D.I.Y. แอร์รถยนต์ด้วยตนเองคับ (ใครรถติดไฟแดงนานๆแล้วแอร์ไม่เย็น เข้ามาคับ)

ถ่ายภาพคลอย์ร้อนของแอร์ห้องนอนผมมาให้ดูครับพี่ยุทธ (ที่บอกว่าทำยากโคตรๆ คับ)
- ตรงที่วงกลมสีแดงนั้นแหละครับ คลอย์ร้อนของแอร์ผม (ทำทีต้องปีนขึ้นไปอะคับ)

- ตัวแอร์คอลย์เย็นในห้องนอน ทุกวันมันจะ show ที่ 28 องศา คงที่จิงๆ
มีเดือนที่แล้วที่อากาศเย็นๆ อุณหภูมิมัน Show ที่ตัวเลข 22 องศา เห็นแล้ว ดีใจโคตรรรคับ
เพราะมันไม่เคยต่ำได้ขนาดนี้ (ได้นอนกอดผ้าน่วม มีความสุขสุดๆๆ)

- ห้องนอนผม ยาว 18 เมตร กว้าง 10 เมตร หลังบ่าย ดวงอาทิตย์ส่องมาทางหน้าต่างห้องนอนผม
เต็มๆๆ กว่าห้องจะเย็นได้ 2 ทุ่มแนะ
(แรกๆ เลยผมใช้แอร์ขนาด 36,000Btu ผมคิดว่ามันเวอร์ไป ทั้งห้องมันเย็นทั่วพื้นที่เลย เอาง่ายดีกว่า
ให้ความเย็นมันอยู่ตรงที่เรานอนดีกว่า ก็เลยเปลี่ยนมาใช้แอร์ 12,000Btu ส่องมาที่เตียงนอนพอดี
ประหยัดไฟไปได้เยอะเลยแหละครับ

- พื้นที่ ที่จะ service แอร์ผม มันก็น้อยยยเหลือเกินคับ ผมถ่ายภาพจากในห้องนอนอะคับ

แหะๆๆ ลืมหยิบตัววัดอุณหภูมิขึ้นมาอีกแล้ววอ่ะ เดี๋ยวพรุ่งนี้จะลงไปเอามาวัดให้ดูแต่เช้าเลยคับ

 

ปรกติแอร์มันเย็นจัดของมันอยู่แล้วครับ แค่ทำให้กลับคืนดังเดิมเท่านั้นครับ ปัญหาที่มันไม่เย็นก็คือท่อมันหัก แล้วคูลพ่นออกมาใส่ไดชาร์ทซึ่งอยู่ด้านบน แล้วเครื่องยนต์ยังทำงาน มันเกิดการลุกไหม้ย้อนเข้าไปในคอมฯ ทำให้ปะเก็นเสียหาย ผมก็แค่เปลี่ยนปะเก็น แว็คนานๆๆๆๆหน่อยแล้วก็เติมน้ำยา แล้วก็ใช้เอฟ๑๑ล้างระบบเก่อนประกอบ ทำแค่นี้ครับ แต่มีเทคนิคการเดินน้ำยาจะค่อยๆเดินน้ำยาเข้าระบบ แล้วก็ดูลมเย็นที่ออกมา มันจะค่อยๆลดลงๆ ให้ลูกชายอยู่ในรถ หากมันลดลงทีละ๐.๑องศา ให้ติ๊บไฟสูงให้ผมรู้ แต่ถ้าเพิ่มขึ้นให้บีบแตร พอมันเริ่มเพิ่มขึ้น ก็หยุดเติมครับ มีเทคนิคง่ายๆแค่นี้เอง

ส่วนเรื่องน้ำมันคอมนั้นมากไปก็ไม่ดี น้อยไปก็ไม่ดีครับ สูตรของผมอาจจะแตกต่างจากท่านเกจิที่เคยบอกไปนะครับ คือ เมื่อล้างระบบทั้งหมดจนสะอาดแล้ว(ภายใน) ผมจะเติมเข้าไปในช่องเติมของคอมเลย ประมาณเศษ๓ส่วน๔ ของคอม(อาจจะเยอะไปสำหรับบางท่าน) พอแว๊คแล้วเดินเครื่องก็ฟังดูอีกที หากไม่มีเสียงเขกแกร๊กๆที่คอมก็น่าจะพอดี หากยังมีเสียงเขกผมจะเติมเข้าไปอีกจนเสียงเงี่ยบปรกติ ก็เย็นติดลบทุกครั้งครับ (ตรงนี้กระมังที่คอมผม ขนาดเจอระเบิดเมื่อคราวที่แล้วยังไม่พังสักที)

น้ำมันมากหรือน้อยไปอาจจะมีส่วนในเรื่องความเย็นอยู่บ้าง แต่ไม่มีผลเท่ากับการเติมน้ำยาอย่างถูกต้องและพอดีครับ หากพอดีแม้น้ำมันมาก มันก็ยังเย็นฉ่ำอยู่ดีครับ มีผลอย่างเดียวคือหากน้ำมันน้อย คอมจะมีเสียงเขกแกร๊กๆๆๆๆๆๆๆ ไม่นานก็พังครับ ชิ้นส่วนมันต้องการน้ำมันหล่อลื่นพอเพียงครับ

 

เปลี่ยนปะเก็นคอมครับ มันไหม้ไปด้วยเลยแรงดันรั่วเข้าหากัน อันเป็นสาเหตุทำให้น้ำเกาะคอมเต็มไปหมดและเย็นไม่เต็มที่ ตอนนี้ปรกติแล้วครับ

ตอนนี้ผมเลิกขับรถเร็วแล้ว สามห่วงน่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีมากตามที่คุณหนุ่มแนะนำ เครื่อง๔เอเอฟอี นั้นประหยัดไม่จุกจิก ผมเห็นมาหลายรายแล้ว ติดแต่ว่าก่อนนั้นยังขับรถเร็วอยู่ เรื่องแก๊สผมfixอยู่แล้วครับ แต่โทมาฯยังมีปัญหานะครับ(เพื่อนผมใช้อยู่) หากตอนนี้จะบอกว่าหม้อต้มรุ่นใหม่(มือสองจากญี่ปุ่นอาเซี่ยนใบโพธิ์รุ่นใหม่)เนียนกว่าโทมาเยอะคุณยุทธจะเชื่อผมไหมครับ ขนาดผมใช้นิคกิประมาณสามปีแล้ว ยังเนียนแบบไร้ปัญหาเลยครับ แสนกว่ากิโลแล้ว แต่รุ่นใหม่ออกแบบใหม่ของญี่ปุ่นที่พูดถึงนั้นมันเนียนกว่านิคกิเยอะครับ โทมาฯไม่ต้องพูดถึงเลยครับคนละเรื่องเลย ราคามื่อสองก็เท่าๆกับโทมาฯครับ อันนี้ยืนยันเลยครับ แต่ไม่ต้องเชื่อ ต้องถามแท๊กซี่ ผมรอให้นิคกิผมเจ้งมันก็ไม่เจ้งสักที อิอิอิ จาได้ไปสอยมาใช้ครับ แต่ถ้าได้สามห่วงมาก็เอาตัวที่ว่าลงเลยครับ

