อง มันมักจะหลอกทิศทางของเสียงที่มาเสมอ มันจะสะท้อนก้องกันเอง แค่เปลี่ยนวาวล์บดวาวล์(จริงๆต้องทำเพราะใช้มาแสนเจ็ดแล้ว)ก็ต้องเพิ่มค่าใช้จ่ายขึ้นมาอีก ผมว่าเปลี่ยนเครื่องเชียงกงลงเลยดีกว่าไหมเนี่ย

    คงมีความเห็น ณ ตอนนี้ได้เท่านี้ล่ะครับ แล้วก็เป็นกำลังใจเอาใจช่วยให้มันเป็นดังที่ช่างรื้อเขาสันนิษฐาน ไม่งั้นบานปลายแน่หากไม่ใช่ตรงที่ว่าเนี่ย
     
  3. จินนี่

    จินนี่ New Member Member

    398
    0
    0
    ปิงโก

    เสียงแกร๊กๆๆๆๆๆๆๆๆ ตามรอบเครื่อง เกิดจากแหวนหักครับ เหอะๆๆๆๆๆ ชัวร์ไม่มั่วนิ่ม ไม่มีช่างที่ไหนถอดชิ้นส่วนเครื่องยนต์ที่มันทำงานได้ปรกติอยู่แล้ว รื้อออกมาแล้วแหวนหักหรอกครับ นอกจากมันหักอยู่ก่อนแล้ว ไอ้เสียงที่ว่านั้นคือเสียงแหวนหักนั่นเองครับ อิอิอิ(เพิ่งออกจากสมาธิมะกี้ เลยเกิดปัญญาขึ้นมาจี๊ด) สาเหตุเกิดจากแหวนหักครับ ชาร์ฟก้านก็ไม่ทำให้เกิดเสียงแกร๊กๆๆดังว่าหรอกครับ ยิ่งปั๊มน้ำมันเครื่องแล้วเลิกกันเลยเป็นไปบ่อได้ อิมพอสสิเบิลเด้สิบอกไห่ แม้มันจะให้ตัวได้ก็ตาม เสียงไม่ดังแบบนั้นแน่

    หากจะใช้อีกแค่สองหมื่นก็ไม่ต้องทำอะไรมากกว่านี้ จาบานปลายครับ เก็บตังไว้ใช้อย่างอื่นดีกว่า หากจะว่าไปแล้วช่างเขาฟังรู้ครับ แต่ไม่ต้องรื้อก็ได้ กรณีแหวนหัก เด๋วผมจาบอกวิธีเปลี่ยนแหวนโดยไม่ต้องรื้อเครื่องให้เป็นวิทยาทานให้ฟัง แต่ก็อีกนั่นแหละ มันเป็นอาชีฟของเขา ครั้นทำแบบว่าก็จาเรียกค่าแรงและอื่นๆอีกไม่ได้เยอะ อันนี้ไม่ว่ากัน ทำแบบนี้ครับ

    ขึ้นแม่แรง เปิดฝาแคร๊งน้ำมันเครื่อง(ฝาล่าง) ออก แล้วก็ถอดน็อตก้านสูบจากด้านล่าง หมุนข้อเหวี่ยงหลบก้านสูบในสูบที่แหวนหัก(มันหักไม่พร้อมกันทั้งสี่สูบหรอก ) แล้วก็ดึงลูกสูบลงมาจากเสื้อด้านล่างเลยมาเปลี่ยนข้างนอก ช่างเรโนลต์เคยเปลี่ยนแหวนเจ้าจินนี่โดยวิธีนี้ให้ผมเห็นต่อหน้าต่อตามาแล้วครับ เรียกว่าไปทำให้บริการถึงอุบลกันเลยทีเดียวประหยัดค่าใช้จ่ายและเวลาไปได้กว่าครึ่งครับ ใช้เวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมงก็เสร็จครับทั้งสี่สูบ แต่แหวนป่าวหักนะครับ(ถึงเวลาเปลี่ยนตามระยะมันตอนนี้เจ้าจินนี่น่าจาใช้งานมาเกินห้าแสนกิโลแล้วครับ ครบหนึ่งล้านกิโลถึงจาปลดระวางอิอิอิ) โดยไม่ต้องเปิดฝาสูบหรือถอดชิ้นส่วนอื่นเลย ทำเสร็จก็เดินทางกันเลย ผมก็ขับเจ้าจินนี่มาส่งช่างท่านนั้นที่กรุงเทพและทำงานของผมต่อครับ เห็นไหมมีวิธีประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายวิธีใหม่ๆง่ายๆในการแก้ปัญหาให้ลุล่วงอีกเยอะเลย
     
  4. professor

    professor New Member Member

    117
    0
    0
    อุปกรณ์ฟังเสียงที่ว่า ต่างประเทศ ใช้ฟังเสียงเครื่องยนต์มานานแล้ว
    คล้ายๆ หูฟังหมอ ที่เรียกว่า stethoscope
    แต่ในกรณีของเครื่องยนต์ จะทำเป็นรูเข็มเล็กๆ เพื่อลดเสียงรบกวนจากจุดอื่น และ บ่งชี้จุดได้ชัดเจน (pin point)
    ราคาอัน 500-800 บาท ช่างไทยเล่นง่ายไปหน่อย ทำเอง ก็เลยไม่ค่อยผลมากนัก
    ผมว่าช่างที่ไหนถ้ามีประสบการและสังเกตุหน่อย ก็น่าจะฟังเสียงออก
    เพราะในตำราทุกเล่มเกี่ยวกับการซ่อมเครื่องยนต์ จะพูดถึง stethoscope เสมอๆ
    รูป mechanics stethoscope
     
  5. professor

    professor New Member Member

    117
    0
    0
  6. คนปากช่อง

    คนปากช่อง New Member Member

    707
    0
    0
    มันก็มีแค่ 2 รุ่น ไม่ civic ก็ altis ครับ แต่ลังเลไปทาง civic เพราะราคาเท่ากันได้เครื่อง 1800
    tota ได้เปรียบที่จุกจิกน้อยกว่า อะหลั่ยหาง่าย แต่รออีกสักปีค่อยคิดครับ ยังไม่รีบ ถ้าคันนี้ใช้ดีอยู่ก็ไม่น่ารีบเสียตัง
     
