เข้าสู่ระบบหรือลงทะเบียน
ติดต่อลงโฆษณา
[email protected]
หรือโทร. 081-811-1138 หรืออ่านรายละเอียดเพิ่มเติม คลิกที่นี่
RacingWeb.NET | The Racing Cars Community on Web.
ฟอรั่ม
>
RacingWeb Community
>
Racing Forum (Cars Forum)
>
D.I.Y.
>
D.I.Y. แอร์รถยนต์ด้วยตนเองคับ (ใครรถติดไฟแดงนานๆแล้วแอร์ไม่เย็น เข้ามาคับ)
>
ตอบกลับหัวข้อ
ชื่อ:
การตรวจสอบ:
กรุณาเปิดใช้งานจาวาสคริปต์เพื่อดำเนินการต่อ
กำลังโหลด...
ข้อความ:
<p>[QUOTE="จินนี่, post: 109215, member: 53848"]<b>ตรงนี้แหละ</b></p><p><br /></p><p><br /></p><p><br /></p><p><br /></p><p>เท่าที่เล่ามาและเอาภาพมาให้วิเคราะห์ ผมค่อยข้างแน่ใจว่าเสียงนั้นเกิดจากแหวนหักครับ เอาเป็นว่าประมาณทองสวิสครับ ๙๙.๙ อะไรประมาณนั้น แล้วนี่คุณยุทธจาไปต่างประเทศอีก ผมก็จาเดินทางพรุ่งนี้ยาวโลดเลยไม่ศุกร์ค่ำๆก็เสาร์เช้าโน่นล่ะถึงจาได้กลับ ทีนี้ก็มะมีใครดูตอนประกอบดิ แต่มั่นใจว่าจบครับ ภาวนาอยู่อย่างเดียวก็คือ ภาวนาอย่าให้ช่างที่ประกอบมันป่วยอีตอนประกอบกลับคืนแล้วดันลืมกินยาก็พอ (อิอิ ลืมกินแต่เพ่ดันวางขวดยาไว้ที่ห้องเครื่องรถคุณยุทธก็พออะคับ) ภาพเสื้อที่ถ่ายสูบที่หนึ่งกะสูบที่สี่ จาเป็นรอยตอนมันสะบัดเห็นได้ชัดครับ น่าจาเกิดจากแหวนหักตัวต้นเหตุครับ สภาพวาวล์กะเสื้อส่วนบนดูดีอยู่ครับอย่างเพิ่งไปยุ่งกะมัน โตต้าขึ้นชื่อเรื่องทนมือทนเท้าอยู่แล้ว </p><p><br /></p><p>แต่อยากจะวิเคราะห์ทางลึก เพื่อเป็นกรณีศึกษาถึงสาเหตุที่แหวนหักในครั้งนี้ หรือสาเหตุที่มันพังซึ่งอาจจะไม่ใช่แหวนหัก แต่ผมก็ยังมั่นใจว่าใช่ ผมเคยใช้น้ำมันเครื่องมาเกือบทุกชนิดทุกยี่ห้อที่มีขายในท้องตลาดเมืองไทยครับ แม้กระทั่งฟูลซินเทติคก็เคยใช้ ยิ่งที่โฆษณาว่าใช้ได้นาน ๔๐,๐๐๐กิโลหรือกว่านั้นก็เคยครับ แต่พบว่าความจริงก็คือ บ.มานหลอกเรา ในทางปฏิบัติแล้วใช้ได้ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกครับ แค่เจ็ดแปดพันก็เริ่มเสื่อมแล้วครับ ผมเดินทางตลอดทั้งปีสัมพัสและพบความลับนี้ด้วยตนเอง คุณยุทธคงมั่นใจในสินค้าที่มันโม้ว่าใช้แล้วเปลี่ยนที่หมื่นกว่ากิโลแน่ ถึงได้ทนใช้จนขนาดนั้น แต่หากผมจาบอกว่าใช้ได้อยู่หมื่นกว่ากิโลค่อยเปลี่ยน แต่ถึงตอนนั้นมันเสื่อมแล้วเครื่องเราจาสึกหรออย่างรวดเร็ว แล้วใครจารับผิดชอบครับ นอกจากเจ้าของรถ มีที่พอไว้ใจได้เพียง(ไม่กี่ยี่ห้อครับ มะได้ค่าโฆษณา) แต่จาบอกเป็นวิทยาทานแล้วกัน โอเมก้า โมบิลวัน ปตท.