ยุคนั้นขอบอกว่ารถแข่งสุดทุกคันเดียวนี้นักแข่งยุคนั้นมีหน้าที่การงานที่ดีมากๆ บางท่านก็มีลูกไม้หล่นใต้ต้น อย่าง "ตี๋" มงคล เสถียร์ถิระกุล รถ BMW เบอร์ 11 ที่เดี๋ยวนี้ปั้นลูกชาย 2 หน่อ ลงแข่งรถคาร์ท จนไปสร้างชื่อเสียงที่เมืองนอก เมืองนากันแล้ว คุณชวาลา สุวรรณชีพ ตอนนี้เป็นนายกสมาคมมวยสากลสมัครเล่น BMW เบอร์ 7 ของ ฐิติ เกิดรพ หรือชื่อจริงๆ ก็คือ คุณฐิติกร ลีนุตพงษ์ ลูกหลานเครือ ยนตรกิจ ตัวแทน BMW บ้านเรายุคนั่น รถ DATSUN B310 เบอร์ 17 ของ "เสี่ยจร" ขจรศักดิ์ ศักดิ์ศิริเวชกุล เพิ่งหยุดแข่งรถไปไม่นานนี้เอง ส่วนรถแข่ง TOYOTA TE71 เบอร์ 8 ของ "เสี่ยยักษ์" ไพบูลย์ วัชระกุล ที่เดี๋ยวนี้เปลี่ยนนามสกุลใหม่เป็น พิสุทธิ์วัชระกุล ก็เปิดร้านยางชื่อดังย่านศีรนครินทร์ นามว่า RP-Tyre ส่วนกลุ่ม MAZDA โรตารี่ พวกพี่ ธนา ธนากุลม, เฮียชัย 2 ท่านนี้เดี๊ยวนี้ทำธุรกิจและยังคงวนเวียนแข่งรถคาร์ทตามงานต่างๆ และเป็นคนที่ให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการขับรถคาร์ทให้น้องๆ ได้ดีมากทั้ง 2 ท่าน ถ้าสนใจพบเจอพี่ธนากับเฮียชัยได้ที่สนาม MSL ส่วนรถ Bluebird U11 ทั้ง 2 คันน่าจะเป็นของ "เอ็กซ์" ธีระเดช จิราธิวัฒน์ กับ "จ๊อบ" นิธิ พงษ์เพ็ชร์ มั่งถ้าจำไม่ผิดนะ รถแข่งเบอร์ 15 ของ คุณประเสริฐ อภิปุญญา ลูกหลานทายาท PANASONIC ที่ตอนนี้เปิดธุรกิจจำหน่ายรถ HONDA ใช้ชื่อว่า ฮอนด้าสาธร เพราะตอนหลังแกได้เปลี่ยนมาใช้รถ HONDA ลงแข่งจนสร้างชื่อเสียงมากมาย การแข่งในยุคนั่นขอบอกว่ามันส์มากมีการถ่ายทอดสดทางช่อง 7 หรือ ช่อง 9 นี่แหละ มีให้ดูบ่อยๆ สนุกมากๆ หลังสุดที่ได้ดูรู้สึกจะเป็นรุ่น "ฟ้าคำราม" มั่ง ที่ "เสี่ยเกี๋ยง" เกรียงไกร ลิ้มนันทรักษ์ เจ้าของ AUTO IMAGE ที่นำเข้ารถใหม่จากญี่ปุ่น ใช้ DATSUN B310 ลงแข่ง ใส่ยางสลิควิ่งกลางฝนแต่คว้าแชมป์ชนะรถ BMW เบอร์ 11 ไปได้แบบไม่น่าเชื่อ ยุคหลังจากนั่นก็เริ่มเข้าศู่ยุคทัวริ่งคาร์ที่มีรถ VOLVO 240 Turbo ของ เพอร์กูน่า แอนเดอร์สัน(แรงมากๆ) MITSUBISHI Starion Turbo ของออสเตเลีย ที่มี "น้าแมน" แมน มานิตย์ ลงแข่งด้วย กระเถิบมาอีกนิดก็มีพวก Skyline R-32 GT-R ของ "คุณปั้น" พฤติรัตน์ รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ กับ "เสี่ยเกี๋ยง" ลงมาไล่บี้ด้วย หลังจากนั่นก็กลายมาเป็น ไทยแลนด์ ทัวริ่งคาร์ ยุครถแข่งฮอนด้าเฟื่องฟู ไม่นานก็มีรุ่น ทัวริ่งคาร์ ที่ใช้รถแข่ง DTM พวก BMW E30 M3, BENZ 190E Evolution ไม่น่าก็เป็นตัวแข่ง Class II BMW E-36 ของ "ประธานเปาะ" กีระเกียรติ เย็นมะโนช OPEN Vextra ของ "คุณปั้น" กับ "พี่พจน์" สุพจน์ กสิกรรม TOYOTA Corolla, NISSAN Sunny B14 ของ แดนนี่ สเตซี่ เชา ปิดท้ายยุคเฟื่องฟูจริงๆ ก็ช่วง NISSAN Premera ตัวแรงจาก NISMO กับ HONDA Accord เครื่อง H22A เย็บกระเพาะเหลือความจุ "สองพัน" ของ "เสี่ยเกี๋ยง" ลงแข่ง พอหมดยุคนั่น มอเตอร์สปอร์ตบ้านเราก็ซบเซาจนมาช่วง 5-6 ปีหลังนี่แหละที่เริ่มกลับมาบูมอีกครั้ง ส่วนในยุคนั่นอู่ที่รับทำรถแข่งจนสามารถสรางชื่อเสียก็ได้แก่ "เฮียก๊อง", "ป๋าฉัตร"(พ่อพี่อ๊อฟ หทัย ไชยวัณณ์) 2 ท่านนี้ได้ล่วงลับไปแล้ว ที่ยังอยู่ก็คือ "อากมล"(พ่อพี่เอก กำพล จันทร์เพ็ญประสาน) อาสุขุม ที่ทำโรตารี่ เก่งมาในยุคนั่น การแข่งรถยุคนั่นมีทั้งสุข ทุกข์ หวานอมขมกลืน มีครบทุกรสชาติ ไม่เหมือนสมัยนี้ที่มีทุกอย่างเพียบพร้อมไปหมด
เบอร์ 67 ,68, 69 นี่ เค้ามาด้วยกันครับ 67 ขับโดย วิทยา วิทยากุล 68 ขับโดย ธนา ธนากุล 69 ขับโดย สุรชัย นิโลบลวงษ์ โห ท่าน ข้อมูลแน่นจริงๆ ข้าน้อย ขอคาราวะ:thumbs_up: ขอ เพิ่มอีกซักนิดละกัน ถ้า ข้อมูล ผิดพลาดอยางใร ขออภัยด้วยนะครับ ยุค สมัยที่เป็น Touring Car เริ่มเกิดนี่ ก็เริ่มมี คู่แข่ง ต่างสายพันธ์กันแล้ว เรียกว่า เกทับ Bluff แหลก กันอย่างมันส์ ทั้งในสนาม และนอกสนาม ฝ่ายแดง นี่ เป็นค่ายรถ ยักษ์ใหญ่ แถวๆ รองเมือง เลื่องชื่อเรื่องรถ ขุนแผนเยอรมัน BMW สมัยนั้น นำทีมโดย อาจารย์ ศิริบูรณ์ เนาวถิ่นสุข นี่หล่ะครับ ฝ่ายน้ำเงิน มีถินกำเนิด แถวๆ ถนน เพชรบุรี นิยม ลงแรงกะรถ สายพันธ์สวีเดน Volvo นำทัพโดย Mr Zepher Kodayar หรือ ที่เราๆท่านๆ รู้จักกันในนาม Zepspeed ฝั่งหนึ่ง ใช้ ม้าศึก เป็น BMW M3 พวงมาลัยขวา(????????) สมัยนั้น นักแข่ง น่าจะมี ฐิติ เกิดรพ มงคล เสถียรถิระกุล อีกฝั่ง เป็น Volvo 240 Turbo ตัวแรง สังตรงจากบ้านเกิด มี เพอร์กูน่า แอนเดอร์สัน (คนนี้ เป็น นักขับ ระดับ Super Licence) ธีรเดช จิราธิวัฒน์ และ เกรียงใกร ลิ้มนันท์รักษ์