 

ห้องนอนคุณ ter ใหญ่มากๆ 180 ตรม น่าจะติดฉาก pvc กั้นห้องแบบที่ผมติดที่บ้านเก่า เพื่อคุมพื้นที่ทำความเย็นให้เล็กลงหน่อย คราวนี้จะเย็นจัด ประหยัดไฟแน่ๆ

จุดติดตั้ง outdoor unit โคตรโหดเลย service ยาก จะไปเล่นโน่นเล่นนี้แบบผมนี่ทำไม่ได้เลย แล้วจะได้ทำ superheat ไหมเนี่ย

แถมแอร์ยังเป็นยี่ห้อไซโจตัวแสบอีกด้วย ได้ฟังกิตติศัพท์ไซโจมาเยอะ คุณ ter ก็ยังบ่นเลย อย่าซื้อมาอีกเชียวนา เห็นมีมิตซูหลายตัวอยู่ นั่นแหละแจ่มแล้ว

 

ผมก็เล่งไว้แล้วละคับพี่ ผมเก็บเงินอยู่ฮะ กะทำห้องนอนทีเดียวให้ดีไปเลย กะแยกเหมือนที่พี่ยุทธบอก
แล้วแบ่งให้เป็นอีก 3 ห้อง ห้องนอน ,ห้องดู TV + เล่นเกม + เล่นคอม , ห้องแต่งตัว อ่ะคับ

แหะ ๆๆ จุดติดตั้งคลอย์ร้อน ผมบอกแย้วว่า แต่งน้ำยาที่ตัวแอร์ มันยากชิบเลยคับ
เคนแอร์เสียอยู่ทีหนึ่งคับ ตอน 6 โมงเย็น เคยปีนขึ้นไปดูว่าทำไมคอมไม่ทำงาน ดูซักพัก
มองลงมาข้างล่าง Oh แม่เจ้า ตกไปนี้ พิการแน่ๆ แล้วไม่มีคนงานอยู่ซักคน เลยค่อยๆ ลงมา:cry::cry:
ตั้งหลัก แล้วเรียกช่างแอร์มาทำดีกว่า

Mitsu มีตัวเดี๋ยวคับพี่ ติดที่ห้อง server เปิดทำงานตลอด 25 องศา พอได้อุณหภูมิแล้วก็ตัด ต่อเองคับ

ที่เหลือเป็นแอร์รุ่นเก่าๆ ทั้งนั้นเลยคับ ติดตั้งแต่สร้างโรงงานอะคับ 18 ปีแล้วทั้งนั้น เป็นคอมลูกสูบหมดเลย

แล้วก็มี ไดกิ้น ห้องทำงานป๋าผมเท่านั้นเองฮะ แอร์ไดกิ้นตัวนี้ สั่งมาจากญี่ปุ่นเลย
(สั่งมาทดลอง Cold22 ทดลองก่อนจะส่งไปขายที่ญี่ปุ่นคับ
ซื้อมา 7 ปีแล้วคับ ทดสอบได้เดือนกว่าๆ แล้วไม่ได้ใช้งาน พึ่งเอามาติดได้ 6 เดือนเองคับ)
การทำงานของมัน ทำงานได้ทั้งความร้อน กับความเย็น (ผมเรียกไม่ถูกอะคับ )
แต่ผมชอบคับ ความเย็นมันได้แบบ ฉ่ำๆ เลยคับ เคยเช็คความเย็นหน้าคลอย์ได้ 7 องศา

 

เมื่อวันก่อนฝนตกหนัก อากาศกำลังดี หลังฝนหยุด
ได้เทสแอร์อีกครั้ง ที่เดินเบามันก็เย็นดีนะ ยิ่งเร่งเครื่องยิ่งเย็นใหญ่เลย ระบบไม่มีตัดเหมือนวันก่อน
พออีกวันฝนไม่ตกกลางคืนด้วย เป็นเหมือนเดิม เลยลงไปจับแผงร้อนดูมันร้อนมาก เลื่อนมือไปมา
โดนแผงออยคูลเลอร์ของเกียร์ยิ่งร้อนกว่าอีก เลยสงสัยว่าเป็นเพราะตัวนี้หรือปล่าว มันติดอยู่หน้าแผงร้อนแอร์
ฝั่งที่จะออกจากแผงไปเข้า ดรายเออร์ ถ้ามันร้อนเกินทำให้แอร์เป็นอย่างที่ว่ามาหรือปล่าว

ส่วนน้ำยาแอร์ดูที่ตาแมวถ้าเดินเบาอยู่มันไหลเอื่อยๆไม่มีฟอง พอเร่งมันไหลเร็วมีฟองเต็มเลยแต่ก็ดูไม่ค่อยชัดตอนเร่ง

 

มีอัพเดทล่าสุดให้ดูเล่น ปรับน้ำยาแอร์ได้ถึงจุดพอดี เสียที แอร์เย็นดีกว่าเดิมมาก
http://www.pantip.com/cafe/home/topic/R6632766/R6632766.html#33

 

แต่จริงๆนะ ระบบแอร์โตโยต้ามันดีจริงๆ รุ่นสามห่วงซ่อมง่ายดีด้วยครับ น่าใช้ดีครับ เชียร์อีก 1 เสียง

 

ควรจะมีเกจวัดแรงดันด้วยครับ ไม่งั้นเดายาก น้ำมันเกียร์ร้อนอยู่แล้ว อาจจะมีผลบ้าง


ถ้าจะเติมน้ำยาแอร์ แบบกายกรรมบ่อยๆ คงไม่ดี
ลองตัดท่อในห้อง แล้วใส่ลูกศร เพิ่มไปน่าจะดีนะครับ จะได้เติมในห้องได้เลย
ดีไม่ดีติดเกจถาวรไปเลย พร้อมกับติดมิเตอร์ไฟฟ้าดีๆ ซักตัว ตัวไม่กี่ร้อยบาท
คราวนี้เปิดแอร์ จะได้รู้ว่ากินไฟวันละกี่บาทแน่ๆ

ติดหัววัดอุณหภูมิ ไปสองหัว รู้ทั้ง sub cool กับ super heat
ติดเพิ่มอีกสองหัว รู้ อุณหภูมิอากาศเข้าออก evap
ถ้ามีเครื่องวัดความเร็วลมเพิ่มด้วย ก็จะรู้ btu ของ air คร่าวๆ
มีเครื่องวัดความชื้น ก็จะเติม super heat ได้แม่นขึ้น วัด btu ได้แม่นขึ้น