ซินเทติค เชลซินเทติค แม้แต่แอสโซ่ซินเทติค หรือคาร์เทคซินเทติค ก็โอเคที่ว่ามาเป็นฟูลซินเทติคล้วนๆ แต่พวกนี้มีขีดจำกัดของการใช้งานครับ หากมันได้สี่หมื่นกิโลจริงก็เกินคุ้มครับ แต่ในทางปฏิบัติ(หรือใช้งานจริงๆ)แล้วกลับไม่ใช่เลย ช่วงแรกๆนับแต่เปลี่ยน รถจะลื่นไหลจนรู้สึก ได้ความประหยัดเพิ่มขึ้นอีกหลายเปอร์ทีเดียว แต่พอใช้ไปๆสักเจ็ดถึงแปดพันกิโล มันจาเริ่มเสื่อมอย่างรวดเร็วครับ รู้สึกได้เลย เพราะผมขับรถไกลยาวๆโดยตลอด อาการแรกที่จับได้คือ เวลาเรามาด้วยความเร็วเดินทาง(๑๒๐) แล้วเจอรถช้าข้างหน้า(๖๐) (ส่วนใหญ่ผมไม่ชอบเชนเกียร) เพาเวอร์แบนรถผมมันกว้างมาก แม้วิ่งที่เกียรห้าอยู่ที่พันห้าร้อยรอบก็สามารถกดขึ้นหน้ารถช้าออกไปได้เลยสู่ความเร็วสูงสุดได้ซาบายๆ แต่ถ้าทำเช่นนั้นตอนที่ใช้น้ำมันที่ว่ามาเจ็ดแปดพันกิโลแล้ว จามีเสียงเข็ก แกรกๆๆๆๆๆๆ ออกมาจากลูกสูบทันที ผิดกับตอนเติมครั้งแรกๆครับ เหยียบแบบเดียวกันลักษณะเดียวกันก็ไหลขึ้นหน้ารถช้าสู่ความเร็วเดินทางของมันเลย ต้องเชนลงมาเกียร์สามเสียงเข็กถึงหาย จนได้ข้อสรุปว่าน้ำมันเครื่องราคาแพงลิบ ใช้ได้ดีตามที่บ.เขาคุยไว้แค่ระยะหนึ่งเท่านั้น แล้วจะเริ่มเสื่อมลงเรื่อยๆอย่างรวดเร็วหลังจากใช้งานมาที่ระยะเจ็ดถึงแปดพันกิโลไปแล้ว สู้น้ำมันเครื่องเกรดสูงทั่วไป(ปัจจุบันผมใช้SJ แต่มาตราฐานทะลุ SM ไปแล้ว) เราเปลี่ยนทิ้งทุกๆสองถึงสามพันกิโลเมตรพร้อมกรองน้ำมันเครื่อง กลับดีกว่าเราใช้น้ำมันสังเคราะห์ราคาแพงที่อ้างว่าใช้ได้ถึงสี่หมื่นหรือเป็นหมื่นๆกิโลครับ เครื่องจาสึกหรอน้อยกว่ากันมากหรือแทบจะไม่สึกหรอเลย ผมถึงเดินทางไกลตลอดทั้งปีโดยไม่มีปัญหาครับ และจากการทำแบบนี้(เปลี่ยนบ่อยๆระยะน้อยๆสองสามพันกิโลถ่ายทิ้งเลย) หากวิ่งแบบเดียวกันก็ไม่มีปัญหาครับตามรถช้าที่๖๐-๗๐ ที่เกียรห้า แค่จังหวะว่างแค่นิดเดียวก็กดปรู๊ดแซงหน้าขึ้นไปเลยแค่ไม่กี่วิเอง โดยไม่มีเสียงเข็กใดๆให้เสียวเล่นให้กังขาเล่นว่า