  7. คนปากช่อง

    คนปากช่อง New Member Member

    707
    0
    0
    เมื่อวานพอคุยกับ อ แอ้มแล้วถึงรู้ว่าตัดสินใจรื้อเร็วไป น่าจะคุยกับแกก่อนรื้อ แต่รื้อแล้วก็ต้องว่าไปให้จบ
    เรื่องฟังเสียงผมว่าช่างที่อู่ผมคงยังฟังไม่ออกเองแหละ เพราะคนที่ฟังเสียงนี่เป็นเจ้าของร้านที่ยังอายุไม่มากนัก ไม่เกิน 30 ได้ แต่ซ่อมเยอะ มีรถเก๋งรถปิคอัพบริษัทมาให้ทำทุกวัน พอคนแรกนี่รื้อสายพานราวลิ้นเสร็จแล้ว รู้แน่ว่าต้องรื้อเครื่อง ก็ให้ลูกน้องที่เป็นช่างเครื่องมารื้อต่ออีกที คนนี้ไม่ได้ฟังเสียงตอนแรก รื้ออย่างเดียว พอถอดออกมา เขาก็แจ้งว่าสงสัย 2 จุด คือชาร์ปอกที่มันโยกขึ้นลงได้เล็กน้อย กับปั๊มน้ำมันเครื่องนั่นแหละครับ ชาร์ปน่ะซื้อมาแล้ว ปั๊มก็ยืนยันให้ใช้ตัวเดิมไปตามที่พี่แอ้มบอก ก็เจอเปลี่ยนแหวนไปทั้งชุด ผมไม่แน่ใจว่าแหวนหักในเครื่องแล้วมันดังแก๊กๆอย่างที่คุณจินนี่ว่า หรือมันหักตอนถอด แต่ช่างบอกว่ามันหักตอนถอดครับ เขาบอกว่าใช้เครื่องมือง้างมันแล้วก็หัก ผมไม่ได้เฝ้าตอนถอด

    ถ้าแหวนมันหักในเครื่องจริง อาการจะเป็นอย่างไรครับ กำลังตกใช่ไหม แต่ที่ครับอยู่ผมว่ามันก็แรงไม่ตกนา เสื้อสูบนี่ยังไม่ได้ดูชัดๆว่าเป็นรอยหรือเปล่า

    ไอ้เรื่องเสียงแก๊กจะกลับมาอีกตอนประกอปเครื่องกลับนี่ผมก็เสียวๆอยู่ เพราะกลัวช่างอ้างว่าเกิดจากปั๊มน้ำมันเครื่องที่ไม่ได้เปลี่ยน เดี๋ยววันนี้ต้องคุยกันอีกที เมื่อวานช่างบอกจะไปเชื่อมพอกตรงร่องลิ่มตรงกลางเฟืองปั๊มน้ำมันเครื่องที่ต่อกับแกนข้อเหวี่ยง เพราะมันจะคลอนอยู่เล็กน้อย ผมก็ไม่แน่ใจว่าจะเชื่อมพอกดีหรือเปล่า เพราะมันยึดติดกับเพลาข้อเหวี่ยงแน่น ไม่น่าจะคลอนได้ มันจะจะมีระยะฟรีนิดๆของมัน

    เรื่องเปลี่ยนเครื่องนี่ไม่อยากครับ คงไว้เป็นทางเลือกสุดท้ายจริงๆ เพราะต้องใช้งบสูงถึง 25000 ทั้งเครื่องกับค่าแรง คงลองปล้ำกับเจ้าเสียงนี้อีกสักตั้งก่อน ลองประกอบกลับพร้อมอะหลั่ยใหม่ที่เปลี่ยนดูว่าจะเป็นยังไง ถ้าต้องรื้ออีกรอบก็ว่าจะไม่เปิดฝาสูบแล้ว ใช้ถอดออกจากใต้เครื่องอย่างที่คุณจินนี่ว่าจะดีกว่า เร็วกว่า ไม่ต้องเปลี่ยนปะเก็นฝาด้วย ไม่รู้ว่าช่างผมเขาจะรื้อแบบไม่เปิดฝาเป็นหรือเปล่านะสิ

    ที่แย่หน่อยคือวันจันทร์นี้ไปเกาหลีอีก 5 วัน กลับมาคืนวันศุกร์ ตี 1 เลยไม่มีโอกาสเฝ้าช่าง คอยดูงานเลย
     
  8. คนปากช่อง

    คนปากช่อง New Member Member

    707
    0
    0
    ให้มันเป็นเสียงแหวนหักจริงๆเถอะครับ จะได้จบกันที แล้วต้องทำอะไรกับเสื้อสูบหรือเปล่าครับ ถ้าต้องถอดงวดหน้าจะถอดลูกสูบแบบที่คุณจินนี่ว่ามาแน่ๆ
     
  9. คนปากช่อง

    คนปากช่อง New Member Member

    707
    0
    0
    คุณ professor มีข้อมูลเรื่องซ่อมรถด้วย เยี่ยมเลยครับ ไอ้ตัวนี้น่าลองทำเล่น แต่คงไม่ค่อยได้ใช้เพราะไม่ได้เป็นช่าง

    เอารูปเครื่องที่ผ่าอยู่มาให้ดูครับ
     
  10. คนปากช่อง

    คนปากช่อง New Member Member

    707
    0
    0
    ภาพที่ 1 ไอ้ตัวที่อยู่ข้างกล่องแดงนี่แหละ ปั๊มน้ำมันเครื่อง ดูเฟืองทั้ง 2 ตัวก็เป็นปกติดี หัวลูกสูบที่เห็บขาวๆนั่นขูดเขม่าแล้วนะ เขม่าเต็มหัวสูบเลย ผมไม่ได้ใช้น้ำมัน autolube หล่อเครื่องนะ ไม่รู้เขม่ามาได้ไง

    รูปที่ 2 ให้ดูเขม่าชัดๆ กับแหวนที่หัก

    รูปที่ 3 ฝาสูบกับคราบดำๆ

    รูป 4 เสื้อสูบ

    รูป 5 ข้อเหวี่ยง ช่างน่าจะถอดจากข้างใต้ตั้งแต่แรก

    ใครมีคำชี้แนะอะไรบ้างครับ นอกเรื่องแอร์ไปชั่วคราว
     
  11. คนปากช่อง

    คนปากช่อง New Member Member

    707
    0
    0
    ภาพที่ 6 แคร้งน้ำมันเครื่อง ช่างบอกว่ามีขี้น้ำมันเครื่องกองอยู่ก้นอ่าง และบางส่วนไปอุดตันฝักบัว ก็ให้ล้างทำความสะอาดให้เรียบร้อย ผมใช้น้ำมันเครื่อง ptt Semin syn 10w-40 มาตลอด เปลี่ยนทุก 13000-15000 กม กรองน้ำมันเครื่องเทียม ลูกละ 70-80 บาท