คราวนี้อยากลองอะไรก็ได้หมด เอามา reference ได้อีก

ผมว่า การวัดไฟฟ้าโดยใช้กระแส มันไม่ค่อยน่าเชื่อถือเท่าไหร่
เพราะมันมีค่า power factor มาเกี่ยว
ผมว่าคุณเตอร์ ลงทุนซื้อ power analyzer มาวิเคราะห์ไฟฟ้าซักตัวดีกว่า
ราคาก็ไม่กี่หมื่น สามารถบันทึกข้อมูลทางไฟฟ้าได้หลายวัน
ที่ผมใช้อยู่ก็ราคาไม่ถึงหมื่น วัดได้แม่นยำ class 0.5 แต่บันทึก real time ไม่ได้
แต่บันทึก kwh ได้

ลูกค้าสามารถเอาไปติดไว้ซัก 1-2 วัน เพื่อดูว่าดีขึ้นหรือเปล่า
และบางรุ่นข้อมูลแก้ไม่ได้ด้วย เป็นหลักฐานชัดๆ เอาไว้กันลูกค้าโวย
(ติดก่อนเติม cold22 กับหลังเติมเทียบกัน)

ถ้าจะให้ดี ต้องวัด btu แอร์ออกมาคร่าวๆ ได้ด้วย
โดยการวัดความเร็วลม อุณหภูมิ กับความชื้นในห้อง
จะได้รู้ว่า ที่เติมน้ำยาเข้าไป เติมน้อยเกินไปหรือเปล่า

 

พี่จินนี่หมายถึงตัวนี้หรือเปล่าครับ AISAN รุ่นใหม่มีจานบินติดที่หัว

ผมเห็นแล้วถูกโฉลกมาก เลยควักกระเป๋าซื้อมาจากเซียงกงบางนา ราคาแพงกว่าหม้อโทมามือหนึ่งซะอีก
แต่เหมือนฟ้ากลั่นแกล้ง มันหาที่อยู่ในห้องเครื่องผมไม่ได้ แม้ว่าจะถอดหัวชุดจานบิน(ที่ควบคุมรอบเดินเบาแบบพิเศษ)ออกไปแล้ว :cry::cry::cry:

ตอนซื้อมายังติดไม่เป็นเพราะท่อมันเยอะไปหมด พอไปโพสถามใน gasthai มีคนที่เคยใช้บอกว่า ถ้าใช้แล้วจะลืมหม้อใหม่ของอิตาลี่ไปเลย
เพราะทั้งเรื่องประสิทธิภาพและความประหยัดรวมทั้งเรื่องกลิ่นที่ท่อไอเสีย ชนะหม้ออิตาลี่ทุกตัว

 

คุณยุทธเตรียมตัวรับโทรศัพท์ผมได้เลยครับ...

 

นี่ไงแม๊คไกเวอร์ตัวจิง

โหคุณโปรนี่ ล้ำลึกจริงๆ ผมยังนึกไม่ถึงเลย เห็นภาพคอยล์ร้อนของคุณเตอร์แล้ว ผมล่ะเลิกคิดเรื่องเติมน้ำยาหรือปรับปรุงอะไรมันไปเลย อิอิอิ ก็เลยไม่รู้จะแนะนำยังไง เห็นแล้วเสียวแทนจริงๆครับ ผิดพลาดหล่นลงมาล่ะก็ เหอะๆๆๆคงดูไม่จืดครับ เยี่ยมๆ ต่อท่อเข้ามาทำข้างในเลยครับ หากจะให้ดีก็ควรหากันสาดไปบังเวลาแดดส่องตรงนั้นก็น่าจะช่วยได้เยอะครับ ทำไปทีเดียวเลย

คุณเตอร์ขายน้ำยาประหยัดไฟกะติดให้คนอื่นเขา แต่ของที่ตัวใช้หากบริหารดีๆผมว่าประหยัดค่าไฟเดือนหนึ่งเป็นหมื่นครับ องค์ความรู้ที่มีในกระทู้นี้ ผมว่าสามารถนำมาใช้ได้ทั้งหมด จะทำให้เราใช้พลังงานได้เต็มประสิทธิภาพที่สุดครับ ยุคนี้ต้องช่วยกันประหยัดครับทุกคนเลย บิลค่าไฟผมเดือนนี้สามพันกว่า(เมษาเปิดแอร์ทั้งวัน เฉพาะตอนอยู่) ผมยังคิดโปรเจ็ค เอาแอร์รถมาใส่แอร์บ้านในระบบคูลลิ่งทาว์เวอร์ใช้ทั้งอาคารเลย แต่ยังไม่ได้ว่างทดลองทำ ทริปนี้กลับมาก็ได้แผงโซล่าเซลติดมือกลับมาด้วย(จาเอาไปถวายวัดที่ลูกชายไปบวชแต่ยังไม่ว่างไป) ที่นั่นมีแบตฯกับคอนเวริดเตอร์อยู่แล้ว เราแค่เอาแผงโซล่าไปชาร์ตแบตกลางคืนก็น่าจะมีไฟใช้ฟรีๆแล้ว ขนาดกว้างประมาณสองฟุตยาวฟุตครึ่ง(เป็นแบบกระเป๋าปิดเปิดเคลื่อนที่ได้ยังไม่ได้ลองใช้ เป็นหนูลองยารุ่นแรกที่จะทดลองใช้ อิอิ) อย่ากระนั้นเลย หากผมมีเวลาว่างเพียงพอ ผมก็จะไปสร้างกังหันลมไฟฟ้าถวายท่านเช่นกัน คิดไว้แล้ว(แต่ของผมแตกต่างจากที่คนไทยและต่างประเทศคิดไว้ทำไว้ครับ พูดง่ายๆก็คือยังไม่มีใครเขาทำแบบที่ผมคิดไว้ครับ แต่ไม่มีทางที่จะไปจดสิทธิบัตรกับ(รบ.)ห่วยๆแน่ครับมันไม่เคยสนับสนุนคนเก่งๆ นอกจากพวกพ้องมัน หลายมาตรฐานจริงๆ สู้เราทำใช้คนเดียวกะแบ่งปันให้พระเจ้าก็พอครับ) ประสิทธิภาพสูงกว่าโซล่าคนละเรื่องแถมถูกกว่าหลายเท่า ที่นั่นลมแรงตลอดทั้งปีครับ ทีนี้ล่ะกลางวันกลางคืนก็ปั่นไฟใช้ฟรีๆสนุกไปเลยครับ อิอิอิ

ไปทำตามที่คุณโปรแนะนำเลยครับ ผมล่ะเสียวแทนจริงๆ อย่าเล่นกายกรรมเติมน้ำยาเลยครับคุณเตอร์