ห้วยตูใช้ฟูลซินเทติคลิตรละเท่านั้นเท่านี้นะ แต่ไหงมันดันมีเสียงเข็กลูกสูบได้ไง สบายใจกว่ากันเยอะเลยครับ แล้วก็ประหยัดเงินในกระเป๋าเราอีก</p><p><br /></p><p>มาสู่ข้อสรุป อย่าไปเชื่อโฆษณามากครับ เอาสามหรือเอาห้าไปหาร ความจริงอยู่ประมาณนั้นล่ะ ทีนี้ลองดูกรณีของคุณยุทธ น้ำมันที่ใช้เปลี่ยนทุกหมื่นกว่าโล ลองจดไว้นะครับ หลังเปลี่ยน พอมันได้ระยะสักเจ็ดพันอย่างที่ผมว่า ให้ลองตอนใช้งานจริงนะครับ วิ่งๆไปกลับเข้าบ้านลองเปิดฝากระโปรงดูแล้วดึงคันชักน้ำมันเครื่องเอามือแตะดูน้ำมันที่ชักออกมาจากเครื่อง ความหนืดของมันอาจจะไม่เหลือเลยเหมือนกับนำปะปาอะไรประมาณนั้นเลยไม่รู้ความหนืดมันหายไปไหนหมด ตรงนี้ล่ะที่ทำให้เครื่องเราสึกหรออย่างรวดเร็ว โดยที่เราไม่รู้ตัว(เพราะยังมั่นใจว่ามันยังเหลือระยะทีจะใช้งานอีกเยาะ แต่ความจริงไม่ได้เป็นเช่นนั้นครับ) ตรงนี้ละมังที่ทำให้แหวนหัก หรือเครื่องพังเพราะเสียงแกร๊กๆๆที่ยังไม่รู้ว่าชิ้นส่วนไหนเป็นจำเลยกันแน่ แต่ผมคิดว่าแหวนหักครับ นี่ผมยังไม่ได้พูดถึงระยะเวลาที่ต้องเปลี่ยนทิ้งของน้ำมันเครื่องนะ หมายความว่า ตั้งแต่เราเติมเข้าไป แม้เราไม่ได้ใช้รถก็ตามที ถึงระยะเวลาของมันมันก็จะเสื่อมอีกเช่นกัน เคยถามท่านผู้รู้ ท่านว่าสามถึงหกเดือนเท่านั้นเป็นอย่างมาก ทีนี้หากเราใช้รถในเมืองไม่ค่อยได้ไปไหน ระยะทางหมื่นกว่ากิโล กับเวลาดังว่าอันไหนมานจะมาถึงก่อนกันครับ ฝากไว้เท่านี้ล่ะ หากจะมีประโยชน์บ้าง สิ่งต่างๆที่เล่ามานั้นเกิดจากประสพการณ์ตรงที่ได้ทดลองใช้ ไม่มีเจตนาไปว่าสินค้าของบริษัทใดๆทั้งสิ้น แล้วก็สามารถพิสูจน์ได้ครับ น้ำมันเครื่องสดใหม่ เปลี่ยนในระยะสั้นๆ เวลาใช้งานน้อยๆ เดือนละหนหรือเดินทางทีหน ให้ประสิทธิภาพสูงสุดกว่าทุกกรณีครับ เลือกเอาครับจาเอาม้าตีนต้นแต่แผ่วปลายหรือสลบปลาย หรือเอาม้าตีนเสมอต้นเสมอปลายตลอดกำลังไม่ตก ผมเลือกเอาอย่างหลังแล้วทำเป็นปรกตินิสัยมาหลายปีแล้วครับ[/QUOTE]</p><p><br /></p>