    ภาพที่ไม่ชัดอีก 4 ภาพถ่ายจากมือถือ ทั้ง 4 สูบมีเขม่าเกาะเพียบ ไม่รู้เหกมือนกันว่ามาได้ไง รถใช้แกามาประมาณ 60000 กม แทบไม่ใช้น้ำมัน ไม่ใช้ auto lube เลี้ยงลูกสูบ
     
  12. enforce

    enforce Active Member Member

    2,041
    13
    38
    แหะๆๆ เรื่องรื้อเครื่องยนต์ ผมยังไม่เคยลงมือเองฮะ รู้แต่พวกอาการเบื้องต้น
    เท่านั้นเองฮะ แหะๆๆ

    แต่ทำไมลูกสูบมันมีขม่าแค่ลูกเดี๋ยวอะคับ อันนี้ผม งง มากๆๆ

    ถ้าเป็นเรื่องรถ Honda ผมชอบมาก เปรียบเหมือน BMW ญี่ปุ่น
    แต่ Honda ในตอนนี้ ตามความคิดผมนะคับพี่ยุทธ

    อย่างตัว honda แอกคอด์ก่อนตัวใหม่ล่าสุด พี่สาวพึ่งออกมาคับ
    วัสดุพลาสติกข้างในรถ เปราะบางมากๆๆๆๆๆ แล้วก็ ช่วงล่างไม่ได้เรื่องเลยคับ
    สู้ แอกคอด์ตัวเก่าที่เป็นไฟท้าย 2 ก้อนไม่ได้เลยครับ
    (ตะก่อนผมใช้แอกคอด์ตัวไฟท้าย 2 ก้อนอยู่ ชอบครับทุกอย่าง ok หมด)
    ตอนนี้รถใช้ได้ 8000 กิโล เองนะคับ ขับแล้วมันดังที่ล้อหน้า
    เครื่องยนต์กระพื่อมากๆๆๆ เอาเข้าศูนย์ โช๊คหน้าแตก ยางแท่นเครื่อง 3 ตัวขาด
    !!!!!!! ผมนี้ งง มากกกกเลย อะไรวะ รถป้ายแดงราคา 1.4 ล้าน ทำไมห่วยงี้วะ
    คงลดต้นทุนการผลิตมากเลยมั่งคับ วัสดุแต่ละอย่าง ห่วยจิงๆคับ

    และถ้าเป็น Vios ของอดีตคนรัก เป็นโฉมปัจจุบัน ภายในเนียบมาก(ตัวถูกสุด)
    พลาสติกภายใน การประกอบติดกัน ทำออกมาได้เนียนครับ
    ช่วงล่างเดิมๆ ติดรถมา ผมว่าดีมากคับ หนึบไม่โครงเคร้ง
    ผมว่าช่วงล่างดีกว่า honda แอกคอด์เยอะเลยคับ

    แต่ถ้าเป็นตัว Civic โฉมปัจจุบัน ผมยังไม่เคยขับเลยไม่มีข้อมูลเปลียบเทียบ
    อะคับ

    แหะๆๆๆ ส่วนตัวผม ผมเป็นคนขับรถเร็วอ่ะคับ ยังไงก็ยังเลือก BMW คับ อิอิ
    รถอะไรก็ไม่รู้ หาแฟนได้เยอะ จิงๆๆๆ :D:D:D:D:D:D:D:D:D
     
  13. professor

    professor New Member Member

    117
    0
    0
    ผมอยู่วงการรถมานานแล้ว และชอบศึกษาพวกรถเป็นประจำ แต่ไม่ค่อยได้ทำจริงๆ เพราะเครื่องมือไม่มี
    อีกอย่างงานผม ต้องมีพวกเครื่องยนต์มาเกี่ยวเยอะ เพราะทำชุดวัด dynamometer ขนาดเล็ก
    ทำเครื่องยนต์ไบโอแก๊ส ชุด lab เครื่องยนต์เบนซินดีเวล ชุด Gen สัญญาณหัวฉีดของดีเซล คอมมอนเรล ฯลฯ ที่เกี่ยวข้องกับเครื่องยนต์หลายๆ อย่าง
    จนกระทั่งนำเข้าเครื่องวัด Wideband lambda มาขาย แต่ตลาดเน้นพวกมหาลัยน่ะครับ
    และก็ผมโหลด Service manual ของเครื่องยนต์ มาเป็น reference เป็นประจำน่ะครับ เลยรู้วิธีการซ่อมพอควร
    อย่างว่า จะขายของให้พวกคนรู้ เราก็ต้องรู้ไม่น้อยหน้า

    น่าเสียดายแกะเครื่องไปซะแล้ว
    ปกติการซ่อม เราจะต้องตรวจเช็คอาการภายนอกให้ชัวร์ก่อน ถึงค่อยแกะเครื่อง
    อย่างเช่น วัดแรงอัด ถ้ารู้ว่าสูบไหนแรงอัดน้อย ก็แสดงว่า แหวนอาจจะหัก

    ตอนนี้รถผมน้ำมันเครื่องรั่วนรก อาจจะได้ ฤกษ์ เปลี่ยนประเก็นแล้วเหมือนกัน ขาดแต่เวลา
    รถต้องใช้ตลอด
     
  14. professor

    professor New Member Member

    117
    0
    0
    ลองดูอีกอัน
    วิธี run in เครื่องแบบใหม่ เป็นไอเดียใหม่ถอดด้าม
    คือ รันอิน แบบแรงๆ ในตอนแรกไปเลย ไม่ใช่ขับเอื่อยๆ แบบที่เราทำกันทุกวันนี้
    ทำให้การสึกหรอ ต่อไปต่ำ และเครื่องมีแรงมากกว่าเดิมหลาย %
    อ่านดูแล้วก็มีเหตุผลที่ดีเหมือนกัน
    ผมว่าจะลองเหมือนกัน ถ้าได้ยกเครื่องใหม่อีกที
    ลองแล้วมาเล่าให้ฟังบ้าง
    http://www.mototuneusa.com/break_in_secrets.htm
     
  15. enforce

    enforce Active Member Member

    2,041
    13
    38
    หมายความว่า เครื่องยนต์ใหม่ๆ ที่ออกมาป้ายแดงนั้น
    เมื่อก่อนเราจะขับกันช้าๆ ใช้รอบเครื่องต่ำให้ถึง 1000 กิโล
    เพื่อให้ ลูกสูบกับ กระบอกสูบ นั้นทำงานได้พอดีกัน
    เพราะว่า เครื่องจักรสมัยก่อนยังไม่เป็นระบบ CNC
    การคว้านเสื้อสูบนั้นก็ยังไม่ได้มาตาฐาน เลยต้องมีการ รันอินเครื่องยนต์

    แต่ในปัจจุบันนี้ การผลิตเครื่องยนต์ เขาใช้เครื่อง CNC เลยมีความแม่นยำ
    สูงมาก เลยทำให้เครื่องยนต์ใหม่ๆ ที่ออกมาป้ายแดงนั้น
    ไม่ได้ทำการ รันอิน ใช้ไหมครับ เพราะกระบอกสูบ กับลูกสูบนั้น มีความพอดีกันหมด

    ที่ผมเข้าใจไม่ทราบว่าถูกไหมครับ รบกวนคุณ Professor ให้ความรู้เพิ่มเติมด้วยคับ ^^
     
  16. คนปากช่อง

    คนปากช่อง New Member Member

    707
    0
    0
    ได้ความรู้ใหม่อีกแล้ว งวดหน้าได้ปรึกษาคุณ professor แน่ครับ อู่เล็กๆแบบนี้ไม่มีเครื่องวัดแรงดันกระบอกสูบ ช่างก็เป็นแบบที่รู้เพราะเคยเป็นลูกมือเขามาก่อน ทำมาเยอะเลยรู้ว่าทำยังไง แต่ภาคทฤษฎีไม่ได้แน่ๆ ตอนนี้ได้เสียเสียดายที่รื้อเครื่องเร็วไปหน่อย ต้องรอให้ช่างทำให้เสร็จอย่างเดียว แล้วผมไม่ไปยุ่งกับช่วงบนของฝาสูบเลย คือไม่เปลี่ยนยางตีนวาล์ว ไม่บดแหวน ไม่ตั้งวาล์ว ทั้งที่ใช้มา 175000 กม จะมีปัญหาอะไรไหมครับ ไม่อยากให้งบประมาณบานปลาย ตั้งใจใช้แค่ปีเดียวก็คงเปลี่ยนรถเสียที ปีหนึ่งใช้รถไม่เกิน 17000 กม ครับ
     
  17. professor

    professor New Member Member

    117
    0
    0
    เรื่องนี้ยังถกเถียงกันในอินเตอร์เน็ตมากมายครับ
    แต่ดูตามรูปที่เค้า post มา ก็น่าเชื่อในระดับหนึ่ง (มันจะหลอกคนไปทำไม เงินก็ไม่ได้)

    เรื่อง CNC ไม่เกี่ยวครับ เพราะว่าผิวพวกนี้ต้องมีการขัดอีกรอบ (grinding)
    แต่ก็ยังไม่ดีพอที่จะ seal ความดันในลูกสูบได้

    ตาม web บอกว่า เพื่อให้รอยขัดตรงเสื้อสูบ (horning) ขัดผิวของแหวนลูกสบจนเข้าที่ในตอนช่วงแรกๆ
    เพื่อให้แหวนลูกสูบซีลแรงอัดสูงในห้องเผาไหม้ได้ดี ป้องกันแก๊สร้อนกลับลงมาทำลายน้ำมันหล่อลื่น

    อย่าลืมนะครับว่า รถที่ใช้ทุกวันนี้ การสึกหรอของลูกสูบ จะเกิดตามแนวตบข้างของลูกสูบ ซึ่งจะสึกเป็นรูปวงรี ไม่ใช่วงกลม ไอ้ส่วนสำคัญที่สุดคือด้านข้าง ซึ่งพอรถใช้ไปนานๆ แล้วการสึก มันจะไม่ค่อยมี เพราะมันไม่ใช่ด้านตบ ถ้ามันรั่วตอนแรกๆ ตอนต่อไปมันก็รั่วมากขึ้น เนื่องจาก gas ร้อนมัน leak ลงมาทำลาย film น้ำมัน ทำให้เกิดผงถ่าน carbon ซึ่งก็จะไปขัดสีลูกสูบ และที่สำคัญไส้กรองละเอียดก็ยังกรองอนุภาคเหล่านี้ไม่ได้ นอกจากไส้กรองที่ละเอียดมากจริงๆ (พวกใช้กรองทำน้ำมันปลอม) ที่เราเห็นน้ำมันเป็นสีดำ ก็เพราะเขม่าพวกนี้

    ส่วนตัวแล้วเชื่อครับ เพราะมีเหตุผลน่ารับฟัง
    และถ้าคุณรู้ว่า การทำลูกสูบกับเสื้อสูบน้ำมันดีเซลของเครื่องยนต์ (แม่ปั๊มดีเซล) ใช้การ grinding ธรรมดา ไม่ได้ ต้อง grinding ให้ถึงระดับหนึ่ง แล้วให้เสื้อสูบและลูกสูบขัดสีกันเองจนเข้าที่ เพื่อให้มีการ leak ของน้ำมันดีเซลน้อยสุด ซึ่งมีผลให้ทำความดันได้สูง ซึ่งยืนยันความคิดที่ว่านี้

    เรื่องนี้คงเชื่อไม่ได้นอกจากลองด้วยตัวเอง

    เหมือนการล้างแผลสด ตอนนี้ ผิดจาก concept เดิมอย่างมาก คือ ต้องอย่าให้แผลแห้ง
    ให้แผลเปียก อย่างนั้นแหล่ะดี

    สมัยก่อนเราล้างแผลโดยใช้ ทิงเจอร์ และคอยซับหนองกับน้ำเหลืองให้แห้ง
    แต่ปัจจุบันพบว่า การปล่อยให้แผลมีความชื้น การล้างแผลด้วยน้ำเกลือ normal saline จะช่วยให้แผลหายเร็วกว่า
    เป็นเรื่องที่ขัดหลักความรู้ในอดีตมากๆ

    อีกอย่างวิธีทำแบบนี้มีเทคนิก พอควร คือ ต้องใช้น้ำมันเครื่องเกรดธรรมดาก่อน รันอินโหดๆ ตามใน web
    วิ่งได้ 30 กิโล ก็ถ่ายน้ำมันเครื่อง กับเปลี่ยนไส้กรองทันที (ยังใช้น้ำมันธรรมดาอยู่)
    หลังจากนั้น 2,000 กิโล แล้วถ่ายน้ำมันเครื่องพวก ซินเทติก ตามใจชอบ

    ยังไงลองอ่านดูก่อนนะครับ จะเชื่อหรือไม่ก็คงต้องมีการลอง
    รูป การชำรุดของลูกสูบ เนื่องจากแก๊สร้อนรั่วลงมาทำลาย ฟิล์มน้ำมัน
     