Chevy Monza ไม่ได้ทำ 1 ถ้วนๆครับ . . . คันนี้วิ่งอยู่แถวๆ 1.04-1.05 . . ขณะที่ BMW ของเฮียมงวิ่งอยู่แถวๆ 1.06 คันที่วิ่งได้ 1 ถ้วนๆเป็น Lap Record จากการแข่งขัน เป็น GC(Formula 2 ครอบตัวถัง) March BMW เครื่อง M10 2.0 16V . . . วิ่งไว้ถ้าจำไม่ผิด 1.00.23 ขับโดย มงคล เสถียรถิระกุล . . . รู้สึกจะเป็น Lap Record จากการแข่งจริง ที่ยังไม่มีใครทำลายจนถึงวันนี้ แต่ Lap Record จริงๆที่พีระ . . . เป็นการวิ่งโชว์ของรถ F1 . . McLaren Honda ขับโดยมือทดสอบรถชื่อไรจำไม่ได้ . . ทำไว้แถวๆ 55 วิเมื่อเกือบ 20 ปีที่แล้ว . . . แต่อันนี้เป็นเวลาวิ่งโชว์ ไม่ใช่การแข่งขัน คู่นี้จะว่าเป้นคู่กัดก็ไม่น่าจะใช่ เพราะเบอร์ 7 เท่าที่จำได้ไม่เคยขึ้นนำเบอร์ 11 ได้เลย . . . ทั้งคู่เครื่องเดียวกันเปะ สั่งมาจากที่เดียวกัน . . แต่ตัวรถเป็น Space Frame ทำในไทยทั้งคู่ . .. เบอร์ 11 ทำโดยอ. ศิริบูรณ์ เป็นช่วงล่างเพลาแข็งจาก Hilux . . . คันเบอร์ 7 ของเสี่ยย้ง เป็นอิสระ 4 ล้อ . . แต่ช้ากว่าเบอร์ 11 ตลอด ซึ่งน่าจะเป็นผลจากคนขับเป็นหลัก คันนี้ไม่ได้มี 700 ม้าครับ คันนี้เครื่องเดียวกันกับ 7-11 ครับ BMW M10 20 16V ใช้หัวฉีดสไลด์ 310-320 แรงม้า . . . . คันที่ 700 ม้าเป็นเครื่องเทอร์โบจากชนิทเซอร์ เป็นรถของทีมยนตรกิจแต่ ขับโดยปรีชา ทรัพย์คง ครับ ส่วน Silvia 2 คันนี้ เครื่อง FJ20ET . . . คันสีขาวส้มเบอร์ 39 ขับโดย โตฮิร่า . . .คันสีเหลืองขับโดยพี่เกี๋ยง เกรียงไกร ลิ้มนันทรักษ์
สมัยก่อนไปดูที่ขอบสนาม ยังจำได้ เสียงเครื่องแต่ละคัน เร้า จาย เครื่อง โร นี่เร่ง ๆ เครื่อง ยกคันเร่งที เปลวไฟ ออกกมายาวมากกก คันที่จอดข้าง ๆ ถึงกับร้อน เจฟบาน ก็เรียกได้ว่า หาคนต่อสู้ยากมาก แรงโคตร ชอบ ๆ ใครมีรูปแบบนี้ ก็เอามาลงอีกคร๊าบบบบ
ทำไมไม่มีมิตซูแชมป์วิ่งทางเรียบบ้างเหรอครับ เห็นที่ญี่ปุ่นเค้ายังมีเลย (แต่เป็น 3 ประตู) ผมอยากได้รูปมิตซูแชมป์ที่แข่งในสมัยก่อนๆบ้างน่ะครับ เท่าที่เคยเห็น เจอแต่ทางฝุ่น