[QUOTE="จินนี่, post: 109215, member: 53848"][b]ตรงนี้แหละ[/b] เท่าที่เล่ามาและเอาภาพมาให้วิเคราะห์ ผมค่อยข้างแน่ใจว่าเสียงนั้นเกิดจากแหวนหักครับ เอาเป็นว่าประมาณทองสวิสครับ ๙๙.๙ อะไรประมาณนั้น แล้วนี่คุณยุทธจาไปต่างประเทศอีก ผมก็จาเดินทางพรุ่งนี้ยาวโลดเลยไม่ศุกร์ค่ำๆก็เสาร์เช้าโน่นล่ะถึงจาได้กลับ ทีนี้ก็มะมีใครดูตอนประกอบดิ แต่มั่นใจว่าจบครับ ภาวนาอยู่อย่างเดียวก็คือ ภาวนาอย่าให้ช่างที่ประกอบมันป่วยอีตอนประกอบกลับคืนแล้วดันลืมกินยาก็พอ (อิอิ ลืมกินแต่เพ่ดันวางขวดยาไว้ที่ห้องเครื่องรถคุณยุทธก็พออะคับ) ภาพเสื้อที่ถ่ายสูบที่หนึ่งกะสูบที่สี่ จาเป็นรอยตอนมันสะบัดเห็นได้ชัดครับ น่าจาเกิดจากแหวนหักตัวต้นเหตุครับ สภาพวาวล์กะเสื้อส่วนบนดูดีอยู่ครับอย่างเพิ่งไปยุ่งกะมัน โตต้าขึ้นชื่อเรื่องทนมือทนเท้าอยู่แล้ว แต่อยากจะวิเคราะห์ทางลึก เพื่อเป็นกรณีศึกษาถึงสาเหตุที่แหวนหักในครั้งนี้ หรือสาเหตุที่มันพังซึ่งอาจจะไม่ใช่แหวนหัก แต่ผมก็ยังมั่นใจว่าใช่ ผมเคยใช้น้ำมันเครื่องมาเกือบทุกชนิดทุกยี่ห้อที่มีขายในท้องตลาดเมืองไทยครับ แม้กระทั่งฟูลซินเทติคก็เคยใช้ ยิ่งที่โฆษณาว่าใช้ได้นาน ๔๐,๐๐๐กิโลหรือกว่านั้นก็เคยครับ แต่พบว่าความจริงก็คือ บ.มานหลอกเรา ในทางปฏิบัติแล้วใช้ได้ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกครับ แค่เจ็ดแปดพันก็เริ่มเสื่อมแล้วครับ ผมเดินทางตลอดทั้งปีสัมพัสและพบความลับนี้ด้วยตนเอง คุณยุทธคงมั่นใจในสินค้าที่มันโม้ว่าใช้แล้วเปลี่ยนที่หมื่นกว่ากิโลแน่ ถึงได้ทนใช้จนขนาดนั้น แต่หากผมจาบอกว่าใช้ได้อยู่หมื่นกว่ากิโลค่อยเปลี่ยน แต่ถึงตอนนั้นมันเสื่อมแล้วเครื่องเราจาสึกหรออย่างรวดเร็ว แล้วใครจารับผิดชอบครับ นอกจากเจ้าของรถ มีที่พอไว้ใจได้เพียง(ไม่กี่ยี่ห้อครับ มะได้ค่าโฆษณา) แต่จาบอกเป็นวิทยาทานแล้วกัน โอเมก้า โมบิลวัน ปตท.ซินเทติค เชลซินเทติค แม้แต่แอสโซ่ซินเทติค หรือคาร์เทคซินเทติค ก็โอเคที่ว่ามาเป็นฟูลซินเทติคล้วนๆ แต่พวกนี้มีขีดจำกัดของการใช้งานครับ หากมันได้สี่หมื่นกิโลจริงก็เกินคุ้มครับ แต่ในทางปฏิบัติ(หรือใช้งานจริงๆ)แล้วกลับไม่ใช่เลย ช่วงแรกๆนับแต่เปลี่ยน รถจะลื่นไหลจนรู้สึก ได้ความประหยัดเพิ่มขึ้นอีกหลายเปอร์ทีเดียว แต่พอใช้ไปๆสักเจ็ดถึงแปดพันกิโล มันจาเริ่มเสื่อมอย่างรวดเร็วครับ รู้สึกได้เลย เพราะผมขับรถไกลยาวๆโดยตลอด อาการแรกที่จับได้คือ เวลาเรามาด้วยความเร็วเดินทาง(๑๒๐) แล้วเจอรถช้าข้างหน้า(๖๐) (ส่วนใหญ่ผมไม่ชอบเชนเกียร) เพาเวอร์แบนรถผมมันกว้างมาก