 

ตัวนี้เลยครับ เป็นรุ่นใหม่ หากจูนดีๆแล้ว หัวฉีดราคาสามสี่หมื่นอายเลยครับ ขวัญใจแท๊กซี่เลยล่ะ พัฒนากว่าใบโพธิ์ที่เป็นขวัญใจแท๊กซี่รุ่นเก่าแบบก้าวกระโดดไปหลายขุมเลยครับ ผมใช้ระบบไร้มิกซ์อยู่ใช้มาน่าจะเกินสามปีแล้ว รวมระยะทางประมาณ แสนสองหมื่นหกพันกิโลเมตร สามปีกว่าแค่ถอดมาล้างหนเดียว(ตอนยกเครื่องคราวที่แล้วเองครับ) นี่ขนาดหม้อนิคกิธรรมดาๆของญี่ปุ่นนะครับ(ผลิตเมื่อปี๒๕๐๑ปัจจุบันหาผ้าหม้อต้มไม่ได้แล้วครับ รอให้มันเจ้งอยู่จาเดินตามคุณกบครับ ผมใช้แน่รุ่นนี้จ้องมานานแล้ว แต่ความอึดของนิคกิไม่ยอมพังซึกกะที เลยทำให้ยังไม่เสียตังค์ อิอิอิ ราคาก็หลายเงินอยู่ไม่อยากซื้อมาเก็บไว้ อิอิอิ) หม้อนิคกิที่ผมใช้นั้นถือว่ายังไม่เทพด้วย เรียกว่าเนียนๆไร้ปัญหาตลอด แต่พวกเราอย่ากระโตกกระตากไปครับ รู้แล้วก็เก็บไว้หน่อย เด๋วมันขึ้นราคาอีกจะหาซื้อลำบากครับ เท่าที่ทราบราคาป้ายแดงมันหลายหมื่นทีเดียวเชียว(เฉพาะหม้อต้มอย่างเดียวหม้ออิตาลี่กลายเป็นเด็กไปเลยครับประสิทธิภาพสู้ไม่ได้ทุกกรณีครับ) คุณกบซื้อได้ราคาที่ว่าก็ถือว่าโอเคแล้วครับ นั่นมันระดับมหาเทพเลยนะจาบอกให้ สุดยอดของหม้อต้มในปัจจุบันแล้ว แต่ไม่มีโฆษณาจ้า รู้ไว้ก็อย่าเอ็ดไปครับ คุณกบดันลงรูปให้ดูอีก หวังว่าคงไม่ป่วนวงการแก๊สนะ อิอิอิ

ผมก็มีปัญหาเดียวกับคุณกบ ตอนติดแก๊สให้กับเจ้าจินนี่เมื่อสามปีก่อน หาที่ลงที่วางหม้อต้มไม่ได้จริงๆเครื่องมันแน่นไปหมด สุดท้ายก็ต้องยอมสละย้ายชุดเออีไอ(คอมพิวเตอร์+คอยล์จุดระเบิด)ไปไว้ที่บนเกียร์แล้วเอาหม้อต้มนิคกิไปสถิตไว้แทน ถึงได้ใช้อย่างสบายมาสามปีกว่าครับ ต้องตัดต้องเฉือนกันพอควรนะครับ กว่าจะปล้ำมันเอาไปไว้ตรงนั้นได้ ลงทุนทีเดียวครับ แล้วจบเลย ลองย้อนกลับไปดูภาพเก่าๆเกี่ยวกับแอร์ ตรงนั้นล่ะเป็นที่อยู่ของชุดเออีไอ แต่ถูกย้ายลงไปวางที่เกียรแทน

 

หม้อต้มตัวนี้หน้าตาดี ซื้อมาราคาเท่าไรครับ แต่ผมคงไม่ใช้หม้อต้มแล้ว งวดหน้าไปเล่นหัวฉีดดีกว่า

 

ผมอยู่แถว พัทยา หาซื้อได้ที่ไหนครับ

 

ราคาที่ร้านเปิดมาประมาณ 3 พันนิด ๆ ครับ แต่ผมอาศัยลูกตื้อบวกด้วยสูตรซื้อเบียร์พ่วงน้ำของคุณเจริญไทยเบฟ
เลยได้มาพร้อมกรองแก๊สแบบล้างได้ (ลักษณะเหมือนตัวพ่นอ๊อกซิเจนในตู้ปลา) ในราคาสามพันต้น ๆครับ
หม้อตัวนี้ใหญ่มากนะครับ แต่งานเนียนมาก ผมลองถอดฝาออกมาดูผ้าหม้อต้ม สภาพยังดีมาก ๆ อยู่เลยครับ

 

น่าสนใจครับ...ฝากหาให้ด้วยสักอันได้ป่าวครับ....อยากลองบ้างในราคานี้น่าสนครับ

ตอนนี้ใช้โทมาเซ็ตโตอยู่ครับ ก็ประหยัดดีครับตอนนี้เซ็ตไว้ กิโลละ1บาท ...แต่อยากลองเปลี่ยนหม้อ((ต้ม))ใหม่บ้าง

 

สังเกตุดูคร่าวๆน่าจะเป็นดังที่ชี้ลูกศรไว้ แต่สงสัยท่อข้างล่าง2ท่อครับว่ามันคือท่ออะไร

 

คุณหนุ่มเดาผิดครับ .... แหะ ๆ

ท่อล่างสองท่อคือท่อน้ำร้อน เป็นท่อ 3 หุน ไม่เหมือนของอิตาลี่ที่เป็นแบบ 5 หุน
ส่วนด้านหลังเป็นท่อหายใจ ปล่อยลอย ๆ ไว้ ที่แจ่มอีกอย่างคือตัวถ่ายขี้แก๊ส เป็นแบบก๊อก หมุน 90 องศา ขี้แก๊สก็จะไหลออกมาเลย (เหมือนของ HANA)
ส่วนที่เหลือจำไม่ได้แล้วครับ ต้องกลับไปดูกระทู้ที่เซฟไว้เมื่อปีที่แล้ว

จะเห็นว่ามีโซลินอยด์ 2 ตัว ตัวใหญ่เป็นตัวจ่ายแก๊สเข้าหม้อต้ม
ส่วนตัวเล็กเป็นตัวจ่ายให้ท่อเล็ก ๆ ที่ขึ้นไปที่หัวจานบินแล้วมาผสมกับท่อจ่ายหลัก เอาไว้ทำอะไรก็ไม่รู้

ราคาล่าสุดเมื่อปลายปี เห็นมีขายที่คลองถมแผงแบกะดินวันอาทิตย์ สภาพไม่สวย ราคา 2200 บาทครับ
ราคาชุดซ่อมมีแผ่นไดอะแฟรมกับพวกโอริงต่าง ๆ ของใหม่ร้านแจ๊หลีขาย 600 บาทครับ