  18. professor

    professor New Member Member

    117
    0
    0
    ปกติอาการเสียงดังต้องให้ชัวร์ก่อนว่ามาจากไหน ถึงจะลุย
    ตอนนี้คงต้องวัดดวงว่ามันจะหายหรือเปล่า

    บางทีการรื้อเครื่องยนต์ ต้องทำการสังเกตุไปด้วยว่า สูบไหนเป็นอย่างไร มีเขม่ามากกว่าเพื่อนหรือเปล่า
    วาล์วเป็นอย่างไรบ้าง แหวนเป็นอย่างไรบ้าง ลูกสูบ เป็นอย่างไรบ้าง
    บางทีก็ไม่จำเป็นต้องเปิดออกมาดู แค่หัวเทียนก็บอกอาการได้แล้ว พวกนี้บ่งบ่อกการชำรุดของหลายๆ อย่างได้

    ปกติเสียงดังจากเครื่องยนต์ ช่างจะดูปั๊มน้ำก่อนเลยครับ เพราะเป็นจุดที่พังง่ายที่สุดแล้ว
    แล้วก็ดู bearing พวก pulley ต่างๆ ถอดสายพานแล้วหมุนดูก็รู้แล้วว่าดีหรือไม่
    ดีไม่ดีก็เสียตรง แบริ่งไดชาร์จ หรือแอร์ พวกนี้ มันโดนน้ำเข้าได้
     
  19. professor

    professor New Member Member

    117
    0
    0
    ปกติ ถ้าเราใช้รถ เราจะรู้ได้ว่า ส่วนไหนมันชำรุด
    เช่น แหวนรั่ว ก็อาจจะมีอาการกินน้ำมันเครื่อง
    ตีนวาล์วรั่ว ก็แรงเครื่องอาจจะตก กินน้ำมัน
    ถ้ามีเขม่าใน intake port ก็อาจจะเป็นไปได้ว่า วาล์วไอดีรั่ว
    น้ำในหม้อน้ำหาย ก็อาจจะประเก็นรั่ว

    พวกนี้มันมีข้อบ่งบอกเหมือน CSI นั่นแหล่ะครับ
    ขึ้นอยู่กับว่าเราสังเกตุ แล้ววิเคราะห์อย่างไร
    สิ่งนี้แหล่ะ ที่ช่างเทพๆ ทั้งหลายมีกัน
    ช่างธรรมดา ก็จำเอา แก้ตรงนั้นหาย ตรงนี้หาย ก็ลองดะมันไปเรื่อยๆ
    เปลี่ยนแม่งจะทุกอย่างที่ขวางหน้า
    ลูกค้าก็เซ็ง

    ปกติผมซ่อมรถ จะบอกช่างเลยว่าเปลี่ยนอะไรบ้าง
    ไม่งั้นช่างจะชอบบอกว่าอันนี่เสียบ้าง

    การบดวาล์ว ก็ต้องดูก่อนว่าวาล์วรั่วหรือเปล่า ถ้าไม่รั่วจะบดทำไม
    ช่างที่เก่งๆ ดูก็รู้ครับ หมุนแคมชาฟให้วาล์วเปิดดูก็จะรู้ เพราะมันจะเป็นรอยชัดเจน
    ยางตีนวาล์ว ก็ดูอายุใช้งานได้ ถ้า 10 ปีก็ควรเปลี่ยนได้ละ หรือจับเอา
    ถ้ายังมีความยืดหยุ่นอยู่ก็แสดงว่า ok
    ส่วนตั้งวาล์ว ก็ควรจะรู้ว่ารถเรา ตั้งที่เท่าไหร่ บางทีก็อาจจะใช้ค่าเฉลี่ยของรถทั่วไปก็ได้
    ตอนแรกอาจใช้ feeler gage จับวาล์ว แต่ละตัวก่อน ถ้าช่องว่างไม่เท่ากัน ก็แสดงว่าได้เวลาตั้งวาล์วแล้ว
     
  20. E30DET

    E30DET Member Member

    631
    1
    18
    อ่านแล้วได้ความรู้เยอะเลย ขอบคุณทุกท่านมากครับ

    ข้อความนี้ขอเถียงครับ ผมขับ E30 โดนสาว ๆที่ทำงานแซวบ่อย ๆ ว่าทำไมขับรถโบราณจัง
    แถมไม่มีใครกล้าเดินมาใกล้รถผมเลย (เพราะว่ากลัวเลอะ พอดีช่วงนี้ไม่ว่างล้างรถเลย ขนาดวันไปทำแอร์บ้านพี่ทรัพย์ แกยังเอาเครื่องฉีดน้ำมาล้างรถให้ผมเลย) :D:D:D
     
  21. enforce

    enforce Active Member Member

    2,041
    13
    38
    :hippie: แหมมมม ตามยุคตามเวลาคร้าบพี่กบ:D:D:D:D
     
  22. จินนี่

    จินนี่ New Member Member

    398
    0
    0
    ตรงนี้แหละ


    เท่าที่เล่ามาและเอาภาพมาให้วิเคราะห์ ผมค่อยข้างแน่ใจว่าเสียงนั้นเกิดจากแหวนหักครับ เอาเป็นว่าประมาณทองสวิสครับ ๙๙.๙ อะไรประมาณนั้น แล้วนี่คุณยุทธจาไปต่างประเทศอีก ผมก็จาเดินทางพรุ่งนี้ยาวโลดเลยไม่ศุกร์ค่ำๆก็เสาร์เช้าโน่นล่ะถึงจาได้กลับ ทีนี้ก็มะมีใครดูตอนประกอบดิ แต่มั่นใจว่าจบครับ ภาวนาอยู่อย่างเดียวก็คือ ภาวนาอย่าให้ช่างที่ประกอบมันป่วยอีตอนประกอบกลับคืนแล้วดันลืมกินยาก็พอ (อิอิ ลืมกินแต่เพ่ดันวางขวดยาไว้ที่ห้องเครื่องรถคุณยุทธก็พออะคับ) ภาพเสื้อที่ถ่ายสูบที่หนึ่งกะสูบที่สี่ จาเป็นรอยตอนมันสะบัดเห็นได้ชัดครับ น่าจาเกิดจากแหวนหักตัวต้นเหตุครับ สภาพวาวล์กะเสื้อส่วนบนดูดีอยู่ครับอย่างเพิ่งไปยุ่งกะมัน โตต้าขึ้นชื่อเรื่องทนมือทนเท้าอยู่แล้ว