แม้วิ่งที่เกียรห้าอยู่ที่พันห้าร้อยรอบก็สามารถกดขึ้นหน้ารถช้าออกไปได้เลยสู่ความเร็วสูงสุดได้ซาบายๆ แต่ถ้าทำเช่นนั้นตอนที่ใช้น้ำมันที่ว่ามาเจ็ดแปดพันกิโลแล้ว จามีเสียงเข็ก แกรกๆๆๆๆๆๆ ออกมาจากลูกสูบทันที ผิดกับตอนเติมครั้งแรกๆครับ เหยียบแบบเดียวกันลักษณะเดียวกันก็ไหลขึ้นหน้ารถช้าสู่ความเร็วเดินทางของมันเลย ต้องเชนลงมาเกียร์สามเสียงเข็กถึงหาย จนได้ข้อสรุปว่าน้ำมันเครื่องราคาแพงลิบ ใช้ได้ดีตามที่บ.เขาคุยไว้แค่ระยะหนึ่งเท่านั้น แล้วจะเริ่มเสื่อมลงเรื่อยๆอย่างรวดเร็วหลังจากใช้งานมาที่ระยะเจ็ดถึงแปดพันกิโลไปแล้ว สู้น้ำมันเครื่องเกรดสูงทั่วไป(ปัจจุบันผมใช้SJ แต่มาตราฐานทะลุ SM ไปแล้ว) เราเปลี่ยนทิ้งทุกๆสองถึงสามพันกิโลเมตรพร้อมกรองน้ำมันเครื่อง กลับดีกว่าเราใช้น้ำมันสังเคราะห์ราคาแพงที่อ้างว่าใช้ได้ถึงสี่หมื่นหรือเป็นหมื่นๆกิโลครับ เครื่องจาสึกหรอน้อยกว่ากันมากหรือแทบจะไม่สึกหรอเลย ผมถึงเดินทางไกลตลอดทั้งปีโดยไม่มีปัญหาครับ และจากการทำแบบนี้(เปลี่ยนบ่อยๆระยะน้อยๆสองสามพันกิโลถ่ายทิ้งเลย) หากวิ่งแบบเดียวกันก็ไม่มีปัญหาครับตามรถช้าที่๖๐-๗๐ ที่เกียรห้า แค่จังหวะว่างแค่นิดเดียวก็กดปรู๊ดแซงหน้าขึ้นไปเลยแค่ไม่กี่วิเอง โดยไม่มีเสียงเข็กใดๆให้เสียวเล่นให้กังขาเล่นว่า ห้วยตูใช้ฟูลซินเทติคลิตรละเท่านั้นเท่านี้นะ แต่ไหงมันดันมีเสียงเข็กลูกสูบได้ไง สบายใจกว่ากันเยอะเลยครับ แล้วก็ประหยัดเงินในกระเป๋าเราอีก มาสู่ข้อสรุป อย่าไปเชื่อโฆษณามากครับ เอาสามหรือเอาห้าไปหาร ความจริงอยู่ประมาณนั้นล่ะ ทีนี้ลองดูกรณีของคุณยุทธ น้ำมันที่ใช้เปลี่ยนทุกหมื่นกว่าโล ลองจดไว้นะครับ หลังเปลี่ยน พอมันได้ระยะสักเจ็ดพันอย่างที่ผมว่า ให้ลองตอนใช้งานจริงนะครับ วิ่งๆไปกลับเข้าบ้านลองเปิดฝากระโปรงดูแล้วดึงคันชักน้ำมันเครื่องเอามือแตะดูน้ำมันที่ชักออกมาจากเครื่อง ความหนืดของมันอาจจะไม่เหลือเลยเหมือนกับนำปะปาอะไรประมาณนั้นเลยไม่รู้ความหนืดมันหายไปไหนหมด ตรงนี้ล่ะที่ทำให้เครื่องเราสึกหรออย่างรวดเร็ว โดยที่เราไม่รู้ตัว(เพราะยังมั่นใจว่ามันยังเหลือระยะทีจะใช้งานอีกเยาะ แต่ความจริงไม่ได้เป็นเช่นนั้นครับ) ตรงนี้ละมังที่ทำให้แหวนหัก