เข้าสู่ระบบหรือลงทะเบียน
ติดต่อลงโฆษณา
[email protected]
หรือโทร. 081-811-1138 หรืออ่านรายละเอียดเพิ่มเติม คลิกที่นี่
RacingWeb.NET | The Racing Cars Community on Web.
ฟอรั่ม
>
Community Car Clubs
>
Honda Car Clubs
>
Integra Inc.
>
ผมอยากทราบข้อดีและข้อเสียของ dc5 อะคับ
>
ตอบกลับหัวข้อ
ชื่อ:
การตรวจสอบ:
กรุณาเปิดใช้งานจาวาสคริปต์เพื่อดำเนินการต่อ
กำลังโหลด...
ข้อความ:
<p>[QUOTE="EG9.Net, post: 406081, member: 31201"]พอดีว่าผมมี Catalog แท้อยู่ทั้งสองรุ่นและพอดีน้องชายจบญี่ปุ่นมาเลยให้มันแปลให้ฟัง</p><p>จุดต่างระหว่างรุ่นแรกและรุ่นสุดท้ายคือ....</p><p><br /></p><p>1. รุ่นแรกใบปัดน้ำฝนหลังจะเป็น Option รุ่นสองจะมีมาให้เลยเป็น Standard</p><p>2. รุ่นแรกและรุ่นสองไฟหน้าและท้ายคนละแบบกัน [อันนี้เห็นชัดๆน๊ะ]</p><p>3. ช่วงล่างของรุ่นแรกและรุ่นสอง แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ไม่สามารถนำช่วงล่างมาใส่กันได้</p><p>Honda Tuning Magazine ได้ทำการวิเคราะห์และแยกแยะให้ดูอย่างละเอียด [Based จาก Type S ที่ส่งเมกา] ซึ่งของ Type R ก็ไม่แตกต่างกันมากเพียงแต่ Spring Rate กับ Damper Rate จะสูงกว่าของ Type S </p><p>4. เกียร์ก็มีการปรับปรุงให้ดีขึ้นกว่ารุ่นแรก เข้าใจว่าแตกต่างกันที่ตัว Limited Differential ที่เป็นแบบ Helical และยังมี Feature ที่เรียกว่า RVS ซึ่งมีตัว Solenoid เอาไว้ล๊อคเกียร์ถอยหลังเมื่อรถวิ่งเดินหน้าเกินกว่า 12 ไมล์ต่อชม. (ระบบอันนี้เอามาจาก NSX) ซึ่งจะทำให้ไม่มีการใส่เกียร์ถอยผิดได้เวลารถวิ่ง [เพราะเกียร์ถอยกับเกียร์ 6 มันจะอยู่ใกล้ๆกันและถ้าวิ่งอยู่ที่เกียร์หกแล้วดันใส่ผิดไปเข้าเกียร์ถอยคงจะต้องเรือหายแน่ๆ)</p><p>5. เครื่องตระกูล K ต่างจากเครื่องตระกูล B ลิบลับ แต่ที่เห็นได้ชัดๆก็คือเครื่อง K ไม่ได้ผ่านการแต่งฝาสูบด้วยมือเหมือนเครื่อง Type R ตระกูล B (ซึ่งทำได้วันละร้อยเครื่องเท่านั้นเห็นจะได้เพราะใช้วิศวกรแต่งฝาสูบเองด้วยมือ) แต่เครื่อง K ใช้คอมฯและระบบ Casting ที่ทันสมัยขึ้น ประกอบกับระบบ Header ที่เป็นรูปตัว Y และไม่ได้วนมากมายเหมือนกับตระกูล B ทำให้มีแรงม้ามากขึ้นยี่สิบตัว แต่ก็ยังเป็นแรงม้าที่ฟลายวีลเหมือนเดิม และถ้าผมจำไม่ผิดทั้ง EP3 และ DC5 มีการเอามาวัดแรงม้าลงหนังสือ XO ไปแล้วน่าจะได้ไม่เกิน 160 ทั้งสองคัน สาเหตุง่ายๆก็คือกล่องต้องเอามาจูนใหม่ครับ น้ำมันบ้านเราก็รู้ๆคุณภาพกันอยู่ว่าดีไม่ดีแค่ไหน แถม Octane ก็ยังแค่ 95 ในขณะที่ญี่ปุ่น Octane100 นึง เครื่องที่ทำมามีอัตราอัดสูงๆก็ต้องใช้น้ำมัน Octane สูงตาม ไม่งั้นมันก็เหี่ยว เพราะฉะนั้นข้อเสียของมันก็คือถ้าซื้อมาใช้ก็ต้องเอากล่องไปจูนครับ ไม่ใช่เพื่อให้มันแรงขึ้นอย่างเดียวแต่อย่างน้อยก็ต้องทำให้มัน Optimized ที่สุดสำหรับอากาศและน้ำมันบ้านเรา จูนดีๆก็น่าจะได้มาอีกซักสิบห้ายี่สิบแรงม้าก็น่าจะโอเคแล้ว ขนาดที่อเมริกาน้ำมันเค้า Octane 91 เท่านั้นยังจูนได้ประมาณ 185 ซึ่งก็ถือว่าเยี่ยมมากแล้ว</p><p><br /></p><p>มีตังค์ก็ซื้อขับเหอะครับ มันเท่ห์ดีออก มีอยู่นับคันได้ในเมืองไทย (แน่ๆไม่เกินห้าสิบคันเอ้า...)</p><p>แล้วมันก็เลิกผลิตไปแล้ว (อันนี้ทั้งข้อดีและข้อเสีย) เพราะมันก็เป็นตำนานหน้าสุดท้ายของ Integra</p><p>เพราะเดี๋ยวนี้ Civic มันก็ขยับขึ้นมาเป็น 2.0 ก็ทำให้ Segment ของ 2.0 มัน Obsolete ไปเหมือน</p><p>กับ Prelude ซึ่งก็โดน Accord เบียดจนไม่มีที่ให้ยืน ก็ต้องเลิกผลิตไป</p><p><br /></p><p>ข้อเสียตอนนี้คือยังมีของแต่งไม่ค่อยมากเท่ากับ DC2 แต่ไม่นานก็คงมีครับ แต่ก็คงมีปริมาณ</p><p>น้อยกว่าในเมืองไทยเพราะรถ DC5 มีอยู่ไม่กี่คันเท่านั้นเอง จริงๆได้มาครบๆก็ไม่ต้องไปแต่ง</p><p>อะไรมันแล้วแหล่ะครับ ขับแตนๆก็ระดับเทพอยู่แล้วนิ (ยืมศัพท์วัยรุ่นมาใช้หน่อย) แต่ก็รถใคร</p><p>รถมัน เงินถุงเงินถังก็ว่ากันไป </p><p><br /></p><p>สุดท้ายแนะนำให้ซื้อรุ่นสอง Minor Change มาใช้น๊ะครับ เพราะฮอนด้า (และทุกยี่ห้อแหล่ะ)</p><p>พอรุ่นสองก็จะต้องปรับปรุงแก้ไขโน่นนี่ให้ดีขึ้นกว่ารุ่นแรก อย่าง DC2 Type R ยังมี 96 กับ</p><p>98 และ 2000 เลย</p><p><br /></p><p>ผมเองเคยคิดจะซื้ออยู่เหมือนกัน เคยจะจับได้แล้วที่ราคา 1.9 ล้าน (สีดำเบาะแดง..ถึงกับหาเบาะดำรอไว้แล้ว) แต่ก็ตัดใจไม่ลง เลยหันไปหาตัวถัง DC2 แล้วทำเป็น Type R X สีเหลืองเบาะเหลืองเนียนๆครบๆทุกชิ้นดีกว่า สะระตะหมดแล้วก็น่าจะซักล้านนึง เหลืออีกเก้าแสนเก็บไว้ให้ลูกเรียนหนังสือดีกว่า..เหอๆๆ</p><p><br /></p><p>แค่นี้ละกันน๊ะครับ...ผมความรู้ยังด้อย งูๆปลาๆ สะเน๊คๆฟิชๆ รอโคตระเซียนท่านอื่นๆมาต่อยอดดีกว่า[/QUOTE]</p><p><br /></p>