ผมยังยืนว่าน่าใช้มาก แต่ต้องต่อให้ครบระบบ และห้องเครื่องของรถต้องมีพื้นที่ให้พอครับ

 

ถ้าคุณหนุ่มต้องการจริง ๆ แนะนำว่าหาที่ติดในห้องเครื่องให้ได้ก่อนครับ
ผมเห็นแท๊กซี่สามห่วงที่ใช้หม้อนิกกิไม่ค่อยใส่กับตัวนี้นะครับ อาจเพราะมันมีหัวจานบินทำให้สูงจนบิดฝากระโปรงไม่ได้

ถ้าผมได้ไปเดินเซียงกงอีก จะลองถามราคามาให้ดูก็แล้วกันนะครับ

ไหน ๆ เข้าเรื่องแก๊สแล้ว เล่าอะไรให้ฟังอีกรอบ
เมื่อวานไปอู่ที่รับติดแก๊สเพื่อดูงานร้านเขา เพราะเพื่อนอยากเอารถไปติดระบบหัวฉีด
เจ้าของเขาเล่าให้ฟังว่า ตอนนี้งานรับติดแก๊สบูมมาก ยอดติดแก๊สเพิ่มเกือบ 300 เปอร์เซ็นต์เลย
อุปกรณ์ต่าง ๆ ทั้งหัวฉีด ทั้งถังแก๊ส ทางอู่ต่าง ๆ ต้องล็อคของไว้ ไม่งั้นไม่มีของติดให้ลูกค้า
อย่างที่ผมไปดูมา เหลือถังอยู่ที่อู่ 3 ใบเอง !!!

บูมขนาดนี้ ราคาหม้อต้มตัวนี้อาจกระโดดไปไกลกว่าที่ผมเคยซื้อก็ได้นะครับ :cry::cry::cry:

 

ใคร จะเล่นหัวฉีด กับผมบ้าง ตอนนี้เล็งๆ Autronic อยู่ จะได้มาแชร์ความรู้กัน
ว่าจะติดเองหมดเลย DIY
แต่รถเป็นรถน้อง

ถ้าคุณคนปากช่องจะเลิกเล่นหม้อต้ม เอามาขายผมก็ได้ กำลังจะติดให้รถคาบู 1 คัน
ไม่รู้หม้อต้มยี่ห้ออะไรครับ ?

 

เอารูป มิเตอร์ไฟฟ้าแบบอิเล็กทรอนิกส์ มาให้ดูครับ ผมว่ามันดูดีอะ

 

ขยันเดินดีจัง ได้ของดีมาด้วย ราคาokเลย ซื้อที่เซียงกงปทุมวันหรือบางนาครับ ร้านอยู่ตรงไหน ชื่ออะไรครับ งวดหน้าจะตามลายแทงไปดูบ้าง อยากดูให้เห็นแหล่ง แต่ที่อยากได้จริงๆตอนนี้ คงเป็นชุดหัวฉีดมือ 2 ครบชุด เคยเห็นที่ไหนไหมครับ เห็นใน gasthai.com ประกาศขายหลายรายเหมือนกัน

 

โละบาทผมก็ว่าเจ๋งแล้วนะ ยังจะเปลี่ยนหม้ออีก ของผมได้แค่ 8.5 กม/ล แกส 10.5 บาท/ล ถ้าหรี่มากกว่านี้เหยียบแล้วไม่พุ่ง ทนไม่ได้อ่ะ

หม้อตัวนี้ที่บ้านเพิ่งติดไปอีก 2 คัน cerfiro กับ civic ตาโต ใช้ดียังไม่เห็นบ่นอะไร

 

อย่าถึงกับยึดถัง เดินท่อทองแดงใต้ท้องรถเองเลยครับ จ้างร้านทำท่อไอเสียทำเถอะ ร้านแถวบ้านผมก็รับทำ ร้านแกสมาส่งรถให้ทำเยอะ พอติดถัง เดินท่อเสร็จ ร้านแกสก็เอาไปติดหม้อต้ม ติด mix ต่อท่อน้ำร้อน กับเดินระบบไฟอีกหน่อยก็เสร็จแล้ว คุณ professor ค่อยทำตอนงานไฟ ต่อท่อน้ำร้อน ติดหม้อต้ม งานง่ายๆ

ของผมหม้อ lo gas ของ italy ติดที่ gasincar ตั้งแต่ร้านยังไม่เปิดครับ เป็นรายที่ 3 ของร้านเลย ยังไม่เปลี่ยนเป็นหัวฉีดกับคันนี้ครับ รอคันใหม่จะใส่หัวฉีด แล้วคันนี้ค่อยขายออกไปพร้อมระบบแกส จะขายง่ายกว่าไม่ติด ใครว่ารถติดแกสแล้วราคาตก ผมว่าตอนนี้เกมเปลี่ยนแล้ว

คุณ professor ลองดูร้านที่คุณกบซื้อหม้อต้มสิ เผื่อจะมีของดีราคาถูก ไม่งั้นก็ร้านเจ๊หลี รพ หัวเฉียว

 

เรื่องติดตั้งที่คาดไว้ก็คงตามคุณคนปากช่องว่าไว้ คือ คงให้ร้านติดให้ ลองถามราคาดูแล้ว คิดค่าแรง 3000 บาท
ซื้อของให้ แต่ตอนนี้ ติดปัญหาเรื่องของมากๆ สินค้าหัวฉีดขาดตลาดหนัก เชียงใหม่ไม่มีของแล้ว
ที่มีก็ติดให้ลูกค้า เวลาติดก็รอคิวติดกันถึงกลางเดือนหน้าเลยทีเดียว

ถ้าจะให้ดู นี่คงไม่ไหวครับ อยู่เชียงใหม่ คงไม่ลงไปถึงกรุงเทพ
แล้วร้านเจ๊หลี นี่มีดีอะไรครับ ? เห็นมีคนพูดถึงมาก รู้ว่าของถูกแต่ไม่แน่ใจว่ามีอะไรอย่างอื่นดีหรือเปล่า
มีหัวฉีดขายหรือเปล่า ?