หรือเครื่องพังเพราะเสียงแกร๊กๆๆที่ยังไม่รู้ว่าชิ้นส่วนไหนเป็นจำเลยกันแน่ แต่ผมคิดว่าแหวนหักครับ นี่ผมยังไม่ได้พูดถึงระยะเวลาที่ต้องเปลี่ยนทิ้งของน้ำมันเครื่องนะ หมายความว่า ตั้งแต่เราเติมเข้าไป แม้เราไม่ได้ใช้รถก็ตามที ถึงระยะเวลาของมันมันก็จะเสื่อมอีกเช่นกัน เคยถามท่านผู้รู้ ท่านว่าสามถึงหกเดือนเท่านั้นเป็นอย่างมาก ทีนี้หากเราใช้รถในเมืองไม่ค่อยได้ไปไหน ระยะทางหมื่นกว่ากิโล กับเวลาดังว่าอันไหนมานจะมาถึงก่อนกันครับ ฝากไว้เท่านี้ล่ะ หากจะมีประโยชน์บ้าง สิ่งต่างๆที่เล่ามานั้นเกิดจากประสพการณ์ตรงที่ได้ทดลองใช้ ไม่มีเจตนาไปว่าสินค้าของบริษัทใดๆทั้งสิ้น แล้วก็สามารถพิสูจน์ได้ครับ น้ำมันเครื่องสดใหม่ เปลี่ยนในระยะสั้นๆ เวลาใช้งานน้อยๆ เดือนละหนหรือเดินทางทีหน ให้ประสิทธิภาพสูงสุดกว่าทุกกรณีครับ เลือกเอาครับจาเอาม้าตีนต้นแต่แผ่วปลายหรือสลบปลาย หรือเอาม้าตีนเสมอต้นเสมอปลายตลอดกำลังไม่ตก ผมเลือกเอาอย่างหลังแล้วทำเป็นปรกตินิสัยมาหลายปีแล้วครับ[/QUOTE]
เข้าสู่ระบบด้วย Facebook
เข้าสู่ระบบด้วย Twitter
เข้าสู่ระบบด้วย Google
ชื่อผู้ใช้งานหรือที่อยู่อีเมล์ของคุณ:
คุณมีบัญชีผู้ใช้หรือไม่?
ไม่มี, สร้างบัญชีผู้ใช้ตอนนี้
มี, รหัสผ่านของฉันคือ:
ลืมรหัสผ่านของคุณ?
อยู่ในระบบตลอดเวลา
RacingWeb.NET | The Racing Cars Community on Web.
ฟอรั่ม
>
RacingWeb Community
>
Racing Forum (Cars Forum)
>
D.I.Y.
>
D.I.Y. แอร์รถยนต์ด้วยตนเองคับ (ใครรถติดไฟแดงนานๆแล้วแอร์ไม่เย็น เข้ามาคับ)
>
X
หน้าแรก
หน้าแรก
Quick Links
โพสต์ล่าสุด
กิจกรรมล่าสุด
ผู้เขียน
ฟอรั่ม
ฟอรั่ม
Quick Links
ค้นหาฟอรั่ม
โพสต์ล่าสุด
ประกาศซื้อขาย
ประกาศซื้อขาย
Quick Links
ค้นหาประกาศซื้อขาย
กิจกรรมล่าสุด
ผู้ค้าขายคะแนนสูงสุด
สื่อ/วิดีโอ
สื่อ/วิดีโอ
Quick Links
Search Media
New Media
สมาชิก
สมาชิก
Quick Links
สมาชิกที่โดดเด่น
สมาชิกที่ลงทะเบียน
ผู้ใช้งานในขณะนี้
กิจกรรมล่าสุด
โพสต์ข้อมูลส่วนตัวใหม่
เมนู
ค้นหาเฉพาะชื่อ
โพสต์โดยสมาชิก:
แยกชื่อด้วยเครื่องหมายจุลภาค
ใหม่กว่า:
ค้นหาเฉพาะหัวข้อนี้
ค้นหาเฉพาะฟอรั่มนี้
แสดงผลเป็นหัวข้อ
การค้นหาที่มีประโยชน์
โพสต์ล่าสุด
เพิ่มเติม...