มีครับ สมัยก่อน ถ้าทางเรียบ เท่าที่จำได้ เป็น Champ turbo ขับโดย รุ่งนภา นิตยภูมิ ลงในรุ่น โรดคาร์ ส่วนรูป ถ้ามีโอกาสเข้าไปที่ Auto racing จะ Scan มาให้ครับ ส่วนรูป ที่เอามาลงนี่ ถ้าจำไม่ผิด น่าจะเป็น แชมป์ ขับเคลื่อนสี่ล้อ เครื่อง VR4 ส่วนคนขับน่าจะเป็น สุรกิจ กุลกำธรหรือไม่ก็ พนัส ควรสถาพร นะครับ
คนขับ คือ Allan Mcnish ครับ สถิติ พีระ นี่ ถ้าเป็นทางการ ก็คงจะเป็น เวลาที่ คุณ มงคล เสถียรถิระกุล ทำไว้น่ะครับ ด้วยรถ March NY291 ที่ไม่มีใครทำลายได้ เพราะรุ่นนี้ ไม่มีแข่งอีกแล้วอ่ะครับ แต่ จริงๆ เวลา ต่ำนาทีนี่ มีคนเคยทำลงได้มาบ้างเหมือนกัน ถ้าจำไม่ผิด Mazda Group 5 เบอร์ 75 เครื่องโรตารี 13 B พอร์ทตรง ของ Mr.ทากุ อคาอิเค (รายละเอียดรถ หาอ่านได้จาก XO Autosport ฉบับ 133)ทีม ใจทิพย์ เคยทำที่เวลาซ้อม ไว้ที่ 0.59.xxx มาแล้ว แต่ไม่ได้บันทึกไว้เป็นทางการ
นี่ก็ข้อมูลแน่นเหมือนกันนะท่าน ส่วนเรื่องฝ่ายหนึ่งเป็นฝั่งรองเมืองอีกฝั่งหนึ่งมาจากดินแดนไวกิ้งนั่น ถ้าจำไม่ผิดรู้สึกจะมีการประท้วงเรื่อง สปอยเลอร์หลัง ซึ่งกติกาการแข่ง Group A ยุคนั่น ได้ระบุไว้ว่าต้องมีจุดยึดของสปอยเลอร์หลัง 2-3 จุด ซึ่งทางฝั่งหลังได้มีการประท้วงว่ารถของเขารุ่น Turbo ที่ขายในเมืองนอกก็ใช้สปอยเลอร์แบบนี้แต่มาพลาดตรงที่สปอยเลอร์มันดันปรับองศาได้เนี่ยดิ ซึ่งยุคนั่นกติกา Group A เขาห้ามใช้สปอยเลอร์หลังแบบปรับได้อยู่ อีกเรื่องหนึ่งที่โดนก็คือเรื่องน้ำมันเชื้อเพลิงรู้สึกว่าจะใช้อ๊อคเทนที่เกินกว่ากติกาในบ้านเราอนุญาตให้ใช้ ส่วนรถแข่งทั้ง 2 คันก็คือ BMW M3 E30 ที่ขับโดย "เสี่ยย้ง" ฐิติ เกิดรพ กับ VOLVO ของ เพอกูน่า แอนเดอร์สัน และถ้าจำไม่ผิด M3 คันนี้เป็นการสั่งชุดพาร์ทรอบคัน เครื่องยนต์ ช่วงล่างและอุปกรณ์อื่นๆ จาก เยอรมัน แต่นำมาสวมใส่กับบอดี้ E30 บ้านเรา ส่วนที่มีใครถามเรื่อง MITSUBISHI Champ มีใครนำมาลงแข่งใหม่จริงๆ แล้วยุคนั่น Champ I เคยนำลงวิ่งในพีระ อย่างท่ Hnun บอกไปแล้ว นอกจากนี้ทาง MMC สิทธิพล ตัวแทนมิตซูยุคนั่น ได้จัดแข่ง Gymkhana ณ สนามพีระ และออนทัวร์ไปแข่งตามต่างจังหวัดด้วย ส่วน Champ ขับ 4 เครื่อง VR-4 รู้สึกว่าจะมี "น้ออ๊อด" สุรกิจ กุลกำธร เพียงคนเดียวมั่ง เพราะน้าพนัสแกใช้ VR-4 แท้ๆ ลงแข่งในนามทีม WORK POWER ของ "เฮียชัย" มั่งถ้าจำไม่ผิดนะ ก็อีกนั่นแหละอีกเรื่องที่ที่จำได้แต่ว่าไม่ชัวร์ก็คือ MITSUBISHI ส่ง "เสี่งปอง" กิตติภูมิ จาวจักรศิริ" ใช้ Champ 3 ประตู ไปแข่งมาเก๊าด้วยมั่ง(ถ้าผิดพลาดก็ขออภัยมา ณ ที่นี่ด้วยครับ) ส่วนเวลา Best Lap Record ของพีระ ถ้าเอาแบบถูกต้องจริงๆ ต้องเป็นรถ March NY 291 (NY ย่อมาจากคำว่า หนองใหญ่ อันเป็นสถานที่ตั้งโรงงานน้ำตาลและอู่สร้างรถแข่งทั้ง March กับตัว BMW Space Frame E30 เบอร์11 ไงล่ะ) ของ "มงคล เสถียร์ถิระกุล" มากกว่านะ เพราะ Mclaren เป็นเพียงแค่นำรถมาวิ่งโชว์ความแรงในสนามเท่านั่น ซึ่งตอนนั่นทาง HONDA เป็นผู้นำเข้ามาโชว์ เนื่องจากช่วงนั่นทีม Mclaren ใช้เครื่องของ HONDA จนได้แชมป์โลกนักแข่งทั้ง ALEN PROS กับ Ayton Senna อ๋อ...อีกเรื่องหนึ่งก็คือ Silvia S-12 คันสีขาวกับคันสีเหลือง มันคือรถคันเดียวกัน หลังจากที่ มร.โตฮิร่า บินกลับไปญี่ปุ่นแล้วรถคันนี้ก็ถูกจอดเก็บไว้ที่สยามกลการสำนักงานใหญ่นานมาก จนตอนหลังมีหลายๆ คนเรียกร้องว่าทำไมไม่เอา Silvia S-12 คันนี้กลับมาแข่งอีกครั้ง ประจวบเหมาะพอดีกับ "เสี่ยเกี๋ยง" นย่าจะกระเถิบตัวเองขึ้นไปเล่นรุ่นใหญ่ได้แล้ว ทางผู้จัดการทีมของ nISSAN เลยได้นำเอา Silvia S-12 มาปัดฝุ่นอีกครั้งโดยทำการสาดสีเหลืองแดง ตามโลโก้เมนสปอนเซอร์ SHELL ที่นำออกมาแข่งอีกครั้งตรงช่วงที่ NISSAN Sentra RZ-1 ถูกผลิตออกมาจำหน่ายใหม่ๆ เพื่อเป็นการโปรโมทไปในตัวอีกด้วย และช่วงนี้เองที่เป็นยุคสุดท้ายของ "เสี่ยเกี๋ยง" ที่ขับให้ NISSAN ก่อนย้ายไปขับ VOLVO 240 Turbo ของทีม ZepSpeed คู่กับ "คาน ชี ฮอง" นักแข่งชาวมาเลเซียและ มร.เพอร์กูน่า แอเดอร์สัน ในยุคนี่ "สเยี่งตี๋" มงคล ได้หยุดแข่งรถเพราะได้แชมป์ประเทศไทย 3-4 ปี ซ้อน ก็เลยตัดสินใจหยุดการแข่งขันพร้อมๆ กับทาง ยนตรกิจได้ยกเลิกการสนับสนุนกีฬามอเตอร์สปอร์ตในเมืองไทย หลังจากนั่น ปี สองปี ให้หลังทาง "เสี่ยตี๋" มงคล ได้เป็นมือปืนรับจ้างขับรถแข่ง Chevy รู้สึกว่าจะเป็นคนละคันกับของ เจฟฟ์ บาร์น รถแข่ง คันสีชมพูตัดดำนั่นแหละ แต่ไม่ประสบผลสำเร็จ เนื่องจากตัวรถมีขนาดโตกว่าคันของ เจฟฟ์ บาร์น แถมเครื่องยังแรงกว่า สุดท้ายไม่สามารถเซ็ทอัพระบบส่งกำลังและช่วงล่างไม่เหมาะกับสภาพสนามแข่งเท่าไรนัก เลยไม่ประสบความสำเร็จ