    แต่อยากจะวิเคราะห์ทางลึก เพื่อเป็นกรณีศึกษาถึงสาเหตุที่แหวนหักในครั้งนี้ หรือสาเหตุที่มันพังซึ่งอาจจะไม่ใช่แหวนหัก แต่ผมก็ยังมั่นใจว่าใช่ ผมเคยใช้น้ำมันเครื่องมาเกือบทุกชนิดทุกยี่ห้อที่มีขายในท้องตลาดเมืองไทยครับ แม้กระทั่งฟูลซินเทติคก็เคยใช้ ยิ่งที่โฆษณาว่าใช้ได้นาน ๔๐,๐๐๐กิโลหรือกว่านั้นก็เคยครับ แต่พบว่าความจริงก็คือ บ.มานหลอกเรา ในทางปฏิบัติแล้วใช้ได้ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกครับ แค่เจ็ดแปดพันก็เริ่มเสื่อมแล้วครับ ผมเดินทางตลอดทั้งปีสัมพัสและพบความลับนี้ด้วยตนเอง คุณยุทธคงมั่นใจในสินค้าที่มันโม้ว่าใช้แล้วเปลี่ยนที่หมื่นกว่ากิโลแน่ ถึงได้ทนใช้จนขนาดนั้น แต่หากผมจาบอกว่าใช้ได้อยู่หมื่นกว่ากิโลค่อยเปลี่ยน แต่ถึงตอนนั้นมันเสื่อมแล้วเครื่องเราจาสึกหรออย่างรวดเร็ว แล้วใครจารับผิดชอบครับ นอกจากเจ้าของรถ มีที่พอไว้ใจได้เพียง(ไม่กี่ยี่ห้อครับ มะได้ค่าโฆษณา) แต่จาบอกเป็นวิทยาทานแล้วกัน โอเมก้า โมบิลวัน ปตท.ซินเทติค เชลซินเทติค แม้แต่แอสโซ่ซินเทติค หรือคาร์เทคซินเทติค ก็โอเคที่ว่ามาเป็นฟูลซินเทติคล้วนๆ แต่พวกนี้มีขีดจำกัดของการใช้งานครับ หากมันได้สี่หมื่นกิโลจริงก็เกินคุ้มครับ แต่ในทางปฏิบัติ(หรือใช้งานจริงๆ)แล้วกลับไม่ใช่เลย ช่วงแรกๆนับแต่เปลี่ยน รถจะลื่นไหลจนรู้สึก ได้ความประหยัดเพิ่มขึ้นอีกหลายเปอร์ทีเดียว แต่พอใช้ไปๆสักเจ็ดถึงแปดพันกิโล มันจาเริ่มเสื่อมอย่างรวดเร็วครับ รู้สึกได้เลย เพราะผมขับรถไกลยาวๆโดยตลอด อาการแรกที่จับได้คือ เวลาเรามาด้วยความเร็วเดินทาง(๑๒๐) แล้วเจอรถช้าข้างหน้า(๖๐) (ส่วนใหญ่ผมไม่ชอบเชนเกียร) เพาเวอร์แบนรถผมมันกว้างมาก แม้วิ่งที่เกียรห้าอยู่ที่พันห้าร้อยรอบก็สามารถกดขึ้นหน้ารถช้าออกไปได้เลยสู่ความเร็วสูงสุดได้ซาบายๆ แต่ถ้าทำเช่นนั้นตอนที่ใช้น้ำมันที่ว่ามาเจ็ดแปดพันกิโลแล้ว จามีเสียงเข็ก แกรกๆๆๆๆๆๆ ออกมาจากลูกสูบทันที ผิดกับตอนเติมครั้งแรกๆครับ เหยียบแบบเดียวกันลักษณะเดียวกันก็ไหลขึ้นหน้ารถช้าสู่ความเร็วเดินทางของมันเลย ต้องเชนลงมาเกียร์สามเสียงเข็กถึงหาย จนได้ข้อสรุปว่าน้ำมันเครื่องราคาแพงลิบ ใช้ได้ดีตามที่บ.เขาคุยไว้แค่ระยะหนึ่งเท่านั้น แล้วจะเริ่มเสื่อมลงเรื่อยๆอย่างรวดเร็วหลังจากใช้งานมาที่ระยะเจ็ดถึงแปดพันกิโลไปแล้ว สู้น้ำมันเครื่องเกรดสูงทั่วไป(ปัจจุบันผมใช้SJ แต่มาตราฐานทะลุ SM ไปแล้ว) เราเปลี่ยนทิ้งทุกๆสองถึงสามพันกิโลเมตรพร้อมกรองน้ำมันเครื่อง กลับดีกว่าเราใช้น้ำมันสังเคราะห์ราคาแพงที่อ้างว่าใช้ได้ถึงสี่หมื่นหรือเป็นหมื่นๆกิโลครับ เครื่องจาสึกหรอน้อยกว่ากันมากหรือแทบจะไม่สึกหรอเลย ผมถึงเดินทางไกลตลอดทั้งปีโดยไม่มีปัญหาครับ และจากการทำแบบนี้(เปลี่ยนบ่อยๆระยะน้อยๆสองสามพันกิโลถ่ายทิ้งเลย) หากวิ่งแบบเดียวกันก็ไม่มีปัญหาครับตามรถช้าที่๖๐-๗๐ ที่เกียรห้า แค่จังหวะว่างแค่นิดเดียวก็กดปรู๊ดแซงหน้าขึ้นไปเลยแค่ไม่กี่วิเอง โดยไม่มีเสียงเข็กใดๆให้เสียวเล่นให้กังขาเล่นว่า ห้วยตูใช้ฟูลซินเทติคลิตรละเท่านั้นเท่านี้นะ แต่ไหงมันดันมีเสียงเข็กลูกสูบได้ไง สบายใจกว่ากันเยอะเลยครับ แล้วก็ประหยัดเงินในกระเป๋าเราอีก