[QUOTE="EG9.Net, post: 406081, member: 31201"]พอดีว่าผมมี Catalog แท้อยู่ทั้งสองรุ่นและพอดีน้องชายจบญี่ปุ่นมาเลยให้มันแปลให้ฟัง จุดต่างระหว่างรุ่นแรกและรุ่นสุดท้ายคือ.... 1. รุ่นแรกใบปัดน้ำฝนหลังจะเป็น Option รุ่นสองจะมีมาให้เลยเป็น Standard 2. รุ่นแรกและรุ่นสองไฟหน้าและท้ายคนละแบบกัน [อันนี้เห็นชัดๆน๊ะ] 3. ช่วงล่างของรุ่นแรกและรุ่นสอง แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ไม่สามารถนำช่วงล่างมาใส่กันได้ Honda Tuning Magazine ได้ทำการวิเคราะห์และแยกแยะให้ดูอย่างละเอียด [Based จาก Type S ที่ส่งเมกา] ซึ่งของ Type R ก็ไม่แตกต่างกันมากเพียงแต่ Spring Rate กับ Damper Rate จะสูงกว่าของ Type S 4. เกียร์ก็มีการปรับปรุงให้ดีขึ้นกว่ารุ่นแรก เข้าใจว่าแตกต่างกันที่ตัว Limited Differential ที่เป็นแบบ Helical และยังมี Feature ที่เรียกว่า RVS ซึ่งมีตัว Solenoid เอาไว้ล๊อคเกียร์ถอยหลังเมื่อรถวิ่งเดินหน้าเกินกว่า 12 ไมล์ต่อชม. (ระบบอันนี้เอามาจาก NSX) ซึ่งจะทำให้ไม่มีการใส่เกียร์ถอยผิดได้เวลารถวิ่ง [เพราะเกียร์ถอยกับเกียร์ 6 มันจะอยู่ใกล้ๆกันและถ้าวิ่งอยู่ที่เกียร์หกแล้วดันใส่ผิดไปเข้าเกียร์ถอยคงจะต้องเรือหายแน่ๆ) 5. เครื่องตระกูล K ต่างจากเครื่องตระกูล B ลิบลับ แต่ที่เห็นได้ชัดๆก็คือเครื่อง K ไม่ได้ผ่านการแต่งฝาสูบด้วยมือเหมือนเครื่อง Type R ตระกูล B (ซึ่งทำได้วันละร้อยเครื่องเท่านั้นเห็นจะได้เพราะใช้วิศวกรแต่งฝาสูบเองด้วยมือ) แต่เครื่อง K ใช้คอมฯและระบบ Casting ที่ทันสมัยขึ้น ประกอบกับระบบ Header ที่เป็นรูปตัว Y และไม่ได้วนมากมายเหมือนกับตระกูล B ทำให้มีแรงม้ามากขึ้นยี่สิบตัว แต่ก็ยังเป็นแรงม้าที่ฟลายวีลเหมือนเดิม และถ้าผมจำไม่ผิดทั้ง EP3 และ DC5 มีการเอามาวัดแรงม้าลงหนังสือ XO ไปแล้วน่าจะได้ไม่เกิน 160 ทั้งสองคัน สาเหตุง่ายๆก็คือกล่องต้องเอามาจูนใหม่ครับ น้ำมันบ้านเราก็รู้ๆคุณภาพกันอยู่ว่าดีไม่ดีแค่ไหน แถม Octane ก็ยังแค่ 95 ในขณะที่ญี่ปุ่น Octane100 นึง เครื่องที่ทำมามีอัตราอัดสูงๆก็ต้องใช้น้ำมัน Octane สูงตาม ไม่งั้นมันก็เหี่ยว เพราะฉะนั้นข้อเสียของมันก็คือถ้าซื้อมาใช้ก็ต้องเอากล่องไปจูนครับ ไม่ใช่เพื่อให้มันแรงขึ้นอย่างเดียวแต่อย่างน้อยก็ต้องทำให้มัน Optimized ที่สุดสำหรับอากาศและน้ำมันบ้านเรา จูนดีๆก็น่าจะได้มาอีกซักสิบห้ายี่สิบแรงม้าก็น่าจะโอเคแล้ว ขนาดที่อเมริกาน้ำมันเค้า Octane 91 เท่านั้นยังจูนได้ประมาณ 185 ซึ่งก็ถือว่าเยี่ยมมากแล้ว มีตังค์ก็ซื้อขับเหอะครับ มันเท่ห์ดีออก มีอยู่นับคันได้ในเมืองไทย (แน่ๆไม่เกินห้าสิบคันเอ้า...) แล้วมันก็เลิกผลิตไปแล้ว (อันนี้ทั้งข้อดีและข้อเสีย) เพราะมันก็เป็นตำนานหน้าสุดท้ายของ Integra เพราะเดี๋ยวนี้ Civic มันก็ขยับขึ้นมาเป็น 2.0 ก็ทำให้ Segment ของ 2.0 มัน Obsolete ไปเหมือน กับ Prelude ซึ่งก็โดน Accord เบียดจนไม่มีที่ให้ยืน ก็ต้องเลิกผลิตไป ข้อเสียตอนนี้คือยังมีของแต่งไม่ค่อยมากเท่ากับ DC2 แต่ไม่นานก็คงมีครับ แต่ก็คงมีปริมาณ น้อยกว่าในเมืองไทยเพราะรถ DC5 มีอยู่ไม่กี่คันเท่านั้นเอง จริงๆได้มาครบๆก็ไม่ต้องไปแต่ง อะไรมันแล้วแหล่ะครับ ขับแตนๆก็ระดับเทพอยู่แล้วนิ (ยืมศัพท์วัยรุ่นมาใช้หน่อย) แต่ก็รถใคร รถมัน เงินถุงเงินถังก็ว่ากันไป สุดท้ายแนะนำให้ซื้อรุ่นสอง Minor Change มาใช้น๊ะครับ เพราะฮอนด้า (และทุกยี่ห้อแหล่ะ) พอรุ่นสองก็จะต้องปรับปรุงแก้ไขโน่นนี่ให้ดีขึ้นกว่ารุ่นแรก อย่าง DC2 Type R ยังมี 96 กับ 98 และ 2000 เลย ผมเองเคยคิดจะซื้ออยู่เหมือนกัน เคยจะจับได้แล้วที่ราคา 1.9 ล้าน (สีดำเบาะแดง..ถึงกับหาเบาะดำรอไว้แล้ว) แต่ก็ตัดใจไม่ลง เลยหันไปหาตัวถัง DC2 แล้วทำเป็น Type R X สีเหลืองเบาะเหลืองเนียนๆครบๆทุกชิ้นดีกว่า สะระตะหมดแล้วก็น่าจะซักล้านนึง เหลืออีกเก้าแสนเก็บไว้ให้ลูกเรียนหนังสือดีกว่า..เหอๆๆ แค่นี้ละกันน๊ะครับ...ผมความรู้ยังด้อย งูๆปลาๆ สะเน๊คๆฟิชๆ รอโคตระเซียนท่านอื่นๆมาต่อยอดดีกว่า[/QUOTE]
เข้าสู่ระบบด้วย Facebook
เข้าสู่ระบบด้วย Twitter
เข้าสู่ระบบด้วย Google
ชื่อผู้ใช้งานหรือที่อยู่อีเมล์ของคุณ:
คุณมีบัญชีผู้ใช้หรือไม่?
ไม่มี, สร้างบัญชีผู้ใช้ตอนนี้
มี, รหัสผ่านของฉันคือ:
ลืมรหัสผ่านของคุณ?
อยู่ในระบบตลอดเวลา
RacingWeb.NET | The Racing Cars Community on Web.
ฟอรั่ม
>
Community Car Clubs
>
Honda Car Clubs
>
Integra Inc.
>
ผมอยากทราบข้อดีและข้อเสียของ dc5 อะคับ
>
X
หน้าแรก
หน้าแรก
Quick Links
โพสต์ล่าสุด
กิจกรรมล่าสุด
ผู้เขียน
ฟอรั่ม
ฟอรั่ม
Quick Links
ค้นหาฟอรั่ม
โพสต์ล่าสุด
ประกาศซื้อขาย
ประกาศซื้อขาย
Quick Links
ค้นหาประกาศซื้อขาย
กิจกรรมล่าสุด
ผู้ค้าขายคะแนนสูงสุด
สื่อ/วิดีโอ
สื่อ/วิดีโอ
Quick Links
Search Media
New Media
สมาชิก
สมาชิก
Quick Links
สมาชิกที่โดดเด่น
สมาชิกที่ลงทะเบียน
ผู้ใช้งานในขณะนี้
กิจกรรมล่าสุด
โพสต์ข้อมูลส่วนตัวใหม่
เมนู
ค้นหาเฉพาะชื่อ
โพสต์โดยสมาชิก:
แยกชื่อด้วยเครื่องหมายจุลภาค
ใหม่กว่า:
ค้นหาเฉพาะหัวข้อนี้
ค้นหาเฉพาะฟอรั่มนี้
แสดงผลเป็นหัวข้อ
การค้นหาที่มีประโยชน์
โพสต์ล่าสุด
เพิ่มเติม...