March NY291 ไม่มีนะครับ คันที่เป็น March ก็ March ไปเลย เป็นแชสซีของ March มาจากนอก ไม่ได้ทำที่หนองใหญ่ครับ คันที่เป็นรหัส NY291 คือ E30 เบอร์ 11 ครับ . . . เป็น space frame ที่สร้างที่หนองใหญ่ เพื่อแข่งในปี 29 เป็นคันที่ 1 . . . จึงได้ชื่อเล่นว่า E30 NY291 Space Frame คันนี้ตอนแรกสร้างเตรียมวาง Toyota 18RG 16V ฝาสูบ 152E ที่แกเคยใช้อยู่ใน Celica . . . แต่มาได้ยนตรกิจเป็นสปอนเซอร์ ก็เลยเปลี่ยนเครื่องเป็น BMW แล้วก็หล่อตัวถังใหม่เป็น E30 ซึ่งเป็น Model ที่พึ่งจะออกมาในตอนนั้น ในยุคนั้นรุ่นใหญ่สร้าง Space Frame กันแทบทุกทีม . . Sentra RZ1 ของเสี่ยปั้น . . . Corolla 3TG TRD ของสุพจน์ . . . ฺNissan 310 จากไมดะ Starlet KP ของเฮียชัย ฺBMW M1 ของพี่เปาะ และฝูง BMW Series3 Space Frame อีกจากหลายๆสำนัก ในช่วงที่แกชนะอยุ่ 3-4 ปีซ้อนนั้น จริงๆมีแผนจะทำเฟรมใหม่ให้ดีขึ้น ใช้ช่วงล่างอิสระหมด . . .แต่บังเอิญคันเก่าที่ใช้แข่งอยู่ยังไม่มีใครมาโค่นลงอย่างเป็นจริงเป็นจัง ก็เลยงดโครงการไป พร้อมๆกับการแข่งขันในรุ่นนี้เริ่มซบลงไป เริ่มหันไปแข่งโดยใช้รถแบบ Group A แทน . . . . การสร้างรถแข่งแบบ Space Frame ในไทยก็เลยเป็นอันเลิกลา
ขอบคุณครับสำหรับข้อมูล เอ...ผมก็ว่าแล้วว่า NY 291 มันน่าจะเป็น E30 เหมือนกัน ยังไงก็ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ โทษนะครับพี่ ผมว่าพี่น่าจะเป็น อ. ศ.. หรือเปล่าครับ หรือว่าเป็นพี่ โ.... ครับ ถ้าเป็นท่านใดท่านหนึ่ง ผมก็กราบสวัสดีครับครับผม อ๋อ..รถ Corolla Space Frame ของพี่สุพจน์ที่ทำที่ TRD ARTO ถ้าผมจำไม่ผิดน่าจะใช้เครื่อง 4T-GTE ใช่ไหมครับ ส่วน RZ-1 Space Frame ของ "เสี่ยปั้น" แกใช้เครื่อง A12 หรือ A14 นี่แหละทำ TOMEI ทั้งตัว ตอนหลังแกสราง 300 ZX (Z32) โดยการเอาโมเดลรถ 300 ZX ของ TAMIYA มาขยายสเกลให้ใกล้เคียงกับของจริง แล้ววางเครื่อง FJ 20 T แต่ไม่ได้วิ่งเสียก่อน