    มาสู่ข้อสรุป อย่าไปเชื่อโฆษณามากครับ เอาสามหรือเอาห้าไปหาร ความจริงอยู่ประมาณนั้นล่ะ ทีนี้ลองดูกรณีของคุณยุทธ น้ำมันที่ใช้เปลี่ยนทุกหมื่นกว่าโล ลองจดไว้นะครับ หลังเปลี่ยน พอมันได้ระยะสักเจ็ดพันอย่างที่ผมว่า ให้ลองตอนใช้งานจริงนะครับ วิ่งๆไปกลับเข้าบ้านลองเปิดฝากระโปรงดูแล้วดึงคันชักน้ำมันเครื่องเอามือแตะดูน้ำมันที่ชักออกมาจากเครื่อง ความหนืดของมันอาจจะไม่เหลือเลยเหมือนกับนำปะปาอะไรประมาณนั้นเลยไม่รู้ความหนืดมันหายไปไหนหมด ตรงนี้ล่ะที่ทำให้เครื่องเราสึกหรออย่างรวดเร็ว โดยที่เราไม่รู้ตัว(เพราะยังมั่นใจว่ามันยังเหลือระยะทีจะใช้งานอีกเยาะ แต่ความจริงไม่ได้เป็นเช่นนั้นครับ) ตรงนี้ละมังที่ทำให้แหวนหัก หรือเครื่องพังเพราะเสียงแกร๊กๆๆที่ยังไม่รู้ว่าชิ้นส่วนไหนเป็นจำเลยกันแน่ แต่ผมคิดว่าแหวนหักครับ นี่ผมยังไม่ได้พูดถึงระยะเวลาที่ต้องเปลี่ยนทิ้งของน้ำมันเครื่องนะ หมายความว่า ตั้งแต่เราเติมเข้าไป แม้เราไม่ได้ใช้รถก็ตามที ถึงระยะเวลาของมันมันก็จะเสื่อมอีกเช่นกัน เคยถามท่านผู้รู้ ท่านว่าสามถึงหกเดือนเท่านั้นเป็นอย่างมาก ทีนี้หากเราใช้รถในเมืองไม่ค่อยได้ไปไหน ระยะทางหมื่นกว่ากิโล กับเวลาดังว่าอันไหนมานจะมาถึงก่อนกันครับ ฝากไว้เท่านี้ล่ะ หากจะมีประโยชน์บ้าง สิ่งต่างๆที่เล่ามานั้นเกิดจากประสพการณ์ตรงที่ได้ทดลองใช้ ไม่มีเจตนาไปว่าสินค้าของบริษัทใดๆทั้งสิ้น แล้วก็สามารถพิสูจน์ได้ครับ น้ำมันเครื่องสดใหม่ เปลี่ยนในระยะสั้นๆ เวลาใช้งานน้อยๆ เดือนละหนหรือเดินทางทีหน ให้ประสิทธิภาพสูงสุดกว่าทุกกรณีครับ เลือกเอาครับจาเอาม้าตีนต้นแต่แผ่วปลายหรือสลบปลาย หรือเอาม้าตีนเสมอต้นเสมอปลายตลอดกำลังไม่ตก ผมเลือกเอาอย่างหลังแล้วทำเป็นปรกตินิสัยมาหลายปีแล้วครับ
     
  23. E30DET

    E30DET Member Member

    631
    1
    18
    ไหน ๆ ก็นอกเรื่องแอร์มาไกลแล้ว มาคุยกันต่อเรื่องแก๊สโซฮอลหน่อยสิครับ

    ผมอยากทราบว่าจริง ๆ แล้วมันเหมาะกับรถบ้านเราไหมครับ (คุณ Professor ช่วยหา link หรือผลในห้อง lab มาให้ดูหน่อยก็ดีครับ)

    มีคนมาถามผมเยอะมากว่าจะใช้ได้ไหม ผมก็ตอบแบบกวน ๆ ไปว่าอยากเติมก็ลองเติมใช้งานดูสิ รถของท่านเอง
    เสียก็เอาไปซ่อมกับอู่ที่เจ้าของหน้าตากวน ๆ ในโฆษณานั่นแหละ เพราะเขาบอกเสียก็เอามาซ่อม (แต่ต้องจ่ายตังค์นะ :D:D:D)

    ส่วนตัวแล้วอยากช่วยชาติ ช่วยเกษตรกร แต่ถ้าเติมใช้งานแล้วมีปัญหาต้องซ่อมรถตัวเองมันก็ไม่ไหวครับ
    ครั้นจะแนะนำให้คนอื่นที่รถปีใหม่ ๆ ใช้ก็กลัวเดี๋ยวใช้แล้วมีปัญหา จะโดนเขาด่าให้อีกครับ :cry::cry::cry:

    ใครมีประสบการณ์หรือข้อมูลอะไรเอามาแชร์กันเลยนะครับ

    ขอบคุณครับ
     
  24. enforce

    enforce Active Member Member

    2,041
    13
    38
    ถ้าเป็นรถรุ่นเก่าๆ ผมว่าใช้ไม่ได้อะครับ

    เครื่อง toyota 4AG 20 V ผมใช้แล้วมีปัญหาระยะยาว จนล่าสุดยกเครื่องมาเป็น
    ยางตีนวาวร์ขาดไวมากๆๆๆๆ แล้วใช้ไปนานรู้สึกเลยว่าวิ่งไม่ค่อยออก อะครับ
    4AGZE ผมก็ยังไม่เคยเติมแก๊ชโซฮอลอีกเลยคับ เพราะเครื่องตัวนี้มันหายากมากๆๆ
    (ผมหาเครื่องตัว 4AGZE มาตั้ง 4 เดือนแนะกว่าจะได้)

    เครื่อง M20 2500CC, ของ bmw ผมก็เติใก๊สโซฮอล์มาตลอดเกือบ 1 ปีเติม ล่าสุด
    เครื่องวิ่งไม่ออก หลวมด้วย แล้วก็เครื่องยนต์กระพือมากๆๆ
    ล่าสุดผมยกเครื่อง M20 2000CC. ใส่แล้วลองเติม แก๊สโซฮอล์ 95 ดูแล้ววิ่งไม่ออกเลย
    พอใช้หมดถังก็เลยลองเติม เบนซิล 95 ดู วิ่งคนละเครื่องเลยครับ

    ส่วน BMW E60 530i ที่ใช้อยู่ทุกวันนี้เติมแก๊สโซฮอล์ 95 อยู่ไม่มีปัญหาอะไรครับ
    รู้สึกว่าเติมแล้วประหยัดน้ำมันแล้วอัตราเครื่องยนต์ดีกว่าเติม เบนซิล 95 อีกครับ
     
  25. คนปากช่อง

    คนปากช่อง New Member Member

    707
    0
    0
    รถซ่อมมาแล้ว

    รถกลับมาถึงบ้านแล้ว แฟนรับรถไว้ เสียงเงียบไปแล้ว
    ช่างบอกว่าเปลี่ยนอะหลั่ยตามที่เขาสั่งให้ผมซื้อคือ ปะเก็นฝา ซีลข้อเหวี่ยง ซีลราวลิ้น ชาร์ปก้าน แหวนลูกสูบ
    น้ำมันเครื่อง+กรอง

    ช่างส่งลูกสูบไปให้โรงกลึงถอดก้านสูบมาเช็คบูทก้านสูบ แล้วประกอบกลับ ไม่ได้เปลี่ยนอะไร