ร้าน gasincar นี่เข้า web ไปดูแล้ว โม้ได้น่าเชื่อดีเหมือนกัน
แต่ยังไม่เชื่อจนกว่าจะได้ทดลอง

ถ้าใครมีหัวฉีด high ohm กับ low ohm
ลองเอา oscilloscope แบบ datastorage จับดู ก็จะเห็นว่าตัวไหนมันปิดเปิดเร็วกว่ากัน
ohm น้อย ไม่ได้หมายความว่าปิดเปิดเร็วเสมอไป

ส่วนเรื่องโม้ว่า autronic ห้องลดแรงดันทางออกมีขนาดเล็กทำให้ความดันแกว่ง
อันนี้ เป็นความตั้งใจของผู้ผลิตเอง ที่ต้องการให้ความดัน หัวฉีด เปลี่ยนตามความดันในท่อแมนิโฟลด์
ได้เร็วๆ

ส่วนเรื่องไม่มีกรองแก๊สความดันต่ำ ก็เป็นปัจจัยที่ autronic ต้องการให้ความดันแก๊สเปลี่ยนเร็วๆ มันก็เลยไม่มีตัวกรองที่ทำให้ความดันเปลี่ยนช้าลง

ลองดูหัวฉีดน้ำมันของรถยนต์ได้เลย ตัวปรับแรงดันน้ำมัน ต้องต่อท่อชดเชยแรงดันไปที่ manifold ทุกยี่ห้อ

อีกอย่างไอแก๊สที่เกิดจากการระเหย มันก็เหมือนไอน้ำที่มีความบริสุทธิ์สูง
อาจจะมีสิ่งสกปรกเจือปนติดมาด้วยบ้าง ก็อาจจะน้อยมาก

autronic รุ่นใหม่มีเพิ่ม pressure sensor มาอีก เพราะว่าวาล์วปรับความดันก็ยังทำงานได้ช้าเกินไป
ถ้ามี pressure sensor จะทำให้ตอบสนองเร็วมากขึ้น

ส่วนเรื่องจูนแบบ wideband lambda ก็ไม่มีความจำเป็นเท่าไหร่
แต่ถ้ามีก็ดีจูนได้ดีขึ้น
wide band สร้างขึ้นมาเพื่อตอบสนองการประหยัดน้ำมัน
เพราะช่วงประหยัดน้ำมัน มันอยู่ในช่วงแคบๆ ด้านฝั่งส่วนผสมบาง
ซึ่ง narrow band มันวัดส่วนผสมบาง หนาไปไม่ได้
แต่ถ้าเราเน้น ส่วนผสมหนา แรงม้าสูงๆ narrow band ก็เพียงพอ
เพราะว่า narrow band มันได้แค่จุด stoichiometric
แต่เรารู้ว่าจุดแรงมันอยู่เลยไปนิดหนึ่ง เราก็ปรับเชื้อเพลิงเพิ่มอีกนิด ก็จะได้แรงม้าเพิ่ม

ถ้าใครเป็นช่างย่อมรู้ว่า จูนบาง มีปัญหาอะไรบ้าง
ซึ่งก็เป็นปัญหาร้ายแรงทีเดียว
ดังนั้นการจูนบางเพื่อประหยัดน้ำมัน ต้องใช้ wideband จะดีที่สุด

หัวฉีดคนละยี่ห้อ ปรัชญาการออกแบบก็คงแตกต่างกัน
ก็เป็นเรื่องของช่าง ว่าจะดูออกหรือเปล่าว่า แต่ละยี่ห้อมีความคิดอย่างไร
และจะเอาข้อดีของแต่ละยี่ห้อมาจูนอย่างไร

ผมก็คงสรุปไม่ได้ว่าเจ้าไหนดีกว่ากัน

ไม่รู้ว่าใครเล็งหัวฉีดตัวไหนไว้บ้าง ตอนนี้ก็ดูหลายๆ ตัวเหมือนกัน
autronic ดันขาดตลาด คนขายฟันราคาขึ้นไปตัวละพัน จาก 20,000 ไป 21,000
ไม่รู้ของจะเข้าเมื่อไหร่

ถังแก๊สตอนนี้เล็งๆ ของ metal mate อยู่ อุดหนุนคนไทยด้วยกัน

มีอะไรแนะนำก็บอกกันได้นะครับ

 

ผมดูมะวาน แต่ไม่กล้าฟันธงกะโพสต์มาบอกคุณหนุ่มรอคุณกบมายืนยันก่อน(ยังไม่เคยใช้) แต่ก็ถูกแฮะ อิอิ

เจ้าจานบินที่ เห็นนั้น ผมว่ามันเป็นระบบเพาเวอร์เจทนะครับ ทำงานที่รอบสูงสุดที่เครื่องยนต์ต้องการแรงม้าสูงสุดครับ มันจาดึงแก๊สจากปฐมภูมิ จ่ายเข้าไปโดยมีตัวปรับละเอียดอีก ทำงานเหมือนเซ้นต์ ที่เห็นในภาพเป็นจานบินนั่นแหละ ยอมรับครับเทพๆ หม้อทั่วไปมีแค่เซนต์กะไอเดิลเท่านั้นครับ นี่มันเล่นแยกไอเดิลออกมาต่างหาก แถมมีชินลินอยคุมอีก เหมือนเครื่องคาบูร์ จามีนมหนูไฟฟ้า เวลาดับเครื่องนมหนูไฟฟ้าก็จะปิดเครื่องก็จะดับ เจ้านี่ก็หลักการเดียวกันเลย หม้อใบนี้การทำงานแบ่งเป็นสามช่วงเลยครับ มีไอเดิลแยกต่างหากจูนได้ละเอียดยิบมีระบบไฟฟ้าควบคุมการปิดเปิดอีก มีเซนต์เหมือนกับหม้อทั่วไป พร้อมตัวคุมปริมาตรแก๊สให้พอเพียงอีก ในรอบสูงสุด(เพาเวอร์)ก็ยังมีวงจรเพาเวอร์เจทอีกที ทำงานคล้ายเซ้นต์(ตัวจานบินนั่นล่ะ) ผมว่าเจ้าหม้อใบนี้ติดกับเครื่องเทอร์โบได้สบายเลยครับ ยอดจริงๆ ที่ผมเดาเมื่อวานแล้วเซฟไว้กะจาบอกคุณหนุ่ม แต่ไม่ได้โพสต์(เพราะดันเหลือบไปเห็นท่ออีกท่อด้านหลัง ห้วย...มันมีท่อน้ำท่อที่สามด้วยเหรอเนี่ย แต่คุณกบบอกแล้วว่ามันแค่ท่อหายใจ เลยถึงบางอ้อครับ ท่อน้ำอยู่ล่าง เจ้านี่แบ่งการคอนโทลแก๊สถึงสามช่วงเลยครับ ยังไม่มีหม้อรุ่นไหนในปัจจุบันที่คุมได้ขนาดนี้ครับ แถมมีวงจรปรับละเอียดทุกช่วงจ่ายแก๊สมาให้เลยครับ แต่คนที่จะจูนเจ้านี่ได้เนียนต้องมีความรู้เรื่องนี้และเข้าใจระบบมันพอสมควรครับ ถึงจะจูนได้เนียนและประหยัดมากๆถึงมากที่สุดครับ(โดยไม่มีไฟร์แบค) ที่ผมจาบอกคุณหนุ่มเมื่อวานแต่ไม่กล้าโพสต์เพราะเจ้าท่ออีกอันด้านหลัง(ตอนนี้รู้จากคุณกบแล้วมันท่อหายใจ)มีดังนี้ครับ