ส่วนรถ March ตัวเป็นๆ ที่เหลือของ "เสี่ยอัต" ARTO TRD ที่ใครหลายๆ คนไปที่งาน บางแสน เมื่อเดือนที่แล้วคงจะเห็นกันนะครับ ส่วนรถที่ชอบจริงๆ ในส่วนของรถเฟรมที่ยังมีชีวิตอยู่ก็ BMW M1 ขอ "ประธานเปาะ" เนี่ยแหละครับ แต่น่าเสียดายถ้ารถทั้ง 2 คันนั่น ถ้ามันยังมีเครื่องยนต์และสามารถวิ่งโชว์ในงานบางแสนได้ล่ะก็แจ่มเลย
RZ1 Spaceframe เป็นผลงาน อลังการงานสร้าง ทำเฟรมที่ LEK-A-ARM ครับ ส่วนเครื่อง น่าจะเป็น A12 หรือ 12A นี่แหละ หัวฉีด Slide สมัยก่อน ใครรวย ใครอยากแรง นี่ เฟรมล้วนๆ ครับ (รู้สึก ประวัติศาสตร์ มันย้อนกลับหลัง ยังงัยก็ไม่รู้นิ)
แหมท่านพูดถึงประวัติซ้อนกลับได้ถูกจ๊ายยย.....วัย สะ รุ่น จิงๆ เชียว อ๋อ...ท่านเครื่อง 12A นั่นมัน "โรตี" นะ จะข้ามสปีชี่ กันเลยเหรอ
ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ สวัสดีครับ ขอบคุณทุกท่าน สำหรับข้อมูล พอดี มี เพื่อนๆ ส่ง URL มาให้ดู ที่ bangkokclassic ครับ เลย ตามมาดูที่ นี้ด้วย รูปที่ posted อยู่ หา ได้ ยากมากๆ ครับ ขอขอบคุณผู้ที่นำมาเผยแพร่ให้ ชมด้วย หากใคร มี video ถ่ายทอด เก่าๆ ก็ขอแบ่งชมบ้างนะครับ ผมพอมีอยู่ แต่ ไม่ครบ และ ไม่ ชัดมากเท่าใด สวัสดีปีใหม่ ทุกท่านครับ
ขอบคุณมากๆเลยครับ สำหรับข้อมูล ถ้าไม่เป็นการรบกวนเกินไป ก็อยากได้รูปเก่าๆที่มีน่ะครับ (พอดีทำเว็ปเกี่ยวกะรุ่นนี้อยู่) หรือบอกก็ได้ครับ ว่าไปขอ Scan ได้จากที่ไหน ครับผม ขอบคุณอีกครั้งครับ
ผมไม่แน่ใจว่าควรจะเรียกว่า 4TG หรือเปล่า . . . เพราะมันก็เป็นเครื่อง 3TG ที่ขยายเครื่องเป็น 2000 ซึ่งก็ไม่เห็นมีใครเรียกมันว่า 4TG อาจจะเป็นชื่อที่เรียกกันเอง เหมือน 1.5J 3J อะไรประมาณนั้น แต่เครื่องนี้ไม่ได้เป็นเครื่องที่เป็น 3TG มาทำเอา . . . ฝาเป็นฝาพิเศษของ Toyota ที่เรียกกันว่าฝา 100E เครื่องน่าจะเป็น A14 มากกว่าที่ะเป็น A12 ครับ เพราะตัวนี้ทำมาวิ่งรุ่น 1600 น่าจะเป็น A14 ที่ขยายกันเป็นประมาณ 1.5 . .. ถ้าเอา A12 มาทำขยายไปได้ไม่ไกล ขาดทุนความจุเยอะไปหน่อย เพราะต้องไปฟัดกับ 2TG 16V และ 4AG ถ้าเป็นเครื่องที่วิ่งในรุ่น 1.3 ที่ใช้ B310 วิ่ง . . . เครื่องนั้นเป็น A12 ขยายไปไกล้ๆ 1.3 ครับ