    นี่ก็รอกลับไปลุ้นอยู่ว่าจะแจ่มขนาดไหน

    ค่าแรง 2500 โรงกลึง 320 อะหลั่ยซื้อเอง 2800 บาท

    ไม่ได้บดวาล์ว ไม่เปลี่ยนยางตีนวาล์ว

    เพิ่มอีกอย่างคือปั๊มน้ำมันเครื่องบอกช่างว่าไม่ต้องทำอะไรทั้งสิ้น ช่างก็หวังดี ช่วยประกอบกลับโดยกลับด้านเฟืองให้ โดยหวังว่าจะเอาเฟืองด้านที่สึกน้อยมาขบกันแทน จะได้แก้ปัญหาเครื่องเสียงดังได้ ดีนะที่ถามพี่แอ้มก่อน ไม่งั้นโดนค่าปั๊มน้ำมันเครื่องอีกเป็นพัน เสียงมันก็เงียบดีตามที่แฟนบอก แต่กลับด้านนี่ก็ยังไงๆอยู่นา ผมจำได้ว่าเฟืองตัวนี้มันไม่มีทิศทาง จะหน้าหรือหลังก็ไม่น่าจะมีปัญหา ใครรู้ช่วยบอกหน่อยครับ

    ยังไม่ได้ทดสอบแอร์เลยว่าน้ำยาจะรั่ว ซึมหรือเปล่าตอนประกอบเครื่องกลับ
     
    แก้ไขล่าสุดโดยผู้ดูแล: 12 กุมภาพันธ์ 2008
  26. enforce

    enforce Active Member Member

    2,041
    13
    38
    ไม่แพงนะพี่ยุทธ
    .....เมื่อกี้ผมไปเปลี่ยนผ้าเบครหลังมา ตั้ง 1500 แนะ
    เจียลจานเบครอีก 400
    ผมว่าแพงงงงมากๆๆ เลยยยย:confused::confused:
     
  27. คนปากช่อง

    คนปากช่อง New Member Member

    707
    0
    0
    รู้แล้วจะหนาว

    ไม่แน่ใจว่าแหวนหักหรือเปล่า ช่างบอกว่าหักตอนถอด แต่ก็เปลี่ยนไปหลายอย่างที่บอกไปแล้ว ช่างเอารถมาส่งที่บ้านแฟนก็บอกเงียบแล้ว นี่ยังสงสัยเลยว่าถ้าจะลอง run in สูตรโหดๆแบบคุณ professor จะเอาถนนที่ไหนมาลอง เพราะต้องใช้รอบสูง ความเร็วก็น่าจะสัก 140-160 โน่นแน่ะ

    ตอนนี้เพิ่งทำเครื่องมาใหม่ ไม่ค่อยไว้ใจมัน ยังไม่กล้าไปต่างจังหวัด ต้องรอให้วิ่งไม่มีปัญหาใน กทม สักเดือนหนึ่งก่อน

    เรื่องน้ำมันเครื่อง ผมยังใช้ ptt semi syn 10w-40 แกลลอนละ 390 บาท 4 ลิตรแถม 1 ลิตรอยู่ จะเปลี่ยนที่ช่วง 10,000 - 15,000 กม ก็แล้วกัน แล้วดูสิเขม่าจะมาอีกไหม แต่คงไม่น่าจะใช้งานนานจนถึงเปิดฝาสูบงวดหน้าแน่ๆ

    รูปที่แนบมาไม่เกี่ยวกับรถหรอก เอามายั่วน้ำลายเล่น มีอยู่รูปที่เป็นธารน้ำเล็กๆเป็นเส้นขาวๆ ทายสิว่าทำไมมันถึงขาวอย่างนั้น
     
  28. enforce

    enforce Active Member Member

    2,041
    13
    38
    ไหล ไหล น้ำลายไหลลล
    พี่ยุทธ อาหารทำไมมันน่ากินอย่างงี้
    พี่ยุทธไปเกาหลีทั้งที พี่หาปลาหมึกกินจิครับ มันมีเมนู ที่
    ปลาหมึกยังไม่ตาย แล้วหันมากิน อร่อยมากๆๆๆๆๆๆๆๆ
    พี่ลองดูฮะ ผมคิดแล้วก็อยากกินอีกกก

    ส่วนที่มันเป็นขาวๆ เพราะ...เป็น
    ฟองอากาศเปล่าฮะ
     
  29. คนปากช่อง

    คนปากช่อง New Member Member

    707
    0
    0
    ปลาหมึก octopus กินสดๆนั่นไม่หวายครับ มันกินยากมากๆ มันยังเป็นๆ หนวดมันจะพันคอและอาจติดคอได้ ผมเคยกินแต่ซุปหม้อใหญ่ร้อนๆที่เขาเอาปลาหมึกตัวเป็นๆโยนลงหม้อ มันดิ้นอยู่สักพักก็นิ่งไปแล้วก็ตัดเป็นชิ้นๆมากินกัน ฟังดูแล้วอาจรู้สึกโหดร้าย แต่มันเป็นวิถีชีวิตปกติของคนเกาหลี เขาก็กินกันโดยไม่รู้สึกอะไร บ้านเรายังกินกุ้งเต้นเป็นๆดิ้นพราดๆเลย กุ้งหลายๆๆตัวด้วย

    ที่เห็นเป็นขาวๆเพราะมันเป็นน้ำแข็งไปหมดแล้วครับ อุณหภูมิตอนเที่ยงก็ -1 ,-2 องศา ลมแรงมากๆ กลางคืนนี่ต่ำกว่า -10 ครับ น้ำเป็นน้ำแข็งหมดเลย ตามทุ่งนามีแต่น้ำแข็งเกลื่อนพื้นไปหมด เมื่อคืนทิ้งน้ำกินไว้ในรถ 1 ขวด เช้านี้มากลายเป็นน้ำแข็งเกือบทั้งขวดไปแล้ว

    ตอนนี้ไม่คุยเรื่องแอร์แล้ว ไม่สน superheat เพราะห่วงแต่ supercold วิ่งเข้าหาแต่ heater อย่างเดียว แอร์รถไม่เย็นไม่สน ขอให้ heater ร้อนๆเป็นใช้ได้
     
  30. enforce

    enforce Active Member Member

    2,041
    13
    38
    เคี้ยวที ได้รสชาติปลาหมึกแล้ว.... หายสงสารเลยพี่ยุทธ:D:D:D
    นี่พี่ไป เกาหลีเหนือ หรือ เกาหลีใต้อะครับ
    อุณหภูมิ น่านอนจิงๆๆ พี่ยุทธ
     
< Previous Thread | Next Thread >

แบ่งปันหน้านี้