ขออนุญาตแจมหน่อยครับคุณหนุ่ม ผมยังไม่เคยใช้ แต่บอกได้ว่ารุ่นนี้เทพมหาเทพครับ แต่ที่คุณหนุ่มเข้าใจและถามนั้นมันคลาดเคลื่อนไปหน่อยนะครับ

สองท่อล่างที่ถามนั้น น่าจะเป็นท่อน้ำร้อนเข้าหม้อต้มครับ
- ส่วนที่ ว่าท่อน้ำร้อนนั้น น่าจะไม่ใช่ครับ แต่น่าจะเป็นระบบเพาเวอร์ในช่วงที่ต้องการแรงม้าสูงสุด จ่ายเต็มที่ เพราะดูแล้วน่าจะดึงแก๊สจากห้องปฐมภูมิ เข้าไปจ่ายผ่านตัวปรับอีกทีจะเห็นเป็นสกรู ไม่ก็เป็นระบบเดินเบาคงที่ครับ
- แก๊สออก ไม่ใช่ แต่น่าจะเป็นไอเดิลครับ(แยกต่างหาก)เห็นมีตัวปรับทองเหลืองข้างๆ(ขวา)ด้วย งั้นข้อที่แล้วที่บอกว่าเป็นเดินเบาตรงนั้น เดินเบาน่าจะเป็นท่อนี้ครับท่อนั้นเป็นเพาเวอร์ชัวร์ มิน่ามันถึงมีคนบอกว่าจ่ายได้เนียนมากๆ มันเล่นแยกไอเดิลออกมาต่างหากพร้อมตัวปรับละเอียดแบบนี้เลย เซ้นต์ก็เป็นตัวจ่ายหลักที่คุณหนุ่มบอกว่าเป็นท่อน้ำนั่นล่ะครับ สุดยอดครับ สงสัยไปกรุงเทพเที่ยวหน้าไปสอยมาเลยดีกว่า รอให้นิคกิเสียคงเป็นปีแน่
- ส่วนท่อน้ำร้อนนั้น เป็นท่อแก๊สหลักจ่ายเข้ามิกซ์ครับ หรือที่เรียกกันว่าเซ้นต์นั้นล่ะครับ จ่ายแก๊สจากทุติยภูมิ โดยอาศัยแรงดูดของเครื่องมากน้อยตามเราเร่ง
- แถมยังมี เป็นสายไฟคอนโทลซิลลินอยคอนโทลไอเดลอีกทีเวลาปิดสวิทซ์ดับเครื่องตัวนี้ก็ตัดแก๊สเลย เทพครับ
- แก๊สเข้าถูกต้องครับพร้อมซิลลินอยปิดเปิดแก๊ส รุ่นนี้มีระบบป้องกันหลายชั้นครับ มิน่าในเวปแก๊สไทยคนที่ใช้ถึงบอกว่าให้ลืมหม้อต้มอิตาลี่ไปเลย (ตรงนี้ผมว่าน่าจะจริงนะครับ เพื่อนผมใช้โทมา ยังมาให้ผมจูนให้เลยครับ แต่มันมีขีดจำกัดในด้านการออกแบบ เลยทำให้ไม่สามารถจูนได้เนียนเหมือนของญี่ปุ่นครับ นอกจากจูนให้ดีได้ในระดับหนึ่งเท่านั้นครับ(กลิ่นแก๊สยังมีตอนเดินเบาจูนให้ตายยังไงก็ยังคงมี แต่ญี่ปุ่นไม่ได้กลิ่นครับ อันนี้ยืนยันเลย) แต่ผมใช้นิคกิ เช้าเครื่องเย็นๆก็สตาร์ทแก๊สจึ้งเดียวติดเลยครับ เครื่องนิ่งเลย (แต่โทมาของเพื่อนทำแบบนี้ไม่ได้ ) ขนาดเป็นรุ่นเก่ายังเนียนขนาดนั้น รุ่นนี้มันระดับมหาเทพแล้วครับหากเทียบกับนิคกิธรรมดาที่ผมใช้) น้ำมันผมเติมไว้๕๐๐ บาทเมื่อสามปีที่แล้ว ไม่เคยได้ใช้เลย ตอนนี้ก็ถอดสายติ๊กสายน้ำมันออกหมดแล้ว ใช้แก๊สร้อยเปอร์สถานเดียวครับ

 

คุณโปรครับ ด้วยความเคารพนะครับ ระบบหัวฉีดนั้นมันจะทำงานได้เที่ยงตรงและดีในระยะหนึ่งเท่านั้นครับ(แตกต่างจากหัวฉีดน้ำมันครับ) แก๊สไม่มีสารหล่อลื่นเหมือนน้ำมัน ใช้ไประยะหนึ่งจะมีการเสื่อมเกิดขึ้น ความเที่ยงตรงและเสถียรจะลดลงครับ ตอนนี้ยังไม่มีบริษัทไหนที่กล้ารับประกันหัวฉีดแก๊สสำหรับการใช้งานถึงแสนกิโล แต่ในรถยนต์นั้นกล้ารับประกันให้ยาวนานถึงแสนกิโลหรือสามปีแล้วแต่อันไหนจะมาถึงก่อน เพื่อนผมที่เคยใช้ระบบหัวฉีดมันก็ดีแค่ระยะหนึ่งเท่านั้นครับ เวลามันรวนหรือมีปัญหาขึ้นมา บางทีช่างต่างจังหวัดก็ปวดหัวซ่อมไม่ได้เหมือนกันครับ ยิ่งผมเดินทางโดยตลอดอย่างนี้ เลยคบกับระบบหัวฉีดไม่ได้ครับ

ทีนี้หากย้อนกลับมาถึงระบบธรรมดา นั้นระยะยาวมันเสถียรกว่ามากนะครับ ผมจึงใช้มาตลอด เพื่อนผมที่ว่าก็เปลี่ยนจากหัวฉีดมาเป็นฟิกซ์มิกซ์บวกแลมด้าคอนโทรลแล้วครับ วันนี้ยังมีมิกซ์ผันแปร(โทซากิ)เป็นอีกหนึ่งทางเลือกครับ ระบบฟิกซ์หากจูนดีๆและได้หม้อระดับเทพแล้ว หัวฉีดอายครับ ใช้งานระยะยาวแบบลืมไปเลยครับ ไม่มีโอกาสกินข้าวลิงข้างทางแน่ครับหากเดินทางไกลบ่อยๆและยาวๆแบบผม แม้ในทางทฤษฏีหัวฉีดประหยัดกว่าแน่ (หากเราจะเอบีเทสกัน) แต่มันประหยัดกว่าแค่นิดเดียวไม่ได้เกินกันเหมือนราคาที่มันสูงกว่าเป็นเท่าตัวครับ หากนำราคาส่วนเกินนั้นมาเติมแก๊สซึ่งน่าจะมีถึงหมื่นกว่าบาท ลองคิดกันเล่นๆ รถทั่วไปทำได้สิบกิโลลิตร สมมุติแก๊สลิตรละ ๑๐ บาท ตกกิโลละบาทครับ เงินที่เกินไปตั้งแต่หมื่นห้าถึงสองหมื่นนั้น คือระยะทางที่เราได้เพิ่มมาอีกหมื่นห้าถึงสองหมื่น บวกกับระยะทางที่มันใช้มาจนถึงจุดคืนทุน(ที่เราลงค่าติดตั้งไปซึ่งมีระดับสองหมื่นปลายๆถึงมากกว่าครับ) เจ้าหัวฉีดที่เราติดตั้งในรถสุดที่รักของเรา ก็ถึงเวลาพังพอดีครับ แต่ระบบธรรมดาหรือแลมด้าคอนโทรล จะใช้งานได้อย่างเสถียรครับ (ของผมแสนสองหมื่นหกพันกว่ากิโล) ยังไม่เคยเปลี่ยผ้าหม้อต้มเลยครับ นอกจากถอดมาล้างแค่หนเดียวเองครับ เดินทางไกลก็ไม่ต้องเช็คอะไรมาก ดูแค่น้ำกะน้ำมันเครื่องน้ำมันเพาเวอร์ ระบบแก๊สไม่ต้องดูอะไรเลย ก็เดินทางปลอดภัยไร้ปัญหาแทบทุกครั้งครับ หัวฉีดมันดีในแง่จิตใจเท่านั้นครับ เวลาเพื่อนฝูงถาม เราจาคุยได้ว่าเราใช้ระบบนี้ซึ่งแตกต่าง แต่ระยะยาวเวลาที่มันเกเรแล้วผมไม่อยากเซดครับ เพื่อนผมที่เคยใช้ มันก็เปลี่ยนกลับมาใช้ระบบเดิมอย่างที่บอกในตอนแรกครับ เอาเป็นว่าลางเนื้อชอบลางยาครับ ใครใคร่ใช้อะไรก็ใช้ไป แต่ผมแค่อยากแบ่งปันประสพการณ์ที่เดินทางด้วยแอลพีจีไปเกือบทั่วประเทศให้ฟังเท่านั้นครับเป็นการให้ข้อมูลอีกด้านเพื่อการตัดสินใจครับ ระบบหัวฉีดมันก็ยังใช้หม้อต้มครับ แต่มีบ้างบางยี่ห้อที่ไม่ใช้หม้อต้ม(ผมว่าอันตรายนะ จ่ายแก๊สดิบๆเข้าไปเผาไหม้เลย) เป็นอีกมุมมองหนึ่งครับด้วยความเคารพครับ

 

ข้าน้อยเดาผิดไปแล้ว55....""บกพร่องโดยสุจริต""คำนี้ฟังดูคุ้นๆน่ะ

 

เรียน คุณ Professor

ขออนุญาตแชร์ไอเดียเรื่องแก๊สหัวฉีดนิดนึงครับ เนื่องจากตอนนี้กำลังคันมือ อยากเปลี่ยนระบบแก๊สจากฟิกซ์มิกเป็นหัวฉีดอยู่พอดี

ก่อนหน้านี้ว่าจะซื้อออโทรนิคมาติดรถตัวเอง ราคาชุด kit 20,000 บาทถ้วน (ตอนนี้ราคาที่กรุงเทพ 20,500 บาทครับ)
เพราะเห็นคนนิยมเล่นยี่ห้อนี้กัน อะไหล่ไม่น่าจะเป็นปัญหา แถมถ้าติดปัญหาในการติดตั้งก็อาศัยโพสถามในเว็บได้

แต่พอเพื่อนจะติดด้วย ก็เลยลองหาข้อมูลละเอียดอีกรอบนึง คืออ่านมันทุกความเห็นใน gasthai.com
ไม่ว่าจะเป็นการสาดโคลน, ดิสเครดิต, หน้าม้ายี่ห้อต่าง ๆ แล้วเอามาวิเคราะห์ตัดสินใจเอง
สุดท้ายก็ได้อีกยี่ห้อนึงที่มีหัวฉีดสีเขียว (รู้สึกจะมียี่ห้อนี้ยี่ห้อเดียว)
โดยดูจาก feedback ของคนใช้งาน, ค่า maintenance, ความละเอียดในการปรับจูน, การนำสัญญาณของเซ็นเซอร์ต่าง ๆ ของรถไปใช้ประมวลผลเพื่อจ่ายแก๊ส

เมื่อวันอาทิตย์ไปถามอู่ที่จะเอารถเพื่อนไปติด เขาคิดราคาอัพเกรดที่ 2.5 หมื่น
ถือว่าไม่ถูกไม่แพงครับ เพราะเคยติดแก๊สให้รถน้องที่ทำงานเอง เริ่มตั้งแต่ไปซื้อเหล็กฉากมาเชื่อม, เดินท่อใต้ท้องรถ
กว่าจะเสร็จยอมรับว่าเหนื่อยสุด ๆ แต่ก็สนุกดี ได้ความรู้มากกว่าอ่านบทความบนเว็บไซต์ต่าง ๆ ซะอีก

ตอนนี้ก็เลยคิดว่าจะซื้อชุด kit มาติดอัพเกรดรถตัวเองครับ โดยจะไปดูอู่เขาติดให้รถเพื่อนเพื่อเป็นแนวทาง
ถ้าสนใจสอบถามข้อมูลอะไรจะช่วยให้ข้อมูลครับ (เท่าที่ผมทราบ) ถ้าไม่ทราบจะไปถามที่อู่ติดตั้งให้ครับ

ปล. เรื่องถังตอนนี้ขาดตลาดหนัก แบรนด์ของคนไทยที่ดัง ๆ เช่น ชื่นสิริ ก็เก็บไว้ขึ้นราคา (อู่บอกมา), metal mate กับสหมิตร ก็หายาก โดนอู่ใหญ่ ๆ ตัดของไปหมด
อ้อ... ลืมบอกเรื่องวาล์วที่ถังไปครับ ตอนซื้อถังลองเช็คว่าออโต้เชนจ์สวิทช์ที่ใช้กับหัวฉีดมีเกจ์วัดระดับแก๊สอยู่ใช้กับวาล์วแบบไหนด้วยนะครับ
มันมีหลายค่า เช่น 0-90 โอห์ม, 0-110 โอห์ม, 110-30k โอห์ม เดี๋ยวจะต้องมาเปลี่ยนวาล์วแบบผมอีกรอบนึงครับ